ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าเราใช้รถปีละ 50,000 กิโล ใช้ 2 ปีก็หมด BSI แล้ว เรายังควรจะซื้อ BMW อยู่ไหม  (อ่าน 17215 ครั้ง)

ออฟไลน์ M Performance

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 582
ใช้ ญี่ปุ่น เจ้าตลาด ดีกว่า

เป็นผมซื้อ PPV ซักคัน วิ่งมัน วิ่งยาวเลย
My Current Collection  8)

'13 Honda CR-V 2.4 EL 4WD
'14 Mercedes-Benz E200 Coupe AMG Dynamic
'16 Mercedes-Benz GLC 250 d 4MATIC OFF-ROAD
'19 BMW 320d GT M Sport
'22 Nissan Kicks e-Power VL Autech

ออฟไลน์ zeb80

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 413
ยิ่งวิ่งเยอะๆแล้วผมว่าใช้รถยุโรปน่าจะยิ่งคุ้มนะ ปลอดภัยด้วย
ค่าซ่อมปีละ70,000ผมว่าเยอะแล้วนะ อาจจะมีบางปีเกินถ้าเป็นซ่อมใหญ่แต่รถยุโรปถ้าซ่อมถึงมันจะไม่จุกจิกอย่างที่คิดนะครับ
ผมใช้ VW Passat อยู่สิบกว่าปีแล้วยังไม่มีปีไหนซ่อมเกิน70,000เลยครับ

ออฟไลน์ chaton

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 33
จากประสพการณ์ที่เคยใช้ e60 มานะครับ ถ้าจะวิ่งปีละ 50000 km. สิ่งที่จะต้องจ่าย
1.เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง 3 ครั้งครั้งละ 6,500 บาท = 19500 บาท
2.เปลี่ยนยาง 4 เส้นประมาณ 25,000 บาท
3.ผ้าเบรคถ้าเปลี่ยน หน้าหลังอยู่ประมาณ 20,000 บาท(รวมสายเซ็นเซอร์) ถ้าเปลี่ยอู่นอกก็ประมาณ 7,000
4.ค่าน้ำมันเบรค น้ำมันเกียร์  ประมาณ 10,000 บาท(ไม่รวมน้ำมันเฟืองท้ายนะครับ)
5.และมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก เช่น กรองแอร์ ใบปัดน้ำฝน อีกหลายอย่างที่จะตามมา กันไว้ 20,000 บาท
 
แค่นี้ก็เกิน 70,000 บาทต่อปีแล้วครับ ถ้าใช้แล้วกะจะขายต่อต้องทำใจครับ รถยุโรปยิ่งวิ่งเยอะยิ่งขายยาก
แต่ถ้าเราคิดถึงเรื่องการขับขี่ ความปลอดภัยยังไงก็ดีกว่ารถญี่ปุ่นหลายรุ่นครับ

ออฟไลน์ Envil

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 294
    • อีเมล์
ถ้าไม่ซื้อยุโรปป้ายแดง
เป็นผมคนเลือกD-Segmentชอบๆสักคัน หรือไม่ก็ยุโรปมือสองรุ่นใหม่ๆที่นิยมๆดูสภาพดีดีหน่อย หาอู่ดีดีทำเอาครับถ้ามีอะไรเสีย

ภาพลักษณ์ควบคู่ไปกับงบแหละครับ สบายใจคันไหน ลองคิดยาวๆถ้าไหวก็ซื้อเลย

ออฟไลน์ decptt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,572
Teana L33 2.0XL (ใช้ J32 ผมว่า ตัวนี้ต่อเลยครับ ^_^)
Mazda CX-5 2.2D
X-Trail (มาปีหน้า)
Collora ปีหน้า
MZ3 (อาจจะ ปีหน้า)

ถ้าไม่รีบ รอดูก็ได้ครับ

116i นำเข้า ก็ดีนะครับ เล็กดี ^_^
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนตัวผม
ถ้ารอไม่ได้
ถ้าใช้รถเยอะ ต้องการช่วงล่างดีๆ นุ่มๆ ผมเลือก L33 //ถ้าเบื่อนุ่ม ก็ไป G9 ครับ
ถ้าจำเป็นต้องดีเซลกับขายต่อแถมวิ่งเยอะ 2ปีแสนโล  ผมอาจจะดู MU-X เพราะ ขายต่อดี แน่ๆครับ (กำลังเปิดตัว)

ถ้ารอได้ ผมก็รอ X-trail (7seats) ว่าจะมีหรือเปล่า มีเครื่องดีเซลหรือเปล่า (เขาว่าจะมามีนาคมปีหน้า)


