ขออณุญาติมั่วครับ
ทั้งหมดเป้นความเห้นบวมๆของผมแบบคิดอะไรได้ก็ใส่ๆลงไป ขอแชร์ความคิดเห็นแบบคนทั่วไปที่ความรู้ระดับหางอึ่ง
-----------------------------------------------
Proton เห็นสภาพย่ำแย่ลงเรื่อยๆ เห้นรถ Proton ใหม่น้อยลงทุกทีๆ อาจเพราะเป้นรถตลาดล่าง ผู้ใช่ก็จะรู้สึกว่าต้องใช้จนคุ้มไม่เปลี่ยน่ง่ายๆ ตรงข้ามกับรถ Premium
ที่จะเห็นคนเปลี่ยนกันบ่อย แล้วยังมีเรื่องการไม่รองรับอะไหล่ของศูนย์ที่ ทำให้ราคาขายล่วงกราวลงไปจนคนเกิดไม่อยากได้ ในราคาไล่กันหันไปคบรถญี่ปุ่นมือ 2 รุ่นพิมพ์นิยม หรือ Eco-car กันแทน
แล้วก็เรื่อง Brand แทบไม่มีแรงดึงดูดคนทั่วไปเลย ถ้าไม่ได้ราคาที่ถูกกว่าช่วย
(ไม่ได้พูดถึงตัวรถนะครับ เพราะอยากเราๆท่านๆนี่คงรู้แล้วว่า Proton ซื้อ Lotus มาไว้ในมือแล้ว) คนเจอก็บอกว่ามันเป็นรถมาเลย์ๆ ถ้าร้ายกว่านั้นอาจโดนคิดว่าเป็นรถแขก ถ้าในอีก 5 ปีไม่มีการปฏิวัติอะไรเลย ผมว่าก็คงจะเป้นไม้ใกล้ฝั่ง ที่ตั้งอยู่ไปไม่รู้จะโดนลมทะเลพัดโค่นตอนไหน
-----
MG จากการตามข่าวผมว่าน่าสนใจ CP ถือหุ้น 49% แต่นั่นหมายความว่าผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ก็ยังเป้นจีนอยู่ (มาแนว Toyota => Daihatsu)
จากประวัติการทำ Brand ของ CP มีทั้ง Brand ย้อยที่เกิดและชิงความเป้นเจ้าตลาดมาได้ หรือแค่มีอยู่ในตลาดพอเป็นทางเลือก(ที่หายไปไม่พูดถึงเอาที่ยังคงอยู่นะครับ แน่นอนว่าประสปการณ์แน่น Know how ไปฉวยเอาดาบหน้าเก่งอยู่แล้วค่ายนี้)
MG ผมว่าติดปัญหาใหญ่ที่ ถ้าเป้นผมนะมองปั๊บ"รถจีนหว่ะ" ทั้งๆที่พออ่านข้อมูลแล้วมันไม่ใช่ซะทีเดียว และผมเห้นสื่อพยายามจะสื่อสารว่าเป็น Brand อังกฤษไม่รู้ว่าวันที่ทำตลาดจริงคนทั่วไปจะบอกว่ามันเป็นรถ จีน หรือ อังกฤษ ซึ่งเคสนี้ผมว่ามันไม่ค่อยเหมือน Chev ที่เอา Deawoo มาขายเป้นรถอเมริกัน แต่นี่คือ Brand อังกฤษที่ห่างหายไปนาน กลับมาในคราบของ CEO จีนและ R&D ของอังกฤษ จะว่าคล้าย Volvo ก็มีส่วนแต่ผมว่าคนที่ซื้อ Volvo กับ MG มีนิสัยการรับข้อมูลที่ต่างกันอยู่
แล้วก็ต้องดูการแบ่งอำนาจการเข้ามาทำตลาด CP มีทีมงานเทพๆอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ต้องต่อลองกับทางจีนเยอะมั๊ย แต่ด้วยรถ ที่วิ่งทดสอบออกมาเป้นรถใหญ่ (น่าจะเป้น C และ D-Seg) ซึ่งใน 5 ปีนี้ D-Seg แข่งกันดุเดือดอยู่แล้วไหนจะ G9 AC50 J33 ที่ว่างที่ MG D-Seg จะแทรกเข้ามามันดูน้อยๆ ไหนจะต้องแข่งกับ SUV ที่มีราคาใกล้กันอีก
ส่วน C-Seg เป็นกลุ่มที่ใหญ่ขึ้นแต่กลายเป็นกลุ่มที่มีคู่แข่งมากมาย และ แต่ละรายได้ Market Share ไม่มากนัก(ยกเว้น Altis ที่ผูกขนาดตลาดนี้อยู่ในระดับนึง)
กลุ่มคนที่รับใน Brand แปลกมากหน่อยส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงตลาด B-Seg ลงมา อาจเพราะราคาไม่แพงมาก หรือรถดูดีกว่ายี่ห้ออื่นมากจะเห็นได้จากการเกิดของ Swift ยิงมีอังกฤษติดตัวมาด้วยถ้าทำรถออกมามีรูปร่างละม้ายไปทางรถ Premium ในสายตาคนส่วนใหญ่ได้ก็จะยิ่งได้ประโยชน์ในชื่อเสียงส่วนใน
การสร้าง Brand ของรถยนต์นั้นผมว่ามันใช้เวลาไม่น้อยเพราะ 5 ปี เป็นแค่ช่วงที่รถรุ่นแรก Lunch ออกมาและครบรอบเปลี่ยน Model เท่านั้นเอง ยังเป้นระดับเดินเตาะแตะคงยากที่จะประสปความสำเร็จได้อย่างคนที่โตจนเข้าสู่วัยที่แข็งแรงได้