ผมจำได้ว่าเคยเกริ่นไว้ว่าจะทดลองสมรรถนะของเจ้า 3 ตัวใหม่นี้ โดยให้พี่สาม 2.5i เป็น benchmark (เกณฑ์อ้างอิง หรือใครมีศัพท์ไทยที่เหมาะสมกว่ารบกวนแนะนำครับ)
ก็ขออภัยที่ไม่อาจทำตามที่ได้กล่าวไว้ทั้งหมด ได้เพียงครึ่งเดียว (Sam ไม่ clear for take-off) เลยได้พาเจ้า Sue ไปยังสนามแทน โดยไม่ลืมที่จะบันทึกอัตราใช้น้ำมันดังนี้
Suzuki Swift CVT 16"วิ่งไปทั้งหมด
356.3 กม. Trip B 209.5 กม. - เติมเมื่อ 9853.2 กม.
เติมน้ำมันไป
15.6 ลิตร (จริงๆคือ 15.595กว่าๆ ปัดขึ้นเหอะ)
หน้าจอขึ้น Avg. ว่า 4.2l/100Km =
23.8กม./ลิตร (a)หารออกมาได้
22.84 กม./ลิตรถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว เพราะเป็นครั้งแรกที่ผมทำได้มากกว่า 20 กม.ต่อลิตรกับเจ้าคันนี้ โดยที่ใกล้เคียงที่สุดที่ทำได้คือ
16.62กม./ลิตร ไปร้อยเอ็ด เติมก่อนกลับ ซึ่งใช้ความเร็วสูงและแกว่งกว่า เจอไฟแดง วิ่งในตัวเมืองบ้างด้วย แต่ทริปนั้นไม่ขอรีวิวในรายละเอียดเพิ่ม ปล่อยให้หายไปเพราะลืมหมดแล้ว นอกจากข้อสรุปที่ว่าอีโคคาร์ก็พาคุณไปบนถนนทุกเส้นได้ เพียงแต่
อย่าทำอะไรโง่ๆ เท่านั้นเอง (ก็หมายถึงไม่กะจังหวะดีๆ หรือประมาทเล่นจังหวะเสี่ยงนั่นแหละ)
ใช้ตัวเชื่อมไปตั้งสามบรรทัด เอาล่ะมาที่ปัจจัยภายในภายนอกต่างๆที่ทำให้ได้ตัวเลขเหล่านี้มาบ้างครับ
(a) ก็คือ เพิ่งกดลบค่าเฉลี่ย หลังจากออกจากปั๊มน้ำมันมาไม่เกินห้ากิโลเมตร เพราะลืม แต่จากสัดส่วนขนาดใหญ่ ก็ไม่น่าจะเพี้ยนได้มากนัก
b) ระบบแสดงผลให้ต่างจากการสิ้นเปลืองจริงแค่ประมาณ 1 กม./ลิตร คิดได้เป็นเพียงประมาณ 5% เท่านั้น ถือว่าทำได้ค่อนข้างแม่นยำ สำหรับการเดินทางระยะไกลก็คงเพี้ยนได้น้อย เพราะไม่มีอะไรให้มันคิดมาก แต่ถ้าเป็นการขับขี่ในเมือง คงมีปัจจัยอะไรหลายอย่างให้มันงง จึงคลาดเคลื่อนได้มากประมาณ 10% ครับ
c) น้ำมันที่เติมนั้นเป็น PTT E20 หัวจ่ายเดิม ก็ต้องในปั๊มเดิมสิ เวลาเติมขาไป(เผื่อใครแคร์เรื่องความหนาแน่นน้ำมัน) ประมาณ 8 นาฬิกา เติมขากลับ หลัง 21 นาฬิกา
c.1) ถ้าเติมเป็นสูตร FuelSave หรือ Gasoline 95 ก็น่าจะประหยัดยิ่งกว่านี้ จอจะขึ้นแม่นหรือเปล่า ก็เป็นคำถามครับ เพราะผมคงไม่เติม
c.2) แน่นอนนะครับ ไม่ได้เขย่าถังน้ำมัน เดี๋ยวนี้ผอม จาก 70 ต้นๆ จะตกมาต่ำกว่า 60 ละ อีกอย่างคือทำไม่เป็นด้วย ยังหวังจะได้ศึกษาครับ
d) เปิดเครื่องปรับอากาศที่ 80 ํF Full Auto ครับ ลองแสดงผลเป็น ํC ก็ได้อยู่ที่ 27.5 มันก็ไม่ร้อนแฮะ แม้ดูตัวเลขจะสูง
e) เติมลมยางตามของประตูเป๊ะ ล้อหน้า 36 PSI ล้อหลัง 32 PSI ถ้าจำตัวเลขไม่ผิดนะ
f) เส้นทาง ไป-กลับสนามโบนันซ่าเขาใหญ่ (หลักๆ ทล.๑ ทล.๒) โดยขากลับใช้ตั้งแต่ BYP สระบุรี, M9, และทางพิเศษฉลองรัชครับ
g) เรื่องการใช้ความเร็ว ไม่เคร่งเท่ามาตรฐานเว็บที่ต้องล่องเร็ว 110Km/h ซึ่งก็ทำให้ผมเป็นต่ออยู่นิดๆโดยปริยายนั่นเอง โดยความเร็วเดินทางเจตนา อยู่ช่วง [color]90-100 กม./ชม.[/color] และไม่เกิน 110 ช่วงลงเขา (เข้าเกียร์ L นี่จอบอกใช้ 0ลิตรเลยทีเดียว) ที่เหลือก็ตามสภาพจราจรครับ อาจจะมีตกลงไป 60 บ้างในบางช่วงครับ
