ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อนๆ พี่ๆ ตั้งแต่เรียนมา ชอบและไม่ชอบ วิชาไหนกันครับ  (อ่าน 18138 ครั้ง)

ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
สำหรับผม  วิชาที่ไม่ชอบคือ   
-คณิต เกลียดมากเลยบางเรื่องก็ไม่รู้จะเรียนไปทำไมเรียนไปก็ไม่ได้ใช้  เรียนเกร๋ๆเฉยๆ5555
ปล.สมัยประถมชอบอยู่นะครับ 
-ภาษาไทยก็ไม่ชอบครับ  ไม่รู้ทำไม (แต่เป็นคนพูดไทยถูกต้องและชัดเจนนะครับ555+)
ส่วนวิชาที่ชอบ 
-เคมี(บางเรื่อง)  อังกฤษก็ชอบนะ  วิชาอืื่นๆก็เฉยๆ555+
ใครชอบไม่ชอบวิชาไหนมา  แชร์  กันครับ
ปล. ผมอยู่ ม.6 ครับ อิอิ

ออฟไลน์ Peter Parking

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 82
    • อีเมล์
สำหรับผม  วิชาที่ไม่ชอบคือ  
-คณิต เกลียดมากเลยบางเรื่องก็ไม่รู้จะเรียนไปทำไมเรียนไปก็ไม่ได้ใช้  เรียนเกร๋ๆเฉยๆ5555
ปล.สมัยประถมชอบอยู่นะครับ  
-ภาษาไทยก็ไม่ชอบครับ  ไม่รู้ทำไม (แต่เป็นคนพูดไทยถูกต้องและชัดเจนนะครับ555+)
ส่วนวิชาที่ชอบ  
-เคมี(บางเรื่อง)  อังกฤษก็ชอบนะ  วิชาอืื่นๆก็เฉยๆ555+
ใครชอบไม่ชอบวิชาไหนมา  แชร์  กันครับ
ปล. ผมอยู่ ม.6 ครับ อิอิ

ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าเรียนคณิตไปทำไมเหมือนกันครับ แต่โตขึ้นก็รู้ว่ามันฝึกความรอบคอบได้ดีมากๆ เลยหละครับ
วิชาที่ชอบเป็น พวก อังกฤษ กับ พละ คับยิ่งเป็นกีฬา ถนัดๆนี่มีได้อวดสาวกันบ้างหน่อยๆ 555+
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 08, 2014, 23:18:00 โดย taesuji94 »

ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
สำหรับผม  วิชาที่ไม่ชอบคือ  
-คณิต เกลียดมากเลยบางเรื่องก็ไม่รู้จะเรียนไปทำไมเรียนไปก็ไม่ได้ใช้  เรียนเกร๋ๆเฉยๆ5555
ปล.สมัยประถมชอบอยู่นะครับ  
-ภาษาไทยก็ไม่ชอบครับ  ไม่รู้ทำไม (แต่เป็นคนพูดไทยถูกต้องและชัดเจนนะครับ555+)
ส่วนวิชาที่ชอบ  
-เคมี(บางเรื่อง)  อังกฤษก็ชอบนะ  วิชาอืื่นๆก็เฉยๆ555+
ใครชอบไม่ชอบวิชาไหนมา  แชร์  กันครับ
ปล. ผมอยู่ ม.6 ครับ อิอิ

ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าเรียนคณิตไปทำไมเหมือนกันครับ แต่โตขึ้นก็รู้ว่ามันฝึกความรอบคอบได้ดีมากๆ เลยหละครับ
วิชาที่ชอบเป็น พวก อังกฤษ กับ พละ คับยิ่งเป็นกีฬา ถนัดๆนี่มีได้อวดสาวกันบ้างหน่อยๆ 555+
คือคณิตอ่ะครับ  บางเรื่องนะที่ไม่รู้จะเอาไปใช้อะไร   แต่พวกที่ได้ใช้ก็พวก สถิติ  แควคูลัส  ประมานนี้อ่ะครับ5555+

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
เรียนๆไปให้ครบเถอะครับ อาจจะต้องใช้ในวันหน้าใครจะไปรู้

ออฟไลน์ Pluem_411

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 825
    • อีเมล์
ฟิสิกส์ ไม่ขั้นรุนแรง
เคมีนิดนึง เพราะสอบย่อยเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
คณิต ม.ต้นชอบ ม.ปลายเริ่มเกลียดดดด เพราะแม่งยากขึ้นมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
ปล. ผมอยู่ ม.4 แถมอยู่ห้องโครงการพิเศษหน่วยกิตห้องอื่น 16.5 ห้องผม 21.5 !!! แถบช๊อคเรื่องมากกว่าห้องอื่นเยอะ
ก็ไม่รู้สินะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
ฟิสิกส์ ไม่ขั้นรุนแรง
เคมีนิดนึง เพราะสอบย่อยเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
คณิต ม.ต้นชอบ ม.ปลายเริ่มเกลียดดดด เพราะแม่งยากขึ้นมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
ปล. ผมอยู่ ม.4 แถมอยู่ห้องโครงการพิเศษหน่วยกิตห้องอื่น 16.5 ห้องผม 21.5 !!! แถบช๊อคเรื่องมากกว่าห้องอื่นเยอะ
พี่โครงการพิเศษเหมือนกันครับ  ของพี่โครงการ Gifted(วิทนาศาสตร์(ฟิสิกส์))  แต่ถามว่าพี่ชอบฟิสิกส์มั้ยบอกเลยว่าไม่ค่อย555+  แต่ชอบทำแลบนะสนุกดี  หน่วยกิจก็เยอะกว่าคนอื่นกดเกรดสุดๆๆ55

ออฟไลน์ Iwata Kana Σ4

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,483
  • Archievement in Control
    • อีเมล์
ชอบวิชาภาษาครับ (โดยเฉพาะภาษาญี่ปุ่น) คอมพิวเตอร์ (ที่ไม่ใช่แบบคำนวณ)

แต่เกลียดวิชาพละ ศิลปะ(แต่ชอบวาดรูป) เลข วิทย์ (สองวิชาหลังเกลียดมากกกกก)
ความมีระดับ มาพร้อมศักดิ์ศรีที่เหนือใคร
มีเป้าหมาย ที่อะไรก็ไม่อาจขวาง
มีอำนาจ ที่เลือกใช้ได้ตามใจ
มีชีวิต อย่างที่ใคร ก็ไม่อาจปฎิเสธ

ออฟไลน์ craiva

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 24
เกลียดสุดๆก็กลศาสตร์วิศวกรรมครับ
ที่ชอบก็ภาษาไทยตอนประถมภาพในหนังสือสวยดี ;D

ออฟไลน์ Parinceo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,210
พี่เกลียดคณิต ฟิสิกส์
แต่เรียนวิศวะ 55555

เห็นด้วยเลยว่าบางทีไม่รู้จะเรียนไปทำไมนะ บางอย่างไม่ต้องใช้จริงๆ
แต่หลายๆตัวเหมือนกันที่ตอนเรียนคิดว่าไม่ได้ใช้
แต่มันจะวนกลับมาอีกรอบ ได้ใช้จริงๆ แล้วจะเข้าใจได้เร็ว

ออฟไลน์ Automotive Innovations

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,139
  • เตรียมสร้างอนาคต
    • อีเมล์
คณิตศาสตร์ บัญชี สองตัวนี้เลย
Toyota Camry 2.0G ACV41 2012 MC Black Interior
Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 2WD MY 2017
Ssangyong Stavic SV270  2006
Honda HR-V EL 2016
Toyota Fortuner 2.4V 2WD Big MC 2020
Haval H6 PHEV 2022
Mercedes-Benz C350e Dynamic Plug-in Hybrid 2023

ออฟไลน์ MUKIMIKU

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 187
  • MEW
ตอนมัธยมปลายชอบเรียนคอม เล่น counter strike กันทั้งห้อง

ตอนมหาลัยก็ชอบเรียนคอม เล่น DOTA กันทั้งห้อง

เกรียนเกมชัดๆครับ  ;D

ส่วนวิชาที่ไม่ชอบก็พวกวิชาทางสายภาษา สังคม วัฒนธรรม ศาสนา ฯลฯ เรียนแล้วเบื่อ ง่วงนอนสุดๆ

