ผู้เขียน หัวข้อ: ออกรถ Hybrid ดูเท่มากตัว Top ไฮเทคคุ้มค่าประหยัดน้ำมัน แต่พอขาย ??  (อ่าน 20435 ครั้ง)

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
ความเชื่อเก่าๆยังตามมาหลอกหลอนครับ

แต่ก็จริงนะตอนซื้อป้ายแดง มันโก้ มันหรู กว่าตัวธรรมดาจริงๆ ใครๆก็รู้

แต่พอขาย ตกฮวบเลย

ถ้าเป็นผมคงไม่สนใจหรอกครับ ชอบอัตราเร่ง ภาพลักษณ์ และความประหยัด ขับในเมือง 99เปอร์เซ็น

ออฟไลน์ Marverick

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 276
    • อีเมล์
:-\
ถามแบบไม่รู้จริงๆนะครับ...คือ ถ้าแบตเสื่อม ยังใช้รถได้ตามปกติหรือไม่ครับ
ผมว่านะจะยังใช้ได้อยู่นะครับ แต่แบตอาจจะไม่ค่อบเก็บประจุไฟ เครื่องอาจจะต้องปั่นไฟมากกว่าปกติ อาจจะส่งผลต่อ ความประหยัดเชื้อเพลิง  แต่ถ้าพังเลยนี้ขับไม่ได้เลยครับ
ปล.ในความคิดผมนะครับ   รอผู้รู้มาตอบอีกทีครับ

เหมือนแบตมือถือใช่รึเปล่าครับ ชาร์ทสักพักก็จะเต็มเร็ว แต่ใช้ไปก็หมดเร็ว
ถ้าเป็นแบบนี้ คนซื้อมือสองก็ไม่ต้องแคร์อะไรมาก มันวิ่งได้แต่มันไม่ประหยัดเหมือนเคย
เข้าใจถูกต้องหรือเปล่า?

ออฟไลน์ beerrl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,672
    • อีเมล์
ผมว่าถ้าคิดเรื่องขายต่อมาก่อน การซื้อรถใหม่ขับ
รถมือสองน่าจะเหมาะกว่า หรือ รถ B segment ยี้ห้อ เจ้าตลาดครับ ตอบโจทย์แน่นอน ขับแล้วขายต่อ ราคาตกปีละเป็นหลักหมื่นครับ
ส่วน Alphard ที่ท่านเจ้าของกระทู้ ดูอยู่ รุ่นที่ขายมือสองนั้น เป็นรุ่นเก่า ระบบแบตตารี่ เป็นตัวเก่า ค่าซ่อม รวมถึง ค่าแบต แพงมาก ราคาเลยหายไปมาก
ตัวที่ขายโดย Toyota Thailand ก็จะมี Camry HV avc40, Prius Gen3, Camry HV avc50 และ Alphard HV (ตัวที่เครื่องเดียวกับ avc40) พวกนี้อะไหล่มีอยู่ในไทย เพราะ ประกอบไทย ราคาก็ไม่ได้โหดเหมือนตัวที่ผู้นำเข้าอิสระเอาเข้ามาขายครับ

ส่วนในตลาดมือสอง เต้นย่อมตีราคาให้ต่ำกว่ารถที่ไม่ใช่ Hybrid เพราะ ความเชื่อที่ว่าอะไหล่แพง จากตัวเก่าๆ มันลอยเข้ามาสำหรับคนที่ไม่รู้และไม่เข้าใจว่ามันต่างกันอย่างไรของตัวเก่าที่ถูกนำเข้ามากับตัวที่ประกอบในประเทศ
Volvo 850GLT
Honda odyssey
Toyota Camry hybrid
Suzuki swift eco
Hyundai tucson crdi
Nissan Xtrail 2.0V 4wd
Honda Civic FC 1.8EL

