ผู้เขียน หัวข้อ: ผมขอยกให้ Honda เป็นผู้นำแห่งวงการรถยนต์ของประเทศไทย  (อ่าน 14677 ครั้ง)

ออฟไลน์ DArkMaster

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 963
ผมว่าFordมากกว่านะ ถ้านับถึงเรื่องoptionใหม่ๆที่ใส่มาเป็นเจ้าแรกๆอ่ะ แต่ก็อย่างว่าแหละไม่ใช้เจ้าตลาดเลยไม่มีใครพูดถึง
ผมเห็นด้วยกับความเห็นข้างบนนะที่ว่าhondaจะพลาดไม่ได้แล้วก็เลยต้องใส่optionเต็มๆมาเพื่อสู้ศึกครั้งนี้ ถ้าครั้งนี้พ่ายก็ยับเยินพอดี

ออฟไลน์ nuntapon.s

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,910
    • อีเมล์
ผมเพิ่งออกG9มาก็เพราะออฟชั่นนี่แหละครับ ที่สำคัญเป็นออฟชั่นที่มาในรุ่นต่ำด้วยไม่ต้องซื้อตัวแพงสุดนี่ยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่

เรื่องใครจะเป็นผู้นำนี่ผมเฉยๆนะ  แต่รู้สึกดีใจมากกว่าที่มีใครสักคนที่เริ่มนำจะได้มีผู้ตามและต่อไปก็จะมีผู้แซงเป็นวัฏจักร  ผู้บริโภคอย่างเราจะได้ๆประโยชน์มากที่สุดเท่านั้นเอง  ถามว่าฮอนด้าจะเป็นผู้นำไปอย่างนี้เสมอเหรอก็คงไม่ใช่  นึกย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์รถญี่ปุ่นก็จะเห็นว่าการยกระดับออฟชั่นของรถยนต์มันมีเป็นช่วงๆนะ พี่โตและรายอื่นก็เคยทำดีมาในหลายๆครั้งหลายช่วง  ลองดูD segmentสมัยที่อัตคัดขัดสนออฟชั่นก็พี่โตนี่แหละที่เป็นคนยกระดับรถในsegmentนี้  ใครเคยใช้Hondaในช่วงยุคปี 95 เรื่อยมาจะเห็นว่าสมัยก่อนฮอนด้ามีนโยบายที่น่าเกลียดอย่างนึงคือใครออกรถต้นโมเดลจะไม่มีออฟชั่นอะไรมาให้เลย  ผมถอยAccord G6ปี98ออกมาด้วยความไร้เดียงสาเพราะยังเด็กมากประกอบกับข้อมูลให้ศึกษาก็ยังไม่เยอะเหมือนสมัยนี้  เบาะผ้า พวงมาลัยเป็นยางpvc แอร์อัตโนมือ  ใช้กุญแจล็อครถไม่มีรีโมท  เบาะก็มือปรับ  วิทยุ1din ในขณะที่ตอนนั้นแคมรี่ไฟท้ายไม้บรรทัดมีให้ออโต้+ไฟฟ้าทุกอย่าง เบาะหนัง วิทยุ2din  ที่แย่ไปกว่านั้นคือหลังจากนั้นพี่ฮอนก็เริ่มทะยอยใส่ออฟชั่นมาจนครบในที่สุดซึ่งผมได้แต่นั่งมอง  แล้วออฟชั่นก็คงอยู่ในระดับนี้มาเป็นสิบปีไม่มีอะไรหวือหวาจนกระทั่งG9นี่แหละ  ถ้ามองsegmentอื่นเราคงรูปแบบของการแข่งขันในลักษณะที่คล้ายๆกันต่างกันที่ใครจะเริ่มก่อนเท่านั้้นเอง


 

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
ผมว่าการเป็นผู้นำแห่งวงการรถยนต์นี่อาจจะต้องบอกด้วยนะว่าเป็นผู้นำในปีนี้ หรือปีไหน
เพราะถ้ามองแบบที่ผ่านๆมายาวๆ ผมว่า Honda ก็เหมือนเจ้าอื่นคือมีผู้ชนะบ้าง มีตัวแพ้บ้าง ไม่ได้ถือว่าเด่น
ปี 2002 ช่วงนั้น B-Segment ใครเป็นผู้นำระหว่าง Vios บริทนีย์ กับ City ลูกอ๊อด?
ปี 2005 พอ Altis ยังเป็นโฉมเดิมแต่ Civic เปิดตัว FD โอ้..คราวนี้เริ่มพูดได้ว่านำหน้าชาวบ้านละ
ปี 2007 ปัญหา QC กับเครื่องต๊อกๆของ FD ทำให้ตัวรถน่าสนใจน้อยลง
ปี 2008 City ตัวใหม่มา เอาคืนแค้นฝังหุ่นสมัย Vios บริทนีย์ได้ในด้านชื่อเสียง แต่ด้านยอดขาย ไม่ชนะ
ปี 2011 น้ำท่วม ฮอนด้าบริจาค 100 ล้าน นั่นคือคุณภาพจิตใจทีมบริหาร ไม่เกี่ยวกับคุณภาพรถ
ปี 2012 Civic FB ในชั่วโมงนี้มีดีที่เติม E85 ได้ เรื่องนวัตกรรมความปลอดภัยกับอุปกรณ์สู้ Ford ไม่ได้
เรื่องความเรียบร้อย look and feel ในห้องโดยสารสู้ Sylphy ไม่ได้ มีแต่ Altis ซึ่งพอไมเนอร์เชนจ์เป็น CVT
ก็ชนะในเรื่องสมรรถณะอัตราเร่งแบบขาดลอย แต่สู้เรื่องพวงมาลัยไม่ได้ และช่วงล่างแข็งโด๊กด๊ากกว่า

