[mamlabong]

ถ้าซื้อรถราคาประมาณ 1 ล้านในงบนี้
อยากได้รถที่แรงแต่เกิด แต่ก็ขนาดนั่งสบาย
E39 ยังเป็นรถที่น่าสนใจไหมครับ
ขอบคุณมากครับ 


ปล. หรือไปเล่น Volvo S80 ปี 04-05 ดีครับ
ราคาก็พอๆกัน แต่ค่าซ่อมจะจุกจิกและแพงกว่า E39 ไหมอะครับ

[J!MMY]

แน่นอนว่า ณ วันที่เป็นรถใหม่ E39 523i ขับดีกว่า S80 ในภาพรวม
วิ่ง 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง นิ่งๆ ขนาดว่า ท่านพี่ ดร.วิทย์ สิทธิเวคิณ
(อดีต ผอ. PR BMW Thailand คนที่ใช้รถประจำตำแหน่งคันที่ผมเคยขอเขาลองขับอยู่)
ยังนั่งสบายๆ เฉยๆ ชิลล์ๆ สีหน้าก็ไม่ได้กังวลหรือกลัวอะไรเลย

แต่ S80 ไม่ได้ด้อยหรือแย่ไปกว่ากันเท่าใด เพียงแต่ช่วงล่างจะนิ่มกว่า แต่ถ้า S80 อยากได้ตัว ดีเซล ประหยัดกระจุยกระจาย
ผมว่าผมเคยทำรีวิวเอาไว้นะครับ ตัว S80 D5 บอดี้แรกเนี่ย ลองหาดูใน พันทิบเอาก็มี คลังกระทู้เก่า

มันเคยเป็น 1 ในยอดรถในดวงใจตลอดการของผม (จนวันที่ 5 ใหม่ บอดี้ใหม่ F10 เพิ่งเปิดตัว เมื่อไม่กี่วันมานี้ เลยเริ่มเปลี่ยนใจ)

ทีนี้ เพื่อนของผม เพิ่งโดนค่าเกียร์ลูกละ 2 แสนบาท ไปเอง แต่ถ้าโอเวอร์ฮอลล์ ข้างนอก ก็ทราบมาว่ามี 5-6 หมื่นบาท

อย่าคิดว่า วอลโว จะถูกไปกว่ากันเท่าใดนัก วอลโวนี่ ซ่อมแพงแน่ๆ
แต่ถ้าเจอช่างดีๆ ซ่อมเก่งๆ หรือเปลี่ยนอะไหล่เลย อย่างใดอย่างนึง เจ็บตัวหนักๆครั้งเดียว อยู่ได้อีกนานนนนนนนนนนน ครับ

ถ้าเจอรถสภาพดี เจ้าของใช้รักษา คว้าได้ก็คว้าเลยครับ

[gateaux]

ราคาน่าเล่นครับ  ถ้ามั่นใจสภาพ ก้อเอาไว้เถอะครับ ถ้าไม่ดวงจู๋เป็นดวงหมาเหยียบ ใช้บ้าง ซ่อมบ้าง ก้อยังคุ้ม

[mamlabong]

ขอบคุณครับพี่
ตกลงพี่ว่า Volvo S80 น่าใช้กว่าใช่ปะครับ
เพราะเห็น E39 มีช่วงล่างแบบ DSC ด้วย
ก็เลยคิดว่ามันจะช่วยเกาะถนนดีอะครับ

ขอบคุณอีกครั้งนะครับ 

[volvolover]

วอลโว่เรื่อง ซ่อม เดิ๋ยว นี้ อู่นอกดีๆ ซ่อมเก่งกว่า 0 อีกน่ะผมว่า เจอมาหลายเคสแล้วรุ่นมห่ๆ เครื่องมือก็มีเหมือน 0
ราคาก็ถูกกว่าด้วย

แนะนำเข้า www.volvomania.com
ลองหาข้อมูลดูครับ

s80 D5 นี่ก็ แรง+ประหยัดเลยน่ะครับ

[tatata4181]