แต่ปัจจุบันนี้โคตรอยากกลับไปเรียนมัธยมปลายเลยครับ วิชาอะไรก็ได้ มีความสุขสุดแล้ว 5555

ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
ตอน มัธยม
วิชาที่ชอบคือ ฟิสิกส์ เคมี คณิต ครับ

ที่ไม่ชอบ แบบไม่กินเส้นเลยจริงๆคือ สังคม
รองมาคือภาษาไทย ไม่ใช่ไม่ชอบภาษาตัวเอง แต่อาจารย์มักให้ท่อง กาพ โครง กลอนยาวๆ
จำได้ยาวสุดคือ 4 หน้า ไม่ต้องไปทำมาหากินอะไรกันเลยทีเดียว

ตอน  ป ตรี
ที่ชอบคือ กายวิภาค ประสาทกายวิภาค ประสาทสรีรวิทยา เพราะได้เรียนจากของจริง จึงตั้งใจ เอาไปเอามาชอบเลย
เอากระดูกกลับไปดูที่ห้องตลอดๆ และชอบเอากลับด้วยเพราะรูมเมทสมัย ปีสองขี้เมาสุดๆ ผมก็ต้องกระโหลกอาจารย์ขาวบนโต๊ะเลย
จากนั้นชีวิตผมก็เป็นสุขขึ้นมาก

ที่เกลียดเลยคือ สรีรวิทยา เพราะยาก ตั้งใจให้ตายก็ได้แค่ B (แต่ตอนนี้เป็นอาจารย์สอนสรีรวิทยานะ 5555)

ตอนป เอก
ที่เกลียดเลยคือทุกวิชาตอนเรียนแรกๆ เพราะเรียนเป็นภาษาอังกฤษหมดเลย จากที่ไม่ถูกกันเลยกับภาษาอังกฤษ
กลับต้องเรียน สอบ และกิจกรรมทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ เกือบตายครับแรกๆ

หลังๆมาชอบทุกวิชา สงสัยเพราะได้เรียนกับคนเก่ง เลยทำให้เราอยากเก่งมั้ง เลยตั้งใจมาก ตอนสอบ qualify exam ก่อนจะเป็นนิสิต  ป เอก
ผมอ่าน textbook นับ 10 เล่ม เอาทั้งหมดมาตั้งได้ความสูงเกือบถึงเอว อ่านสี่เดือนเต็มแทบไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเพื่อไปสอบ 3 วัน และเกือบไม่ผ่าน
แต่ก็มันส์ดี
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

ออฟไลน์ ___LOFT

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,773
ชอบฟิสิกส์ โดยเฉพาะเรื่องไฟฟ้า ของไหล และเครื่องยนต์ (มีนิดดดดเดียว ตอน ม.5)
ชอบภาษาอังกฤษ ของครูต่างชาติ เน้น Conversation ไม่เน้น Grammar  ;D ;D
ชอบวิชาโครงงานและการวิจัย (ผมทำเรื่องเดียว ส่งตั้งแต่ ม.4 ยัน ม.6 อิอิ)

ไม่ชอบชีววิทยา เบื่อที่ต้องมานั่งท่องจำอะไรเยอะๆ
ไม่ชอบเคมี ท่องตารางธาตุไม่ได้ เนื้อหาวิชามันดูลึกลับซับซ้อนเอามากๆ

และสุดท้าย เกลียดดดดดดดดดดลีลาศ !!!!

ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
ชอบฟิสิกส์ โดยเฉพาะเรื่องไฟฟ้า ของไหล และเครื่องยนต์ (มีนิดดดดเดียว ตอน ม.5)
ชอบภาษาอังกฤษ ของครูต่างชาติ เน้น Conversation ไม่เน้น Grammar  ;D ;D
ชอบวิชาโครงงานและการวิจัย (ผมทำเรื่องเดียว ส่งตั้งแต่ ม.4 ยัน ม.6 อิอิ)

ไม่ชอบชีววิทยา เบื่อที่ต้องมานั่งท่องจำอะไรเยอะๆ
ไม่ชอบเคมี ท่องตารางธาตุไม่ได้ เนื้อหาวิชามันดูลึกลับซับซ้อนเอามากๆ

และสุดท้าย เกลียดดดดดดดดดดลีลาศ !!!!
ชอบเหมือนๆกันเลยครับ  ฟิสิกส์ก็ชอบเรื่องเดียวคือเครื่อง ดูด-อัด-ระเบิด-คาย  5555  และก็ชอบอังกฤษครูฝรั่งคือแบบเน้นคุยกันใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง  เอ่อว่าแต่ทำโครงงาน  ตั้งแต่ 4-6 ืเรื่องเดียวนี้เรียนโครงการพิเศษของโรงเรียนใข่มั้ยครับ555ผมก็ได้ทำ
ปล.อาทิตย์หน้ามีสอบลีลาศ....,.....ขอตายแปป  สวิ้งแต่ละที่หน้าแทบจะจูบกัน555

ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
พี่เกลียดคณิต ฟิสิกส์
แต่เรียนวิศวะ 55555

เห็นด้วยเลยว่าบางทีไม่รู้จะเรียนไปทำไมนะ บางอย่างไม่ต้องใช้จริงๆ
แต่หลายๆตัวเหมือนกันที่ตอนเรียนคิดว่าไม่ได้ใช้
แต่มันจะวนกลับมาอีกรอบ ได้ใช้จริงๆ แล้วจะเข้าใจได้เร็ว
ไหงเป็นงั้นอ่ะพี่  ตอนแรกผมก็จะเรียนวิศวะ เนี่ยแหละแต่แบบ  ไม่ชอบ ฟิสิกส์และคณิตมากๆ  เลยไม่เรียนแล้วไปเอาคณะอื่นแทน  555555

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
     วิชาที่ชอบ คณิต ฟิสิกส์ การคำนวณนี่สนุกมากๆเหมือนโลกนี้มีเราอยู่คนเดียว โจทย์ข้อนึงจะลองทำหลายๆวิธีจนเข้าใจปรุโปร่งถึงจะพอใจชอบที่จะไล่สูตรหาที่มาเวลามองโจทย์จะเหมือนมีแผนภาพและขั้นตอนอยู่ในสมอง ไม่ชอบใช้สูตรลัดอย่างที่กวดวิชาเค้าสอนกันหรือสูตรยากๆก็ไม่ชอบ ชอบที่จะใช้วิธีง่ายๆเข้าใจง่ายๆเบสิกๆดูเหมือนง่ายแต่ที่จริงยากนะเออ หลายๆคนคิดว่าคำนวณยากจริงๆผมว่าง่ายนะเพราะทุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอนสามารถอธิบายที่มาได้หมดบางอย่างเรียนกันมาเป็นพันปีแล้วที่ยากผมว่ากฎหมายนะดิ้นได้ตลอด

     วิชาที่ไม่ชอบ อังกฤษ ชีวะ เคมี   โอ้ว ชีวิต อะไรกันนักกันหนาเนี่ย


สุดท้ายตอนทำงานสามารถใช้ Logic ที่ดีทำงานที่ยากและซับซ้อนได้แต่ก็อะนะความก้าวหน้าสู้คนที่พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้กับพวกเอาตัวรอดเก่ง ไอ้เราคนตรงกราฟการทำงานเลยค่อนข้างตรงไม่ค่อยพุ่งไปข้างหน้า
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ Anueis

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 483
  • Like !!! Automatic transmission.
    • อีเมล์
ส่วนตัวชอบ ชีวะ ดาราศาสตร์ ประวัติศาสตร์ กฏหมาย ภาษาต่างประเทศอังกฤษ/ญี่ปุ่น

ไม่ชอบเลยคือ คณิต ฟิสิกส์ พละ(เพราะเป็นคนอ้วนมาก)

ความจริงผมชอบ ฟิสิกส์ เคมี นะแต่หัวมันไม่วิ่งเลยเวลาเจอ2วิชานี้ แอบเพลียตัวเอง อิอิ ::)
1989 Honda Civic EF 1.6 4AT
2001 Volvo V70 2.3T
2007 Isuzu D-Max Cab SLX 2.5 Ddi I-Tec

keanetona

  • บุคคลทั่วไป
คณิต ยังมาเจอในมหาลัย แล้วแต่คณะว่าจะโหดขนาดไหน และ ของคณะบริหารธุรกิจก็เอาเรื่องเพราะเป็นแคลฯ