นี่คือสิ่งที่เกิดกับฮอนด้ามาก่อนปี 2013-2014 ถ้ามองในแง่ Innovation ในอดีตช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
ผมว่าสิ่งที่โดดเด่นของ Honda มีแค่ดีไซน์ของ FD ซึ่งเหมือนเอารถต้นแบบมาแปลงเป็นรถถนนจริงๆ
(และทัศนวิสัยเหมือนรถต้นแบบจริงๆ) กับ Honda Jazz GD ที่ทำให้คนไทยหันกลับมารักรถท้ายตัดตัวสั้นๆ
อีกครั้ง และทำรถคันเล็กกะเปี๊ยกให้สามารถใช้งานพื้นที่ภายในได้เกิดประโยชน์สูงสุดยกเว้นถังน้ำมันกลางลำ
ที่ขวางเท้า ..นอกนั้นมีอะไรบ้างล่ะ Accord G7,8 ผมมองว่าเป็นรถที่เด่นเรื่องฟีลพวงมาลัย แต่เรื่องเครื่อง
ผมมองว่าไม่ได้เด่นกว่าคนอื่น โชคดีที่ใช้เกียร์ออโต้5 ก่อนในสมัยที่ชาวบ้านยัง4สปีดอยู่นั่นเอง ส่วน CR-Z
ผมมองว่าเป็นรถล้ำยุค แต่ในการใช้งานจริง มันไม่ได้มีอะไรเด่น Civic Hybrid..นี่ก็ไม่รู้จะซื้อมาทำไม
ไฮบริดของโตโยต้าประหยัดเชื้อเพลิงกว่าและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพกว่า

ถ้า Honda เป็นรถดีจริง นั่นหมายความว่าถ้าหาก Honda อะไหล่แพงเท่า Volvo เคลมยากเท่า Ford (เมื่อสองปีก่อน)
หาศูนย์ยากเท่า Skoda และภาพลักษณ์ทางสังคมเท่า Hyundai คุณจะยังมีข้อที่เห็นแล้วหลงรักในตัวมันอยู่

ในความเห็นส่วนตัวผม มองแบบคนใช้รถยาวๆและชอบแต่ง..Honda เป็นรถที่เดิมๆออกมาแล้วธรรมดา
ไม่ได้มีอะไรเด่น แต่พอใช้สัก 7-8 ปี ตอนที่ Tiida ผมเริ่มเสื่อมสภาพ กับตอนที่รถแม่ผม (Civic) เสื่อมสภาพ
ความง่ายและเร็วในการหาอะไหล่กับการซ่อมมันต่างกันลิบลับ Honda เดินไปเบิกอะไหล่อะไรก็มี ผมเคยเดิน
เข้าไปศูนย์พญาไทแล้วขอซื้อไฟเลี้ยวของ Odyssey ปี 04 ศูนย์หยิบให้ผมได้ทันทีรอแค่ 5 นาทีเท่านั้น เบิกอะไหล่ต่างๆ
แยกส่วนสบาย ง่าย กลไกต่างๆของรถที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์เล่นไม่ยาก คนชอบบอกกันว่าฮอนด้าจูนง่าย
เพราะมีคนทำเยอะ..ลองคิดกลับกันว่าทำไมคนทำได้เยอะ..ก็เพราะมันง่ายไง ง่ายกว่ามาสด้า และไม่งอแงเหมือนนิสสัน

ส่วนในแง่ของคนใช้งานธรรมดา (ประสบการณ์ Honda บ้านผม CRV Gen1, 2, 3 และ Civic ES สองคัน) ทุกคัน
เป็นรถที่ หยาบ ไม่เรียบร้อย ไม่สุนทรีย์ แต่ไม่มีปัญหาจุกจิกเมื่อใช้นานๆ อยากจะซ่อมก็ง่าย (ยกเว้นเรื่อง QC
ซึ่ง CRV Gen3 ของพ่อถูกส่งมอบมาพร้อมกับ Navi ที่ไม่ทำงาน และถึงทำงาน มันก็เป็น Naviที่ใช้ยากห่วยบัดซบ
และ ES ของแม่ วันแรกที่ออกจากศูนย์มา ฝาถังน้ำมันเปิดไม่ได้ ผมต้องโทรถามเพื่อนแล้วหาวิธีแหกพรมล้วงมือ
ดึงเปิดเอาเอง) นอกนั้นแล้วไม่ค่อยมีอะไรพัง

