ขอแจมในทั้ง 2 สถานะเลย(ลูกคนพอมีอันจะกิน ปัจจุบันพ่อลูกหนึ่ง)
ถ้าย้อนไปตอนเรียนมหาลัยยอมรับเลยครับว่านั่งรถเมล์หรือสองแถวเข้ามหาลัยแล้วอาย ไม่มีรถขับไปกลัวเพื่อนไม่คบ
ที่บ้ายตอนนั้นมี 300e, e36 325i mt, Toyota starlet
พ่อบอกถ้าไม่นั่งรถเมล์ไปเรียนก็ให้เอาToyota ไป ตอนนั้นเม็งแตกเลยบอกพ่อถ้าไม่ให้เอาbmไปจะไม่เรียน(รถตัวเองคือ bm )
โดนเทศน์ไปชุดใหญ่ สุดท้ายจำใจเอาพี่ต้าไป แต่ตอนไปจอด...นู้นจอดไกลๆเดินมาไม่ให้ใครเห็น(อายรถ) จนเรียนได้สักระยะถึงรู้ว่าหลายๆคนก็นั่งสองแถวเข้ามาเรียน เรามันบ้าไปเอง
ยอมรับครับว่าสิ่งที่ได้มาง่ายๆมันไม่มีคุณค่าจริงๆ เสียค่าแต่งรถ แต่งเครื่องเสียงคิดเป็นเงินเกินครึ่งล้านไปไกลอยู่ ขอเงินแม่ให้แต่พ่อด่าเราก็อ้อนแม่ก็ได้มา
มันง่าย พอแต่งจนสมอยากก็ขายซื้อคันใหม่ เอาaccord ไฟท้านสองก้อนรถดีๆป้ายแดงๆใช้ไม่นานก็ไปลง H22ฝาแดง แปลงเป็นเกียร์mt แต่งเสร็จใช้ไป3เดือนขายอีกละ
นึกถึงตอนนั้นแล้วมันน่าตบกระโหลกตััวเองจริงๆ ใช้เงินแบบว่างี่เง่าสุดๆ
ตอนนี้เป็นพ่อคนสอนลูกอย่างที่พ่อด่าเราเป๊ะๆ ไม่คิดว่าที่พ่อด่าพ่อว่าเราเราต้องเอามาสอนลูกเราเอง
ตอนนั้นพ่อเราจะรู้สึกยังไงบ้างก็ไม่รู้ จริงๆลูกคนมีตังไม่ใช่พ่อแม่ได้สอนสั่งหรือไม่อบรม
แต่เด็กมันไม่เอาไหนเอง ลองคิดดูผมบอกแม่ว่าถ้าไม่ซื้อคันใหม่ให้จะออกจากโรงเรียนไม่เรียนแล้ว (ตอนปวช) เชื่อไม๊แม่ไม่ซื้อให้จริงๆ ผมก็ออกจากโรงเรียนจริงๆดรอปเรียนไป3 ปี
แต่ไม่ได้ไปไหนนะ แม่บอกไม่เรียนก็มาทำงาน ทำงานจนแม่ยอมออกรถให้แต่ต้องสอบเทียบเอาเพื่อใช้วุฒิเข้ามหาลัย(แม่ยอมเพราะเรากะไม่เรียนจริงๆ)
แต่เชื่อไม๊ 3 ปีที่ทำงานกับแม่ได้อะไรเยอะมากๆ มากจริงๆ
จนทุกวันนี้ทำงานของตัวเองเลี้ยงลูกแบบที่จะไม่ให้เค้าเป็นแบบที่เราเคยเป็นมา แต่จะๆด้ดังหวังไม๊อันนี้คนต้องแล้วแต่เวรกรรมละมั้ง