แต่สุดยอดของสุดยอดคือ

LOGIC กับ PHILOSOPHY ครับ จนกระทั่งป่านนี้ ผมยังไม่เข้าใจว่าการพิสูจน์ว่าประโยคนี้เป็นจริง มันจะใช้ประโยชน์อะไรในชีวิตจริงได้ และ หลักปรัชญานี่ไม่รู้จะเรียนหาอะไร และนอกจากนั้น ที่มหาลัยผม คนที่ได้ A จาก2วิชานี้เป็นพวกคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง เป็น NERD แปลกๆ อย่างน้อยเพื่อนผมมันก็เป็นอยู่คนนึงล่ะ ช่วงหนึ่งมันเป็น NEET ที่บ้านนั่งฟังเพลงของ LOBO ตลอดวันพร้อมกับมองฝาห้องเปล่าๆโล่งๆ

ออฟไลน์ recycleman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,570
ตอนประถมเป็นเด็กรักเรียนมาก ชอบทุกวิชา เป็นที่รักใคร่ของบรรดาครูอาจารย์เพราะเวลามีงานมีแข่งผมจะเป็นคนแรกๆที่ถูกคัดเลือก  ;D

พอมามัธยม เริ่มมีอาการขี้เกียจ โดดเรียนไปกินเหล้าหลังโรงเรียนบ้าง ไปดูหนังเดินห้างกับแฟนบ้าง ตอนนั้นถามแค่ว่าชอบวิชาไหนจะดีกว่าเพราะรู้สึกจะมีแค่พละกับวิชาขับร้องที่ชอบ นอกนั้นอย่าถาม 555  8)

สุดท้ายที่นิเทศฯ ก็ไม่ชอบstat,จิตวิทยา,การตลาด,ทุกวิชาที่เกี่ยวข้องกับการหาข้อมูลผู้บริโภคเพราะน่าเบื่อสุดๆ ส่วนที่ชอบก็วิชาโฟโต้,คอมฯกราฟฟิคและทุกวิชาที่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นตัวของตัวเอง แต่จบออกมาก็แบบเลือดตาแทบกระเด็น เสียดายไม่น่าบ้าบอตอนมัธยมเลย อาจารย์คนนึงบอกจริงๆผมเป็นคนฉลาดและมีความสามารถน่ะ แต่ไม่น่าขี้เกียจเลยให้ตายสิ :'(

ออฟไลน์ V40CC

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 162
  • --- Driving for Life ---
เกลี่ยด เคมี กลับ สถิติครับ
ชอบ อังกฤษ สังคม แนะแนว
1985 Dodge Omni 5dr hatch ---> 1992 Suzuki Swift 1.3GL 4dr.  ---> 1996 Toyota Hilux Mighty-X Cab 2L โป่งหลัง ---> 1996 Toyota Camry 2.2 GXi ท้ายหงษ์ ---> 2000 Volvo S40 2.0 ---> 2009 Honda Jazz GE sv ---> 1994 Mercedes-Benz S500L W140 ปลาวาฬ ---> 2011 Nissan Teana 200XL SS ---> 2014 Volvo V40(CC) T5

ออฟไลน์ vellcap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,984
ไม่ชอบ เคมี คณิตฯ ภาษาไทย(เฉพาะเรื่องกลอน กาพย์ หรือแต่งอะไรที่มันเพราะๆ ไม่ชอบแต่งพวกนี้)

ชอบ  ฟิสิกข์  ชีวะ  ภาษา  เศรษฐศาสตร์  ออกแบบ 

ออฟไลน์ frame@kk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,250
    • อีเมล์
ไม่ชอบ คณิต ฟิสิกส์ ภาษาอังกฤษ(เอ วิชาหลักหมดเลยนี่หว่า 5555)
ตอนนี้เรียนวิศวะ instrument

ไม่ชอบยังไงพอมาเรียนทุกอย่างมันก็ต้องใช้  แล้วก็เอามาเป็นพื้นฐาน ไม่ชอบยังไงสุดท้ายก็ต้องใช้
อีกอย่าง ภาษาอังกฤษเนี้ย หนีมาเรียนวิศวะก็เพื่อหนีอังกฤษ พอมาเรียนเป็นไงทีนี้ หนังสือ/เนื้อหา ที่ใช้เรียน ที่อ.ใช้สอน ภาษาไทยกับอังกฤษ ใช้กันอย่างละครึ่ง
บางเรื่องหาภาษาไทยอ่านยังไม่มีเลย


GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ชอบวิชา ภาษาไทยครับ

นอกนั้นได้หมด

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
ลองย้อนวัยตัวเองดูแล้วพบว่าการชอบหรือไม่ชอบวิชาใดนั้น
จะแปรผันไปตามอาจารย์ซะมาก ตรงนี้อันตรายครับ ผมเอาอนาคตตัวเอง
ไปผูกไว้กับความชอบบุคคล ทำให้มีปัญหามากในตอนเด็ก

ตอนประถม..เกลียดทุกวิชาครับ แต่เกลียดไม่มาก..เท่าๆกัน อาจจะชอบหน่อยก็วิชาวิทยาศาสตร์
ซึ่งอาจารย์ฤาเดช สอนผมตอน ป.6 ไม่ได้ว่าชอบวิชานะ แต่อาจารย์แกฮา ทุกวันนี้แกเป็นอธิการบดีราชภัฏสวนสุนันทาไปแล้ว

ตอนม.ต้น ..ชอบวิชาสังคมและภูมิศาสตร์ครับ อ.เติมพงษ์ สุนทโรทกสอน กับอาจารย์พรรณเพ็ญ
ผมเกลียดวิชาภาษาไทย ไม่ใช่เพราะวิชา แต่เพราะเป็นคนเดียวในห้องที่ไม่ส่งการบ้าน เพื่อนๆรุมล้อเลียนซ้ำ
และอาจารย์ประจานกลางห้อง ผมเลยเกลียดวิชานั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รวมถึงวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งผมส่งการบ้าน
ไปพร้อมเพื่อน วางไปด้วยกัน แต่สมุดการบ้านผมหายแบบไร้ร่องรอย อาจารย์หาว่าผมตอแหลไม่ทำงานส่ง
แต่เพื่อนผมเป็นพยานให้ว่าเดินไปวางบนโต๊ะอาจารย์พร้อมกันสองเล่มแต่ของเพื่อนผมได้กลับมา..เลยพาลเกลียดไปเลย

ตอนม.ต้น ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองอ่อนปวกเปียกไปทุกด้าน และเริ่มตระหนักด้วยตัวเองแล้วว่า
ถ้ากูไม่มีดีสักด้านเดียวอนาคตจะไม่มีอะไรสู้กับใครได้เลย ก็เลยหันมาลองวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งผมไม่เคย
บาดหมางอะไรกับอาจารย์สอนภาษาอังกฤษคนไหน (แม้กระทั่งอาจารย์จิตปราณี ซึ่งเด็กมักบอกกันว่าจิตแก
ไม่ได้ปราณีสมชื่อนัก ผมกลับเรียนกับแกได้อย่างสนุก)

แต่วิชาอื่นๆ ไร้ความสนใจครับ ขนาดแม่ผมส่งผมไปเรียนพิเศษที่โรงเรียนพันธะศึกษาใกล้ๆเซนต์กาเบรียล
ทุกวันเสาร์ ผมเรียนไปด้วยความเบื่อ ไม่ใช่เพราะอาจารย์ไม่ดีนะ แต่กูเบื่อ คือ..วันเสาร์นี่อยากพักอยากเที่ยว
ต้องเอาเวลามาเรียนอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่ได้ชอบเลยแม้แต่น้อย ผมเลยชวนเพื่อนโดดเรียน พอหาร้านเกมเล่นได้
ก็เริ่มออกลายละ แม่ส่งลงหน้าโรงเรียนพิเศษ ผมเดินเข้าข้างหน้า เจอกับเพื่อน ทะลุออกข้างหลัง
เดินลัดซอยไปมา เจอร้านเกมแล้วก็นั่งเล่นไปจนกว่าจะถึงเวลาเลิก ผมก็เดินกลับไปหาแม่ที่สวนสุนันทา
ช่วงหลังๆเบื่อเกม ก็เดินไปจนเจอโบสถ์ฝรั่งแถวนั้น เดินถัดไปลึกอีกหน่อยมีท่าน้ำเล็กๆ และติดแม่น้ำเจ้าพระยา
ผมก็ไปนั่งเล่น นั่งดูเรือ ซื้อไก่อบเค็ม (อร่อยมาก) ไปนั่งกิน บางทีก็แก้ผ้าโดดลงว่ายน้ำในแม่น้ำ