นั่นแหละอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำไม Honda ยังอยู่ได้ในปัจจุบัน ถ้าพวกเขาทำรถออกมาแล้ว QC แย่มากๆ
เหมือนบางค่าย เคลมกันไม่รู้จักจบสิ้น และทำระบบไฟฟ้าต่างๆให้ยุ่งยากมากเรื่อง แปะโน่น ดักนี่ บล็อคนั่น
ผมว่าอีกหน่อยก็ไม่มีใครเล่น

ปีนี้อาจจะเป็นปีของ Honda แต่ผมภาวนาอย่าให้พวกเขาเล่นจำนวนออพชั่นมากจนลืมเรื่องคุณภาพไปล่ะ
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ tfirst01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 394
ไม่รู้สิ ผมรู้สึกว่าด้านวิศวกรรมฮอนด้าแย่ลงทุกวัน
จนต้องเอาออปชั่นมากลบรึเปล่า
แต่ไหนแต่ไรฮอนด้าจะเด่นที่เครื่อง vtec แรงสุดและประหยัดน้ำมันที่สุดในกลุ่ม
ส่วนปัจจุบันนอกจากตัวเลขแรงม้าสวยๆ เกียร์ 5speed e85แล้วก็ไม่เห็นว่ามันจะมีอะไร (อย่ามาอ้างว่าเพราะ e85 ทำให้มันไม่แรง ดูอัลติสซิมันยังแซ่บได้)
ช่วงล่างก็เด้งแถมยังไม่เกาะเท่าที่ควร
ดีไซน์ นอกจากแอคคอร์ดตัวอื่นก็ไม่กล้าพูดเต็มปากว่าสวย
งานประกิอบก็ชุ่ยไม่เคยพัฒนา
จากแฟนฮอนด้าตอนนี่ถ้าจะซื้อผมคงคิดหนักๆเลย
มวยรอง เช่น มาสด้า น่าสนกว่ามาก ไม่งั้นไปโตโยต้าเลยยังจะดีกส่า

ออฟไลน์ golf8023

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,381
    • อีเมล์
ผมเฉยๆครับ
ไม่ได้รู้สึกว่าแค่การอัดออฟชั่นนั่นนี่ จะทำให้เป็นผู้นำทางด้านวงการรถยนต์
แถมถ้าวัดด้านเทคโนโลยี่ ผมว่าHondaยังห่างไกลจากการเป็นผู้นำด้วยซ้ำ
จะเป็นผู้นำมันต้องมีอะไรมากกว่านี้ครับ รูปร่างหน้าตา เทคโนโลยี่ การขับขี่ ภาพลักษณ์ ความคุ้มค่าต่อราคา และเอกลักษณ์เฉพาะตัว
แต่ถ้าจะบอกว่าตอนนี้Hondaเป็นผู้นำด้านการจัดออฟชั่น ผมเห็นด้วยครับ เพราะHondaนำร่องจัดออฟชั่นเต็มๆลงG9 City จนคู่แข่งต้องทำตาม
ถ้าจะบอกว่าHondaเป็นผู้นำทางด้านวงการรถยนต์ มันเวอร์ไปมาก เพียงแค่รู้สึกว่า พักนี้รถยี่ห้อHondaมันน่าซื้อมากขึ้น น่าสนใจมากขึ้น แค่นั้น ตั้งแต่G9ออกมา

ความเห็นส่วนตัวครับ  ;)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 11, 2014, 11:26:19 โดย golf8023 »

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,839
+1
ฮอนด้า2คันแรกในชีวิตของผม ก็ทำให้ผมประทับใจติดๆในหลายๆเรื่องครับ
นอกจากทุกชีวิตปลอกภัยในวอลโว่แล้ว

ผมว่าฮอนด้าก็เป็นอันดับต้นๆในเรื่องของระบบความปลอดภัยเลยนะครับ
จากตะก่อนที่ผมไม่ชอบฮอนด้าเอามากๆในเรื่องของการออกแบบ

แต่อะไรที่เขาเคยเจ็บตัวมา เขากับแก้ไขได้เกือบหมด
ยกตัวอย่าเล่นๆ

ผมซื้อแจ๊สตัวท๊อปปี 09มา ใช้ได้แป๊บ ก็อยากเปลี่ยนฟรีด พอไปเห็นราคากับเตาแก๊สปิ๊กนิก ผมก็ถอยครับ
แต่จนแล้วจนรอด เขาก็ทำการเปลี่ยนดีไซน์ภายในและลดราคามาจน ผมต้องเอาไปเปลี่ยนเมื่อปลายปีที่แล้ว

แต่ก็แอบแค้นเรื่องแอร์หลังและโช้คหลังที่ดีขึ้นที่ตัว 13 มีมาให้เล็กน้อย

ออฟไลน์ raygun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,051
.
.
.
สมัยผมเป็นวัยรุ่น เพิ่งมีรถคันแรก (รุ่นเตารีด) ผมรู้สึกว่า Honda เป็นแบบนั้นจริงๆ
คือเป็นผู้นำเรื่องเทคโนโลยี โดยมี Vtec เป็นตัวชูโรง เพราะตอนนั้นมันเป็นเทคโนโลยี
ที่เจ๋งจริงๆ ออกมาจากสนาม F1 กันเลย แต่พอหลังจากนั้น ที่ชาวบ้าน
เค้าก็มีระบบวาล์วแปรผันกันจนมันกลายเป็นเรื่องธรรมดา ผมก็ยังไม่เคยเห็นอะไรเจ๋งๆ
จาก Honda อีกเลย ยิ่งไอเรื่องอัดออฟชั่นนี่ สำหรับผมมันไม่เกี่ยวกับเรื่องผู้นำอะไรเลย
ไม่งั้นทำไมเราไม่ยกให้ Ford ล่ะ ?

