ผู้เขียน หัวข้อ: เสร็จแล้วครับ รีวิวแรก ทั้งเพื่อน ทั้งครู ACCORD CB3 ตาเพชร  (อ่าน 77384 ครั้ง)

ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
ก่อนอื่นสวัสดีก่อนครับ ผมได้ติดตามอ่านเวปนี้มานาน แล้ว สมัครก็หลาย  เพิ่งจะมาสำเร็จเมื่อกี้เอง
  บอกบอกตรงๆว่าดีใจครับที่ได้รู้จักกับแหล่งความเกี่ยวกับรถยนต์มี่ เที่ยงธรรมและเป็นมากๆ ณ เวลานี้  อ่านทีไรสุดยอดทุกครั้งครับ
ที่นี่ไม่แบ่งแยก รถเก่าใหม่ ตอบปัญหาอย่างที่ หาได้ยากในเว็บรถอื่นๆในปัจจุบัน  
  เริ่มกันก่อนที่รีวิวแรกครับ  เห็นคนอื่นเขียนแล้วอยากลองมั่ง  จำได้ว่าท่านนึงก็เขียนเกี่ยวกับตาเพชรมาแล้ว  ยังมีตรงไหนตกไปผมจะเสริมให้อีกแบบละเอียดละเอียดครับ
  เริ่มร่ายกันก่อน สำหรับแอคคอร์ด GEN4  รหัส CB
CB1  sedan Ascort
CB2  sedan เลี้ยว 4 ล้อ
CB3  sedan  ตาเพชรเรานี่เอง
CB4  ascort เลี้ยว 4 ล้อ
CB5  ascort inspire หรือ  vigor
CB6  coupe
CB7  sedan พวงมาลัยซ้าย  เครื่อง F22
CB8  ccord aerodeck
CB9  wagon
( aerodeck กับ wagon เนี่ยมันต่างกันยังไงก็บอกผมทีครับ ไม่รู้จริง )
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 08, 2013, 20:20:05 โดย navgun43 »

ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
ระบบพื้นฐานต่างๆ เช่น ช่วงล่าง  ปีกนก ระบบ 4ws   ได้ถูกถ่ายทอดไปยังรถในรุ่นต่อไปเช่น  Prelude BB1  Accord Cd ( ก้อนเดียว / สองก้อน )
อะไหล่บางชิ้นสามารถใช้ด้วยกันได้เลยเครื่อง
     ญาติห่างเอาไว้เท่านี้ครับ มาเจาะลึก คุณครูคนอื่นกันก่อนดีกว่า จะเน้นเฉพาะรหัส CB3 เท่านั้นครับ

ขนาดตัวถัง   เป็นรถขนาดกลางที่พยายามจำกัดความกว้างตัวถังเอาไว้ตามกฏหมายญี่ปุ่น   รถจะออก แบน ยาวและครับ
ยาว 4695 mm
กว้าง 1695 mm
สูง 1390
หนัก ตั้งแต่ 1215 กิโล ( คารบูเกียัธรรมดา ) จนถึง 1275 กิโล ( หัวฉีด เกียรออโต้ ) ซึ่งหนักกว่า C seg  เล็กน้อยครับ
    และขนาดตัวถังนี้ ดันไปเท่ากับ cefiro a31 ทุกมิติแบบ เป้ะๆๆ
ฐานล้อ 2720 มม.ครับ  ยาวกว่า cefiro A32
เครื่องยนต์ มีให้เลือก 2 แบบครับ  
1.F20A Carburator  SOH C 1997 cc      112 แรงม้า  ที่ 5900 รอบ ต่อนาที มีทั้ง เกียร ออโต้ และธรรมดา
2.F20A PGM-FI  SOHC  1997 cc      135 แรงม้า ที่ 5400 รอบต่อนาที มีทั้ง เกียร ออโต้ และธรรมดา
พวงมาลัยเป็นแบบ แรคแอนพิเนียน มีพาวเวอรผ่อนแรง

เดี่ยวรายละเอียดอื่นๆค่อยไปลงกันในรถผมเองอีกทีครับ

ราคาในตอนนั้นครับ ประมานปี 36
แบ่งเป็น สี่รุ่นย่อย   
ทั้ง ตัวท้ายยาว 90-91  และท้ายสั้น 92-93 จะคล้ายๆกันครับในส่วนออปชั่น หลักๆเลย
ตัวเครื่อง คาร์บู จะเป็นเบาะไวนิล  แผงข้างเป็นสักหลาด เทาธรรมดา ไม่มี ไฟเบรกดวงที่สาม
เครื่องหัวฉีด  เบาะกำมะหยี่  บุแผงข้างประตู เป็นลายทางๆ มีไฟเบรกดวงที่สาม 
นอกนั้นจะมี option เสริม เป็น สปอยเลอร์หลัง  เวทเอทร์การด  เครื่องฟอกอากาศพร้อมรีโมท เป็นต้นครับ

LX  คารบูเกียรธรรมดา 672,000
EX คารบูเกียรออโต้ 707,000
LXi หัวฉีด เกียรธรรมดา 757,000
EXi หัวฉีดเกียรออโต้ 797,000

ราคาแรงเหมือนกันนะครับเนี่ย

  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 08, 2013, 14:03:03 โดย navgun43 »

ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
เรื่องราวต่างๆก่เอาไว้แค่นี้ครับ
มาว่ากันรถที่จะรีวิว และทดลองขับ กันเลย
นั่นคือ เจ้านี่

ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
ตัวรถเป็ accord ตาเพชร ปี 90 เครื่องคารบูเกียร์ออโต้ครับ ใช้มาแล้ว 4 ปี
ก่อนหน้านี้ผมมี ตาเพชรอีกคันนึง  เครื่องคารบูเกียรธรรมดา  เนื่องจากอยากได้เกียรออโต้เลยจัดการ เปลี่ยน คันซะเลย
คันนี้เป็นคันที่ สอง ในชิวิต ผ่านมา 31 ปีของผมครับ

ตัวรถเป็นสีเทา อมมุกนิด  มีโครงการจะทำสีใหม่เท่าคันครับ รอปีใหม่ก่อน
มาดูข้างในกันก่อนครับ
เปิดประตูเข้าไป มือจับจะเป็นสีดำนะครับ (   ถ้าเครื่องหัวฉีดจะเป็นสีเดียวกับรถ ) เปิดได้ไมากนักประมาณ 50 องศาได้  ด้วยตัวรถที่ค่อนข้างเตี้ยเป็นทุนเดิม เบาะก็ไม่สูงมาก  ต้องมีเหวี่ยงเข้ากันนิดนึงครับ  แตาก๋ไม่ได้ลำบากอะไร

เบาะหนัง ตัวใหญ่ครับ แต่เบาะรองสั้นไปนิดนึง
แต่พิงได้เต็มหลังดี  เบาะมันออกแนวเตี้ย ตูดไถพื้นครับ  ต่อให้เป็นเบาะเดิมก็ตาม นั่งนานๆ มีเมื่อยหลังกับ ต้นขาได้เหมือนกัน  แต่ก็ไม่มากเท่า altis ปัจจุบันของพ่อ  คันนั้น  นั่งแป้ปเดียวเมื่อยขึ้นไหล่เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 08, 2013, 14:46:27 โดย navgun43 »

ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
เมื่อเข้าไปนั่งแล้ว  บรรยากาศโปร่งสบายดีครับ  มุมมองทั้งหน้าหลังซ้ายขวา เต็มตาดี  ส่วนนึงเพราะกระจกบานใหญ่ แต่แดดก็เข้าเต็มๆเหมือนกันนะ  ( ฮา )
เบาะเป็นเบาะไวนิลครับ แผงข้างบุด้วยสักหลาดสีเทาเรียบๆ  ที่ประตูมีไฟส่องที่มุมประตูด้วยตอนเปิดประตู   รถราคา 7-8 แสนสมัยนี้ไม่ยักมี
วัสดุภาย  แบบไยอัดขึ้นรูป บุโฟมหุ้มด้วยอะไรที่คล้ายหนังอีกที  ดูมีราคามาก  รถทั้งคัน นอกจากเปลือกกรอบแอร์กะวิทยุแล้วก็ ชุดควบคุมกระจกไฟฟ้าแล้ว แล้วไม่มีอันไหนเป็นพลาสติกเลย    แสดงถึงความใส่ใจของ honda ในการทำรถรุ่นนี้ครับ
  - แต่เจ้ากรอบแอร์แอร์ก็เป็นอะไรที่แตกง่ายมากๆเหมือนกันครับคันนี้ก็ไม่รอด  รอตังค์เปลี่ยน อิอิ ) -
พื้นรถเป็นพรมทั้งฝืนหนานุ่มครับ อย่าไปเทียบกับไยกระดาษอัดสมัยนี้  
แถมด้วย พหรม 5 ชิ้น ที่หนาและหนัก ทนทาน  สีเดียวกับรถนั่นแหละ  แต่ที่เห็นให้ภาพ ผมเอาของ accord งูเห่ามาใส่แทน  ช่วงที่เค้าลดราคา เมื่อซัก 3-4 ปีที่แล้วอะครับ
นอกจากจากพหรม 5 ชิ้นแล้ว ยังมี แผ่นยางรองพื้นนิ่มๆแต่หนัก 5 ชิ้นอีก ( เอาเข้าไป ) เวลาแกะออกมาดูดฝุ่นที  คนที่บ้านบอก รถคันเดียว อะไรจะเยอะขนาดนั้น
กระจกไฟฟ้าเนี่ยเป็นแบบ onetouch ทั้งขึ้นและลงนะครับ  คือมันจะมีตอนกด 2 แก็ก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 08, 2013, 19:27:56 โดย navgun43 »

ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
พวงมาลัย  สำหรับรุ่นคารบูจะเป็นยูรีเทน 4 ก้าน  ไม่มีฟังชั่นใดๆทั้งสิ้นแม้แต่แอร์แบค  ขนาดก็พอดีมือ   หลังวง มีร่อง สำหรับเกี่ยวมือเดียว  พวงมาลัยอัน  ก็ไปอยู่ใน ท้ายก้อนสองก้อนด้วยนะครับ
วิทยุกับช่องแอร์  ชุดคอนโทลแอร์  ของเดิมผมเอาออกเปลี่ยนฟรอนท์เป็นไพโอเนียแทนเพื่อให้ใส่ USB ได้ตามสมัยนิยม  
คอนโทลแอร์ก็เป็นแบบ บิดๆ  แต่ปรับช่องลมต่างๆเป็นกดเอาดูไฮโซนิดนึง   แอร์ก็ทำงานตามอากาศด้านนอกครับถ้าร้อน  ก็เย็นช้าหน่อย  ถ้าเย็นก็เย็นเร็วหน่อย  ตอนกลางวันอาจไม่เท่า พวก denso พี่ โตเค้าแต่กลางคืน  ยะเยือกไม่แพ้เลยทีเชียว
แผงหน้าปัดอื่นๆก็จะมี  ไฟฉุกเฉิน ตัวบังคับแบ่งลม  มี Dimmer ปรับความสว่างหน้าจอ   ช่องเก็บของใต้คอนโซล นิดหน่อย   ตรงนี้ถ้า เป็นตัวนอก มีที่วางแก้วกดเด้งด้วยนะ ( แต่ผมไม่ชอบ ชอบวางแก้วข้างเบรคมือมากกว่า )
ช่วงกลาง เป็น เบรกมือแบบธรรมดาแหละ ดึงง่ายตำแหน่งพอดีมือเลย   ถัดไปเป็นช่องล็กๆ น่าจะเอาไว้วางแก้วผู้โดยสารตอนหลังมากกว่า   ตัวนอกตรงนี้จะเป็น ท้าวแขนและช่องเก็บของ  ( THDM เนี่ยหั่น ออฟชั่นออกซะเฮี้ยนเลย )
นาฬิกา  อันนี้สามารถไป เอาของ integra DC2 มาใส่ได้โดยไฟจะเป็นสีขาว
ช่องเก็บหรือเก๊ะ   อันนี้บุสักหลาดกันเสียงไว้ด้วย   พร้อมโช้ค รั้งให้เปิดออกหนืดๆ  ( เปิดแล้วจะค่อยๆอ้าออกช้าๆ ) สมัยนี้รถราคาขนาดนี้ พลาสติกเพียว  เปิดปุ้ปตกปุ้บถ้าของเยอะๆเนี่ยมีกระจายแน่นอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 08, 2013, 15:02:39 โดย navgun43 »

ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
ไฟแสดงประตูปิดไม่สนิท มีครบทุกบานนะครับ
หน้าซ้าย หน้าขวา หลังซ้าย หลังขวา กระโปรงหลัง  และไฟเตือน Brakelamp  กรณี หลอดไฟเบรคขาด  หรือระดับน้ำมันคลัชหรือน้ำมันเบรคเหลือน้อย  เจ๋งดีไหมล่ะครับ  ผมชอบมากๆๆ

ชุดคอนโทรลแอร์ชัดๆปุ่มกดง่าย และก็บิดง่าย  แปลกอย่าง ทำไมพัดลมกับแอร์เย็น ต้องหมุนสวนทางกัน   เวลามีคนมานั่ง แล้วแอร์หนาว  แล้วไปบิดความเย็นไปทางซ้าย ( ตามพัดลม ) ทีไร  หนาวยิ่งกว่าเดิมทุกที 5555   ข้างๆกันก็ไม่ลืมที่จะมีปุ่ม A/C ไว้ครับไว้ใช้ตอนไล่ลมจากตูแอร์หรือเวลาไว้ดันตูดพวกรถกระบะควันดำที่ชอบมาจี้ตรูด

พื้นที่นั่งด้านหลัง  มีอุโมงกลางอยู่ครับ  ตรงนี้เสียพื้นที่ไปเยอะเลย  เบาะหลังเนี่ย  นั่งสบายกว่าที่คิดครับ เห็นจมๆแบบนั้น  แต่ถ้าดันเบาะหน้ามาเยอะ จะเหลือที่วางขาน้อยมาก  สุ็พวก almera ไม่ได้ และสำคัญเลย แดดส่องหัว   คนนั่งหลังและแอร์ก็ไม่ถึง   

ใต้เบาะนั่งหน้าทั้งคู่ มีท่อแอร์แยกมาเป่าเท้าด้วยนะครับ   ใครเป็นเจ้าของอยู่เคยสังเกตุไหม  แต่ไม่ได้ช่วยให้เย็นขึ้นหรอกครับ    กันกลิ่นเท้ามากกว่านะผมว่า

ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
แผ่นบังแดดมีกระจกให้ด้านเดียวคือฝ่ายคนนั่งครับ  ( คงจะออกแบบมาว่าให้สาวๆแต่งหน้ากัน เพราะผู้ชายขับไม่รู้จะส่องทำไม ) อันนี้ผมไม่ค่อยชอบเพราะไม่เป็นไวนิลถูกๆมีรอยตะเข็บไม่เรียบร้อย ถ้าไปหาตัวนอกมา  จะเป็นผ้าสักหลาดนิ่มๆครับ  ตรงกลางควรจะเป็นไฟส่องแผนที่  ตัวนอกนั้นก็มีมาให้เลยอีกแล้ว

ไฟเพดานมีให้ อันเดียว ทั้งคัน  แต่ วัสดุที่เป็นผ้าเพดานเป็นไวนิล ( อีกแล้ว ) หนาวๆ ดูแข็งแรงดีครับ แน่นมากๆ

ทั้งไฟส่องแผนที่  หาใส่ได้ไม่ยากครับ  4-5 ร้อย
ส่วนเพดานนั้น   เลาะมันออกจัด moonroof จาก ตัวนอก หรือ ตัว Si-T  ญี่ปุ่นอันเป็นรุ่นท็อบสุด ( ครบมากกกกก ครูชคอนโทล แอรออโต้ )
เอามาใส่ก็ได้ถ้าเงินถึง  แล้วหาของได้

ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
มีที่เกี่ยวเสื้อผ้า   แข็งแรงมาก เสียดายน่าจะมีทั้งสองด้าน
แผงลำโพงหลัง  มีลำโพงสองตัว  ( ซึงเปลี่ยนตัวลำโพงมาแล้วแต่ใช้ครอบตัวเดิม  ) ตรงกลางจะเห็นร่องสำหรับติดตั้งไฟเบรคดวงที่สาม ( เฉพาะหัวฉีด )  บุด้วยกำมะหยี่อีกเช่นเดิม
 ยางกระดูกงู  สำหรับล็อกเสียงอีกชั้นนึง  บางคันไม่มีมาให้นะครับ ( หมายถึงรุ่นอื่น ที่ไม่ใช่ accord ) ลองไปสังเกตุกันดู
ท้ายรถ กระไม่มีอะไร  ถังแก้ส ล้ออะไหล่ รุ่นไหนติดล้อแม็กมาให้ก็ล้อแม็กนั่นแหละเป็นยางอะไหล่เลย  ผมไปหามาใส่ไว้ข้างเดียว  ของเดิมเป้นกระทะเหล็กขอบ 14
ด้ายข้างมีที่เก็บแม่แรงยกรถ  เป็นที่อยู่ของเสาอากาศเดียว  ซึ่งปกติจะขี้นลงเองตามวิทยุ  ( เสียไปแร้ววววววว )

ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
เบาะนั่งอีกมุมนึง

ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
มาภายนอกกันบ้าง
เริ่มกันชนหน้า จะเป็นแบบป้ายทะเบียนยุบไปนิดนึง มาพร้อมกระจังหน้า ตัวนอกเหมือนกัน ( ตัว H ถ้าของไทย จะเป็นตัวหนังสือพลาสติกเลย แต่ตัวนอกจะเป็น H อยู่ในกรอบใสๆอีก ผมว่ามันสวยกว่าก็เลยเปลี่ยน

คันนี้ เดิมๆไม่ได้ทำอะไรเลย   แค่เปลี่ยนไฟเลี้ยวเป็นแบบใสๆ ข้างไฟหน้า  จริงๆมีแบบชิ้นเดียวของ JDM แต่ราคาแรงมาก ( 7-8 พัน  สำหรับของมือสอง ซึ่งผมว่าไม่จำเป็นเลย  เปลี่ยนแค่ไฟมุมก๋พอแล้ว

ลิ้นหน้าไฟเบอร์ทรง  Xenon ชุดนี้จริงๆมี 4 ชิ้น  แต่ที่ดูๆแล้วใส่แต่ข้างหน้าสวยกว่า  ( ใน CB3thailand มีคนสั่งเข้ามาด้วยของแท้จะเป็นพลาสติกเหนียวๆ เฉพาะลิ้นหน้าอย่างเดียวหมื่นกว่าบาท    เพลีย

ตูดเป็ด   ร้าน TRC  สำหรับ  BMW มีอันหนากับบาง  ผมเคยใส่แบบบางแล้วธรรมดาไป  เปลี่ยนเป็นแบบหนาดูสวยกว่า  ขอบๆนี่ต้องแต่งเองนะ  1000 บาท  

ไฟตัดหมอกหลังแยกสวิตท์ไว้นะครับ ปิดยามฝนตกหนักหรือหมอกลง อันไม่ใช่ ของ honda acces แต่เป็นของ raybrig ซึ่ง standley ทำให้เหมือนกัน

และไฟหรี่หลัง อันของฮอนด้าเลย ติดไว้สวย เปิดช่วยลดบอดตอนกลางคืนได้ สำหรับรถหรือมอไซด์คันหลัง

เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้สำหรับ hondamania แหละครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 08, 2013, 20:43:32 โดย navgun43 »

ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
ท่อไอเสีย  อันนี้ผมเดินไหมเนื่องจากของเก่ามันผุ  ตั้งแต่พักกลาง  ยันปลายท่อ ปะแล้วปะอีก  สุดท้ายต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งระบบ   ศึกษาอยู่นาน  จนได้มาอ่านบทความของคุณ  แพน  เรื่องแต่งเครื่อง NA เลย จัด   แบบ 2 นิ้วยิงตรงออกจาก ท่ออ่อนเลย ผ่านพักกลาง 1 ใบ  จบที่ ท่อ ไส้ เยื้อง ( ไหมนะ  แบบมันเงียบจัง ) ยี่ห้อ ganador  เลสทั้งใบ    ผลที่ได้ชอบมากครั้ง   แฟนจับไม่ได้ว่าทำท่อมา ( 5555 )   ขับช้าๆ นี่ีเหมือนท่อเดิมเลย  แต่เวลากดเต็มๆหรือรอบสูงเสียงทุ้มๆ  ดังมากขึ้นตามรอบเครื่องครับ   ต้นไม่หาย   ปลายไหล

ล้อแม็ก เปลี่ยนเยอะเหมือนกัน    ทั้ง Model7 ( ก็อบ )  น้องขับเบียดเละเลย  เปลี่ยนเอา  enkei RS หาปลอกใส่ยากมาก จะคว้านใส่ก็เสียดายล้อ เลยขายใส่ DC2 Type R ขอบ 15  แต่ต้องรองสเปเซอรเพราะออฟเซ็ทปาไป 55 ติดเบรค ( ขนาดเบรคเดิมๆ  แม่มยังติดถ้าติดเนี่ยจบเลยใช้ยาวแน่ๆครับ )    เดินทางไกลบ่อยๆ กลัวน็อตขาดครับเลยเปลี่ยนมาจบที่  ล้อไทยแท้ๆ  Lenso SR5 ขอบ 16  กะยาง โยโก เดซิเบล    ซึ่งก็พอใจครับกับชุดนี้ 

ปล.ไม่มีตังซื้อล้อแท้ครับ  แพงเกิ้นนนน  อยากได้  Wata F8F  ขอบ 16 แต่ราคาเนี่ยๆๆ สยอง

ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
ท่อ  กานาดอร์   ไส้เยื้อง   นุ่ม ทุ้ม เงียบ   เงา

ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
ช่วงล่าง
เป็นแบบ อิสระปีกนกคู่ทั้งสี่ล้อ ปีกนกคู่ สี่ล้อเลย  พร้อมเหล็กกันโคลงหน้าหลังมาจากโรงงาน   
ทั้งนี้ผมใส่ของไปเพิ่มนิดหน่อยคือ ค้ำปีกนกล่าง  และค้ำโช้คหน้าครับ    พร้อมเปลี่ยนสปริงเป็น ยี่ห้อ RSR รุ่น Ti2000 มือสอง ได้มา 3500 ( รูปยืมมานะครับ ไม่ได้มุดไปถ่าย ยัดไม่เข้า )  สปริงรุ่นนี้ใส่แล้วจะหน้าทิ่มนิดๆนะครับ
     


ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
มาถึงหัวใจของเจ้าคันนี้ครับ

เดิมทีเป็นเครื่องคารบู   112 แรงม้าเกียรออโต้   ทำงานแบบ กลไก 100%  ติดแก้ส LPG แบบ Mixer
เดิมๆจะออกตัวนิ่มๆครับ   0-100 ได้ประมาณ 14  วินาที  ความเร็วปลายได้ประมาณ 185 ครับ ทางราบๆไม่ขึ้นไม่ลงเนิน
ตั้งแต่ขับมาเจอปัญหาหลายๆอย่างครับ ไม่ว่าจะ  ไดชาร์จพัง  หม้อน้ำรั่ว  ความร้อนขึ้น ซ่อมไปศึกษาไป  หาข้อมูลทั้งใน cb3thailand   accordclub  และแล้วแต่พี่ google จะเสนอให้  แต่ด้วยอะไรก็ไม่ทราบ  ก็กัดฟันสู้ต่อมาเรื่อย ๆ เอาเป็นว่าซ่อมจนรู้เลย  จากคนที่ไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์เลยแม้แต่น้อย   ก็ค่อยๆรู้มากขึ้น  จากที่เคยซ่อมทีฟันหัวแบะ  ตอนนี้ไปเถียงช่างได้แบบช่างเถียงไม่ออก   การแก้ปัญหาเบื้องต้นทำไง  รอบตก  เครื่อง  ต้องนั้นพัง ต้องนี้เสีย   จนตอนนี้สามารถให้คำแนะนำคนอื่นได้ครับ    เวลาไปตอบคำถามในกระทู้ปัญหาต่างๆแล้วเราช่วยเค้าได้เนี่ยรู้ดีจริงๆครับ   เพราะงั้นถึงบอกว่าเจ้านี่เป็นเหมือนครูผมจริงๆ 

ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
แล้ววันทีเหมือนจุดเริ่มต้นใหม่ก็มาถึง  28 ธันวาคม 54   ขณะที่ขับออกจากบ้านเพื่อจะกลับบ้านเกิดปีใหม่   ไฟรูปกาน้ำมันเครื่องโชว์  ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร  เช็คน้ำมันเครื่องก็ปกติ   ไม่ขาด ขับไปได้กิโลเดียว  ดับคาตรีนนนนนนนนนน
โชคดีในความโชคร้ายมาดับหน้าอู่ซะงั้น

 เช็คไปเช็คมาสตาร์ทติดแต่เสียงครับ   ระงมเลย ทั้งก็อกทั้งแก็กรัวไปหมด   ชาบละลาย  จากปั้มน้ำมันเครื่องพัง  จบข่าว ครับซ่อม 15000 แต่ เศษโลหะน่ะไปไหนถึงไหนแล้ว

เช็คทรัพย์มีอยู่ เกือบ 40000  ปรึกษาช่าง ช่างว่า  วางเครื่องใหม่เทิร์นเครื่องเก่าได้ 5000 จ่าย 35000   เครื่อง F22B VTEC  ฝาขาว 145 แรงม้า เครื่องเกียรออโต้ กล่องเครื่อง กล่องเกียร สายไฟ  O2  ครบชุด

( ใจอะอยากได้ H22A แต่ตังไม่พอ )   
จัดเลยครับ เฮีย แหะ ( แบบเสียดายๆ )

และก็คราวนีเองครับ   ที่ได้พบว่า  คนเราจะทำอะไรจริงๆมันเร็วสุด 
28 เช้าพัง
31 เย็นรับรถ

ครับ 4 วัน   วางเครื่องใหม่   ตัดต่อท่อเดินแอรวายริ่งพร้อมวิ่ง    4 วัน   ผมกลับโคราชเช้าวันที่ 1 อย่างปลอดภัย

และปัจจุบันเจ้านี่ก็ยังสุขภาพดี เพราะกิน   Valvoloine  แทน Ptt ครับ   จะ 2 ปี กับ 70000 กิโลแล้วววววววน้า

ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
112 แรงม้า กับ 145 แรงม้า  ช่วงแรกที่ได้รับรถมายอมรับว่ารถขับได้ปกติ แต่ ความแตกต่างมันน้อยมากๆครับ ทั้งอัตราเร่งที่วัดแล้วก็ความเร็วสูงสุด  พอๆกันเลย
( ชุดแก้สชุดเดิม มิกเซอร์ 26 มิล )
จากนั้นเลยค่อยๆหาข้อมูลในการที่จะเอาพละกำลังที่แท้จริงของเครื่องออกมา โดยมีโจทย์ว่ายังไม่เป็นแก้สหัวฉีด
รายการที่ทำไปก่มีดังนี้ครับ
ขยายมิกเซอร์เป็น 30.5 มิล
เปลี่ยนท่ออากาศ ที่เดิมเป็นท่อปล้องๆออกใส่ท่อมิเนี้ยมท่อ
ใส่กรองอากาศเดิมที่เป็นกล่องๆแทนกรองเปลือย
ไส้กรองของ K&N
เดินท่อใหม่ 2 นิ้ว ( ของเดิม 1.7 ) ยิงตรงลอดถังน้ำมัน ปลาย ganador
จูนแก้สใหม่ โอเวอร์ฮอลแก้สทั้งระบบ  รวมทั้งหม้อต้มด้วย
 
