พี่แพนมีคอลัมน์ลง VoiceTV ด้วยครับ วิเคราะห์เรื่อง"Isuzu MU-X ผู้เล่นหน้าใหม่"

supercat

 ไปเจอมาพอดีครับ วิเคราะห์ไว้ละเอียดเลยๆ   ;D ;D ;D


อ้างถึง
ผมกำลังติดตามข่าวรถยนต์รุ่นใหม่ๆที่เตรียมโหมเปิดตัวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีอย่างหนักหน่วง นับจากวันนี้ไปจนถึงงานมอเตอร์
เอ็กซ์โปช่วงใกล้สิ้นปี เราน่าจะได้เห็นรถรุ่นใหม่ (หรือรถที่มีการอัพเดทเครื่องยนต์หรืออุปกรณ์ใหม่) อีกไม่ต่ำกว่า 5-6 รุ่น แต่รถที่
กระแสแรงอันดับต้นๆคันหนึ่งในช่วงนี้คงหนีไม่พ้น Isuzu MU-X (อ่านว่า มิว-เอ็กซ์..ไม่ใช่ มิว-เท็น อย่างที่ผมเข้าใจในตอนแรก) ซึ่ง
เป็นรถ SUV แบบใช้พื้นฐานร่วมกับรถปิคอัพ ที่เกิดจากการผสมผสานกันระหว่าง DNA ของ Isuzu และผลพลอยได้จากการร่วมมือ
พัฒนากับ Chevrolet ดังนั้นในขณะที่หลายคนกำลังรอลุ้นกับรูปร่างหน้าตาของมันว่าจะออกหัวออกก้อยหรือออกกลาง ผมกลับเป็นคน
นึงที่จะทำหน้าตาเฉยเมยจิบกาแฟม็อคค่าเย็นๆแล้วบอกว่า “ไม่เห็นต้องคิดมาก” ในเมื่อเราทราบอยู่แล้วว่าโครงสร้างของมันแชร์พื้น
ฐานกับ Trailblazer ของ Chevrolet มันก็ไม่ยากที่จะเดาว่า Isuzu จะใช้ตัวถังที่ดูจากด้านข้างแล้วเหมือนกัน แต่มีด้านหน้าที่ละม้าย
ไปทาง Isuzu D-Max จะมีก็แต่ไฟท้ายที่ผมยังเดาทรงไม่ออกจนกระทั่งทาง Isuzu ปล่อย Teaser ออกมาเองถึงได้เห็นว่าไฟท้ายดู
แล้วเหมือน Ford จากฟากยุโรปมากจริงๆ
 
กระแสตอบรับมีทั้งในแง่บวกและแง่ลบ หลังจากที่มีข่าวออกมาว่าราคารุ่นท้อปจะอยู่ที่ไม่เกิน 1.4 ล้านบาทนั้น เรียกความสนใจจาก
บรรดา Isuzu Loyalist ได้มาก เพราะถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับคู่แข่ง Pajero Sport 2.5VGT 4WD ในขณะนี้มีค่าตัว
อยู๋ 1.372 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่ถูกกว่าใครอื่น ส่วน Toyota Fortuner จะอยู่ในระดับ 1.4 ล้านบาท และรุ่นสูงสุด
อย่าง Fortuner TRD Sportivo นั้นจะตั้งราคาเอาไว้ 1.536 ล้านบาทซึ่งสูงที่สุดในกลุ่ม ส่วน Chevrolet Trailblazer 2.8LTZ1 ฝาแฝด
ของ MU-X นั้นมีราคา 1.489 ล้านบาท ดังนั้นจึงถือว่า MU-X สามารถใช้ไม้ตายด้านราคา บวกกับชื่อเสียงของ Isuzu ที่อยู่กับเมือง
ไทยมานานจนไร้ข้อกังขาเรื่องศูนย์บริการ บริการหลังการขายและราคาขายต่อ (ซึ่งไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี ก็ทราบกันดีเหมือนไก่เห็น
รองเท้างู งูเห็นจีสตริงไก่อย่างไรอย่างนั้น)
 
