สวัสดีครับ
หลังจากที่ผมใช้งานเจ้า Preve ระยะเวลากว่า 1 เดือน กับ 2000 กม. (01/11/13 วันออกรถ) ทำให้ได้รู้ถึงอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับรถคันนี้ และเซอร์ไพรส์ ด้วยครับ
ฮาาาา
ทำไมผมถึงเลือก Preve??
เมื่อช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านมา ผมเองมีโครงการที่จะเปลี่ยนรถคันใหม่ โดยผมตั้งเงื่อนไขดังนี้
-งบ 8 แสน 1 ล้าน
-ต้องการรถเก๋ง C-Segment D-Segment
-เป็นรถมือ 1 เท่านั่น
-ผมใช้รถไม่เกิน 5-6 ปี (และอาจมีใช้ยาว)
-ผมเน้นอัตตราเร่งมากที่สุด 100-120 ไม่เกิน 10วิ
-ผมจะใช้ความเร็วอยู่ที่ 100-140 ขับวันละ 30-100 กิโล ออก ตจว.ทริปละ 200-800 โล
-ความกว้างขวางของตัวรถ
-วัสดุภายในดี
-ห้องโดยสารเงียบ
-และติด LPG
หลังจากนั่น ผมก็ไปศูนย์บริการ เพื่อTestDrive ส่วนรุ่นที่เข้าเงื่อนไขของผม คือ Focus/Sylphy/Preve ผม Test เสร็จ สรุป เรียงจากความชอบได้ดังนี้
-Focus 2.0
ข้อดี-ผมชอบมากทั้งอัตตราเร่ง ความเงียบของห้องโดยสาร ช่วงล่างที่ทั้งนุ่มแนะนึบ ลูกเล่นแพรวพราว
ข้อเสีย-ห้องโดยสารแคบมากครับ
-Sylphy 1.8V Navi
-ข้อดี-ผมชอบความกว้างของห้องโดยสารมาก วัสดุภายในที่ดูหรูรา นั้งสบาย ขับสบาย
-ข้อเสีย-ลูกเล่นแห้งเหี่ยวมากครับ สิ่งที่ผมอยากได้อย่า Crusie Control กับ VDC (ESC) และ ไฟหน้า Projecter กลับไม่มีมาให้
-Preve 1.6 Turbo
-ข้อดี-ราคาถูกเมื่อเทียบกับกลุ่มเดียวกัน รถแรง อัตราเร่งดี ช่วงล่างนิ่งได้ใจ ไม่แพ้ Focus ห้องโดยสารกว้าง ลูกเล่นและระบบต่างๆจัดเต็ม
-ข้อเสีย-วัสดุดูราคาถูก เสียงเครื่องเข้าห้องโดยสารข้อนข้างที่จะมาก
สรุป ผมเลือก Sylphy เพราะผม ผมชอบความกว้างของห้องโดยสาร วัสดุภายในที่ดูหรูรา นั่งสบาย ขับสบาย แต่เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นครับ ผมมีปัญหาเรื่องเงิน ทุกๆอย่างก็หยุดชะงักครับ ผมพับโครงการผมแบบไม่มีกำหนด
7 เดือนผ่านมา สภาพการเงินเริ่มกลับมาปรกติอีกครั้ง กลับมาครั้งนี้ ผมจำเป็นต้องตัดงบลง จากเดิม 8 แสน 1 ล้าน เหลือ 6-7 แสน ครับ จากโจทย์ตัวผมเอง ก็ยากมากครับที่จะเป็นไปได้ ด้วยราคา 6-7 แสน ผมเลยต้องลดขนาดของตัวรถลงมา จาก C-Segment เหลือ B-Segment จากที่ผมเลือกๆก็ได้อย่างเสียอย่าง สุดท้ายด้วยราคานี้ มี C-Segment หลุดมาหนึ่งคันคือ Preve เอาหละลองกลับไปดูดีครั้ง พอกลับไปดูอีกครั้ง ทุกๆอย่างดูดีขึ้นครับ งานประกอบที่แย่ในช่วง Lot แรกๆ ตอนนี้งานประกอบดูดีขึ้นมากครับ และสิ่งที่ผมตัดสินใจกับคันนี้คือ โปร 0% 5ปี ผมถึงตัดสินใจออกรถคันนี้