กลับมาที่โรงเรียนประจำ (มัธยมสาธิตสวนสุนัน) ผมก็พยายามจับวิชาอังกฤษ แต่ก็ไม่พ้นได้เกรด 1 หรือ 2 มาตลอด

..วันนึง เพื่อนผมคนนึง (ซึ่งเพิ่งจะกลับตัวจากเด็กเกเรเป็นเด็กเรียน)เดินมาหาผมพร้อมกับแนะนำสถานที่เรียนพิเศษ
(ห่า..เรียนวันอาทิตย์..) แล้วบอกผมว่าไม่ธรรมดานะ เป็นชาวอังกฤษอายุมากแล้วสอนดี สอนใจเย็น
ผมเลิกเรียนพิเศษที่พันธะแล้วก็เริ่มมาเรียนที่นี่ ชื่อโรงเรียน JUST ENGLISH ของคุณ Arnold Campen
แม่ของเพื่อนผมคนนี้ก็รู้จักกับแม่ผม เพราะแม่ผมไปสระผมดัดผมร้านแม่เขาเป็นประจำ แม่กับลูกรวมสี่คน
ก็คุยกัน ผมบอกว่าผมจะลองดู แต่ขอเลิกเรียนที่พันธะเพราะไม่ชอบ

เรียนไปเรียนมาเห้ย ชอบว่ะ อาจารย์แกใจเย็นนะ ระบบการเรียนไทยที่ผมเจอมาตลอดคือคนที่หัวช้าจะโดนด่า
และการเรียนก็จะมีสปีดช้าหรือเร็วโดยแปรผันไปตามปัญญาของเด็กส่วนใหญ่ในชั้น ผมตามใครไม่เคยทัน
แต่เรียนกับคุณ Arnold แกไม่เคยด่าผมเลยสักคำ และแกจะไม่ปล่อยให้ใครถูกมองข้าม ทุกคนจะผ่าน
แต่ละบทเรียนไปด้วยความรู้ใหม่เท่าๆกันเสมอ ในช่วงนี้เองภาษาอังกฤษผมเริ่มก้าวกระโดด จากเดิมที่ไม่รู้เรื่อง
พูดได้นิดหน่อย กลายเป็นไม่กลัวฝรั่ง พาฝรั่งเที่ยวได้เลย แล้วพอไปเรียนในห้องเรียน ผมจะเร็วกว่าคนอื่น
อยู่ตลอด 1 step

นี่คือช่วงชีวิตม.ปลาย เพื่อนผมทุกคนจะจำได้ว่า ถ้าเป็นวิชาคณิตศาสตร์ ผมจะได้ 0 แล้วทำงานติวตัวเองเพิ่ม
เพื่อให้ผ่าน 1 หรือไม่ก็ได้ 1 เสมอ วิชาวิทยาศาสตร์ของสายศิลป์ ผมได้จะ 2 หรือ 3 เสมอ แต่ภาษาอังกฤษ
ผมจะเฆี่ยนตัวเองให้ได้ 4 เท่านั้น ไม่ยอมเอาเกรดอื่น ผมเรียนม. 4 กับ ม. 5 รวมกัน 4 เทอม มีวิชาอังกฤษ
3 ตัวต่อเทอม รวมแล้ว 12 คอร์ส มีคอร์สเดียวของอ.แน่งน้อยที่ผมได้ 3 ในเทอมนึง นอกนั้นกวาด 4 หมด

ในช่วง ม. 5 นี่แหละที่ผมเหิมจัดจนเมื่อแม่ถามว่าสนใจสมัครสอบชิงทุนของสมาคมไทยอเมริกันมั้ย
ผมไม่ลังเลเลยที่จะสมัคร วันสอบสัมภาษณ์ ผมหายเข้าห้องสัมภาษณ์ไปเกือบชั่วโมง แม่ผมยืนอกอีแป้นสั่น
อยู่หน้าห้อง นี่ลูกกูโง่หรือฉลาด คนอื่นหายเข้าไป 15 นาทีก็ออก ลูกกูเข้าไป45นาทีแล้วยังไม่ออกเลย

ผมเดินออกมานี่แม่โผเข้ามากอดเลย คือตกลงนี่มึงแย่หรือดี หายเข้าไปนานอย่างนี้มีได้แค่สองอย่าง
ผมบอกแม่ว่าผมไม่ได้แย่หรือดี ..แค่อาจารย์คนที่สัมภาษณ์น่ะเขากำลังอยากได้รถ SUV มาใช้
ก็เลยมันส์ปาก แนะนำเขาเรื่องรถไปโดยใช้ภาษาอังกฤษทั้งบทสนทนา 40-45นาทีนั้นเลย อาจารย์แกคงลง
ความเห็นว่าไอ้นี่แม้ภาษามันจะยังผิดๆถูกๆ (สอบข้อเขียนผมก็ไม่ได้คะแนนเยอะอะไร TOEFL ตอนนั้นผม
ทำก็ได้แค่ 570 กว่าๆ) แต่มันพูดน้ำไหลไฟดับ มันกล้าว่ะ ให้มันผ่านละกัน

นั่นล่ะ..ผมก็สอบได้ทุน ชีวิต ม. 6 ที่เมืองไทยผมก็จบลงเมื่อเริ่มเทอมไปแค่สองเดือน

จากนั้นพอย้ายไปเรียนม. 6 (เกรด 12) ที่ Kansas ผมได้สิทธิ์ในการเลือกเรียนตามใจชอบ
เพราะโรงเรียนไม่ออกใบ Diploma ให้เด็ก (ไม่ถือว่าได้วุฒิที่จะนำมาใช้เพื่อเรียนต่อมหาลัยได้ทันที)

ผมเลือกเรียน
- Algebra (คณิตศาสตร์ของเด็กม.3-4)
- American History
- American Government
- Advance English
- Drama (การแสดงและการละคร)
- Computer Design
- Art Class
- Food Management (คหกรรมทำอาหาร)

ที่ผมชอบคือในแต่ละสัปดาห์จะมีคลาสเขาเรียกว่า Seminar Class ซึ่งถ้าเขาไม่มีกิจกรรมอะไรพิเศษ
เราก็แค่นั่งอยู่ในห้อง 2 ชั่วโมงนั่น..กฏคือห้ามคุย ห้ามหลับ ห้ามโดด นอกนั้นโอเคหมด ดังนั้นผมจึงมักจะ
ทำการบ้านเสร็จในช่วงเวลาเหล่านั้นทุกครั้ง และบางทีก็ขอใบอนุญาตไปนั่งอ่านหนังสือในห้องสมุด

ในชีวิตม. 6 ของผม ไม่มีวิชาไหนที่ผมไม่ชอบเลยสักวิชาครับ แม้แต่คณิตศาสตร์
ผมเพิ่งจะคูณไขว้ และแก้สมการเป็นก็ตอนม. 6 นี่เอง ส่วนวิชา History ที่ว่าน่าเบื่อก็ไม่ได้น่าเบื่อ
เพราะผมชอบอ่านประวัติศาสตร์อยู่แล้ว วิชาการแสดงนี่ยิ่งของโปรด Computer Design สมัยนั้น
ก็ใช้เครื่อง Mac เก่าๆที่ผมคงไม่ได้ใช้ แต่ก็เสกงานให้คนในคลาสอึ้งได้บ้างเหมือนกัน

