เกิดไม่ทัน ปีนี่เพิ่ง 20 ต้นๆ อิอิ
รับรองว่า 20 ปีจริง แต่เป็น 20 ดาวเสาร์
เทรนด์แต่งรถเหรอ อืม 30 ปีที่ผ่านมานี่ก็คงต้องนับจาก 1983 ซึ่งช่วงนั้น
ผมยังจำอะไรไม่ได้มากนัก รู้แต่ว่าอาฉัตรชัยเก่งทำดัทสันแต่ง อากมล เก่งทำซูบารุ
การแต่งรถยุคนั้นยังเป็นเรื่องของคาร์บูเรเตอร์เพราะหัวฉีดยังไม่ป๊อบแม้จะเริ่มมีโผล่มาแล้ว
สมัยนั้นถ้าแต่งรถ ล้อจะไม่วงโตมาก 13นิ้วก็เป็นเรื่องปกติ ส่วนลายล้อก็จะเป็นลายซี่ลวดบ้าง
หรือลายกล้วยบ้าง และถ้าให้สวยก็คาดสติกเกอร์สักหน่อย สติกเกอร์ 3M สักนิดจิตแจ่มใส
ยุคนั้นกระบะยังไม่ได้เน้นแรงอะไรมาก ถ้าจำไม่ผิดบ้านเราสมัยนั้นกระบะ"ห้ามขับเลนขวา"ด้วยซ้ำไป
ตัดมาช่วงปี 1985-1988 สไตล์การแต่งรถยังคล้ายเดิม ส่วนเครื่องยนต์เริ่มมีพัฒนาการด้านหัวฉีด
มาให้เห็น Nissan มี Bluebird Turbo CA18ET 135 แรงม้า Volvo มี 240 แต่ทำตลาดในชื่อสั้นๆว่า
Volvo Turbo มี 143 แรงม้า และเป็นรถประกอบในประเทศที่แรงม้าเยอะที่สุดในยุคของมัน
แต่งแบบยุค 80 ตอนปลาย เครื่องยนต์ใหม่ๆจะเริ่มเข้ามา 4A-GE วาง DX KE70 หรือถ้า
Lancer กล่องไม้ขีดก็ต้องวาง Sirius Turbo จ๊าดสัดๆในสมัยนั้น รถเบา750โล เทอร์โบและขับหลัง
นี่คือช่วงเวลาของยุควิภา หรือพาเลซ ยุคที่ยังไม่มีโทลล์เวย์คลุมถนนวิภาวดี สะพานเกษตรและสะพานหลักสี่
ก็ยังอยู่ ฉะนั้นมันคือทางวิ่งยาวตลอด ผมทันยุคนี้ และไปยืนดูกับรุ่นพี่นานๆครั้ง
ยุค 1980-1990 ยังเป็นช่วงที่แรลลี่ได้รับความนิยมไม่แพ้มอเตอร์สปอร์ตใดๆ บางครั้งเราจะเห็น
อิทธิพลจากรถแรลลี่มาอยู่ในรถแต่งบ้าง ที่นิยมคือสปอตไลท์กลมโต (แต่อยู่ในรถสปอร์ตหรือ
สปอร์ตซีดาน) ล้อออฟลึก ยางแก้มหนา และกว้าง ตีเฟนเดอร์ออกข้างโตๆ
ยุค 1990-1996 อันนี้เป็นช่วงคาบเกี่ยวกับการเปิดรถนำเข้าเสรีภาษีน้อยลงกว่าเดิม
รถสปอร์ตและรถแปลกๆเข้ามามากขึ้น หนังสือรถเริ่มเปลี่ยนจากภาพขาวดำกับเขียวน้ำเงิน
มาเป็นแบบสี วัฒนธรรมการแต่งของยุคนี้เริ่มเป็นที่จดจำต่อคนวัยผมได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น
1. ล้อแม็ก ต้องเป็นแม็ก BBS สามชิ้น ที่เขาเรียกกันว่าลายสิ้นคิด เพราะถ้าไม่รู้จะใส่อะไร ใส่ลายนี้จ๊าบแน่
(ไอ้คำว่าจ๊าบก็เกิดราวๆยุคนี้แหละว่ะ) สอง ถ้าไม่สิ้นคิด ก็ต้องเป็นแม็ก Rial ลายซี่ลวด ล้างทีขี้แทบพุ่ง
ถ้าใช้เบนซ์ ต้องแม็กบราบัส Monoblock II สามก้าน ขอบ 17 รถบ้านใส่ก็ดูซิ่งได้
2. ท่อ ต้องตัดก่อน 1 ท่อน แล้วทำปลายเฉียง เชื่อมกลับเข้าไป กลายเป็นท่อปลายหักชี้ขึ้นฟ้า
นอกเหนือไปจากนี้ถือว่าผิดกฏ
3. ไฟหน้า ไฟท้ายมันอยู่ของมันดีๆ ต้องหาผ้าทำหรือฟิล์มดำไปหุ้นมัน ดูเหมือนรถต้นแบบกับ
ผี้เสื้อกลางคืนตาบอดไปพร้อมๆกันอย่างลงตัว