ออฟไลน์ f1rstgot

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 850
    • อีเมล์
ปัญหานี้ เป็นผมจะตัดใจเลยครับ ไม่เอารถยุโรปเลย ถ้าวิ่งขนาดนี้
เป็นผมไป PPV เลยครับ วิ่งยาว วิ่งดี นั่งพอใช้ สบายใจ  ;D หรืออาจจะ SUV Diesel อย่าง Captiva LTZ ก็ไม่เลวครับ รถดีมาก แต่ 1.7 ล้าน แพงกว่า PPV ทุกรุ่นในไทย
หรือถ้าตัดใจไม่ลงจริงๆ BSI 1ปี มันอยู่ได้แค่ 20000 โลเองครับ แล้วคุณใช้ถึงปีละ 50000 คุณใช้ 3.5เดือน ก็หมดแล้วครับ 555 / 5-6 หมื่นบาท/ปี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 24, 2013, 20:51:26 โดย f1rstgot »

ออฟไลน์ thehmmthehmm

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 96
เป็นผม ผมซื้อยุโรปครับ
ใช้ไปเถอะครับ แต่พอหมดประกัน อาจจะต้องกันเงินไว้มากหน่อย อย่างความเห็นก่อนหน้านี้
ถ้าใจรัก ก็เล่นไปเถอะครับ
ถ้าไม่ไหวก็ค่อยขายไป อนาคตเป็นอย่างไรไม่รู้ คุณอาจจะรวยขึ้น มีงบบำรุงรักษารถมากขึ้นก็ได้
บางอย่างก็ต้องลองใช้ลองมีประสบการณ์ดูถึงจะรู้ครับว่าไหวไม่ไหว

ออฟไลน์ fishfinger

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 868
รถยุโรปบทจะพังไม่วิ่งเยอะก็พังได้นะครับ

W203 คันเก่า ใช้มา8ปี วิ่งไป70000เอง เริ่มน้ำมันรั่วตั้งแต่ปีที่3 :-X

คือถ้าราคารถมันอื้มถึง ผมไม่แนะนำนะ ราคารถต้องกำลังสบายกระเป๋าจะดีกว่าครับ

ออฟไลน์ Siamtech

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 292
    • อีเมล์
รถยุโรป ผมก็ลังเลครับ สุดท้ายก็ไปจบที่ D-seg เจ้าตลาด

หากซื้อBM ก็จะได้คำว่า รถ บีเอ็ม .... จุดประสงค์ที่จะซ์้อก็คือ วิ่งออกงาน วิ่งวันหยุด ผมว่าเพียงพอแล้วครับ

ส่วนขับทำงานก็จัด PPV วิ่งสักคัน เหตุผลที่ไม่เลือก BM เพราะ BSI เนี่ยแหละ กับชื่อเสียงคำล่ำลือตอน BSI หมด

จะไปซ์้อ Benz  C Class W204 ก็ใกล้อวสารแล้ว เลยไปจบที่ D-Seg เจ้าตลาด สะงั้น ...

ออฟไลน์ laempiab

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 441
    • อีเมล์
รักเอย.. จริงหรือ ที่ว่าหวาน
หรือ
ทอระมานใจคน--
......

ผู้รู้ พึงรู้ได้ เฉพาะตน (ไม่ฮา-- แต่บีเอ็มเท่านั้น อิ อิ)
ต้องลองครับ ถึงจะรู้
ว่า.. รักเป็นเช่นนี้ 55

AuNaraKa

  • บุคคลทั่วไป
เข้าใจดีครับ เพราะผมก็เป็นมาก่อน
ซีรีย์ 3 เป็นรถในฝัน มองตามตลอด

ผมว่าถ้าใช้รถเยอะ ต้องคิดแบบนี้ครับ

1. ถ้าอยากใช้รถยุโรปและมีงบพอไม่เดือดร้อน ซื้อเถอะครับไม่ต้องลังเล
เมื่อหมด BSI มีทางเลือกตามนี้
- ขายทิ้ง เอามาดาวน์ BM หรือ MB คันใหม่
- ซื้อ BSI เพิ่ม แต่เท่าที่ทราบ เพิ่มได้ปีเดียวหรือ 30000 กิโลถ้าจำไม่ผิด
- หาอู่นอกที่ไว้ใจได้ จบได้ครับ

2. ถ้าไม่ได้อยากขับยุโรปมาก แนะนำใช้โตโยต้าครับ อะไหล่หาง่าย ถูก ประหยัด
เหมาะกับการใช้รถแบบหนักหน่วง



พี่หมอ อู่นอกซ่อมได้เหรอครับ เห็นคุณจิมมี่บอกว่า BMW รุ่นใหม่ๆ มีการล็อคระบบคอมไว้ มีแต่ศูนย์ของประเทศนั้นๆ ที่จะ service ได้นะครับ ลองหาๆ กระทู้เก่าๆ ของพี่จิมมี่ดูได้ครับ

ออฟไลน์ north

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 431
ขอบคุณทุกคำแนะนำ ขอบคุณทุกคอมเม้นนะครับ
ผมจะนำไปเป็นข้อมูลในการตัดสินใจอีกครั้งครับ

 :) :) :) :) :)