Art class ผมก็ชอบ มันเป็นการปลดปล่อยที่สบายใจ เรียนรู้การใช้เส้นสายใหม่ การใช้สีเทียน
การใช้ชาร์โคลเขียนรูป แต่ยังอ่อนหัดเรื่องลงสีและแสงเงา ซึ่งจนป่านนี้ผมก็ยังทำไม่เป็น

Food Management ผมได้ทำอาหารหลากหลายแบบ ตั้งแต่บิสกิตเค็มๆง่ายๆไปจนถึงลาซันญ่า
ในวันสุดท้ายของคลาส อาจารย์ Peck (ขับ Buick Riviera Supercharge) เขาบอกว่าเด็กเกรด 12
ไม่ต้องทำสอบข้อเขียน หล่อนให้ผม ทำอาหารไทยเลี้ยงคนทั้งห้องแทน และให้เกรด 12 คนอื่นๆ
เป็นผู้ช่วยผมในการทำอาหาร หนึ่งวันก่อนหน้านั้นแกขับรถพาผมไปหาซื้อเครื่องปรุงต่างๆจนครบ
และอาสาเอากลับไปแช่ที่ตู้เย็นในห้องคหกรรมให้ด้วย

วันนั้นผมทำต้มยำไก่ ไก่กระเทียม ไข่ตุ๋น ผัดผัก แจกคนทั้งห้อง ต้มยำผมทำเป็นสองหม้อคือ
สเป็ค USDM กับสเป็ค Thai หม้อแรกนี่เกลี้ยงเลยเพราะไม่เผ็ดมาก แต่หม้อหลังเหลือบานเพราะ
หลายคนกินไม่ได้ มีแต่ผมกับกิ๊กผมเท่านั้นที่กินได้

เอ้า นี่เล่านอกเรื่องไปไกลนะ เห็นน้องๆมัธยมที่นี่เยอะก็เลยเล่าให้ฟัง
เรื่องพวกนี้น่ะ บางคนเป็นเพื่อนสนิทผมยังไม่รู้เลยนะ ถือว่าแชร์กันเล่นๆ
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
ลองย้อนวัยตัวเองดูแล้วพบว่าการชอบหรือไม่ชอบวิชาใดนั้น
จะแปรผันไปตามอาจารย์ซะมาก ตรงนี้อันตรายครับ ผมเอาอนาคตตัวเอง
ไปผูกไว้กับความชอบบุคคล ทำให้มีปัญหามากในตอนเด็ก

ตอนประถม..เกลียดทุกวิชาครับ แต่เกลียดไม่มาก..เท่าๆกัน อาจจะชอบหน่อยก็วิชาวิทยาศาสตร์
ซึ่งอาจารย์ฤาเดช สอนผมตอน ป.6 ไม่ได้ว่าชอบวิชานะ แต่อาจารย์แกฮา ทุกวันนี้แกเป็นอธิการบดีราชภัฏสวนสุนันทาไปแล้ว

ตอนม.ต้น ..ชอบวิชาสังคมและภูมิศาสตร์ครับ อ.เติมพงษ์ สุนทโรทกสอน กับอาจารย์พรรณเพ็ญ
ผมเกลียดวิชาภาษาไทย ไม่ใช่เพราะวิชา แต่เพราะเป็นคนเดียวในห้องที่ไม่ส่งการบ้าน เพื่อนๆรุมล้อเลียนซ้ำ
และอาจารย์ประจานกลางห้อง ผมเลยเกลียดวิชานั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รวมถึงวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งผมส่งการบ้าน
ไปพร้อมเพื่อน วางไปด้วยกัน แต่สมุดการบ้านผมหายแบบไร้ร่องรอย อาจารย์หาว่าผมตอแหลไม่ทำงานส่ง
แต่เพื่อนผมเป็นพยานให้ว่าเดินไปวางบนโต๊ะอาจารย์พร้อมกันสองเล่มแต่ของเพื่อนผมได้กลับมา..เลยพาลเกลียดไปเลย

ตอนม.ต้น ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองอ่อนปวกเปียกไปทุกด้าน และเริ่มตระหนักด้วยตัวเองแล้วว่า
ถ้ากูไม่มีดีสักด้านเดียวอนาคตจะไม่มีอะไรสู้กับใครได้เลย ก็เลยหันมาลองวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งผมไม่เคย
บาดหมางอะไรกับอาจารย์สอนภาษาอังกฤษคนไหน (แม้กระทั่งอาจารย์จิตปราณี ซึ่งเด็กมักบอกกันว่าจิตแก
ไม่ได้ปราณีสมชื่อนัก ผมกลับเรียนกับแกได้อย่างสนุก)

แต่วิชาอื่นๆ ไร้ความสนใจครับ ขนาดแม่ผมส่งผมไปเรียนพิเศษที่โรงเรียนพันธะศึกษาใกล้ๆเซนต์กาเบรียล
ทุกวันเสาร์ ผมเรียนไปด้วยความเบื่อ ไม่ใช่เพราะอาจารย์ไม่ดีนะ แต่กูเบื่อ คือ..วันเสาร์นี่อยากพักอยากเที่ยว
ต้องเอาเวลามาเรียนอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่ได้ชอบเลยแม้แต่น้อย ผมเลยชวนเพื่อนโดดเรียน พอหาร้านเกมเล่นได้
ก็เริ่มออกลายละ แม่ส่งลงหน้าโรงเรียนพิเศษ ผมเดินเข้าข้างหน้า เจอกับเพื่อน ทะลุออกข้างหลัง
เดินลัดซอยไปมา เจอร้านเกมแล้วก็นั่งเล่นไปจนกว่าจะถึงเวลาเลิก ผมก็เดินกลับไปหาแม่ที่สวนสุนันทา
ช่วงหลังๆเบื่อเกม ก็เดินไปจนเจอโบสถ์ฝรั่งแถวนั้น เดินถัดไปลึกอีกหน่อยมีท่าน้ำเล็กๆ และติดแม่น้ำเจ้าพระยา
ผมก็ไปนั่งเล่น นั่งดูเรือ ซื้อไก่อบเค็ม (อร่อยมาก) ไปนั่งกิน บางทีก็แก้ผ้าโดดลงว่ายน้ำในแม่น้ำ

กลับมาที่โรงเรียนประจำ (มัธยมสาธิตสวนสุนัน) ผมก็พยายามจับวิชาอังกฤษ แต่ก็ไม่พ้นได้เกรด 1 หรือ 2 มาตลอด

..วันนึง เพื่อนผมคนนึง (ซึ่งเพิ่งจะกลับตัวจากเด็กเกเรเป็นเด็กเรียน)เดินมาหาผมพร้อมกับแนะนำสถานที่เรียนพิเศษ
(ห่า..เรียนวันอาทิตย์..) แล้วบอกผมว่าไม่ธรรมดานะ เป็นชาวอังกฤษอายุมากแล้วสอนดี สอนใจเย็น
ผมเลิกเรียนพิเศษที่พันธะแล้วก็เริ่มมาเรียนที่นี่ ชื่อโรงเรียน JUST ENGLISH ของคุณ Arnold Campen
แม่ของเพื่อนผมคนนี้ก็รู้จักกับแม่ผม เพราะแม่ผมไปสระผมดัดผมร้านแม่เขาเป็นประจำ แม่กับลูกรวมสี่คน
ก็คุยกัน ผมบอกว่าผมจะลองดู แต่ขอเลิกเรียนที่พันธะเพราะไม่ชอบ

เรียนไปเรียนมาเห้ย ชอบว่ะ อาจารย์แกใจเย็นนะ ระบบการเรียนไทยที่ผมเจอมาตลอดคือคนที่หัวช้าจะโดนด่า
และการเรียนก็จะมีสปีดช้าหรือเร็วโดยแปรผันไปตามปัญญาของเด็กส่วนใหญ่ในชั้น ผมตามใครไม่เคยทัน
แต่เรียนกับคุณ Arnold แกไม่เคยด่าผมเลยสักคำ และแกจะไม่ปล่อยให้ใครถูกมองข้าม ทุกคนจะผ่าน
แต่ละบทเรียนไปด้วยความรู้ใหม่เท่าๆกันเสมอ ในช่วงนี้เองภาษาอังกฤษผมเริ่มก้าวกระโดด จากเดิมที่ไม่รู้เรื่อง
พูดได้นิดหน่อย กลายเป็นไม่กลัวฝรั่ง พาฝรั่งเที่ยวได้เลย แล้วพอไปเรียนในห้องเรียน ผมจะเร็วกว่าคนอื่น
อยู่ตลอด 1 step