ทุกวันนี้ Honda สำหรับผม มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว รถก็ออกแบบไม่สวย
G9 ที่บอกว่าสวยกันผมว่ามันธรรมดามาก Mazda 6 สวยกว่าหลายขุม
ยิ่งพวกบริโอ หรือ อเมซ นี่เข้าขั้นน่าเกลียดไปเลย รวมถึงการออกแบบภายใน
ก็เลอะเทอะยังกับขับกันดั้มอยู่ พูดง่ายๆเรื่องการออกแบบ Mazda กินขาดทั้งภายนอกภายใน
เทคโนโลยีก็ไม่มีอะไรใหม่ๆออกมาจากค่ายนี้นานแล้ว อย่างคนอื่นเค้ายังมี Ecoboost
มี skyactiv ของ Honda มีแต่ Earth Dreams ปลอมๆ

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
อย่างน้อยๆ สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ ความไม่จุกจิก

เทียบกัรถยุโรปเมื่อใช้ได้ 10 ปีต่างกันลิบลับเลยครับ :D

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
ถ้าเรื่องเทคโนโลยีผมว่า ford เป็นผู้นำนะ ทั้ง E20 รายแรก.ถุงลม7ใบ ใน fiesta  Ultimate , traction control ในรถเล็กรายแรก

แต่ก็นั่นแหละพัฒนาเทคโนโลยีแต่ไม่พัฒนาช่างและศูนย์ เลยยังตามเค้าอยู่เรื่อยไป
ฟอร์ดผมว่าหลายครั้งก็ยังไม่เป็นมาตรฐานครับ คือมีแต่รุ่นท้อปรุ่นล่างไม่มี

อย่าง city โฉมนี้เจอ VSA ตั้งแต่รุ่นล่าง เถียงไม่ออกเลย

แต่เหลือเรื่องเดียวที่ฮอนด้าพัฒนาช้าเหลือเกินคือเทคโนโลยีการเก็บเสียง TwT
H.

ออฟไลน์ WawaAOY

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 151
ผมว่าคุณแพนพูดถูกนะ หากมองไกลๆ
หลายคนรอบๆผมหันมาใช้ toyota ข้อดีมันไม่จุกจิก
ดีไซน์ทรงรถก็อยู่ที่คนชอบ
ชอบเหลี่ยมๆก็ไป honda ชอบกลมๆก็มา toyota
เรื่องผู้นำ เดี๋ยวนี้เวลาซื้อรถ ผมว่าผู้คนคงไม่ได้มองแบบนั้นแล้ว

ออฟไลน์ nl2br

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,018
    • ร้านค้าออนไลน์
ผมว่าน่าจะเป็นผู้นำทางด้านออปชั่นมากกว่าครับ
ในส่วนเทคโนโลยีจริงๆ ผมยังไม่เห็นมีอะไรเด่นเลย
บล็อกข่าวไอทีกากๆ >> https://thaimobiletricks.blogspot.com/ << ข่าวมือถือ มือถือรุ่นใหม่

ออฟไลน์ Highway Star

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
ผมว่าน่าจะเป็นด้านความคุ้มค่าคุ้มราคามากกว่า ส่วนเทคโนโลยีใหม่ๆผมว่ายังพัฒนาไม่มากนะแต่ถ้าเทียบกับโตโยต้าก็นับว่ามากกว่า อย่างซิตี้ตัวใหม่เครื่องก็เหมือนเดิมแค่จูนให้เติมe85ได้แม้จะเกียร์ลูกใหม่ก็ตาม ซีวิคหน้าตาผมว่าแย่ลงแต่ความคุ้มค่ามากขึ้น แอคคอร์ดg8กับg9ังต่างไม่มากเพียงแต่ค้มค่าขึ้น
มาแนวทางนี้ผมว่าดีแล้ว แต่อยากให้พัฒนาด้านเครื่องให้มันมากกว่านี้หน่อยแค่เติมe85ผมว่ายังน้อยเกินไป

ออฟไลน์ MoO Cnoe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,487
    • อีเมล์
บางสิ่งกำลังมาในทางที่ดี มีการพัฒนาขึ้น นั่นก็คือ Option ระบบความปลอดภัย
ที่หลายค่ายเริ่มหันมาสนใจมากขึ้น นั่นคือสิ่งที่ดี ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค

แต่บางสิ่งที่เป็นภัยเงียบ ก็แทรกซึมเข้ามาเหมือนกัน นั่นก็คือ การลดต้นทุน
ลดคุณภาพวัสดุในส่วนที่เรามองไม่เห็น หรือไม่สามารถตรวจสอบได้
ด้วยการมองหรือสัมผัส เช่น สายไฟ เหล็ก จุดน็อตยึด ยางขอบประตู
ความทนทานของชิ้นส่วน ที่นับวันจะสั้นลงๆ