ออฟไลน์ porasit33

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,189
มือ 2
ที่ติด Lpg/NGV
ที่ทำแท็กซี
ไฮบริด
แต่ง โมมา  เจอะ เสริมภายใน นอก
ชนมา ไม่ว่าจะเล็กใหญ่

สรุป รถที่ราคาตก ส่วนใหญ่ จะดัดแปลงจากเดิมๆ
แล้วถ้าจะขายรถมือ2 ควรทำให้รถอยู่ในสภาพเดิมมากสุด
ซึ่งถ้าเราเปลี่ยนแบตลูกใหม่ก่อนขาย ราคาก็อาจไม่ตกก็ได้น่ะครั
เหมือนเปลี่ยนยางก่อนขาย แต่ก็เป็นกรณีไป ตามสภาพดีมาน ซับพลาย ^^)

ออฟไลน์ LaTeX

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 973

บอกทางฝ่ายเทคนิคของ Toyota ไปแล้วครับว่า  วิธีแก้ โคตรง่ายเลย...

"เชิญ พ่อค้ารถมือสอง เต๊นท์ใหญ่มาสัก 20 -30 เต๊นท์ ในกรุงเทพฯ"
แล้วตามหัวเมืองใหญ่ๆ อีกสัก 100 กว่าๆ มาเข้าคอร์สความรู้เรื่องระบบ Hybrid
สัก 1-2 วัน กินอยู่ที่พักฟรี จัดที่โรงแรม แบบเดียวกับจัดงานให้นักข่าวนั่นแหละ"

แค่เนี้ย รับประกัน ราคารถ Hybrid มือสอง ที่รับซื้อเข้ามาหนะ
จะพุ่งขึ้นทันที

จากที่รับซื้อ Camry Hybrid ที่ 6 แสนกว่าๆ อาจได้ถึง 7 แสนกว่าๆ และราคาปล่อย อาจมี 8 แสนกว่า
ได้สมดังใจปอง!



ราคาขายออกเต๊นท์พุ่งขึ้นรึเปล่าครับ เอาที่อบรมมาอ้างลูกค้า
แต่ราคารับซื้อก็หาข้ออ้างเดิมๆมากดราคาเหมือนเดิม...แล้วก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ไป

ออฟไลน์ maxillofacial surgeon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 998
    • อีเมล์
รถHybrid มันดูเท่ด้วยเหรอครับอิๆ
camry hybrid  เพิ่งซื้อมาเพราะอยากลองมองหา ความประหยัด  ต่อมาดูรูปร่างหน้าตาโอเค พยายามมองให้สวย :D  สุดท้าย ภายในโอเค  ออฟชั่น พอกับความต้องการ เลยจัดไป    ไม่ได้มองราคาขายต่อ  ถึงแม้อนาคตอาจจะขาย  เพราะมองว่ารถมาใช้งาน ไม่ชอบจะไม่ซื้อครับ ถ้าซื้อมาขนของว่าไปอย่าง
     แต่ผมว่ารถทุกคัน   มันตกเยอะหมดแหละครับ รถที่ไม่ใช่ hybrid เต๊นท์เค้าก็มีข้ออ้างของเค้าไปเรื่อย ตอนแรกจะขาย accord g8 2.4 navi ตัวทอปสุด ซื้อมา อีก3000 1.7 ล้าน ขับได้สามปี เต๊นท์ให้ ไม่ถึง700,000 เลยเก็บไว้ขับเองดีกว่า  ยี่ห้อไหนก็ตกเหมือนกัน  ยิ่งแพงยิ่งหายไปเยอะครับ ทำใจๆ
  

ออฟไลน์ แป้งอ้วน

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 166
นอกจาก inverter ที่เสียแล้ว

ปั้ม ABS อีกตัวด้วยครับ ที่เสียเพราะว่า รุ่น ไฮบริด

มันไม่มีหม้อลมเบรค มันใช้ ปั๊ม abs ทำงานแทน

ที่ แอสติม่าคลับ เปลี่ยนกันตอน 5หมื่นโล หลายคันมาก

ขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วยเพราะถ้าติดไฟแดงแล้วเหยียบเบรคคาไว้