วันออกรถทุกอย่างสวยงามครับ แต่เรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ผมขับรถออกจาก 0 ผมพาแม่ไปรับรถด้วย ในระหว่างขับไปเติมน้ำมัน แม่ถามผมว่า ทำไมขับรถเร็วแบบนี้หละลูก ผม งง ผมเลยตอบแม่ไปว่า ไม่ได้ขับเร็วเลยนะ แม่ก็เลยตอบผมกลับมาว่า แล้วทำไมรถมันเสียงเครื่องดังแบบนี้หละ ณ.เวลานั่นอารมณ์ผมเริ่มเปลี่ยน เพราะผมจะเป็นคนที่ซีเรียลกับการเก็บเสียงมากๆ ผมก็เริ่มจับผิดรถคันนี้ครับ รถมันเสียงเครื่องดังจริงๆ กลับถึงบ้านผมรู้สึกผิดหวังมาก ที่ผมเลือกรถคันนี้ และทำให้ผมนึกได้ครับว่า เมื่อ 6-7 เดือนที่แล้ว รถคันนี้ถูกตัดออกจากตัวเลือก 1 ในนั่นก็เพราะว่า มันเสียงดังนั่นเอง
เรื่องนี้ผมลืมไปจริงๆ เพราะก่อนที่จะตัดสินใจออกรถคันนี้ผมไม่ได้ Test Drive อีกรอบ ทำให้ผมใช้มันอย่างไม่มีความสุขเพราะผมรู้สึกผิดหวัง จนผมได้มาขับ LancerEX ของเพื่อนครับ ไม่น่าเชื่อครับว่าตั้งแต่การ ปล็ดลอคประตู ไฟหรี่ก็จะติด เสียงสตาสเครื่อง เห้ย มันเหมือนรถเราเลย พอได้ขับ อืมมมมม เหมือนรถเรามาก จากนั่นมา ผมถึงเข้าใจว่า Preve มันเป็นรถแนวเดียวกันกับ LancerEX นี้เอง การที่เสียงเครื่องลอดเข้ามาแบบนี้ก็เพื่อที่ต้องการให้เรา ได้ยินเสียงเครื่อง ได้ยินเสียง Turbo ผมเปิดฝากระโปรงดูแผ่นกันเสียงระหว่างห้องโดยสารกับห้องเครื่อง แผ่นมันเล็กมาก เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ผมถึงได้ปรับความคิดผมว่า Preve คันนี้มันออกแบบมาแบบนี้จริงๆ ผมเลยประทัศนะคติใหม่ ทำให้ผมมีความสุขกับมันมากขึ้น ส่วนการเก็บเสียอื่นๆ พวกเสียงลมเสียงล้อ ตรงจุดนี้ทำได้ดีมากครับ
การออกแบบ ภายนอก/ภายใน
การออกแบบภายนอก
ผมยังรู้สึกว่ามีหลายจุดที่ Preve คันนี้ออกแบบขาดๆเกินๆ ส่วนที่ขอติมากที่สุดเลยคือ บั่นท้ายของมัน อย่างชุดไฟที่ท้ายติดอยู่กับฝากระโปรงหลังน่าจะทำให้มันรับกับไฟที่ติดอยู่ตัวถังไปเลย จะดูลงตัวกว่านี้มาก
ซุ้มล้อที่ดูเล็กเกินไปเมื่อเทียบกับขนาดของตัวรถ
แต่ส่วนอื่นๆผมโอเคกับมันครับ มันดูเพรียว สปอต ดีครับ
การออกแบบภายใน
ในส่วนของ คอนโซนหน้า อย่างที่พี่ JiMMY กล่าวไว้จริงๆครับ มันดูย้อนยุค เหมือน รถ ปี 2000