แต่การที่จู่ๆ MU-X จะมาเปิดตัวแล้วทำยอดขายแซงคู่แข่งได้ในช่วงเวลาสั้นๆนั้น ผมมองว่าไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด เพราะหลังจากที่
สัมผัสรถพิกัดนี้มาครบทุกรุ่น (ยกเว้น MU-X นั่นล่ะ) ก็พบว่าแต่ละรุ่นมีจุดขายของตัวเองทั้งนั้น  ผมจะสรุปให้คุณผู้อ่านที่กำลังชั่งใจ
เรื่องรถ SUV (PPV) ได้ฟังกันสั้นๆแล้วกันนะครับ

 

Mitsubishi Pajero Sport นั้นแม้จะเป็นรถที่ขับแล้วไม่ค่อยทันใจ จะสั่งให้พุ่งให้แซงสักทีต้องบี้คันเร่งให้รอบตวัดเกิน 2,000 รอบก่อน
แล้วค่อยดึงไหลๆ แต่ผลจากการที่ตัวรถนั้นมีการทุ่มงบประมาณไปกับการวิจัยพัฒนาช่วงล่างที่ปรับมาให้เหมาะกับนิสัยคนไทยที่
หลากหลายในรูปแบบการขับขี่ ทำให้มันเป็นรถที่มีช่วงล่างที่นุ่มสบายเวลาโดยสาร แต่เกาะถนนดีเวลาวิ่งทางไกลบนถนนที่ไม่
สมบูรณ์แบบ เล่นกลยุทธ์ราคาต่ำแต่ให้หลายสิ่งเท่าเทียม (หรือดีกว่า)คู่แข่ง ทำยอดจนโค่นแชมป์อย่าง Fortuner ได้มาแล้ว แต่
หลายคนก็บ่นว่าเครื่อง 2.5 ลิตร แต่ทำไมกินน้ำมันดุดีแท้ นอกจากนี้ยังไม่มีการติดระบบควบคุมการทรงตัวและระบบควบคุมการลื่น
ไถลของล้อมาให้ และศูนย์บริการเท่าที่ประสบพบกับตัวเอง (รถของเจ้านายผมเอง) ถือว่าไม่น่าประทับใจทั้งในแง่การจัดการคุณภาพ
บุคลากร และในแง่การตรวจสอบคุณภาพก่อนส่งรถคืนลูกค้า
 
Toyota Fortuner ก็เป็นรถอีกคันที่นับว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในการสร้างตลาด SUV ที่มีพื้นฐานมาจากปิคอัพ ในอดีตมันคือรถที่ยก
มาตรฐานรถเซกเมนต์นี้ด้วยหน้าตาที่แหวกแนวจากรถกระบะและอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครัน แต่ในวันนี้ถ้าคุณคิดจะซื้อ Fortuner ก็
ต้องทำใจไว้ก่อนว่ามันคือรถที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2005 และตัวถังใหม่ที่ร่วมพัฒนาโดย Toyota Australia นั้นจะเปิดตัวในอีกไม่กี่ปี ถ้า
ทำใจยอมรับได้ Fortuner ก็เป็นรถที่ช่วงล่างออกไปทางแข็ง แต่มีเครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้ดี  และในเวอร์ชั่นดีเซลขับเคลื่อนสอง
ล้อนั้นมีแนวโน้มว่าจะประหยัดน้ำมันดีเสียด้วยซ้ำ รุ่น TRD ที่ตกแต่งมาอย่างดีนั้นก็น่าสนและน่าจะมีอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ในเร็วๆนี้  ราคา
ค่าตัวรุ่น TRD ที่ตั้งไว้ทะลุ 1.5 ล้านอาจจะแรงไปสักนิด และมีให้เลือกแค่สีขาวกับสีดำ แต่ตรวจสอบโปรโมชั่นการขายดีๆ
เพราะดอกเบี้ยถูก ยิ่งใกล้วันมาของรถรุ่นใหม่จะยิ่งลดแลกแจกแถมหนักกว่านี้ เป็นคำตอบที่ดีสำหรับคนที่ห่วงเรื่องการใช้ระยะยาวเพราะ
ความที่ “อยู่มานาน”จนช่างคุ้นมือกันหมดแล้ว
 