ปั๊มทำงานตลอดครับ มันจะเสียตามนั้นเลย

ไม่ทราบ TOYOTA ไทยมีแก้ปัญหาข้อนี้ด้วยมั้ย

นอกจากย้าย inverter มาอยู่ตำแหน่งใหม่ที่ไม่เหมือนตัวมาจากjapan
ขับสี่ TURBO จาเอาอารายอีก

ออฟไลน์ oryor

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 655
แล้วถ้ามองข้ามแบตไปละครับ
มีอะไรที่รถ Hybrid มีมาไม่เหมือนกันรถปกติบ้าง
1 คอมแอร์
2 ปั้มเบรค
3 Inverter

ราคาอะไหล่พวกนี้แพงกว่าอะไหล่ของรถที่ใช้น้ำมันปกติหลายเท่าตัว
แล้วจะไม่ให้คนกลัวได้ยังไงละครับ
ประเทศเราใช้รถกันนานเป็นสิบปี ไม่เหมือนประเทศอื่นที่ห้าปีก็ขายท้ิง รถ Hybrid ที่ประเทศเค้าเลยฮิตกัน

ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
:-\
ถามแบบไม่รู้จริงๆนะครับ...คือ ถ้าแบตเสื่อม ยังใช้รถได้ตามปกติหรือไม่ครับ
ผมว่านะจะยังใช้ได้อยู่นะครับ แต่แบตอาจจะไม่ค่อบเก็บประจุไฟ เครื่องอาจจะต้องปั่นไฟมากกว่าปกติ อาจจะส่งผลต่อ ความประหยัดเชื้อเพลิง  แต่ถ้าพังเลยนี้ขับไม่ได้เลยครับ
ปล.ในความคิดผมนะครับ   รอผู้รู้มาตอบอีกทีครับ

เหมือนแบตมือถือใช่รึเปล่าครับ ชาร์ทสักพักก็จะเต็มเร็ว แต่ใช้ไปก็หมดเร็ว
ถ้าเป็นแบบนี้ คนซื้อมือสองก็ไม่ต้องแคร์อะไรมาก มันวิ่งได้แต่มันไม่ประหยัดเหมือนเคย
เข้าใจถูกต้องหรือเปล่า?
ผมว่าคงน่าจะแบบนั้นนะแบบว่า เวลาชาร์ตไฟเข้าใช้เวลาเท่าเดิม แต่หมดเร็วกว่าแต่ก่อน อะไรประมานนี้

ออฟไลน์ beerrl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,672
    • อีเมล์
นอกจาก inverter ที่เสียแล้ว

ปั้ม ABS อีกตัวด้วยครับ ที่เสียเพราะว่า รุ่น ไฮบริด

มันไม่มีหม้อลมเบรค มันใช้ ปั๊ม abs ทำงานแทน

ที่ แอสติม่าคลับ เปลี่ยนกันตอน 5หมื่นโล หลายคันมาก

ขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วยเพราะถ้าติดไฟแดงแล้วเหยียบเบรคคาไว้

ปั๊มทำงานตลอดครับ มันจะเสียตามนั้นเลย

ไม่ทราบ TOYOTA ไทยมีแก้ปัญหาข้อนี้ด้วยมั้ย

นอกจากย้าย inverter มาอยู่ตำแหน่งใหม่ที่ไม่เหมือนตัวมาจากjapan

รถผม Camry hybrid avc40 ตอนนี้เกือบแสนโลแล้ว ส่วนใหญ่ขับในเมือง ไม่มีปัญหานะครับ แจ้งไว้เป็นข้อมูลครับ
Volvo 850GLT
Honda odyssey
Toyota Camry hybrid
Suzuki swift eco
Hyundai tucson crdi
Nissan Xtrail 2.0V 4wd
Honda Civic FC 1.8EL