แต่ดูไปดูไปมา มันก็ดู หรูดีเหมือนกันแฮะ ฮาๆ
การออกแบบ แบบนี้ทำให้ผมคิดถึง Volvo S80 2007 ทั้ง คอนโซนหน้า และรูที่เสียบกุญแจ
เบาะมองดูผิวเผินทำให้ผมคิดถึง Volvo S80 2007 อีกเช่นกัน แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่า เบาะนั้งกับพนักพิง มันคล้าย LancerEX อยู่ไม่น้อยเลย เพียงแต่ปีกข้างๆใส่ฟองน้ำน้อยกว่า LancerEX เบาะรองนั้งคู่หน้าแข็งใช้ได้เลยครับ แต่ไม่แข็งเท่า CRUZE แปลก ที่เบาะรองนั้งด้านหลังกลับ นุ่มนั้งสบาย ไม่เข้าใจเลยครับว่าทำไมความ นุ่ม ของเบาะหน้าและหลังถึงไม่เท่ากัน
ห้องโดยสาร
ความกว้างของห้องโดยสารในส่วนนี้ ผมถูกใจมากเลยครับ เพราะมันกว้างจริงๆ รู้สึกโลงโปรงไม่อึดอัด ครั้งนี้ Proton ใสใจในรายอะเอียดด้วยการติดไฟที่สวิชท์ของประจกไฟฟ้าทั้ง 4 บาน (วันก่อนป้ามานั้งรถผม ท่านนั้งข้างหลัง ช่วงเวลากลางคืน อยู่ดีๆป้าก็ถามผมด้วยน้ำเสียงตกใจว่า เห้ย แสงอะไร!!! ป้าปิดประตูไม่สนิทเหรอหรือมันเป็นอะไร?? เล่นเอาตกใจกันไปทั้งรถเลยทีเดียว)
พร้อมติดไฟไว้ที่กล่องเก็บของบริเวณคันเกียร์ ทำให้ตอนขับรถในเวลากลางคือ มันดูดีหรูหรามากครับ ผมว่ารถราคาระดับนี้ หาได้ยากจริงๆ
กุญแจแบบ Push Start ที่ต้องเอากุญแจเข้าไปไว้ในช่องใส่กุญแจถึงจะสามารถติดเครื่องยนต์ได้
ข้อดีคือ ถึงแม้แบตเตอรี่ของรีโมทจะหมด หรือจะเอาแบตเตอรี่ที่รีโมทออก ก็สามารถติดเครื่องยนต์ได้ครับ
ข้อเสียคือ มันค่อยข้างยุ่งยาก เมื่อเทียบกับกุญแกของ Nissan Mitsubishi Toyota Honda Isuzu เพราะยี่ห้อที่กล่าวมานี้แค่พกกุญแจเข้าสามารถก็สตาร์ทเครื่องได้ทันที
วัสดุ ทั้งภายนอกและภายใน
วัสดุภายนอก จากดูด้วยตาเปล่า ผมว่ามันก็เหมือนกับ รถทั่วๆไปที่ขายอยู่ตามท้องตลาด แต่อาจจะมีการเก็บสีไม่ไม่เรียบร้อยให้เห็นอยู่บ้าง ในจุดอับสายตา แต่ก็รับได้ครับ
วัสดุภายใน บางที่ดูหรูไฮโซมาก บางที่ดูราคาถูก แต่โดยร่วมมันดีขึ้นมากกว่าทุกรุ่นที่ Proton ขายอยู่ตอนนี้เลยก็ว่าได้
ฟิลการขับขี่
ฟิลการขับขี่ ตัวรถนิ่งมากครับ แม้ใช้ความเร็วถึง 190 กม/ชม ไม่น่าเชื่อเลยว่านี้เหรอ รถ Proton ที่ใครๆก็ร้อง หยี!! รถมันนิ่งในทุกๆย่านความเร็วจริงๆครับ ผมจะขับประจำอยู่ที่ 110-120 รถนิ่งมาก ตรงนี้ถูกใจสุดๆเลยครับ แต่เวลาขับในเมือง ในหมู่บ้าน รถออกแนวตึงตัง มาในแนวๆ หนึบออกกระดางนิดๆ พวงมาลัยเป็นพวงมาลัยที่ค่อนข้างไวพอสมควร ยิ่งขับเร็วยิ่งไว แต่ก็นิ่งมากครับ ขับแรกๆผมต้องปรับตัวนิดหน่อยครับ ถ้าให้เทียบช่วงล่างกับกลุ่ม C-Segment ด้วยกันผมว่ามันมาในแนวๆ LancerEX พวงมาลัยหนักพอๆกันเลย ตำแหน่งเบาะคู่หน้าก็ใกล้เคียงกันมาก คือสูงเหมือนกัน