4. โหลดดให้เตี้ยแป้ก ถ้าใส่ไฮดรอลิกได้ยิ่งดี ไฮดรอลิกเด้งดึ๋งดังที่สุดในยุคนี้ ใครหน้าทิ่มท้ายยก
ถือว่าผิด ยุค 90sตอนต้น เวลาโหลด ท้ายต้องลาดๆเหมือนรถโช้คทรุดจะสวยสุดๆ
5. ฟิล์มติดรถ ต้องดำไม่ก็ปรอทจัดๆ
6. พวงมาลัย BBS ไม้ หรือไม่ก็ตัดทำเป็นเหมือนพวงมาลัยเครื่องบิน
ยุคนี้เป็นยุคที่การซิ่งวิภาค่อยๆเริ่มสูญสลายไป เพราะคนดูเยอะ คนซิ่งเยอะ
คนซิ่งมือไม่ถึงยิ่งเยอะ ตายเยอะ และตำรวจจึงต้องเข้ามาสลายกำลังซะ เพราะจำนวนคนดู
ไม่ใช่กระจายเป็นหย่อมๆเหมือนทุกวันนี้ แต่เป็นฝูงชน ราวกับมีบริษัทใหญ่ประท้วงกันเลย
พาเลซปิดไปนานแล้ว แต่การซิ่งวิภานั้นอยู่นานกว่า และค่อยๆหายไปในที่สุด
ต่อมายุคปี 1996-2000 ต้นๆ
ยุคนี้ นิตยสารสำหรับรถแต่งเริ่มยืนพื้นติดลมบนมากกว่าก่อน และอายุคนที่เล่นกับกะตังค์
ก็มากขึ้น สไตล์การแต่งรถเริ่มเปลี่ยน ล้อ Rial กับท่อหักหายไป และถูกแทนที่ด้วย
การแต่งรถสไตล์ญี่ปุ่น ตลาดเซียงกงเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ระบบหัวฉีดกลายเป็นเรื่อง
ที่สุดแสนจะธรรมดา แต่ความรู้ในการแต่งรถยังไม่กระจายในระดับชุมชนมากนักเพราะ
ยังไม่มีอินเตอร์เน็ต ยุคก่อนหน้านี้ ใครได้ลงหนังสือนักเลงรถนี่ป๊อบ แต่พอเป็นยุค 96-2000ต้นๆ
คุณต้องลงหนังสือ XO Autosport ซึ่งตอนหลังแตกแขนงออกมาอีกเล่มเป็น Tuned by
(ซึ่ง Tuned by edition แรกๆนั้นผมชอบสไตล์เขามาก ชอบมากกว่า XO อีก)
เอกลักษณ์การแต่งรถยุคนิวมิลเลนเนียม
1. ล้อ Veilside สามชิ้น ห้าแฉก ออฟลึก ล้อ Enkei RP-01 และ RP02 ก็เป็นที่นิยม
ล้อรถเริ่มถูกละเลงสีสันแปลกๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นจะมีแต่ดำ เงิน ทอง
2. เครื่องยนต์..มีการวางข้ามสายพันธุ์เป็นเรื่องปกติ Benz, BMW วางเจ Cefiro วางเจ
เป็นเรื่องที่ใครก็ทำกัน (แต่ไม่ใช่ทุกคนทำได้ดี)
3. ปีหลังขนาดใหญ่เริ่มเข้ามามีบทบาท ผลกระทบจากวัฒนธรรมของ Evo และ STi ล้วนๆ
ปีก GT Wing ก็เริ่มเข้ามา เพราะเราอิงสไตล์จากการแต่งแบบสุดๆของญี่ปุ่นมาเช่นกัน
4. ภายใน ใครไม่มีมาตรวัดรอบอันโตของ Autometer ถือว่าสอบตก ใครมี และมีกระบอกชิฟท์ไลท์
อันเท่าซิการ์ช้างถือว่าเจ๋ง ใครไม่มีเงินซื้อ Autometer อนุโลมให้ใช้ Autogauge ของไต้หวันแทนได้
แต่คุณต้องมีมาตรวัดรอบอันโต! แม้ว่ามาตรวัดรอบเดิมของรถจะยังใช้ได้ดีก็ตาม
5. พวงมาลัยแต่งแบบสามก้าน (ก้านไม่ยก) เป็นที่นิยมมากที่สุด
6. ของแบรนด์เนมประจำค่าย เริ่มถูกเลือกใช้กันมากขึ้น
7. ฟิล์ม ต้องสีชา ถ้าเป็นสีอื่นก็ต้องดำไปเลย แต่ชาจะป๊อบกว่าแม้จะกันความร้อนห่าไรเลยไม่ได้ก็ตาม
8. ปลายท่อไม่มีใครอุตริเฉียงขึ้นแล้ว แต่จะตีแป๊บเลย ไม่ก็หม้อใบสวยๆเลียนแบบญี่ปุ่น
ยุคนี้คือยุคที่รถแรลลี่เริ่มเงียบ แต่แดร็กยังดังสะใจ ยุคนี้คือยุคสนาม MMC รังสิต