เพราะผมเริ่มสังเกตเห็นอะไรหลายๆอย่าง จากรถที่เปิดตัวช่วงหลังมานี้
ที่ประเคนอัด option แพรวพราว ดูจะคุ้มเกินราคา
แต่....อีก 4-5ปี ต่อไปเราอาจจะเริ่มเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น
ว่ารถรุ่นใหม่ๆ มันไม่ทน เหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว
Life-Cycle จาก 5-7 ปีที่ยังไม่ต้องซ่อมอะไรมาก
อาจจะเหลือ 4-5ปี ก็ต้องเริ่มซ่อมกันบ่อยแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 11, 2014, 15:20:57 โดย MoO Cnoe »

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
อยากเห็น Honda ทำ Brio ใส่ E85 กับ VSA ครับ

นำตลาดรายแรกๆ เลย

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
เคยได้ยินฝรั่งพูดมั้ยว่า Be careful of what you wish for?

นั่นแหละ..ทุกวันนี้เราในฐานะผู้บริโภคเรียกร้องอะไรกัน บริษัทรถยนต์ก็จะหาทางตอบ โดยที่เฉือนเนื้อตัวเองน้อยที่สุด

ขอ Push Start, Smartkey, ขอมูนรูฟ ขอนั่นขอนี้ แต่ขอราคาถูกๆ ยิ่งถูกยิ่งดี
ก็จำกันไว้ว่า "ไม่มีทางที่จะเทน้ำจากขวด1ลิตรใส่แก้ว 500 ซี.ซี.ให้เกลี้ยงขวดโดยไม่ล้น"

และที่สำคัญคือเมื่อมีคนทำนำไปคนนึง แล้วคนอื่นคิดจะตามกันหมด เพราะถ้าไม่ตาม ขายไม่ได้
สุดท้ายเราจะได้อะไร? นอกจากสงครามแห่งการแอบลดต้นทุนตามซอกหลืบและประเคนออพชั่น
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ Tiger3539

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 300
ซื้อซีวิค FD เจอปัญหา ยางแท่นเครื่อง แอร์ ลูกปืน  ศูนย์บริการ พลาสติคกรอบ  :'(
TOYOTA TIGER 4WD D4D
TOYOTA VIGO  DUOBLE CAB 4WD 3.0G
TOYOTA VIOS 1.5S---ขาย
HONDA CIVIC 1.8S FB---ขาย
TOYOTA FORTUNER TRDIII---ขาย
FORD RANGER WILDTRACK 3.2
BMW 520D E60
TOYOTA YARIS 1.2G
TOYOTA ALTIS 1.8V
MAZDA 3 SKYACTIVE S
SUBARU XV
TOYOTA FORTUNER TRD 2016

ออฟไลน์ raygun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,051
อย่างน้อยๆ สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ ความไม่จุกจิก

เทียบกัรถยุโรปเมื่อใช้ได้ 10 ปีต่างกันลิบลับเลยครับ :D


ก็เทคโนโลยีมันก็ต่ำกว่า ออฟชั่นก็น้อยกว่า
แล้วมันจะเอาอะไรมาจุกจิกล่ะครับ ในเมื่อมีของให้เสียน้อยเหลือเกิน
ถ้าชอบแนวนี้ผมแนะนำพวกรถจิ๊ปทหารเลยครับ
ไม่มีแอร์ ไม่มีวิทยุ กระจกไฟฟ้าไม่มี รับรองไม่จุกจิก  ;D

ออฟไลน์ panerai

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,351
เพื่อนผมก็ทำงานที่โรงงานประกอบโตต้า(รถเก๋ง) ยังบอกเลยว่าคนในโตต้า ที่เป็น พนง. คนไทยน่ะรู้ดีว่ารถตัวเองตอนนี้option ห่วยมากๆ และอยากจะให้มีการอนุมัติเพื่อปรับ option ให้สู้คู่แข่งได้ใจจะขาด
  แต่ประเด็นที่ทำไม่ได้ซะที คือ ผู้บริหารญี่ปุ่นไม่ยอมสักทีเพื่อนผมยังบ่นๆเลยว่า ผู้บริหารญี่ปุ่นวันๆคงไม่ทำอะไร สงสัยนั่งรูดกระ...รับเงินไปวันๆ :o :o 8)

 อีกอย่างที่คนของ TMTบอกเองว่า ที่ altis ยอดไม่บูมอย่างที่ควรเป็น เพราะเขารู้ว่าผู้บริโภครอดู civic MC อันเนื่องมาจาก City ที่จัดเต็มสุดๆเพราะฉะนั้นหลายคนจะรอดู Civic ว่าจะจัดเต็มขนาดไหน แล้วมาสด้า3 2014 ก็หน้าตาสวย หลายตนก็เลือกที่จะรอ


ออฟไลน์ paulmoderndog

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,783
    • อีเมล์
เคยได้ยินฝรั่งพูดมั้ยว่า Be careful of what you wish for?