นี่คือช่วงชีวิตม.ปลาย เพื่อนผมทุกคนจะจำได้ว่า ถ้าเป็นวิชาคณิตศาสตร์ ผมจะได้ 0 แล้วทำงานติวตัวเองเพิ่ม
เพื่อให้ผ่าน 1 หรือไม่ก็ได้ 1 เสมอ วิชาวิทยาศาสตร์ของสายศิลป์ ผมได้จะ 2 หรือ 3 เสมอ แต่ภาษาอังกฤษ
ผมจะเฆี่ยนตัวเองให้ได้ 4 เท่านั้น ไม่ยอมเอาเกรดอื่น ผมเรียนม. 4 กับ ม. 5 รวมกัน 4 เทอม มีวิชาอังกฤษ
3 ตัวต่อเทอม รวมแล้ว 12 คอร์ส มีคอร์สเดียวของอ.แน่งน้อยที่ผมได้ 3 ในเทอมนึง นอกนั้นกวาด 4 หมด

ในช่วง ม. 5 นี่แหละที่ผมเหิมจัดจนเมื่อแม่ถามว่าสนใจสมัครสอบชิงทุนของสมาคมไทยอเมริกันมั้ย
ผมไม่ลังเลเลยที่จะสมัคร วันสอบสัมภาษณ์ ผมหายเข้าห้องสัมภาษณ์ไปเกือบชั่วโมง แม่ผมยืนอกอีแป้นสั่น
อยู่หน้าห้อง นี่ลูกกูโง่หรือฉลาด คนอื่นหายเข้าไป 15 นาทีก็ออก ลูกกูเข้าไป45นาทีแล้วยังไม่ออกเลย

ผมเดินออกมานี่แม่โผเข้ามากอดเลย คือตกลงนี่มึงแย่หรือดี หายเข้าไปนานอย่างนี้มีได้แค่สองอย่าง
ผมบอกแม่ว่าผมไม่ได้แย่หรือดี ..แค่อาจารย์คนที่สัมภาษณ์น่ะเขากำลังอยากได้รถ SUV มาใช้
ก็เลยมันส์ปาก แนะนำเขาเรื่องรถไปโดยใช้ภาษาอังกฤษทั้งบทสนทนา 40-45นาทีนั้นเลย อาจารย์แกคงลง
ความเห็นว่าไอ้นี่แม้ภาษามันจะยังผิดๆถูกๆ (สอบข้อเขียนผมก็ไม่ได้คะแนนเยอะอะไร TOEFL ตอนนั้นผม
ทำก็ได้แค่ 570 กว่าๆ) แต่มันพูดน้ำไหลไฟดับ มันกล้าว่ะ ให้มันผ่านละกัน

นั่นล่ะ..ผมก็สอบได้ทุน ชีวิต ม. 6 ที่เมืองไทยผมก็จบลงเมื่อเริ่มเทอมไปแค่สองเดือน

จากนั้นพอย้ายไปเรียนม. 6 (เกรด 12) ที่ Kansas ผมได้สิทธิ์ในการเลือกเรียนตามใจชอบ
เพราะโรงเรียนไม่ออกใบ Diploma ให้เด็ก (ไม่ถือว่าได้วุฒิที่จะนำมาใช้เพื่อเรียนต่อมหาลัยได้ทันที)

ผมเลือกเรียน
- Algebra (คณิตศาสตร์ของเด็กม.3-4)
- American History
- American Government
- Advance English
- Drama (การแสดงและการละคร)
- Computer Design
- Art Class
- Food Management (คหกรรมทำอาหาร)

ที่ผมชอบคือในแต่ละสัปดาห์จะมีคลาสเขาเรียกว่า Seminar Class ซึ่งถ้าเขาไม่มีกิจกรรมอะไรพิเศษ
เราก็แค่นั่งอยู่ในห้อง 2 ชั่วโมงนั่น..กฏคือห้ามคุย ห้ามหลับ ห้ามโดด นอกนั้นโอเคหมด ดังนั้นผมจึงมักจะ
ทำการบ้านเสร็จในช่วงเวลาเหล่านั้นทุกครั้ง และบางทีก็ขอใบอนุญาตไปนั่งอ่านหนังสือในห้องสมุด

ในชีวิตม. 6 ของผม ไม่มีวิชาไหนที่ผมไม่ชอบเลยสักวิชาครับ แม้แต่คณิตศาสตร์
ผมเพิ่งจะคูณไขว้ และแก้สมการเป็นก็ตอนม. 6 นี่เอง ส่วนวิชา History ที่ว่าน่าเบื่อก็ไม่ได้น่าเบื่อ
เพราะผมชอบอ่านประวัติศาสตร์อยู่แล้ว วิชาการแสดงนี่ยิ่งของโปรด Computer Design สมัยนั้น
ก็ใช้เครื่อง Mac เก่าๆที่ผมคงไม่ได้ใช้ แต่ก็เสกงานให้คนในคลาสอึ้งได้บ้างเหมือนกัน

Art class ผมก็ชอบ มันเป็นการปลดปล่อยที่สบายใจ เรียนรู้การใช้เส้นสายใหม่ การใช้สีเทียน
การใช้ชาร์โคลเขียนรูป แต่ยังอ่อนหัดเรื่องลงสีและแสงเงา ซึ่งจนป่านนี้ผมก็ยังทำไม่เป็น

Food Management ผมได้ทำอาหารหลากหลายแบบ ตั้งแต่บิสกิตเค็มๆง่ายๆไปจนถึงลาซันญ่า
ในวันสุดท้ายของคลาส อาจารย์ Peck (ขับ Buick Riviera Supercharge) เขาบอกว่าเด็กเกรด 12
ไม่ต้องทำสอบข้อเขียน หล่อนให้ผม ทำอาหารไทยเลี้ยงคนทั้งห้องแทน และให้เกรด 12 คนอื่นๆ
เป็นผู้ช่วยผมในการทำอาหาร หนึ่งวันก่อนหน้านั้นแกขับรถพาผมไปหาซื้อเครื่องปรุงต่างๆจนครบ
และอาสาเอากลับไปแช่ที่ตู้เย็นในห้องคหกรรมให้ด้วย

วันนั้นผมทำต้มยำไก่ ไก่กระเทียม ไข่ตุ๋น ผัดผัก แจกคนทั้งห้อง ต้มยำผมทำเป็นสองหม้อคือ
สเป็ค USDM กับสเป็ค Thai หม้อแรกนี่เกลี้ยงเลยเพราะไม่เผ็ดมาก แต่หม้อหลังเหลือบานเพราะ
หลายคนกินไม่ได้ มีแต่ผมกับกิ๊กผมเท่านั้นที่กินได้

เอ้า นี่เล่านอกเรื่องไปไกลนะ เห็นน้องๆมัธยมที่นี่เยอะก็เลยเล่าให้ฟัง
เรื่องพวกนี้น่ะ บางคนเป็นเพื่อนสนิทผมยังไม่รู้เลยนะ ถือว่าแชร์กันเล่นๆ

นับถือเลยอ่ะพี่แพน   อย่างที่พี่แพนว่าแหละครับ บางทีครูผู้สอนก็มีผลให้ชอบหรือไม่ชอบอ่ะ  ถ้าครูใจดีสอนดีถึงวิชานั้นจะน่าเบื่อขนาดไหนคนก็เรียนอ่ะนะ    ตอนนี้ที่โรงเรียนห้องของผมอ่ะ  ไม่ชอบครูสอนคณิตคนปัจจุบันเลยครับเพราะแกสอนแบบเหมือนไม่อยากสอน  ถ้ามีคนเก่งๆในห้องทำได้แกก็จะถือว่าทั้งห้องทำได้   ตอนนี้ทั้งเลยพากันโดดเรียนวิชา คณิตซะงั้น5555+

ออฟไลน์ SP

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,745
ผมไม่ชอบคณิต ฟิสิกส์ แต่จะเรียนวิศวะครับ  ;D