รถที่ดังๆและจำได้ก็มี R32 "พันม้า โคยาม่าจูน" ของพี่ป๊อบปิ 200SX CA18 ห้าร้อยม้าของอั๋น คันไซ
และมาสด้า แฟมิเลีย ดีเซลแรงนรก ฉายา "สิงห์คะนองนา" นอกจาก Drag แล้ว กระแสหนึ่ง
ที่เริ่มมาคือ "จิมคาน่า" ซึ่งที่จริงแบบบ้านเราต้องเรียกว่า ออโต้ครอส เพราะจิมคาน่า
ต้องมีขับถอยหลังด้วยนะ... คนจิมคาน่าจากยุคนั้นก็คือพี่ปอม Pom Gambino พี่ป๊อบ สุธีร์พงษ์ Soluna สีทอง
พี่ส้ม วีระไวทยะ เป็นต้น
ต่อมา ยุค 2000 นิวมิลเลนเนียม- ช่วง 2009
สไตล์การแต่งเริ่มมีแนวที่เด่นชัด และแบ่งออกเป็นแบบต่างๆเช่น
VIP - รถต้องใหญ่ ที่จริงต้องขับหลังด้วย ล้อต้องโตมากๆ ยางเตี้ยมากๆ ล้อแบะมุดซุ้ม ขยายโป่ง แขวนเครื่องราง
ล้อและการแต่งหลักๆยังเหมือนๆกับสมัยก่อน 2000 แต่สิ่งที่ค่อยๆเปลี่ยนคือสไตล์ล้อ
มีอยู่ช่วงนึง นึกอะไรไม่ออกก็ใส่ล้อ W Work S1 ..หรือนึกไม่ออกก็ใส่ Volk TE37 เป็นต้น
ยุคนี้ ถ้ามีรถบ้านแล้วอยากแต่ง ดูล้อก่อน ล้อสวยต้อง 17 แต่สวยเช็ดเม็ดต้อง 18 ตกหลุมทีล้อเบี้ยว
เมียตบหนังหัวหลุดทุกครั้งไป
ยุคนี้คือยุคอินเทอร์เน็ตเข้าถึงบ้านเรือนแล้ว แต่ยังไม่มีสมาร์ทโฟนซะส่วนใหญ่ ดังนั้น
สไตล์การแต่งเราทันญี่ปุ่นแบบวันต่อวัน ฟิล์มชาเริ่มหนีหายไป กลายเป็นฟิล์ม หน้าเขียว หลังดำมืด หรือ
เรียกว่า Privacy Glass กันมากขึ้น
เบาะแต่งเริ่มมีความสำคัญ บางคันล้อไม่ต้องแพงแต่ขอเบาะ Recaro แดงๆสวยๆจะแท้หรือปลอมกูไม่รู้กูเท่ห์
เอกลักษณ์ในยุคนี้อีกอย่างคือ
1. ถ้าไฟเลี้ยวรถโรงงานมาเป็นสีส้ม ต้องไปเปลี่ยนให้เป็นขาว
2. ถ้าไฟเลี้ยวโรงงานมาเป็นสีขาว ต้องไปเปลี่ยนเป็นสีส้ม..หาสติกเกอร์ส้มมาแปะ และอุปมาตัวเองเป็น "ไฟ US"
มาตรวัดรอบ Autometer ค่อยๆตายไป เมื่อเกิดความนิยมมาตรวัด Defi
กระแสเปลี่ยนจาก Autometerวงโตอันเดียว เป็น Defi อันเล็ก เรียงบนคอนโซล 7-8 อันแทน
ในช่วงตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา การจูนรถเป็นเรื่องง่ายขึ้นเพราะเทคโนโลยีกล่องแต่งที่คนเข้าถึงได้ง่าย
ไม่ต้องเก็บเงินเป็นแสนก็ได้ ความรู้ทางอินเตอร์เน็ทมาเยอะขึ้น เกิดสังคมรถซิ่งขนาดใหญ่มาก
อย่าง racingweb.net (ซึ่งที่จริงเกิดตั้งแต่ช่วงราวๆปี 2000แล้วและขยายตัวจนใหญ่มากในช่วง
2003 เป็นต้นมา จนมีการทะเลาะกันในทีมในช่วงราวปี 2004-2005 และเก่งอยู่กับracingwebต่อมา
ส่วนเพื่อนที่แตกกันก็ไปเปิด tunespeed.com ส่วนสาเหตุผมไม่พูด เพราะจำคนอื่นเล่ามา ไม่มีการรับรองความจริง)
การเซ็ตเทอร์โบ เริ่มมีให้เห็นในรถบ้านกึ่งแต่ง รถดีเซลหันมาใช้คอมมอนเรลและเริ่มมีกล่องแต่งช่วงปลายยุค
อันนี้คือเท่าที่บอกได้ตอนนี้ จริงๆอยากบอกให้มากกว่านี้แต่ทำงานอยู่ ของแบบนี้ต้องนั่งคุยกันมันถึงจะมันส์