Sequential Gearbox เป็น Manual ชนิดนึงครับ
แต่ ต่างจาก Manual ธรรมดาตรงที่ มันต้องเปลี่ยนเกียร์ไล่ไปเรื่อยๆตามชื่อ(sequential=เป็นไปตามลำดับ)
คือเปลี่ยนข้ามเกียร์ไม่ได้ เช่น วิ่งมาทางตรงเกียร์4 เข้าโค้งเกียร์2 ต้องลดเกียร์มาที่3 ก่อน ข้ามมา2เลยไม่ได้
เนื่องจากมันก็เป็น Manual เลยยังต้องมีคลัทช์อยู่
แต่เกียร์แบบนี้ลดการใช้คลัทช์ให้น้อยลงจากเกียร์กระปุกปกติ
(ไม่แน่ใจแต่ผมเข้าใจว่าช่วงการจับของคลัทช์สั้นกว่า Manual ธรรมดาครับ) ทำให้เปลี่ยนเกียร์ได้เร็วขึ้น
ที่มี paddle shift แต่ไม่ทำเป็น auto เพราะ Torque converter ของเกียร์ออโต้ทำให้เสียกำลังในระบบมากกว่า
เพราะตัว torque converter ที่ทำหน้าที่แทนคลัทช์นั้นมีของเหลว+รักษาความดัน
เหมือนที่พี่จิมมี่เทสรถ เกียร์ธรรมดาจะมีทั้งอัตราเร่งแลกอัตราสิ้นเปลืองดีกว่า
แล้วพวกเกียร์Dual Clutchในพวกรถสปอร์ตหรือSuper Carหละครับ?
ผมว่าไม่น่าใช่Torque Converter??รึเปล่า
พวก Dual Clutch นี่ผมไม่แน่ใจว่ามันเปลี่ยนเกียร์ข้ามเกียร์ได้หรือเปล่านะครับ
แต่ใช่ครับที่พวก Dual Clutch ไม่ใช้ Torque Converter
Dual Clutch จะเป็น Clutch แผ่นๆ หลายแผ่น ซ้อนกันอยู่สองชุดครับจึงเรียกว่า Dual Clutch
แต่ก็มีทั้ง Clutch เปียกและแห้งนะครับ
แต่โดยหลักแล้วจะส่งกำลังผ่านทางการกดกันของแผ่น Clutch ซึ่งต่างจาก Torque Converter โดยสิ้นเชิงครับ
ท่าน art_duron ตอบไปละ
ใช่ครับ DCT ใช้คลัทช์ แต่ก็มีระบบ Hydraulics ไว้ยก เปลี่ยนเกียร์ ต่างๆ อยู่
เห็นเขียนว่า DCT เป็น Semi-automatic transimission ชนิดนึง มันคงกึ่งๆล่ะมั้งครับ(เป็นออโต้ที่ใช้คลัทช์???)
ซึ่งก็น่าจะเพิ่ม load ให้เครื่องอยู่ดี แถมยังต้องมีชุดคลัทช์ 2ชุด เพิ่งน้ำหนักอีก
ที่ดีคือเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วมาก
เมื่อกี้ไปหาข้อมูล Sequential มา เค้าบอกว่าบางแบบใช้คลัทช์แค่ตอนออกตัวกับตอนหยุด
ถ้าล้อหมุนอยู่เปลี่ยนเกียร์ได้เลยไม่ต้องเหยียบคลัทช์
ถ้ามองในกรณีนี้ รถสปอร์ต ต้องเอามาใช้ในชีวิตประจำวันด้วย เลยต้องใส่ DCT มาเพื่อให้เป็นเกียร์ auto
แต่รถแข่ง ถ้าเป็น sequential ที่ออกแบบมาให้ใช้คลัทช์แค่ตอนออกตัวกับหยุดรถ
จะเหมาะสมกว่า เพราะเบากว่า ไม่เพิ่ง load ให้เครื่อง แล้วก็ไม่มีรถติด หรือแยกให้หยุดรถบ่อยๆ
แค่ออกตัวใช้คลัทช์ แข่ง แล้วก็หยุดรถหลังแข่งเสร็จ
ปล. ก็ประมาณคุณ prototype82 ครับ พอดีโพสพร้อมกัน แหะ