เกียร์ CVT ถ้าเซ็ตมาให้เมือน AT ก็ขับมันได้ไม่แพ้ เกียร์ AT
เกียร์ตัวนี้เป็นของยี้ห้อ Punch จากประเทศเบลเยี่ยม เป็น CVT ที่ไม่ใช้ชุดส่งกำลังแบบ Torque converter เหมือน CVT ของ Nissan แต่ใช้เป็นชุดครัชแทน โดยมีชื่อรุ่นว่า VT3 ขอเสียของเกียร์ตัวนี้เลยคือ Noise เวลาเข้าเกียร์ถอย จะดัง ว๊อๆๆ หรือเข้าเกียร์เดินหน้า ในช่วงที่ไต่ความเร็วจะได้ยินเสียงเหมือนเครื่องบินแลนดิ้ง ทั้งเสียง เกียร์และเสียง Turbo ร้องวี๊ดๆ วอๆ ประสานเสียงกันอย่างสนุกสนาน ตรงนี้ผมไม่ชอบเอาซะเลย แต่ไม่เป็นไรครับ เวลาขับๆไปก็คิดว่าตัวเอง ขับเครื่องบิน แล้วกัน 555 คิดแบบนี้แล้ว ฮา บวก สบายใจดีครับ แต่พอขับไปในช่วงความเร็ว 110 กม./ชม. ขึ้นไป เสียงเครื่อง เสียง เกียร์ ที่ว่าดังๆ กลับเงียบหายไป เหลือแต่เสียง Turbo เท่านั่น แปลกมากครับ สงสัยอยากจะให้ขับเร็วตลอดเวลา ฮาาาา
สิ่งที่ผมถูกใจมากที่สุดคือ เวลาปรับเป็น โหมด + - ขอบอกเลยครับว่า มันมาก มันเปลี่ยนเกียร์ ได้ใจมาก ยังกะรถแข่ง กด เปลี่ยน กด เปลี่ยน สนุกได้ใจจริงๆ CVT ของ Preve ถ้าเปลี่ยนโมท + - ทำให้ผมลืมไปเลยว่ามันเป็น CVT เพราะฟิลการเปลี่ยนเกียร์มันเหมือนเกียร์แบบ เฟืองจริงๆครับ กระตุก กระชากได้ใจจริง ถ้าเป็น CVT ของ Altis กับ LancerEX เวลาเปลี่ยนเกียร์เสียงเครื่องจะคลายๆกับ ครัชลื้น วืด แล้วเปลี่ยน แต่ Preve ฟิลการเปลี่ยนเกียรเหมือนแบบเกียร์เฟือง AT ทั่วไปเลยครับ
Turbo ลูกนี้ ยี่ห้อ Borg Warner รุ่น KP39 บอกตรงๆเลยว่า ผมไม่รู้จักยี้ห้อ ของ Turbo ตัวนี้เลย แต่พอได้อ่าน รีวิว Golf GTi ของพี่ JiMMY ก็ทำให้ผมรู้ว่า Turbo ยี้ห้อนี้ก็ถูกติดคั้งอยู่ใน Golf GTi เหมือนกันนิ แต่ Golf GTi จะใช้รุ่น K03 ส่วนรุ่น KP39 จะถูกติดตั้งอยู่ใน Golf V TDi 1.9L แม้แต่ เครื่อง Eco Boost ของ Ford ก็ยังใช้ Turbo สองรุ่นนี้เช่นกันครับ Eco Boost 1.6L จะใช้รุ่น KP39 และ Eco Boost 2.0L จะใช้รุ่น K03 ตรงจุดนี้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาทันทีครับ และมีผลต่อคุณค่าทางจิตใจมากผมมาก ฮาาาาา