ออฟไลน์ Tan Int

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,709
    • อีเมล์

ที่ชอบก็คณิต(บางเรื่อง) ภาษาต่างประเทศทุกภาษา(เว้นภาษาจีน) ภูมิศาสตร์ ธรณีวิทยาครับ เป็นวิชาสายวิทย์ตัวเดียวที่ชอบ
และที่ไม่ชอบ ไม่ขออยู่ร่วมโลกด้วยก็เศรษฐศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะนี่ละครับ ถึงจะทนเคมีได้ก็เถอะ

เซ็งอย่างนึง ชอบสายภาษา และจะต่อด้านนี้ แต่มีแต่คนบอกว่าไม่เหมาะกับผม สายวิทย์ดีกว่า เก่งขนาดนี้น่าจะเรียนหมอ,วิศวะดีกว่า(บางทีถึงขั้นรำคาญ)
แต่ผมก็คิดเสมอว่าไม่มีใครรู้ตัวผมดีเท่าผม   :) ผมจะเลือกของผมอย่างนี้ ใครมันจะทำไม
1994 Civic EH9 (4dr) VTi (Made in Japan)
1998 Civic EK 1.6VTi-E Special Edition
2011 Corolla Altis E CNG (Come back)

ออฟไลน์ Parinceo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,210
ลองย้อนวัยตัวเองดูแล้วพบว่าการชอบหรือไม่ชอบวิชาใดนั้น
จะแปรผันไปตามอาจารย์ซะมาก ตรงนี้อันตรายครับ ผมเอาอนาคตตัวเอง
ไปผูกไว้กับความชอบบุคคล ทำให้มีปัญหามากในตอนเด็ก

ตอนประถม..เกลียดทุกวิชาครับ แต่เกลียดไม่มาก..เท่าๆกัน อาจจะชอบหน่อยก็วิชาวิทยาศาสตร์
ซึ่งอาจารย์ฤาเดช สอนผมตอน ป.6 ไม่ได้ว่าชอบวิชานะ แต่อาจารย์แกฮา ทุกวันนี้แกเป็นอธิการบดีราชภัฏสวนสุนันทาไปแล้ว

ตอนม.ต้น ..ชอบวิชาสังคมและภูมิศาสตร์ครับ อ.เติมพงษ์ สุนทโรทกสอน กับอาจารย์พรรณเพ็ญ
ผมเกลียดวิชาภาษาไทย ไม่ใช่เพราะวิชา แต่เพราะเป็นคนเดียวในห้องที่ไม่ส่งการบ้าน เพื่อนๆรุมล้อเลียนซ้ำ
และอาจารย์ประจานกลางห้อง ผมเลยเกลียดวิชานั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รวมถึงวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งผมส่งการบ้าน
ไปพร้อมเพื่อน วางไปด้วยกัน แต่สมุดการบ้านผมหายแบบไร้ร่องรอย อาจารย์หาว่าผมตอแหลไม่ทำงานส่ง
แต่เพื่อนผมเป็นพยานให้ว่าเดินไปวางบนโต๊ะอาจารย์พร้อมกันสองเล่มแต่ของเพื่อนผมได้กลับมา..เลยพาลเกลียดไปเลย

ตอนม.ต้น ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองอ่อนปวกเปียกไปทุกด้าน และเริ่มตระหนักด้วยตัวเองแล้วว่า
ถ้ากูไม่มีดีสักด้านเดียวอนาคตจะไม่มีอะไรสู้กับใครได้เลย ก็เลยหันมาลองวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งผมไม่เคย
บาดหมางอะไรกับอาจารย์สอนภาษาอังกฤษคนไหน (แม้กระทั่งอาจารย์จิตปราณี ซึ่งเด็กมักบอกกันว่าจิตแก
ไม่ได้ปราณีสมชื่อนัก ผมกลับเรียนกับแกได้อย่างสนุก)

แต่วิชาอื่นๆ ไร้ความสนใจครับ ขนาดแม่ผมส่งผมไปเรียนพิเศษที่โรงเรียนพันธะศึกษาใกล้ๆเซนต์กาเบรียล
ทุกวันเสาร์ ผมเรียนไปด้วยความเบื่อ ไม่ใช่เพราะอาจารย์ไม่ดีนะ แต่กูเบื่อ คือ..วันเสาร์นี่อยากพักอยากเที่ยว
ต้องเอาเวลามาเรียนอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่ได้ชอบเลยแม้แต่น้อย ผมเลยชวนเพื่อนโดดเรียน พอหาร้านเกมเล่นได้
ก็เริ่มออกลายละ แม่ส่งลงหน้าโรงเรียนพิเศษ ผมเดินเข้าข้างหน้า เจอกับเพื่อน ทะลุออกข้างหลัง
เดินลัดซอยไปมา เจอร้านเกมแล้วก็นั่งเล่นไปจนกว่าจะถึงเวลาเลิก ผมก็เดินกลับไปหาแม่ที่สวนสุนันทา
ช่วงหลังๆเบื่อเกม ก็เดินไปจนเจอโบสถ์ฝรั่งแถวนั้น เดินถัดไปลึกอีกหน่อยมีท่าน้ำเล็กๆ และติดแม่น้ำเจ้าพระยา
ผมก็ไปนั่งเล่น นั่งดูเรือ ซื้อไก่อบเค็ม (อร่อยมาก) ไปนั่งกิน บางทีก็แก้ผ้าโดดลงว่ายน้ำในแม่น้ำ

กลับมาที่โรงเรียนประจำ (มัธยมสาธิตสวนสุนัน) ผมก็พยายามจับวิชาอังกฤษ แต่ก็ไม่พ้นได้เกรด 1 หรือ 2 มาตลอด

..วันนึง เพื่อนผมคนนึง (ซึ่งเพิ่งจะกลับตัวจากเด็กเกเรเป็นเด็กเรียน)เดินมาหาผมพร้อมกับแนะนำสถานที่เรียนพิเศษ
(ห่า..เรียนวันอาทิตย์..) แล้วบอกผมว่าไม่ธรรมดานะ เป็นชาวอังกฤษอายุมากแล้วสอนดี สอนใจเย็น
ผมเลิกเรียนพิเศษที่พันธะแล้วก็เริ่มมาเรียนที่นี่ ชื่อโรงเรียน JUST ENGLISH ของคุณ Arnold Campen
แม่ของเพื่อนผมคนนี้ก็รู้จักกับแม่ผม เพราะแม่ผมไปสระผมดัดผมร้านแม่เขาเป็นประจำ แม่กับลูกรวมสี่คน
ก็คุยกัน ผมบอกว่าผมจะลองดู แต่ขอเลิกเรียนที่พันธะเพราะไม่ชอบ

เรียนไปเรียนมาเห้ย ชอบว่ะ อาจารย์แกใจเย็นนะ ระบบการเรียนไทยที่ผมเจอมาตลอดคือคนที่หัวช้าจะโดนด่า
และการเรียนก็จะมีสปีดช้าหรือเร็วโดยแปรผันไปตามปัญญาของเด็กส่วนใหญ่ในชั้น ผมตามใครไม่เคยทัน
แต่เรียนกับคุณ Arnold แกไม่เคยด่าผมเลยสักคำ และแกจะไม่ปล่อยให้ใครถูกมองข้าม ทุกคนจะผ่าน
แต่ละบทเรียนไปด้วยความรู้ใหม่เท่าๆกันเสมอ ในช่วงนี้เองภาษาอังกฤษผมเริ่มก้าวกระโดด จากเดิมที่ไม่รู้เรื่อง
พูดได้นิดหน่อย กลายเป็นไม่กลัวฝรั่ง พาฝรั่งเที่ยวได้เลย แล้วพอไปเรียนในห้องเรียน ผมจะเร็วกว่าคนอื่น
อยู่ตลอด 1 step