Chevrolet Trailblazer นับเป็น SUV รุ่นเดียวในกลุ่มนี้ที่เกิดในยุค iPhoneเฟื่องฟู เทคนิคแพรวพราว อุปกรณ์เยอะ อารมณ์ในการขับขี่
อยู่กึ่งกลางระหว่างความแข็งและวิ่งติดเท้าตามสั่งของ Fortuner กับอารมณ์นุ่มแน่นแต่ต้องวิ่งลากรอบของ Pajero Sport ยิ่งล่าสุด
 ณ ต้นเดือนตุลาคม รถ Trailblazer จะได้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่มีพละกำลังสูงกว่าเดิม รุ่น 2.8 ลิตรดีเซลมีแรงม้า 200 แรงม้า และแรงบิด
ระดับ 500Nm (Fortuner 3.0 มี 380Nm และ Pajero Sport 2.5VGT 350Nm) น่าจะทำให้มันชนะใจตีนผีได้ดีในยามกดคันเร่ง
แซง แต่สิ่งที่ยังไม่แน่ชัดคือความประหยัดเชื้อเพลิงว่าจะดีขึ้นมากเพียงไร เครื่องยนต์รุ่นเดิมนั้นถือว่ากินน้ำมันพอสมควร และรุ่นที่ขาย
อยู่ในปัจจุบันยังมีปัญหาจากการผลิตอยู่บ้างเช่นเรื่องโช้คอัพ ซึ่งเพื่อนที่ทำงานผมเจอรถที่โช้ครั่วทั้งที่วิ่งมาแค่ 3,000 ก.ม.
 
หันมาทาง Isuzu MU-X ..รถคันนี้ก็เป็นแฝดของ Trailblazer แต่มีหัวใจที่ต่างกัน โดยใช้เครื่องยนต์บล็อคเดียวกับกระบะ D-Max คือ
ขนาด 2.5 ลิตร 136 แรงม้าและ 3.0ลิตร 177 แรงม้า พื้นที่ภายในรถและคอนโซลคงไม่หนีไปจาก Trailblazer มากนัก และอย่าเพิ่ง
ดูถูกเรื่องการใช้เครื่องเก่า หลายคนที่เคยขับจะทราบว่าเครื่อง 3.0 VGS ของ Isuzu นั้นก็ตอบสนองดีและเร่งได้เร็วแม้แรงม้าแรงบิด
จะไม่ได้มาก แต่ก็ถือว่าเหนือกว่า Fortuner 3.0 และ Pajero Sport สิ่งที่ผมยังเป็นห่วงอยู่มีเรื่องเดียวคือช่วงล่าง เพราะในช่วงหลาย
ปีที่ผ่านมา Isuzu ดูจะอ่อนด้อยเรื่องการปรับเซ็ตช่วงล่างเมื่อเทียบกับคนอื่น MU-7 ที่กำลังจะตกรุ่นนั้นก็มีช่วงล่างที่กระเทือนบนถนน
ขรุขระและยวบย้วยเมื่อวิ่งเร็ว ส่วน D-Max รุ่นปัจจุบันแม้จะเป็นแฝดกับ Chevrolet Colorado แต่ความมั่นใจในการขับขี่ก็ไม่เหมือนกัน
 โดย Colorado มีความมั่นคงในการขับขี่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
 