ที่สำคัญแม้ว่าท่านจะซัดมาหนักขนาดใหน ขับมาแรงขนาดให้ จอดปุ๊บดับเครื่องได้เลย น้ำมันหล่อลื่นแกน Turbo จะทำงานไปอีก 6 นาที (ข้อมูลจากพี่ JiMMY) ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเครื่องมันมีความร้อนสะสมอยู่มาก พัดลมไฟฟ้าจะทำงานต่อไปอีกหลังดับเครื่องยนต์ และพัดลมจะดับเองเมื่ออุณหภูมิเข้าสู่สภาวะปรกติ ซึ่งผมว่าเหมาะกับเมืองร้อนบ้านเราที่สุดเลย
Proton Preve เหมือนเป็นรถอีกรุ่นของ Mitsubishi
ก่อนที่จะออกรถคันนี้ เมื่อ 7 เดือนที่แล้ว ผมก็ได้ศึกษาบ้างครับ แต่ไม่ลงลึกเท่าไหร่ รู้แค่ว่า Proton กับ Mitsubishi เป็น กิ๊ก กัน ขอมูลตรงนี้ก็มาจากพี JiMMY ครับ จาก รีวิว Proton Preve พอ 2 เดือนก่อนที่จะออกรถ มีคนหลายคน เป็นห่วงผมเกี่ยวกับรถแบร์นนี้ ผมเลยต้องศึกษาเจาะลึกลงไปถึงระบบต่างๆของ Preve คันนี้ครับ แนวทางการศึกษาของผม ผมเอา Mitsubishi มาเป็นโจทย์ครับ แล้วผมก็หาข้อมูลไปเรื่อยๆ เอา Part ของ Proton กับ Mitsubishi มาเทียบกัน บางตัวเหมือนกันเป๊ะๆ บางตัวก็ต่างกัน บางตัวพิมพ์ Logo Mitsu เลยก็มี
Preve มี Part หลายๆอย่าง เหมือนกับของ Lancer Cdiea บางตัวเหมือน Lancer EX และ Mitsubishi ทั่วๆไป มือดึงเปิดฝาน้ำมันกับเปิดกระโปงหลัง ก็เหมือนกับ LancerCdiea กระปุกน้ำมันพวงมาลัย Power ก็เหมือนของ Mitsubishi หลายๆรุ่นๆ ฝาปิดปุกฉีดน้ำกระจกหน้าก็สามารถใช้ร่วมกับของ LancerEX ได้ ฝาปิดถังน้ำมันก็ ใช้กับ LancerEX ได้เหมือนกัน
เครื่องยนต์ Proton SP4H CFE ตัวนี้ ดูจากภายนอก ผมรู้สึกว่ามันเป็น DNA ของ Mitsubishi 4G63
ผมเอา ODBii เช็คความบกพร่องของเครื่องยนต์ ตัวโปรแกรม ODBii แจ้งมาเลยครับว่า เป็นรถจาก Mitsubishi ผมว่า Firmware ของ ECU มันพัฒนามาจาก Mitsubishi แน่ๆ
การออกแบบแผงหน้าปัด ก็ Layout เดียวกับ LancerEX การจัดวางอะไรหลายๆอย่าง มันอยู่ตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับ LancerEX มากเลยครับ ทั้งสวิทช์ไฟฉุกเฉิน
สวิทช์ควบคุมแอร์ เหมือนของ Mitsubishi หลายๆรุ่น แม้แต่เสียง สตาร์ทเครื่องก็คล้ายกัน เสียงไฟเลี้ยวก็คล้ายกัน
แม้ว่า Option จะจัดเต็มแต่ก็มี กั๊ก ไว้เหมือนกัน
Preve ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแห่งความคุ้มค่ามากๆครับ ด้วยราคา 759000 แต่ได้ Option เทียบกับรถราคา เป็น ล้าน แต่ Preve คันนี้ก็มีกั๊กอยู่บ้างครับ ตามสเปกโรงงาน