g.1) ระยะทางขับในถนนเล็กออกจากปั๊มไปถนนใหญ่ (รัชดาฯ ที่ไปเชื่อมวิภาฯอีกที) 1 กม. จากบ้านไปปั๊ม 2 กม. (เพราะกลับบ้านก่อนออกมาเติม)
g.2) ขาไปนั้นมีช่วงที่ติดขัดบนถนนพหลโยธิน ประมาณช่วงนวนคร/โลตัส เพราะมีการก่อสร้างสะพานกลับรถ เลนขวาสุด(ทั้งสองทิศทาง)และซ้ายสุดของทางหลักถูกเบียดครับ
จึงแจ้งไว้เพื่อเป็นข้อมูล ท้ายแถวไม่น่ายาวนักและเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆผ่านไปไม่ลำบาก
g.3) ขากลับนี่ล่ะครับสยอง เนื่องด้วยผมต้องการเลี่ยงเจ้าข้อบน ก่อนกลับก็กดดู
Google Traffic พบว่าบริเวณนั้นแดงเลย จึงตั้งจิตมุ่งมั่นจะใช้มอเตอร์เวย์ ๙ โดยไม่ได้เปิดแท็บเล็ตอีกเลยเพื่อความปลอดภัยครับ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่
ผิดมากกกก เพราะตอนแรกก็ไม่มีอะไร ทุกอย่างไปได้ดีจนกระทั่งถึงช่วงทางออกสู่ 305 ครับ .... พ้นทางเบี่ยงปุ๊บ ติดปั๊บ หันไปทางซ้ายเห็นป้ายบอกว่าด่านเก็บค่าผ่านทางอีก 3 กม. .... ครับ เย็นนี้หาง 3+ นะครับ จำได้ว่าข้ามคลอง 4 ตอน 18น. พอดี กว่าจะหลุดจากด่านก็ 18:45+ ครับ กินเวลาไปนานขนาดนั้น นิ่งสนิทหลายจังหวะ ถึงกับว่าช่วงลงสะพานข้าม 305 นี่ดับเครื่องเกียร์ว่างปล่อยไหล (ตัวอย่างที่ไม่เหมาะครับ แต่แรงดันน้ำมันเบรคมีเต็มที่ ดีที่ได้ใช้จังหวะก่อนสตาร์ทแล้วไปต่อเพียงครั้งเดียว) หลังจากหลุดมาได้ก็ต่อขึ้นทางพิเศษฉลองรัช ซึ่งก็ลดความเร็วเฉลี่ยมาที่ 60-80 เลยทีเดียว มันก็รู้สึกไหลดีนะ หรือว่าตอนรถติดสะสมความร้อนจนได้ที่? จนเชื่อมต่อลงถนนลาดพร้าวไปถึงบ้าน ไหลๆไปไม่เจอไฟแดง 40-60 ครับ
h) ขากลับ วิ่งตามอุโมงค์อากาศรถทัวร์ รถตู้ ตามจังหวะที่เหมาะสมครับ (ภาษาชาวบ้าน ดูดตูด ภาษาอังกฤษ slipstream)
i)รอบเครื่อง ขึ้นสูงครั้งเดียวตอนกระบะดันรางมากวน-ีน แม่งแซงไม่พ้นด้วย นอกนั้นแม้ว่าต้องลากขึ้นเขาบ้างก็จำได้ว่ายังไม่เกิน 3000 ต่อนาทีครับ
คิดว่าหมดละนะปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขได้ดีขนาดนี้ แต่ถึงเป็นพี่สาม 2.5i ที่แรงบิดและเครื่องโตเป็นสองเท่า ก็คงไม่ต้องหารสองครับ น่าจะทำได้ค่อนข้างดี
เรื่องที่ไม่เป็นปัจจัยคือ เวลาแช่ซ้ายช้าๆ ไปเรื่อยๆ สบายๆ มันก็รู้สึกเป็นส่วนตัวดีนะครับ โดยเฉพาะบน M9 ผมว่าเดี๋ยวนี้มันยังลำบากเลยนะถ้าจะแช่ travel speed (120) บน travel lane (สองจากขวา) และแม้แต่เลนขวาสุดก็เถอะ ถ้ามาเร็วกว่านั้นไม่ต้องพูดถึง รถแช่ขวาเยอะมากๆครับ จนเห็นแล้วรำคาญแทนเลยทีเดียว
อยากจะเขียนต่อให้จบล่ะครับ + feeling ของ Swift เพิ่มเติมด้วย แต่พอเขียนจริงก็ไม่ได้เร็วเท่าไหร่ ดังนั้นอย่าเพิ่งไปไหน ไว้มีเวลาจะมาต่อนะครับ กับ
ฟ้าสาม ฟ้าใสไม่เกี่ยว มาย เฟิร์สทฺ อิมเพรชชั่น