เดี๋ยวนี้ วอลโว่ซ่อมไม่แพงมากแล้วครับโดยเฉพาะช่วงล่างมีเทียบ อะไหล่โรงงานเดียวกับของแท้ไม่แพง เช่นลูกหมากตัวละไม่เกินพัน  เกียร์ซ่อมไม่เกิน ห้าหมื่นจบ  ปีกผีเสื้อไฟฟ้าไม่เกินสองหมื่น ซ่อมแล้วจบไม่จุกจิกแน่นอนครับมีปัญหาไรถามมาได้เรื่อยเรื่อยครับ

[mamlabong]

ขอบคุณมากๆนะครับทั้งสองท่านข้างบน
เริ่มจะเิอนเอียงไปทาง Volvo ละ
เพราะได้รถที่่ใหม่สดและกว้างกว่า
แถมยังเหลือเิงินอีกด้วย อิอิ

[jaesz]

เคยใช้ E39 ปี 1999 นะครับ


ตอนนั้นเอามาชับในเมืองซะส่วนใหญ่ (ไม่ใช่เมืองกรุงเทพนะ)

- การใช้งานทั่วไปดี
- กินน้ำมัน 4 กิโลลิตรครับ รถมันหนัก ตัวเครื่องมันใหญ่ สูบก็เยอะ เทียบกับ W210 230E แล้ว E39 กินน้ำมันจัดมาก ๆ นอกเมืองขับประหยัดสุด ๆ ทำได้แ่ค่ 12km/l ถ้าขับปรกตินอกเมือง 10กิโลลิตรก็เก่งแล้วครับ
- ภายในสวยแต่เบื่อตรงเบาะมันเน่าน่ะครับ ฟองน้ำทรุด หนังมัน ค่าเปลี่ยนก็ทำใจนิดหน่อย
- อะไหล่่เครื่องยนต์ใช้กับ E34 ได้ แต่เห็นว่ารุ่นหลัง ๆ มีเปลี่ยนไปเยอะ รายละเอียดผมไม่ได้ตามครับ
- ช่วงล่างตอนผมขายไปยังไม่ได้่ซ่อมอะไรซักชิ้น วิ่งไปแสนโลนิด ๆ

ถ้าได้รถมาแล้ว.....

- ระบบไฟฟ้า ถ้ารวนนิดเดียว อย่าออกต่างจังหวัดเด็ดขาด ! กินข้าวลิงเอาง่าย ๆ โอกาสเจอมีตามสภาพครับ
- ห้องเครื่องห้ามล้าง เด็ดขาด!
- แผ่นใต้ห้องเครื่องถ้าเสียหาย ลงทุนเปลี่ยนใหม่ครับ กันน้ำกระเด็น
- รุ่นนี้กินน้ำมันเครื่องเป็นปรกติ ที่ 10000 โล จะกินไม่เกิน 1 ลิตร ถ้าน้ำมันเครื่องหายไปใกล้ ๆ MIN อย่าไปเติมให้เสียเวลา ถึงเวลาถ่ายพอดี
- น้ำหม้อน้ำ อย่าเติมเต็มตอนเครื่องเย็น เพราะมันจะอัดประเก็นแตกตอนเครื่องร้อน
- พัดลมหน้าเครื่อง ถ้าจะทำ ต้องให้ช่าง BM หรือคนที่เคยทำ ไม่งั้นเสียงดังฟังชัดตลอดการเดินทาง
- CD Changer เก่า ๆ กินแผ่นอร่อย ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง เอาไปล้างซะหน่อยก่อนใช้ ทิ้งไว้นาน ๆ กินแผ่น
- พวงมาลัยใช้ตอนใหม่ ๆ เบา แต่ ถ้าเริ่มหนัก ๆ แสดงว่า น้ำมันสกปรก ล้างระบบอย่าเสียดายน้ำมัน
- เติม 95 เท่านั้น จะ Gasohol หรือ ธรรมดา ก็ไม่ว่ากัน อย่าเผลอไปใส่ 91 เป็นอันขาด

นึกออกตอนนี้เท่านี้ล่ะครับ