ทั้งหมดทั้งมวล ใช้งปไม่เกิน 10000 บาท
แต่ผลที่ได้สุดคุ้มครับ

ดูจาก คลิปเอานะ

ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
อัตราเร่งจาก 0-100 เหลือประมาณ 12 วินาที จาก 14 วินาที
80-120  อยู่ที่ 9 - 9.5 วินาที
และความเร็วสูงสุดกดแบบรวดเดียว  ผ่าน 180 สบายๆ และไหลไปแตะ 205 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ ในระยะทาง ไม่เกิน 3 กิโล นับตั้งแต่ออกตัว

เทียบเท่า  พวกเครื่อง 1.8 - 2.0 ในปัจจุบันแล้ว  
สำหรับผมแค่นี้พอแล้วล่ะครับ

ช่วงล่างเซ็ทเพิ่มนิดหน่อยนั้น ทำให้อาการจาก  นุ่มๆๆๆๆ  เป็นนุ้มแต่เด้ง  แต่แน่นเมื่อวิ่งเร็ว  อาการโยน  ลดลง  หน้าไวมากขึ้นแต่พวงมาลัยหนืดเท่าเดิม
ตอนใส่ค้ำหน้าน่ะ อาการไม่เป็นแปลงเท่าไร  แต่พอใส่ค้ำปีกนกล่างเท่านั้นแหละครับ  ดีดดิ้นสะเทือนตับทีเดียว   ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าจะให้มันเป็นแบบนี้ทำไมแต่พอมี วันนึง  ทดสอบหาความเร็วสูงสุดนี่แหละ  ที่ความเร็ว 200 ลืมไปว่ามีเนินแอ่งหลังเต่ากว้างๆ เป็นคลื่น 2 เนินติดกันิยู่ ผ่านตรงนั้นปุ้บ รถยุบแล้วดีดขึ้นมาเลยผมไม่รู้ว่าลอยไหมแต่หัวผม  ( หนัก 110 กิโล ) ชนเพดาน ปั้กเลย  แต่รถก็ตกพื้นดดยมีอาการแค่ส่ายนิดๆไม่เกิน 2 ครั้งครับ  แน่นอนมาก  

  การเก็บสะทือนจากพื้นของเดิมดีมากครับแทบจะผ่านไปได้เลยอย่างถนนคอนกรีต  แต่ปัจุบันถ้าวิ่งช้าอาจเมาได้ ( 55555 )

On center feeling  ดีมากๆครับช่วง ไม่เกิน 140 ผมว่าพอๆกับ suzuki swift  ( รถแฟน )   แต่เกินกว่านั้น ด้วย สะรีระของรถ ทำให้นิ่งกว่ามากครับ

นิ่งกว่า altis ปัจจุบันแน่นอนครับ  

แต่ที่แน่ๆ เบาะหลังนั่งสบายกว่าเบาะหน้าครับ


เกียรออโต้ตัวนี้รหัส MP0A  มี lock up เกียรเพื่อทดรอบลง ในการเดินทางไกลๆครับ  
จาก 3200 รอบใน คารบูเครื่องเก่า เหลือ 2900 รอบ ครับ  
อัตรสิ้นเปลือง  ในเมือง 7-8 กิโลต่อลิตร  ทางไกล 10 -11 กิโลต่อลิตร ที่ความเร็ว ไม่เกิน 120 ครับ

ระบบ VTEC เป็นแบบ  variable คือมีเงื่อนไขการทำงานอยู่หลายข้อ  จากที่ผมเคยเอาไฟ vtec มาต่อเล่นนะครับ
-ถ้ากดออกไปเลยรอบเครื่อง 2300 รอบ เทคเปิดครับ
-แต่ถ้าค่อยๆออกตัวช้า ไปเรื่อย 3000 รอบเทคถึงจะเปิดครับ
-ถ้าวิ่งอยู่ D4  ซัก 2000 รอบ แบบเรื่อยๆซึ่งเทคไม่เปิด  ทีนีถ้าดันมา D3 รอบเครื่องตีไปเกิน 2600-2700 เทคก่อนยังไม่เปิดครับ
-เทคจะเปิดยาวยันรอบสูง  
-VTeC ตัวเป็นระบบคล้าย VTEC E นะครับ   เน้นประหยัดไม่เน้นแรง   แต่แรงบิดเค้าเยอะครับ  19.5  เลยละ  แถมมารอบแค่ 5000 นิดๆ


ในบรรดารถที่ผ่านมือขับบ่อยๆนั้น ก็มี รถพ่อ altis ปัจจุบัน        swift  eco รถแฟน       Jazz GE รถน้องสาว     civic  FD รถน้า

ที่ขับบ่อยๆจะมีเท่านี้ครับ   ซึงพูดตรงๆเลยว่า  ภาพรวมนั้น ยังไงก็สู้รถใหม่ไม่ได้จริงๆครับ  แต่มันรองรับอารมเราได้ดีที่สุดครับ  
สิ่งที่ ตาเพชรได้เปรียบทั้งหมดที่ว่ามาก็มีแค่เร่ง   เซนเตอร์พวงมาลัย    แรงบิดที่มีให้ใช้ โค้งแรงๆรถเอียงน้อย  แล้วก็  ช่วงล่างที่มั่นใจได้ที่ความเร็วสูง  เท่านั้นครับ
พวก  เล็กๆน้อยจุกจิก  ตามแบบ รถยุค  tablet นั้น  ไม่มีครับ

การบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงนั้นคือสิ่งที่หลายๆคน แหยงกับรุนนี้ครับ  ก่อนที่จะซื้อรถซักคันเนี่ยถึงต้องศึกษารายละเอียดรถคันนั้นก่อนครับว่าระบบต่างๆ เครื่องยนต์ ช่วงล่างเป็นยังไง  ทีนี้รถที่มีชาวงล่างปีกนก เนี่ยชิ้นส่วนมันเยอะครับ ปีกนกกี่อัน ลูกหมากกี่ตัว ลองมานับดูแล้วจะตกใจครับ   ถ้ามีตัวนึงเสียมันจะดึงตัวอื่นเสียเร็วขึ้น เพราะงั้น ถ้าจะซ่อมทีเนี่ย  ต้องซ่อมแบบทีเดียวจบเลย  ทุกอย่างเปลี่ยนเป็นคู่  ไม่ต้องรอครับ  พวกบุชก็เหมือนกัน  ค่าซ่อมทีเช่นด้านหน้าเนี่ย เอาเข้าจริงมันก่พอๆกับค่าผ่อนรถป้ายแดง 1 เดือน   รถราคาถูกอยู่แล้วเกือบทุกคนที่ซื้อรุ่นนี้ก่เงินสดอยู่แล้ว( เพราะจัดแน้นท์ไม่ผ่าน 55555 )  พวกเครื่องยนต์อะไรก่เหมือนกันครับ อยากให้รักเราเราก่ต้องรักมันก่อน  ทันทีที่มีอะไรผิดปกติอย่าปล่อยครับซ่อมเลย  ชุดสายพานไทมมิ่งก่ชุดละ 5พันเอง ไม่ต้องเบิก 0 ก่ได้ 6-7 หมื่นโลเปลี่ยนที ปั้มน้ำเทียบก่พันกว่าบาท   ไดชารจใหม่ๆร้านอะไหล่ก่สองพันกว่าบาท  ตู้แอรยี่ห้อcoolgear ของใหม่ก่ 3000  ชุซีลโอริงต่างๆเบิก0เอาก่ไม่ได้แพงอะไรมากมาย หลักร้อยทั้งนั้น  
ขยันซ่อมหน่อยเดือนละนิดละหน่อย ภายในระยะเวลานึงจะมีช่วงให้คุณใช้รถแบบไม่ต้องซ่อมอะไรเลย ไปเป็นปีเลยครับ  แต่ถ้าไม่สนใจมัน ไม่ดูแล ไม่ตรวจเช็ค เมื่อทุกๆอย่างมันค่อยๆรวมหัวกันพังขึ้นมา   ตอนนั้นซ่อมจนท้อครับ

ระบบระบายความร้อนเป็นอีกหนึ่งอย่างทีคนกลัวกันครับรุ่นนี้  ช่างก่ส่ายหัวกัน  ผมแนะว่าถ้ามีปัญหา ให้หาข้อมูลในเน็ตก่อนครับ ส่วนใหญ่วาวล์น้ำตาย แต่ช่างบอกฝาโก่ง ( 5555 ) เรียบร้อยซิครับแบบนี้  หรือไม่ยอมดูใต้ท้องรถจนไม่รู้ว่าปั้มน้ำรั่วจนน้ำหมดหม้อก่ยังขับอะไรแบบเนี่ยครับ

พวกของเหลวก่อนเหมือนกัน
ใส่กันมั่วไปหมด ช่าง ( อีกแล้ว ) ก่จะชอบยัดเยียดอะไรที่ตรงกับความเข้าใจช่างอย่างเดียวให้ ( โดยไม่ดูคู่มือเลย ) เกียรออโต้บอกพังง่ายเปราะ ก่เพราใส่แต่เกรดอื่น อย่าง dexton3มาตลอดเพราะช่างเคยใส่ให้ก่จำมา ทั้งที่ มันต้องเป็น ATF Z1 หรือ DW1 เท่านั้น ซึ้งเกรดนี้ มีแต่ อพอลโล่ ( 0)  วาลโวลีน และ ฮาโวีน เท่านั้นที่ผมเคยเห็น   จริงๆก่พอมียี่ห้ออื่นแหละแต่หายากมาก ช่างเกรียนๆก่จะจัด ของที่ไม่ตรงใส่ให้เรา

น้ำมันพาวเวอรก่ใช้กันไม่ได้นะครับ ของhonda จะเป็นสีทองๆ  นะ  ก่ช่างสุดเกรียนอีกที่เอา น้ำมันเกียรมาใส่ให้ แล้วก่บอกรั่ว หรือ ซ่อมไม่จบอะไรประมาณนี้

ระยะเวลาเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน ก่ร่นระยะมาซักหน่อย สบายใจขึ้นเยอะครับ  ทุกวันนี้ต้องสังเกตุสังเครื่องประกอบด้วยถ้าไกล้ ถึงระยะถ่ายก่อนแต่สีน้ำมันหรือเสียงเครื่องเปลี่ยนมากๆก่ชิ่งถ่ายก่อนเลยครับ
น้ำมันเกียร  ทุก 20000 ไปถ่ายตามคู่มือ 40000 เสี่ยงพังไวครับ อย่างเช่นเกียรงูเห่าเป็นต้น รายนั้นหลังโอเวอรฮอลให้ถ่าย ทุก20000 เลย