นั่นแหละ..ทุกวันนี้เราในฐานะผู้บริโภคเรียกร้องอะไรกัน บริษัทรถยนต์ก็จะหาทางตอบ โดยที่เฉือนเนื้อตัวเองน้อยที่สุด

ขอ Push Start, Smartkey, ขอมูนรูฟ ขอนั่นขอนี้ แต่ขอราคาถูกๆ ยิ่งถูกยิ่งดี
ก็จำกันไว้ว่า "ไม่มีทางที่จะเทน้ำจากขวด1ลิตรใส่แก้ว 500 ซี.ซี.ให้เกลี้ยงขวดโดยไม่ล้น"

และที่สำคัญคือเมื่อมีคนทำนำไปคนนึง แล้วคนอื่นคิดจะตามกันหมด เพราะถ้าไม่ตาม ขายไม่ได้
สุดท้ายเราจะได้อะไร? นอกจากสงครามแห่งการแอบลดต้นทุนตามซอกหลืบและประเคนออพชั่น

กดlike ให้ครับ แต่สิ่งหนึ่งคือของบางอย่างราคามันลงนะครับเวลาผลิตมากขึ้น เหมือนusbdriveสิบปีที่แล้ว 600บาทได้256mb แต่ตอนนี้ได้มากกว่า1gb
อนาคตpush start smartkeyคงจะถูกกว่ากุญแจธรรมดา หลอดledจะถูกกว่าหลอดธรรมดา,ส่วนmoonroof ถ้าผลิตมากอาจไม่เกิน1หมื่น หรือ เปลี่ยนจากcd changer เป็นmoonroof ก็ได้นะครับ อนาคตเบาะไฟฟ้าอาจถูกกว่าปรับมือ หรืออาจไม่นิยมเบาะหนังแต่นิยมเบาะผ้า ก็เอาไปเพิ่มส่วนอื่นก้ได้นิครับ ;D

ออฟไลน์ Anvers30

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,372
    • อีเมล์
บางสิ่งกำลังมาในทางที่ดี มีการพัฒนาขึ้น นั่นก็คือ Option ระบบความปลอดภัย
ที่หลายค่ายเริ่มหันมาสนใจมากขึ้น นั่นคือสิ่งที่ดี ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค

แต่บางสิ่งที่เป็นภัยเงียบ ก็แทรกซึมเข้ามาเหมือนกัน นั่นก็คือ การลดต้นทุน
ลดคุณภาพวัสดุในส่วนที่เรามองไม่เห็น หรือไม่สามารถตรวจสอบได้
ด้วยการมองหรือสัมผัส เช่น สายไฟ เหล็ก จุดน็อตยึด ยางขอบประตู
ความทนทานของชิ้นส่วน ที่นับวันจะสั้นลงๆ

เพราะผมเริ่มสังเกตเห็นอะไรหลายๆอย่าง จากรถที่เปิดตัวช่วงหลังมานี้
ที่ประเคนอัด option แพรวพราว ดูจะคุ้มเกินราคา
แต่....อีก 4-5ปี ต่อไปเราอาจจะเริ่มเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น
ว่ารถรุ่นใหม่ๆ มันไม่ทน เหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว
Life-Cycle จาก 5-7 ปีที่ยังไม่ต้องซ่อมอะไรมาก
อาจจะเหลือ 4-5ปี ก็ต้องเริ่มซ่อมกันบ่อยแล้ว

+1 ครับ

ผมก็หวั่นใจเหมือนกันว่ารถรุ่นใหม่ๆ ที่ประเคนออปชั่นมาเยอะๆ เริ่มจะเห็นการลดต้นทุน ทั้งจุดที่เราสังเกตได้ กับจุดที่เราเห็นได้ยาก

อย่าง L33 วัสดุที่ใช้มันดรอปลงจาก J32 อย่างเห็นได้ชัด แต่เค้าชดเชยโดยอัดอุปกรณ์ความปลอดภัยมาแทน เรียกว่าได้อย่าง เสียอย่าง ส่วนความทนทาน เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง

โฟกัส ดีเฟคกันตรึม ถึงระยะหลังจะดีขึ้นบ้าง แต่มันก็มาจากลดต้นทุน เพื่ออัดออปชั่น ใช่หรือไม่? ผู้ผลิตน่าจะทราบดีกว่าใคร

ซิตี้ 2014 วัสดุดูดีขึ้น ออปชั่นละลานตา แต่เข็มขัดปรับระดับได้ก็หายไปหนึ่ง แล้วจะมีอะไรมากกว่านี้รึเปล่า คอนโซลใช้ไปนานๆ จะเหนียวเหมือนคัมรี่มั๊ย ปัญหาแบบที่เกิดใน fd จะส่งต่อมาซิตี้ด้วยรึเปล่า ต้องติดตามกันต่อไป