นี่คือช่วงชีวิตม.ปลาย เพื่อนผมทุกคนจะจำได้ว่า ถ้าเป็นวิชาคณิตศาสตร์ ผมจะได้ 0 แล้วทำงานติวตัวเองเพิ่ม
เพื่อให้ผ่าน 1 หรือไม่ก็ได้ 1 เสมอ วิชาวิทยาศาสตร์ของสายศิลป์ ผมได้จะ 2 หรือ 3 เสมอ แต่ภาษาอังกฤษ
ผมจะเฆี่ยนตัวเองให้ได้ 4 เท่านั้น ไม่ยอมเอาเกรดอื่น ผมเรียนม. 4 กับ ม. 5 รวมกัน 4 เทอม มีวิชาอังกฤษ
3 ตัวต่อเทอม รวมแล้ว 12 คอร์ส มีคอร์สเดียวของอ.แน่งน้อยที่ผมได้ 3 ในเทอมนึง นอกนั้นกวาด 4 หมด

ในช่วง ม. 5 นี่แหละที่ผมเหิมจัดจนเมื่อแม่ถามว่าสนใจสมัครสอบชิงทุนของสมาคมไทยอเมริกันมั้ย
ผมไม่ลังเลเลยที่จะสมัคร วันสอบสัมภาษณ์ ผมหายเข้าห้องสัมภาษณ์ไปเกือบชั่วโมง แม่ผมยืนอกอีแป้นสั่น
อยู่หน้าห้อง นี่ลูกกูโง่หรือฉลาด คนอื่นหายเข้าไป 15 นาทีก็ออก ลูกกูเข้าไป45นาทีแล้วยังไม่ออกเลย

ผมเดินออกมานี่แม่โผเข้ามากอดเลย คือตกลงนี่มึงแย่หรือดี หายเข้าไปนานอย่างนี้มีได้แค่สองอย่าง
ผมบอกแม่ว่าผมไม่ได้แย่หรือดี ..แค่อาจารย์คนที่สัมภาษณ์น่ะเขากำลังอยากได้รถ SUV มาใช้
ก็เลยมันส์ปาก แนะนำเขาเรื่องรถไปโดยใช้ภาษาอังกฤษทั้งบทสนทนา 40-45นาทีนั้นเลย อาจารย์แกคงลง
ความเห็นว่าไอ้นี่แม้ภาษามันจะยังผิดๆถูกๆ (สอบข้อเขียนผมก็ไม่ได้คะแนนเยอะอะไร TOEFL ตอนนั้นผม
ทำก็ได้แค่ 570 กว่าๆ) แต่มันพูดน้ำไหลไฟดับ มันกล้าว่ะ ให้มันผ่านละกัน

นั่นล่ะ..ผมก็สอบได้ทุน ชีวิต ม. 6 ที่เมืองไทยผมก็จบลงเมื่อเริ่มเทอมไปแค่สองเดือน

จากนั้นพอย้ายไปเรียนม. 6 (เกรด 12) ที่ Kansas ผมได้สิทธิ์ในการเลือกเรียนตามใจชอบ
เพราะโรงเรียนไม่ออกใบ Diploma ให้เด็ก (ไม่ถือว่าได้วุฒิที่จะนำมาใช้เพื่อเรียนต่อมหาลัยได้ทันที)

ผมเลือกเรียน
- Algebra (คณิตศาสตร์ของเด็กม.3-4)
- American History
- American Government
- Advance English
- Drama (การแสดงและการละคร)
- Computer Design
- Art Class
- Food Management (คหกรรมทำอาหาร)

ที่ผมชอบคือในแต่ละสัปดาห์จะมีคลาสเขาเรียกว่า Seminar Class ซึ่งถ้าเขาไม่มีกิจกรรมอะไรพิเศษ
เราก็แค่นั่งอยู่ในห้อง 2 ชั่วโมงนั่น..กฏคือห้ามคุย ห้ามหลับ ห้ามโดด นอกนั้นโอเคหมด ดังนั้นผมจึงมักจะ
ทำการบ้านเสร็จในช่วงเวลาเหล่านั้นทุกครั้ง และบางทีก็ขอใบอนุญาตไปนั่งอ่านหนังสือในห้องสมุด

ในชีวิตม. 6 ของผม ไม่มีวิชาไหนที่ผมไม่ชอบเลยสักวิชาครับ แม้แต่คณิตศาสตร์
ผมเพิ่งจะคูณไขว้ และแก้สมการเป็นก็ตอนม. 6 นี่เอง ส่วนวิชา History ที่ว่าน่าเบื่อก็ไม่ได้น่าเบื่อ
เพราะผมชอบอ่านประวัติศาสตร์อยู่แล้ว วิชาการแสดงนี่ยิ่งของโปรด Computer Design สมัยนั้น
ก็ใช้เครื่อง Mac เก่าๆที่ผมคงไม่ได้ใช้ แต่ก็เสกงานให้คนในคลาสอึ้งได้บ้างเหมือนกัน

Art class ผมก็ชอบ มันเป็นการปลดปล่อยที่สบายใจ เรียนรู้การใช้เส้นสายใหม่ การใช้สีเทียน
การใช้ชาร์โคลเขียนรูป แต่ยังอ่อนหัดเรื่องลงสีและแสงเงา ซึ่งจนป่านนี้ผมก็ยังทำไม่เป็น

Food Management ผมได้ทำอาหารหลากหลายแบบ ตั้งแต่บิสกิตเค็มๆง่ายๆไปจนถึงลาซันญ่า
ในวันสุดท้ายของคลาส อาจารย์ Peck (ขับ Buick Riviera Supercharge) เขาบอกว่าเด็กเกรด 12
ไม่ต้องทำสอบข้อเขียน หล่อนให้ผม ทำอาหารไทยเลี้ยงคนทั้งห้องแทน และให้เกรด 12 คนอื่นๆ
เป็นผู้ช่วยผมในการทำอาหาร หนึ่งวันก่อนหน้านั้นแกขับรถพาผมไปหาซื้อเครื่องปรุงต่างๆจนครบ
และอาสาเอากลับไปแช่ที่ตู้เย็นในห้องคหกรรมให้ด้วย

วันนั้นผมทำต้มยำไก่ ไก่กระเทียม ไข่ตุ๋น ผัดผัก แจกคนทั้งห้อง ต้มยำผมทำเป็นสองหม้อคือ
สเป็ค USDM กับสเป็ค Thai หม้อแรกนี่เกลี้ยงเลยเพราะไม่เผ็ดมาก แต่หม้อหลังเหลือบานเพราะ
หลายคนกินไม่ได้ มีแต่ผมกับกิ๊กผมเท่านั้นที่กินได้

เอ้า นี่เล่านอกเรื่องไปไกลนะ เห็นน้องๆมัธยมที่นี่เยอะก็เลยเล่าให้ฟัง
เรื่องพวกนี้น่ะ บางคนเป็นเพื่อนสนิทผมยังไม่รู้เลยนะ ถือว่าแชร์กันเล่นๆ


เอ๊ะ พี่แพนเคยเรียน Kansas เหมือนผมเลย
ไม่ทราบว่าอยู่เมืองอะไรครับ ผมอยู่ Leavenworth

อาจารย์นี้ก็เกี่ยวมากๆ โรงเรียนผมโชคดีว่าอาจารย์วิทยาศาสตร์ค่อนข้างดี โดยเฉพาะเคมี
จบมาเลยชอบเคมีไปเลย

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
ผมเด็กเก่า Wichiata South High ครับ
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
ตอนเด็กอาจารย์ที่สอนมีผลจริงๆนะครับมาคอนเฟิร์มอีกคน ตอนประถมอาจารย์คณิตใจดีมากสอนให้เข้าใจง่ายๆทำให้ตอนนั้นสนใจเลขเป็นอย่างมากและอยากเป็นครูสอนคณิตเลยหล่ะ ส่วนภาษาอังกฤษตอนที่ขึ้น ป.5 เพิ่งได้เรียนวิชานี้จำได้เลย bat rat cat (สมัยนี้สอนกันก่อนเข้าอนุบาลซะอีก) แทบไม่เข้าใจอะไรเลยเหมือนมาอยู่อีกโลกนึงแค่ท่อง A-Z ก็แทบตายเป็นครั้งแรกในชีวิตที่โดนด่าว่า โง่ ช๊อคมากๆทั้งๆที่สอบได้ไม่เคยเกินที่ 3 ทำให้รู้สึกอคติฝังใจกับวิชาภาษาอังกฤษมากๆและยิ่งเบนเข็มมาสนใจเรื่องการคำนวณมากขึ้นไปอีก
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น