-ชุดโคมไปหน้า เป็นไฟหรี่เป็นแบบ LED จะมีแค่ไฟหรี่ LED อย่างเดียว จากการประสพการของผม ผมว่า LED ตัวนี้มันต้องสว่างได้มากกว่านี้ วันว่างๆผมก็จัดการถอดโคมไฟหน้าออกมาทั้งสองข้างเลยครับ ทำให้เห็น ว่ามันมีช่องเสียบไฟเหลือ 1 ช่อง นั่นคือไฟ DRL ครับ ผมก็จัดการต่อสายจากกล่องฟิวส์ เพื่อเปิดระบบ DRL พอเปิด DRL แล้วทำให้ตัวรถสวยขึ้นมากครับ
***LED ปรกติมันจะติดก็ต่อเมื่อเราเปิดไฟหน้าครับ แสงของมันก็จะเป็นเหมือนไฟหรี่ธรรมดาๆ คือสว่างแค่ 50% จากความสว่างของ DRL ครับ พอผมต่อสาย DRL ไฟ LED ก็จะติดขึ้นมาแบบ 100% เหมือนของ Accord G9 (**ถ้าเปิดไฟหน้า หรือ ไฟหรี่ แสงของ LED จะสว่างลดลง 50% ครับ)
-เซ็นเซอร์วันอุณหภูมิ ภายนอกครับ เขามีปลั๊กมาพร้อมเลย ขอแค่เบิก Part มาใส่ ผมถามช่างโปรตอนบอกไม่มี Part ให้เบิก ผมก็เลยจัดการเอาของ Toyota มาใส่ซะเลย ฮาๆ
-Sun Sensor ไว้ทำหน้าที่ตรวจจับ ปริมาณของแสงอาทิตเพื่อที่จะเขาข้อมูลไปคำนวณเพื่อสั่งงาน Air auto ได้อย่างถูกต้องมากขึ้นครับ ตัวนี้ก็ไม่ได้ติดตั้งมาให้อีกเช่นกัน
ระบบความปลอดภัย
ตรงจุดนนี้ Preve จัดเต็มมากครับ
AirBag 6 ใบ
เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติเมื่อเกินการชน
หมอนรองศีรษะแบบ Active safety เพื่อลดการบาดเจ็บ
ระบบแจ้งเตือนการรัดเข็มขัด 2 จุด คือเบาะคู่หน้า
ระบบการแจ้งเตือนเมื่อปิดประตูไม่สนิท/ฝากระโปงหน้ารถ/ฝากระโปงท้าย
ระบบควบคุมการทรงตัว ECS
ระบบเบรค ABS และ EDB
ระบบเสริมแรงเบรค BA และ ระบบป้องกันลื่นไถล TCL
ไฟฉุกเฉินจะติดอัตโนมัติ เมื่อมีการเบรคอย่างรุ่นแรงจน ABS ทำงาน
Option อื่นๆ
-ระบบหน่วงเวลา กระจกไฟฟ้า ด้านคนขับ ถึงท่านดับรถแล้วก็สามารถ เลื่อนกระจกขึ้นลงได้ครับ เหมือน Jazz 2013
-ระบบป้องกันกระจกไฟฟ้าหนีบ Jam Protection ด้านคนขับ
-ระบบตัดไฟ เหมือนลืมไปไฟหรี่ ไฟในห้องโดยสาร **ผมลืมปิดบ่อยมาก ระบบนี้ผมชอบครับ
-ระบบ ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
-ระบบ ไฟหน้าเปิด/ปิดอัตโนมัติ
-ระบบ ไฟ Welcome Light
-ระบบ ไฟ Folw me home haedlight
-ระบบ ล็อคประตูเมื่อความเร็วที่กำหนด
-ระบบ ล็อคความเร็ว Cruise Control
-ระบบ ปล็ดลอคประตู เฉพาะประตูคนคันขับ (สามารถตั้งค่าได้)