ออฟไลน์ soklong

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 197
จะเป็นผู้นำแห่งวงการรถยนต์ มันต้องนำเกือบทุกๆด้านสิครับ
Honda เป็นแค่รถกลางๆ ที่ใส่ Option เยอะก็แค่นั้น ยังตามหลายๆค่ายอยู่เลย
รถหลายๆเค้ามีความเป็นผู้ในตัวของเค้าเองอยู่แล้ว
เช่น..nissan ผู้นำด้าน ดูหรู....mazda ผู้นำด้าน design สปอร์ต....Ford อาจเป็นนำด้านการขับขี่
ดูอย่าง
Teana กำลังเน้นไปทางสปอร์ต ขึ้น เลยมันทำให้ผมคิดว่า J32 ดีกว่า
mazda 3 ที่กำลังจะมา ที่ Optionที่ดูยังงงๆ..เพราะเชื่อในความสปอร์ตของเค้าและผมเชื่อว่ามันขายได้
ความคิดผมทุกค่ายมีเป็นผู้นำเท่าๆกัน อยู่ที่ด้านไหนมากว่า อยู่ที่ไครจะอัพสเตตัสด้านไหนมากกว่า ทุกๆค่ายมีแพ้ทางกันหมด
และที่สำคัญอยู่ที่คุณจะสนใจด้านไหนในตัวรถมากกว่า

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
ผมว่าเอาคันนี้มาขายแข่งกับ vigo ให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลยดีกว่าครับ วัดกันหมัดต่อหมัด



คันนี้มาจริงผมซื้อ และมันน่าจะขายดีครับ
ไอ้เจ้านี้มันเบนซิล V6 แถมโมโนค้อกด้วยนะครับ จะเวิร์คหรอ - -"
H.

ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,559
+ 1 เห็นด้วยครับ

อย่าง Ford หรือ ยี่ห้ออื่นคุยจริง option ดีจริง แต่มาแค่ตัวท๊อป แต่สักพักก็ตัดออก

อย่างที่ผมชื่นชม Honda นะ
- Brio, Jazz, City เป็นรถรุ่นแรกในราคาไม่เกือน 7 แสน ที่ใส่ Airbag ทุกเกรด ตั้งแต่รุ่นล่างนะครับ (ห่วงความปลอดภัยทุกคน ถึงแม้จะซื้อรุ่นล่าง สิ่งนี้ผมไม่เคยเจอในรถตลาดรุ่นล่างๆ แม้แต่ ford)
- City มี VSA ทุกเกรด (ทั้งที่จริงๆ ใส่แค่รุ่นท๊อบ เหมือน Fiesta ก็ได้)
- E85 เป็นเจ้าที่ 2,3 ก็จริง แต่ก็พยายามใส่ทุกรุ่นเท่าที่จะใส่ได้ ต้นทุนจริงๆ สำหรับ E85 ก็ไม่ถูกนะครับ
- อาจจะมีการลดต้นทุนบ้าง ตามสมัย แต่ก็ไม่เคยไปลดเรื่องความปลอดภัย เหมือน Eco car เจ้าอื่นๆ ที่
              พวงมาลัยยุบตัวไม่ได้ถ้าชน หลังคาไม่มีคาน พื้นรถไม่มีการเสริมความแข็งแรง เหมือน Eco car เจ้าแรกๆ
              สายไฟเปลื่อยในห้องโดยสารเหมือนรถที่เลียนแบบมินิ
              สายไฟเปลื่อยในห้องเครื่องเหมือน รถ Eco car ที่บอกประหยัด แรงที่สุด สัก 4-5 ปี สายไฟคงกรอบหมดแล้ว

แต่คงไม่มีเจ้าไหนที่ดีทุกเรื่อง บางเรื่องก็ยังมีการจัดการผิดๆ เหมือนที่ท่านบนๆ ว่ามา


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 11, 2014, 18:05:08 โดย mothsan »

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,999
ผมชอบการออกแบบของ Honda เกือบทุกรุ่นครับ ยกเว้นตัว Eco สองรุ่นนั้นครับ และก็ City รุ่นก่อนตัวปัจจุบัน ครับ :)

ออฟไลน์ kimhalua

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 267
    • อีเมล์
ผู้นำด้านมาตรฐานคงเป็นฟอร์ดครับ และถ้าสังเกตุจริงๆ ผมว่าตอนนี้ฮอนด้าไม่ได้ทำรถมาแข่งกับโตโยต้า แต่น่าจะทำมาแข่งกับฟอร์ดแบบอ้อมๆ เพราะ ผมสังเกตุมาตลอดว่า รถยนฮอนด้าในปัจจุบันมีกลิ่นอายของ วอลโว่อยู่พอสมควร ดูจากออปชั่นของแอคคอร์ดเป็นหลัก แล้วมันเหมอนฟอร์ดตรงไหนหล่ะ ก้ตรงที่รับเทคโนโยลีมาจากวอลโว่ไง

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
อย่างน้อยๆ สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ ความไม่จุกจิก

เทียบกัรถยุโรปเมื่อใช้ได้ 10 ปีต่างกันลิบลับเลยครับ :D


ก็เทคโนโลยีมันก็ต่ำกว่า ออฟชั่นก็น้อยกว่า
แล้วมันจะเอาอะไรมาจุกจิกล่ะครับ ในเมื่อมีของให้เสียน้อยเหลือเกิน
ถ้าชอบแนวนี้ผมแนะนำพวกรถจิ๊ปทหารเลยครับ
ไม่มีแอร์ ไม่มีวิทยุ กระจกไฟฟ้าไม่มี รับรองไม่จุกจิก  ;D