แม้คนที่ซื้อรถ SUV (PPV) เหล่านี้ส่วนมากไม่ได้ขับทางไกลทุกวัน แต่ต้องไม่ลืมว่าหลายคนที่ตัดสินใจซื้อรถพวกนี้ก็เพราะเวลาขับ
ทางไกลๆแล้วรู้สึกปลอดภัยตามขนาดรถ บางคนขับรถพวกนี้ปีนึงไม่ต่ำกว่า 50,000 กิโลเมตร ดังนั้นผมหวังว่าเมื่อมันเปิดตัวออกมา
Isuzu จะเลือกที่จะปรับช่วงล่างให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมคู่แข่งมากกว่าที่จะทึกทักเอาเองว่าคนไทยส่วนใหญ่ขับรถช้า ใช้ช่วงล่าง
นุ่มๆย้วยๆก็พอ ยิ่งเรื่องต้นทุนยิ่งไม่ควรนำมาพูด เพราะ Pajero Sport ก็พิสูจน์แล้วว่าคุณสามารถทำรถ SUV (PPV) ขายราคาไม่ถึง
ล้านสี่แล้วยังมีสิทธิ์ได้ช่วงล่างที่นั่งสบายและเกาะถนนดีพอสมควร
 
ถ้าสามารถแก้ไขจุดอ่อนที่เคยมีในด้านนี้ได้ Isuzu MU-X ก็จะมีจุดเด่นในตัวผลิตภัณฑ์ครบพร้อมรบ ทั้งความใหม่ ทั้งราคา ทั้ง
คุณภาพในการขับขี่ ในเมื่อฐานลูกค้าเก่าก็กว้าง และ Isuzu เองก็นับว่าบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าเก่าได้ดีกว่า
Mitsubishi หรือ Chevrolet โอกาสที่ดีแบบนี้..อย่าให้พลาดเพราะความคิดจากคนประเภท “คนไทยยังไงก็ได้” แล้วกันครับ

เครดิตครับ http://www.voicetv.co.th/blog/view/1628



Insideout




Buffy




Pan Paitoonpong

คนอื่นเห็นก่อนคนเขียนอีกเว้

ข้อมูลที่เอาไปเขียนก็มาจากที่นี่แหละครับส่วนมาก แต่จับตลาดผู้อ่านคนละแบบกัน
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8



jumpon77

เดียวได้ลองเจ้า MU-X ในงานมอร์เตอร์เอ็กช์โปรครับว่าช่วงล่างเปนยังไงครับ
http://facebook.com/jumpon.hiranyanon
https://twitter.com/jumpon77     คุยได้นะครับ.
 Corolla Altis 1.8 E MT MY2008(Sold out) Corolla Altis 1.6 J AT my2011 Isuzu D-MAX Spark my2003 Toyota Corolla Altis 1.6E CNG  Toyota hiace  2.5 2j-GE  2000



mamaman




H3T

 คุณแพนอธิบายให้คนทั่วไปเข้าใจง่ายดีครับ
  ส่วนตัวผมมองเรื่องราคาที่ Isuzu ตั้งมา ถ้าเป็นอย่างที่ลือกัน ผมว่าตั้งไว้เผื่อปรับราคาแน่ๆ เดี๋ยวไมเนอร์เชนจ์บ่อยหน่อย ราคาก็จะขึ้นแบบเนียนๆไปเอง
   
  พอเปลี่ยนเครื่องเป็น 4JK1-2TC ราคาตอนนั้นอาจจะแพงกว่า Trailblazer และใกล้เคียงกับ Fortuner มากกว่านี้ครับ



Sammy_

คุณแพนอธิบายให้คนทั่วไปเข้าใจง่ายดีครับ
  ส่วนตัวผมมองเรื่องราคาที่ Isuzu ตั้งมา ถ้าเป็นอย่างที่ลือกัน ผมว่าตั้งไว้เผื่อปรับราคาแน่ๆ เดี๋ยวไมเนอร์เชนจ์บ่อยหน่อย ราคาก็จะขึ้นแบบเนียนๆไปเอง
   
  พอเปลี่ยนเครื่องเป็น 4JK1-2TC ราคาตอนนั้นอาจจะแพงกว่า Trailblazer และใกล้เคียงกับ Fortuner มากกว่านี้ครับ
รหัสเครื่องคือ 2.5Bi-Turbo ใช้รหัสว่า 4JK1-TCY ครับผม
อ้างอิงจาก CatalogPart ครับผม