-หน้าปัด เรืองแสง พร้อมระบบ Welcome **เมื่อเปิดประตูรถ เข็มที่เรื่อนไมล์ และจอ SID จะเรืองแสงขึ้นมา แต่แสงไฟที่ตัวเลขยังไม่ติด พอติดเครื่องยนต์ ไฟที่ตัวเลขบนเรือนไมล์จะติดตามมาครับ
-แอร์ Auto
-เกียร์ CVT พร้อมโมท MT ล็อคอัตราทดไว้ 7 จังหวะ และแป้น Paddle Shift ที่พวงมาลัย
-ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่ พวงมาลัย
-สวิทช์ ปิด/เปิด Airbag ด้านคนนั่ง
-แตรแบบหอยโข่ง
-เครื่องเล่น DVD และ GPS ทาง พร้อม ช่องเสียบ USB 2 ช่อง และช่องเสีย SD Card 1 ช่อง
-ลิ้นชักกล่องเก็บของด้านคนนั่ง พร้อมโช๊คอัพ เวลาเปิดกล่อง กล่องจะค่อยๆอ้าออกมาครับ
-ไฟส่งสว่างที่กล่องเก็บของ บริเวณคันเกียร์
-เปิดกระโปงหลัง ด้วยรีโมท โดยกดปุ่ม UnLock ที่รีโมทค้างไว้ 5 วินาที
-เมื่อกดปุ่ม Lock ที่รีโมท กระจกจะพับเก็บให้อัตโนมัติ
-ระบบแจ้งเตือนเมื่อปิด ประตู 4 บาน/ฝากระโปงหน้า/ฝากระโปงหลัง ไม่สนิท เมื่อกดปุ่ม Lock ที่รีโมท แตรจะดัง แป๊ดๆ 2 ครั้งอย่างเร็ว
-เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง (เสียงเพราะดีครับ เวลาใช้งานดัง ปิ้งๆๆ 5555)
หลายๆ Option ซื้อมาแล้วถึงรู้ว่ามีระบบนี้ด้วย เพราะในโบวชัวร์ไม่ได้แจ้งเอาไว้ครับ
ก่อนหน้าที่ผม ได้ทำการ ปล็ดล็อค DVD ให้สามารถดูได้ แม้ยังไม่ดึงเบรกมือ หลังจากรื้อชิ้นส่วนต่างๆเสร็จ มองๆดู เอ๊ะ อะไรแว๊บๆ ผมก็เลยเอามือล้วงลงไปจับขึ้นมา มันคือ ช่องใส่ตังเหรีญครับ มันตกอยู่ บริเวญใต้กล่องเก็บของ ผมเคยได้ยินแต่ "ญี่ปุ่นทำเกิน" งานนี้เจอ "มาเลย์ทำเกิน" สรุปผมก็ได้ อะไหล่ตัวนี้มา ฟรีๆ ถือว่าเป็นของแถมเล็กๆน้อยๆ จาก Proton
สรุป
Preve เป็นรถที่ดี คุ้มราคา เมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไป ไม่มีรถรุ่นใหน ที่ราคาเท่านี้จะให้ได้มากเท่านี้อีกแล้ว แต่ก็ต้องแลกกับบางอย่างเช่นกันครับ เช่น ศูนย์บริการ ราคาขายต่อ และวัสดุภายใน แต่เรื่องนี้ผมไม่ค่อยกังวลมากมากไหร่ครับ เพราะรถคนนี้ตั้งใจซื้อมาใช้งานจริงๆ ถ้ามีข่าวร้ายว่า Proton จะไม่ขายในไทยอีกแล้ว ผมก็ไม่กังวลเท่าไหร่ครับ เพราะ อะไหล่สามารถสั่งจาก มาเลย์ได้ครับ หรือพวกอะไหล่สิ้นเปลืองต่างๆ ก็สามารถใช่ร่วมกับรถ Mitsubishi และรถรุ่นอื่นๆที่ขายในบ้านเราได้