ออฟไลน์ arnon9954

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 17
ประเด็นที่ 1  คนออกรถไฮบริจน์   ไม่ได้ซื้อเอาประหยัดน้ำมันอย่างเดียว แต่ซื้อเพราะภาพลักษณ์ด้วย

เพราะถ้าคิดแต่จะเอาประหยัดน้ำมัน  ส่วนต่างรุ่นไฮบริจกับรุ่นธรรมดาเป็นแสนๆบาท  เท่ากับค่าน้ำมันที่เติมวิ่งได้อีกเป็นปีๆเลย

--------------------------------------------------------------------------------

ประเด็นที่ 2 กลุ่มคนซื้อรถมือสองประเภทรถยนต์  จะมีกลุ้่มหนึ่ง ที่ตั้งใจจะซื้อแล้วเอาไปติดแก๊สทันที  ดังนั้น ไฮบริจน์ก็ไม่จำเป็นสำหรับรถมือสอง

อีกทั้งแบตเตอรี่ จะไปเกะกะพื้นที่การติดตั้งถังแก๊สด้วยอีกต่างหาก

---------------------------------------------------------------------------------

ประเด็นที่ 3 รถไฮบริจน์ ส่วนมากเป็นรถรุ่นท็อปของรุ่นรถนั้นๆ  และมีราคาแพง  (ราคาต่ำสุดมือ 1 คงเป็นแจ๊ส แต่ก็ยังเจ็ดแสนกว่าบาท ถือว่ายังสูดอยู่ดี)

ดังนั้นเมื่อราคารถแพงเกิน และไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล(ที่ได้รับการสนับสนุนจาก ปตท อย่างไม่เป็นทางการ)

ส่งผลทำให้ตลาดรถมีน้อย เมื่อรถไฮบริจน์ในตลาดมีน้อย คนก็เล่นน้อยตาม  ดีมานด์น้อย ก็ทำให้ราคาตก (เช่นเดียวรถที่ไม่ใช่ยี่ห้อตลาด จะราคาตกกว่ารถยี่ห้อตลาด)

----------------------------------------------------------------------------------

ประเด็นที่ 4 คนที่ตั้งใจจะใช้ระบบไฮบริจน์จริงๆ ยอมรับความดีงามของมันจริงๆ  ส่วนมากมักเป็นผู้ที่ได้ทำการศึกษามาอย่างดีแล้ว

มักจะเป็นกลุ่มคนมีความชอบเรื่องรถ  มีฐานะการเงินที่สามารถจ่ายได้   ยอมเสียเงินแพงหน่อยเพื่อซื้อใหม่ ดีกว่ามาเสี่ยง+เสียเวลากับการตามซ่อมรถมือสอง

----------------------------------------------------------------------------------

ประเด็นที่ 5 กลุ่มคนซื้อรถมือสอง  ย่อมคาดหวังการใช้บริการจากอู่นอก มากกว่าศูนย์บริการ   มากกว่ากลุ่มซื้อรถใหม่ ที่มีการรับประกันจากศูนย์ 1 แสน กม.

แต่ด้วยอู่นอก ที่จะมีช่างรู้จักระบบไฮบริจน์เป็นอย่างดีนั้น คงมีน้อยมากๆ   การเลือกซื้อรุ่นนระบบน้ำมันสามารถตัดปัญหาเรื่องช่างซ่อมไม่ได้-ซ่อมไม่จบ ออกไปได้
----------------------------------------------------------------------------------

ประเด็นที่ 6 เมืองไทย รถวิ่งก๊าซ LPG ถูกกว่า+ประหยัดกว่ารถไฮบริจน์   และ ค่าติดตั้งระบบก๊าซ LPG ถูกกว่าครึ่งหนึ่ง ของแบตเตอรี่ไฮบริจน์