 :D :D :D คับ

แต่ไม่เอาดีกว่า ชอบขับมี power คับ 555

ออฟไลน์ ชายโอ๊ต

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,034
อารมณ์เดียวกันเลยครับ
อยากให้ฮอนด้ารักษามาตรฐานแบบนี้ตลอดไป
ส่วนโตโยต้าก็ืเฮ้อๆ

จากคนมีรถทั้ง 2 ค่าย
"ศัตรูแห่งความก้าวหน้า คือเวลาที่เสียไป"

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,636
    • อีเมล์
บางสิ่งกำลังมาในทางที่ดี มีการพัฒนาขึ้น นั่นก็คือ Option ระบบความปลอดภัย
ที่หลายค่ายเริ่มหันมาสนใจมากขึ้น นั่นคือสิ่งที่ดี ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค

แต่บางสิ่งที่เป็นภัยเงียบ ก็แทรกซึมเข้ามาเหมือนกัน นั่นก็คือ การลดต้นทุน
ลดคุณภาพวัสดุในส่วนที่เรามองไม่เห็น หรือไม่สามารถตรวจสอบได้
ด้วยการมองหรือสัมผัส เช่น สายไฟ เหล็ก จุดน็อตยึด ยางขอบประตู
ความทนทานของชิ้นส่วน ที่นับวันจะสั้นลงๆ

เพราะผมเริ่มสังเกตเห็นอะไรหลายๆอย่าง จากรถที่เปิดตัวช่วงหลังมานี้
ที่ประเคนอัด option แพรวพราว ดูจะคุ้มเกินราคา
แต่....อีก 4-5ปี ต่อไปเราอาจจะเริ่มเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น
ว่ารถรุ่นใหม่ๆ มันไม่ทน เหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว
Life-Cycle จาก 5-7 ปีที่ยังไม่ต้องซ่อมอะไรมาก
อาจจะเหลือ 4-5ปี ก็ต้องเริ่มซ่อมกันบ่อยแล้ว

ผมถูกใจความเห็นท่านมากเลยครับ ใช้ไปถึงวันที่ท่านต้องซ่อมเพราะจะขายก็ยังใช้ไม่คุ้ม จะซ่อมก็ไม่รู้จะจบมั๊ย เพราะอะไรๆ มันก็มาเสียเกือบจะพร้อมๆกันหมด

แถมอะไหล่ไม่ว่าจะจาก 0 ดันใช้แล้วไม่ค่อยทน และมีอายุการใช้งานอย่างที่ควรจะเป็นจนบางครั้ง อดคิดไม่ได้ว่า มันเหมือนกันหรือเปล่า (ฟระ)

ออฟไลน์ Sappe!

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,976
ถ้าเรื่องอัดอุปกรณ์เสริมและความปลอดภัยต่างๆ ผมว่า Ford นะ แต่ไม่ดังเท่า Honda เลยไม่ค่อยมีใครเล่นด้วย ' 'a

+1 ครับ
'02 Ford Ranger 2.5 Turbo XLT
'06 Ford Ranger 3.0 TDCi XLT
'10 Ford Focus 2.0 TDCi Ghia
'11 Ford Fiesta 1.6 Sport
'14 Ford EcoSport 1.5 Titanium

ออฟไลน์ chatier

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 56
ถ้าแค่อัดออปชั่น ก็สามารถเป็นผู้นำวงการรถยนต์ได้
อย่างนี้ยี่ห้อไหนอยากจะเป็นผู้นำ ก็เป็นได้ทันทีเลยสิครับไม่ยาก
ปี ๆ นึงอาจจะมีตำแหน่งผู้นำเปลี่ยนทุก ๆ ควอเตอร์ก็ได้ :P

จากประสบการณ์ส่วนตัว ปัญหาหลัก ๆ ของฮอนด้าที่เห็นจนชินตา
จากโมเดลที่ผ่าน ๆ มานอกจากเรื่อง QC แล้ว เห็นจะเป็นเรื่องอายุ
การใช้งานของช่วงล่างที่เสื่อมง่ายมาก
ใครใช้รถนานหน่อยจะเห็นว่าช่วงล่างหลวมโคล้ง ๆ เคล้ง ๆ
ต่างจากตอนซื้อใหม่ ๆ มาก จริงอยู่ตอนเป็นป้ายแดงอาจจะ
ดูแน่นหนึบ ตึ้บ เกาะ แต่พอเก่าหน่อยล่ะก็...
อีกอันคือเรื่องระบบไฟ รวนบ่อยมาก ทำแบตเสื่อมก็เร็ว ไม่รู้ว่าโมเดล
ปีใหม่ ๆ นี้จะเปลี่ยนไปบ้างรึยัง

ต้นทุนในการผลิตรถยนต์ไม่ได้มีแค่ออปชั่นที่เห็นด้วยตาเปล่า
การเลื่อก supplier ที่ดี ใช้ material ที่ทน และมีมาตรฐานในการ
ทดสอบที่ทรหด ล้วนต้องใช้ต้นทุนทั้งนั้น

อย่างที่คุณแพนว่าครับ ในโลกนี้ไม่มีอะไรฟรี อะไรได้มา ก็ต้องมีเสียไป
แค่เราไม่รู้กันเท่านั้นเอง..... :)