Preve คันนี้ ผมกล้พูดได้เลยครับว่า เป็นรถที่ดีที่สุดเท่าที่ Proton เคยทำรถมาจริงๆ เสียงปิดประตูของรุ่นอื่นๆ ที่ใครหลายคนบ่นว่าเสียงไม่เพราะเอาเสียเลย Preve ตัวนี้เสียงปิดประตูเหมือนรถยนต์ทั่วๆไปแล้วครับ
Preve เป็นรถที่หาดูได้ยากมากครับบนท้องถนน ตั้งแต่ผมออกรถมา 1 เดือนกว่า ผมเห็นรุ่นนี้แค่ 2 คันเท่านั่นเองครับ ที่สำคัญเห็นที่จังหวัดอื่นด้วย แต่ในจังหวัดตัวเองยังไม่เห็นเลยสักคัน เวลาผมขับไปใหนมาใหน ก็ชอบมีคนมองอยู่ตลอด บางคนก็เข้ามาถามว่า รถยี่ห้ออะไร สวยดี มันคล้ายๆ BMW นะ ผมฟังแล้วแอบดีใจ ที่หลายคนเขาทักว่าคล้าย BMW แต่บางคนก็บอกว่าเหมือน CiTY ครับ ฮาๆ
ผมยอมรับเลยครับว่า เวลาผมออกตัว หรือเร่งแซง ผมไม่สนเลยนะครับว่ามันจะเป็น CVT เพราะผมก็อยากรู้เหมือนกันครับว่า CVT ลูกนี้จะทนได้แค่ใหน ถ้าวันหนึ่งมันเกิดเสียขึ้นมาก แล้วรถยังมีประกันอยู่ก็เคลมครับ แต่ถ้าเสียตอนหมดประกันผมลง MT แน่ๆ หรือไม่ก็สั่งเกียร์ใหม่จาก มาเลย์ ไม่ก็เอาเครื่อง 4G63 มาลงซะเลย ตัวรถเองมีระบบการป้องกันค้อนข้างดีมากเหมือน อย่างถ้าผมขับไปข้างหน้า แล้วลองผมเข้าเกียร์ R เกียร์ก็จะไม่เปลี่ยนให้ครับ (ผมเคยทำกับ Cefiro A33 มันก็ไม่เปลี่ยนให้เหมือนกัน) หรือถ้าเราเข้าโมท + - (MT Mode) แล้วมีเหตการที่ต้องทำให้ล้อฟรี ตัวรถจะปรับเกียร์เข้า D Mode โดยอัตโนมัตครับ เมื่อทุกอยากกลับมาปรกติ รถก็จะปรับตัวเองเข้า โมท + - (MT Mode) อีกครั้ง
Preve เป็นรถที่เหมาะกับคนที่ชอบความแรงครับ Preve ตอบโจทย์ได้จริงๆ ทั้งอัตราเร่ง ช่วงล่างที่หนึบมาก ขับเร็วถึง 190 ยังนิ่งมาก เสียงลมเสียงล้อก็น้อยครับ สำหรับคนที่ชอบ ช่วงล่างนุมๆ และเสียงเครื่องไม่ลอดเข้ามาที่ห้องโดยสาร ให้มองคันอื่นได้เลยครับ เพราะคันนี้อาจจะไม่เหมาะกับท่าน
ราคา Preve พอๆกันกับ Fiesta/City/Vios/Sonic/Mz2 แต่ได้รถใหญ่เท่า Focus/CIVIC/Altis/Cruze/Mz3 และได้ Option เท่ารถราคาเป็นล้าน ตรงจุดนี้ คุ้มสุดๆเลยครับ
ท้ายนี้ผมมี Clip อัตราเร่ง 0-160 ในโมท D และโหมท MT พร้อม อัตราเร่งจาก 80-190 มาฝากครับ
อัตราเร่ง 0-160 D Mode
อัตราเร่ง 0-160 MT Mode
อัตราเร่ง 80-190 D Mode
ขอบคุณสำหรับการติดตามชมนะครับ นี้ถือว่าเป็น Review รถยนต์ ชิ้นแรกของผมผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ
สวัสดีครับ
ปล.ในส่วนของเนื้อหา ด้านอื่นๆ ท่านสามาอ่านได้จาก Full Review ของพี่ JiMMY ได้เลยนะครับ
ขอบคุณครับ