ออฟไลน์ ^Yimm@^

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,132
รถวิ่งเยอะๆไม่จำเป็นที่มันจะต้องเสียเยอะนะครับ ถ้าบำรุงรักษามันปกติ มันก็ไม่ได้ต่างจากรถญี่ปุ่น
ไม่ได้กระแทกคันเร่งเป็นชีวิตจิตใจ เจอหลุมบ่อหลบ หยอดมันบ้าง ผมว่าสบายๆ ซื้อไปเลยครับ

ออฟไลน์ gayji

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 235
วิ่งเยอะขนาดนี้ สำหรับผมเลือกรถยุโรปมาก่อน ในแง่ความปลอดภัยครับ ระบบเบรค ระบบป้องกันการชน ทั้งก่อนและหลัง ผมว่ายังห่างกับรถญี่ปุ่นเยอะครับ
และรถดีเซล ก็น่าจะตอบโจทย์เรื่องประหยัดกว่า และทนถึกกว่าเยอะครับ เพราะโดยเทคโนโลยีของดีเซลแล้ว มันใช้ชิ้นส่วนน้อยชิ้นกว่า ชิ้นใหญ่กว่า มันก็ทนกว่าโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
ส่วนที่จะไม่ทนก็คือระบบไฟฟ้า ซึ่งเมืองไทยเราปราบเซียนเรื่องนี้ เพราะอากาศร้อนชื้น

ออฟไลน์ Bond007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 788
ใช้รถเยอะขนาดนี้เป็นผมเลือก Cruze 2.0 ดีเซล ครับ ประหยัด อึด ไม่เสียดายรถ

ออฟไลน์ warez

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 702
Benz มีประกัน5ปี ไม่จำกัดระยะทาง ติดต่อได้ที่ศูนย์ใกล้บ้านท่านครับ

ยืนยันเพราะใช้อยู่

ออฟไลน์ TRcdi

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 670
แต่ละปี ที่บ้านผมจะใช้รถทำงานประมาณ 65,000 กม .
(แต่มีสลับใช้ 2-3 คัน)
กรุงเทพ - ทั่วภาคเหนือ   (เยี่ยมลูกค้า เก็บบัญชี)

คุณพ่อจะยืนพื้น "ต้องรถยุโรป เพื่อความปลอดภัย
และภาพลักษณ์"   โดยใช้  E  สลับ ซีรีย์ 5 มาตลอด

แต่เดิม  ก้ไม่เคยสนใจ  ขับไปเรื่อย  บำรุงรักษาอย่างดี

พอมาถึง e60  เป็นครั้งแรกที่มี BSI..   ก็อุ่นใจดีครับ
แต่...  มันเป็นดาบสองคม   มันสร้างความกังวลในการใช้
(ถ้าใครใช้รถเยอะๆ จะเข้าใจ)

100,000 โล  จากที่ไม่สนใจ    ...ทำไมตอนนี้มันหมดไว
จัง (วะ)    ขับไป นั่งนับถอยหลังไป BSI จะหมดแล้วๆ

จนทนไม่ไหว ต้องถอย H1 มากอบกู้ ผมกลับมีความสุข  วิ่งแหลก ขับมันส์ คลายกังวล  ปีเดียว 60,000 (ไม่มี BSI มาค้ำคอและราคารถไม่สูงมากนัก)

ตอนนี้ e60  ใช้ไป  130,000     แต่ก็ยังไม่มีอะไรเสีย
หรือจุกจิกเลยครับ   แต่ผมเอาไว้ใช้ระยะสั้น  ไปงานแต่ง
ไม่เอาไปลุยไกลๆ (เพราะ BSI หมด กลัวแจ๊คพอต)

สรุปสำหรับ คุณ north จขกท. (ในความคิดผม)

รถยุโรป ขับดี ปลอดภัย ภูมิใจ ลูกค้าเกรงใจ
ไม่ได้จุกจิกอะไรมากหรอกครับ  ยิ่งดีเซล สุดยอด!

แต่... อาจจะยังไม่คุ้มสำหรับ จขกท. ในตอนนี้
ถ้าใช้เยอะขนาดนี้  ยังไงก็ควรมีอีกคันมาเสริม
แล้วจะใช้อย่างมีความสุขครับ




ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
แล้วแต่ครับ

ผมเข้าใจนะว่าโจทย์เหมาะกับรถยุ่น

แต่พออกยุ่นมา แล้วเจอยุโรปที่เราเล็งไว้ป้ายแดง ใจมันก็อดคิดไม่ได้

เป็นผมคงไป BMW ครับ

ออฟไลน์ north

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 431
Benz มีประกัน5ปี ไม่จำกัดระยะทาง ติดต่อได้ที่ศูนย์ใกล้บ้านท่านครับ

ยืนยันเพราะใช้อยู่

รับประกันนี่รวมถึงพวกเซอวิสต่างๆด้วยไหมครับ เช่นพวกเปลี่ยนถ่ายของเหลว ผ้าเบรคอะไรอย่างนี้ครับ