--------------------------------------------------------------------------------

ประเด็นที่ 7 ความเห็นส่วนตัว  มองว่าระบบไฮบริจน์ เป็นอะไรที่เก้ๆ กังๆ  พิกลพิการ ในบ้านเรา

7.1 ระบบไฮบริจน์ มีแต่ในรถเก๋งเท่านั้น   ในรถกระบะไม่มี  ดังัน้นกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด กลุ่มคนใช้รถทำมาหากินส่งของ ก็ไม่อาจเข้าถึงได้

7.2 ระบบไฮบริจน์ ไม่มีในรถราคาถูก หรืออีโคคาร์ ซึ่งมนุษย์เงินเดือนวัยรุ่นจบใหม่ ไม่อาจซื้อหรือผ่อนได้ไหว

7.3 รัฐบาลไม่เคยออกหน้ามาสนับสนุนรถระบบนี้ ไม่มีการให้สิทธิพิเศษใดๆกับผู้ใช้รถระบบนี้  ภาคประชาสังคมไม่ได้ออกมารณรงค์ให้คนไทยร่วมกันใช้รถระบบนี้



ดังนั้น รถระบบไฮบริจน์ในความคิดผมนะ ก็เหมือน ของเล่นส่วนเพิ่มที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกหน่อย ของกลุ่มคนรวยเท่านั้นเองแหละ


ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
เทคโนโลยี Hybrid ก็ถือว่านิ่งแล้วครับ
ใช้งานกันมา นี่ก็ 15 ปีแล้วนะ

แบ็ตเตอรี Hybrid ลูกโตนั่น ถ้าเสื่อม ก็แค่เก็บประจุไฟได้น้อยลง
แต่ถ้าอาการหนักมาก มันก็มีไฟเตือน โชว์ขึ้นบนหน้าปัด นั่นละครับ
แต่ นานเลยละ กว่าจะโผล่ขึ้นมา หรืออาจจะไม่มีโชว์เลย ตลอด
ระยะเวลาที่คุณใช้รถนั่นละครับ

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
ที่บ้านใช้มาปีกว่าๆเกือบๆ 2 ปี กับพรีอุส

ขับในเมือง
20-22 โลลิตร
ถ้าเป็นรถน้ำมันธรรมดา คงล่อไป 8-9 โลลิตร
ความประหยัด ถึงจะไม่ได้มากมาย และไม่ได้คุ้มค่าตัว

แต่สิ่งอื่นๆที่ได้มา เช่น ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบกันล้อหมุนฟรี แอร์แบค 6 ลูก
ไอเสียไม่เหม็น ขับเข้าโรงจอดรถ แม่เปิดประตูบ้านให้ ไม่ต้องดมไอเสียบ่อยๆ
รักโลก คนที่บ้านดมควันพิษน้อยลงถึงจะแค่นิดหน่อยก็ตาม ทำให้ผมรู้สึกว่า ซื้อรถคันนี้ คุ้มค่าแล้วหล่ะ

สมัยก่อนผมตั้งกระทู้ อัลติส 1.8 VS พรีอุส
ถ้าซื้ออัลติส 1.8 คงคุ้มค่าในตัวเงินกว่า แต่ทุกวันนี้ก็ไม่ผิดหวังในพรีอุสนะ (ถึงจะมีเรื่องตะหงิดๆบ้างก็ตามที)

ออฟไลน์ Entropy

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 349
สำหรับรถยนต์ ผมว่าเกือบทุกคน ถ้าจะตัดสินใจซื้อ อะไรสักอย่างแล้ว...คงศึกษามาพอสมควร

"คงไม่แคร์ราคาขายต่อหรอกครับ"

ในกรณีนี้เจ้าของกระทู้คงศึกษามาแล้วว่า ขายต่อราคาตก>>ก็เลยไม่เอา
แต่หลายๆคนมีเหตุผลอื่นๆ ที่ไม่สนใจราคาขายต่อ