สรุปคือรถรุ่นนี้ค่อนข้างต้องการเจ้าของทีารู้จักมันครับเป็นรถที่เข้าถึงความเป็นฮอนด้าอย่างแท้จริง  คือ อะไรก่ต้องของกรู (อิอิ)  แต่ถ้า ปรับตอนเข้ากะมันได้ละก่  จากเดิมเป็นตัวป่วนเราซ่อมโน่นซ่อมนี้  จากที่เป็นครูให้ได้รู้จัก ห้องเรียนที่ไม่อยากจะได้เท่าไร  จะกลายเป็น  เพื่อนแสนดีที่พร้อมจะจี้ดไปกับเราตลอดเวลาครับ
ตลอด2ปีที่วางเครื่องมาผมซ่อมไปดังนี้ครับ
- สายพานไทมมิ่ง ยกชุด +ปั้มน้ำ 7000
-ชุดโอเวอรฮอลจานจ่าย  โซลินอยวีเทค  1200
-เปิดฝาล้างคราบเหนียวที่วาวล์ หลังวิ่งได้แค่ เกือบ 30000 กิโล พร้อมเปลี่ยนประเก็นฝาสูบ 3000 (ผมไม่อยากโทษน้ำมันเครื่อง ptt เลยครับ แต่รถผมทั่งสองคันตลอดเวลาที่เติม ptt เกรดกึ่งสังเคาระห์เพราะเห็นว่าถูกเนี่ยเจอแต่ปัญหาแบบเนี่ย หรือไม่ถูกกับ honda ) ตังแต่เปลี่ยนมาคบหาวาโวลีน  ปาไปจะ 50000 กิโลแล้ว ยังแน่นสตารททีเดียวติดอยู่เลย  สตารทแก้สด้วยนะคร้าบบบ
-หัวเทียน เข็ม สองชุด 1000 บาท
-กรองอากาศ 2 อัน 1200 บาท
-น้ำมันเครื่องวาลโวลีน durablend semi 4 ชุดรวมกรองชุดและ 900    รวม 3600 บาท
-น้ำมันเกียรฮอนด้าที่ 0 2รอบ รวม 1700 บาท
- โอเวอรฮอลแร็คพาวเวอร 5000 บาท
- ลูกหมากปีกนก บนล่าง  555 บุชยางต่างๆ ด้านหน้า 4000 บาท
- หัวเพลาขับตัวนอก ซ้ายขวา 3000 บาท
-สายกรานด์เส้นหลัก 300
-ตู้แอรคูลเกียร by denso 3000บาท
-
-แบต 1 ลูก 2000
ค่าซ่อมมีเท่านี ของแต่งอื่นไม่รวมนะครับ
และที่ว่ามาคือตั้งแต่ มกราคม 55 จนถึง เมื่อ ต้นหน้าฝนที่ผ่านมา  หลังจากนั้นมา  
ผมยังไม่ได้ซ่อมอะไรครับ ขับอย่างเดียว



หลายต่อหลายครั้งที่คิดจะขายไปหารถใหม่กว่าอย่าง ปลาวาฬ  หรืองูเห่า  ก็ต่องกลับมาคิดอีกครับว่า เหนื่อยที่จะไปเริ่มต้นใหม่เริ่มซ่อมใหม่อีก เพราะพวกนั้นก็ก็เริ่มถึงคราวซ่อมแล้วเหมือนกัน   ครั้นจะรถใหม่  ส่วนตัวผม ก็มี Swift  เจ้าเปี้ยกแสบ  ที่ตัดสินใจช่วยกันกับแฟนออกเพราะ เวปนี้โดยแท้เลย ( ขอบคุณ คุณ jimmy ครับ )  เพราะงั้นเลยคิดว่ายังไม่จำเป็นอะไรที่จะต้องหาภาระมาเพิ่มอีก     รอให้พร้อมกว่านี้ค่อยว่ากัน

มีอะไรติ ยังไง  ยินดีครับ  
จบรีวิวแล้วครับ    
 


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 08, 2013, 20:25:42 โดย navgun43 »

ออฟไลน์ navgun43

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
    • อีเมล์
อันนี้แอบเจอ ford ecosport มาวิ่งเล่นแถวๆชลบุรี บ่อวินครับ 

ด้านหน้าอวบอ้วนจริงสูงด้วย  แต่ถ้ามองดีๆ มันหลอกตาอยู่ครับ คันไม่ใหญ่เท่าไร

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณครับ ชอบมากๆ

ออฟไลน์ GaB

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 273
  • #StickShiftLife
ตาเพชรเป็นรุ่นนึงที่ตอนเด็กๆชอบมากครับ

ออฟไลน์ Anueis

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 483
  • Like !!! Automatic transmission.
    • อีเมล์
 ผมชอบตัวนี้เมื่อนานมาแล้ว
ขอบคุณสำหรับรีวิว ครับอ่านเพลินดี ::) ;D
1989 Honda Civic EF 1.6 4AT
2001 Volvo V70 2.3T
2007 Isuzu D-Max Cab SLX 2.5 Ddi I-Tec

ออฟไลน์ pandanoi

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
    • อีเมล์
ขอบคุณสำหรับ Review ครับ อ่านแล้วคิดถึงตัว G5 ที่พึ่งขายไปเหมือนกันครับ

เป็นรถที่ดี แต่ช่วงล่างมันจะซ่อมจุกจิกตามสไตล์ช่วงล่างแบบปีกนกคู่

แต่ยอมรับเลยครับ เป็นรถที่ขับสนุก ช่วงล่างนุ่มมาก อัตราเร่งดีครับ

ออฟไลน์ Tharit

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 142
    • อีเมล์
นึกว่าใคร คุณจ่าล้น No.116 นี่เอง  :D

สวัสดีครับ ผม No.700 ครับ  ;D


ออฟไลน์ Sammy_

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,436
    • อีเมล์
รุ่นนี้พ่อ ผมชอบมากๆเลยครับ
ขอบคุณสำหรับ Review ครับผม