ออฟไลน์ Nikle_pk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,678
สำหรับรถยนต์ ผมว่าเกือบทุกคน ถ้าจะตัดสินใจซื้อ อะไรสักอย่างแล้ว...คงศึกษามาพอสมควร

"คงไม่แคร์ราคาขายต่อหรอกครับ"

ในกรณีนี้เจ้าของกระทู้คงศึกษามาแล้วว่า ขายต่อราคาตก>>ก็เลยไม่เอา
แต่หลายๆคนมีเหตุผลอื่นๆ ที่ไม่สนใจราคาขายต่อ

ผมไม่ได้ห่วงเรื่องขายต่อราคาตกครับ
ผมห่วงเรื่องซ่อมบำรุงครับ เพราะที่ผมดูไว้
เป็นมือสองอยู่แล้วครับ ถ้าต้องซื้อมาซ่อมก็ไม่ไหวเหมือนกันน่ะครับ
เห็นแต่ละเคสซ่อมกันหนักๆทั้งนั้นเลยสำหรับ Hybrid

รถคันนี้จะใช้งานน้อยมาก เดือนละ 1-2 ครั้งเท่านั้น
ไว้พาคุณแม่ไปหาหมอที่ กทม. ครับ ผมอยู่ ตจว. น่ะครับ
รถที่มีอยู่ตอนนี้คุณแม่นั่งแล้วปวดหลังมากครับ (ผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลังมาด้วย)
เลยอยากจะเลือกรถที่นุ่มนั่งทางไกล 4 ชม.แล้วสบายๆน่ะครับ
ส่วนเวลาจะใช้งานก็อยากจะสบายใจหน่อยน่ะครับ จะซื้อใหม่เลย
ก็แพงเกินไปและก็เกินความจะเป็นไปมากน่ะครับ

อาจมองเป็น Alphard มือสอง ตัว น้ำมัน หรือ H1 มือ หนึ่ง น่ะครับ

My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0

ออฟไลน์ Nikle_pk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,678
เทคโนโลยี Hybrid ก็ถือว่านิ่งแล้วครับ
ใช้งานกันมา นี่ก็ 15 ปีแล้วนะ

แบ็ตเตอรี Hybrid ลูกโตนั่น ถ้าเสื่อม ก็แค่เก็บประจุไฟได้น้อยลง
แต่ถ้าอาการหนักมาก มันก็มีไฟเตือน โชว์ขึ้นบนหน้าปัด นั่นละครับ
แต่ นานเลยละ กว่าจะโผล่ขึ้นมา หรืออาจจะไม่มีโชว์เลย ตลอด
ระยะเวลาที่คุณใช้รถนั่นละครับ

พี่จิมครับ

ถ้าระบบ Hybrid เสื่อมถึงขั้นเสีย
จะยังใช้รถได้หรือเปล่าครับ (หมายถึงใช้เครื่องยนต์น้ำมันขับต่อโดยไม่ซ่อมระบบ Hybrid เลยนะครับ)
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
แต่เรื่องซ่อมอาจจะไม่น่ากลัวแล้วนะครับ

ฮุ่ประจำผมบอกว่า เคยดูๆ มาแล้ว ไม่น่าจะยาก ผมว่าไม่เกิน 3 ปีน่าจะมีอู่นอกที่ซ่อม Camry HB กับ Prius HB ครับ

แต่มือ 1 ผมไม่กล้าซื้อจริงๆ ครับ รอต่อชาวบ้านดีกว่า ;)

ออฟไลน์ jumpon_khun

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 22
    • อีเมล์
จะบอกว่ารัฐไม่ส่งเสริม คงไม่ใช่มั่งครับ ภาษีถูกกว่า eco car อีกนะ รถไฮบริดไม่เกิน 3000 ซีซี คิดภาษีสรรพสามิตแค่ 10 % นะครับ  :'( แต่ก็ยังแพงล่ะนะ

ออฟไลน์ mick

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,547
สำหรับรถยนต์ ผมว่าเกือบทุกคน ถ้าจะตัดสินใจซื้อ อะไรสักอย่างแล้ว...คงศึกษามาพอสมควร

"คงไม่แคร์ราคาขายต่อหรอกครับ"

ในกรณีนี้เจ้าของกระทู้คงศึกษามาแล้วว่า ขายต่อราคาตก>>ก็เลยไม่เอา
แต่หลายๆคนมีเหตุผลอื่นๆ ที่ไม่สนใจราคาขายต่อ

ผมไม่ได้ห่วงเรื่องขายต่อราคาตกครับ
ผมห่วงเรื่องซ่อมบำรุงครับ เพราะที่ผมดูไว้
เป็นมือสองอยู่แล้วครับ ถ้าต้องซื้อมาซ่อมก็ไม่ไหวเหมือนกันน่ะครับ
เห็นแต่ละเคสซ่อมกันหนักๆทั้งนั้นเลยสำหรับ Hybrid

รถคันนี้จะใช้งานน้อยมาก เดือนละ 1-2 ครั้งเท่านั้น
ไว้พาคุณแม่ไปหาหมอที่ กทม. ครับ ผมอยู่ ตจว. น่ะครับ
รถที่มีอยู่ตอนนี้คุณแม่นั่งแล้วปวดหลังมากครับ (ผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลังมาด้วย)
เลยอยากจะเลือกรถที่นุ่มนั่งทางไกล 4 ชม.แล้วสบายๆน่ะครับ
ส่วนเวลาจะใช้งานก็อยากจะสบายใจหน่อยน่ะครับ จะซื้อใหม่เลย
ก็แพงเกินไปและก็เกินความจะเป็นไปมากน่ะครับ

อาจมองเป็น Alphard มือสอง ตัว น้ำมัน หรือ H1 มือ หนึ่ง น่ะครับ


เน้นนุ่มๆ ใช้น้อยๆ ไม่ต้องไฮบริดหรอกครับ ไปอัลพารด์ดีกว่า นุ่มกว่าเก๋งอยู่แล้ว

ออฟไลน์ HYDE--

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,643
    • อีเมล์
ที่บ้านใช้มาปีกว่าๆเกือบๆ 2 ปี กับพรีอุส

ขับในเมือง
20-22 โลลิตร
ถ้าเป็นรถน้ำมันธรรมดา คงล่อไป 8-9 โลลิตร
ความประหยัด ถึงจะไม่ได้มากมาย และไม่ได้คุ้มค่าตัว

แต่สิ่งอื่นๆที่ได้มา เช่น ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบกันล้อหมุนฟรี แอร์แบค 6 ลูก
ไอเสียไม่เหม็น ขับเข้าโรงจอดรถ แม่เปิดประตูบ้านให้ ไม่ต้องดมไอเสียบ่อยๆ
รักโลก คนที่บ้านดมควันพิษน้อยลงถึงจะแค่นิดหน่อยก็ตาม ทำให้ผมรู้สึกว่า ซื้อรถคันนี้ คุ้มค่าแล้วหล่ะ

สมัยก่อนผมตั้งกระทู้ อัลติส 1.8 VS พรีอุส
ถ้าซื้ออัลติส 1.8 คงคุ้มค่าในตัวเงินกว่า แต่ทุกวันนี้ก็ไม่ผิดหวังในพรีอุสนะ (ถึงจะมีเรื่องตะหงิดๆบ้างก็ตามที)

เห็นด้วยครับ ถ้าไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ก็ถือว่า ใช้รถที่ปล่อย CO2 น้อยๆหน่อยก็ดีครับ
เรื่องความแรง กับ ออฟชั่น ถือเป็นของแถม