User's review:Honda Civic 1.8S AT///หมูน้อย FD งอแงบ้างอะไรบ้างแต่โคตรรักเอ็งเลย

[keng.]

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

[Racing Revolution]

Thank you for your mini review.O.K.Great!

[Whatman]

ขอบคุณครับ

[pladaek]

ขอบคุณครับ สำหรับรีวิว

ผมเห็นหลายๆคนบอกว่า ถ้าเทียบช่วงล่าง หลายคนมักเอาซีวิคไว้หลังๆ (เทียบกะ EX Mazda3 Altis Tiida Focus)

ผมเคยขับซิวิค ตัว 1.8 E MC ช่วง 160-170 ผมว่ามันนิ่งมากเลยนะครับ ประทับใจมากๆ (เพราะรุ่นอื่นผมยังม่ะเคยขับอ่ะ เคยแต่Altis 555+)

เครื่อง 1.8 กระชากดีมากๆ 

ถ้ารถใหม่ผมคันต่อไป ผมเอาสีนี้แหล่ะ ชอบมากๆ

[MyName]

ขอบคุณคับสำหรับ Review
เขียนได้ดี กระชับ ดีคับ รูปก็เวิร์คจิงๆ

ส่วนเรื่องรถก็มีญาติใช้เหมือนกันคับ 1.8 S MT เทาโพลิช เหมือนกับ จขกท.
แต่ยางที่ให้มาของเขาเป็น MXV8 มาตั้งแต่รับรถเลยคับ (ออกรถต้น มิ.ย. 52)
ตอนนี้ยังไม่ถึง 10,000 โล และพึ่งใส่แค่ไฟตัดหมอกของ 0 อย่างเดียวคับ

[SignifeR]

ขอบคุณครับน้องตั้ม

เอาข่าวดีมาแจ้งก่อน....ผมเจอเสียงต๊อกๆแล้วหล่ะ 5 5 5 ตอนลองรถก็ว่าแน่แล้วนะคือฟังเสียงเครื่องเดินเบาก็เงียบสนิท
เปิดแอร์ปิดแอร์ไม่ดัง เพิ่งมารู้ว่ามันดังเวลาใส่เกียร์ D เวรกรรม ดังตามคาดครับ ต๊อก...ๆๆๆๆๆๆ เวลาเริ่มออกตัว แต่ต้องปิดแอร์กับเงียบๆ
ถึงจะได้ยินนะ ถ้าเปิดแอร์ เปิดเพลงไม่ได้ยินแน่นอน แต่....เดี๋ยวหลังปีใหม่คงทำเครมที่ ศูนย์ปทุมวันครับ มีพี่สนิทๆ อยู่ที่นั่น

หลังจากที่ขับๆขี่ๆ กันมา ฟิลลิ่งของรถ ถ้าเทียบกับทีด้านะ ผมอ่านกระทู้เก่าๆมีคนอยากให้เทียบกับ Tiida 1.8 เหลือเกิน
แต่ผมคงเทียบให้ไม่ได้เนื่องจากเคยขับ 1.8 แค่ช่วงสั้นๆ แต่ถ้าเทียบกับ 1.6 ผมเทียบให้ได้แน่นอนเพราะขับมันมาสองปี

Civic 1.8S VS Tiida 1.6S ถ้าถามใจผมนะครับ ทีด้าขับสบายกว่าเยอะ นั่งสบายกว่า ทัศนวิสัยดีกว่า อัตราเร่งของ 1.6S ด้อยกว่าหน่อย
แต่การตอบสนองของคันเร่งไฟฟ้าในทีด้า ไวกว่าซีวิคมากๆ ให้ฟิลลิ่งใกล้เีคียงกับคันเร่งสายครับ ส่วนซีวิคผมว่าช้าไปหน่อย ถ้าตั้งให้ไวได้จะดีมากๆ

ภายใน ซีวิคเตี้ยกว่า เฮดรูมเตี้ยกว่า แต่ภายในในด้านความกว้างผมว่ากว้างกว่านิดหน่อย นิดหน่อยจริงๆตามความรู้สึกและมีการนั่งเต็มพื้นที่
ถามจากคนนั่งหลัง ก็บอกเสียงเดียวกันว่า กว้างกว่า ทำไม? เพราะซีวิคพื้นที่วางเท้ามันเรียบหมด แต่ทีด้า มีโค้งตรงกลาง(หลบท่อไอเสียนั่นเอง)
เบาะของทีด้านั่งสบายกว่าในด้านหน้า แต่ซีวิคนั่งสบายกว่าในด้านหลัง

เครื่องยนต์แน่นอนเทียบกันไ่ม่ได้เพราะความจุต่างกัน 200 cc. แต่ ทีด้า 1.6 ถ้าเป็นในเมืองผมว่าคล่องตัวกว่า....และเจ้าซีวิค 1.8 ถ้าต้องใช้ทางด่วนบ่อยๆ ที่อัตรเร่งเรงหนึ่งๆ ไปได้ดีกว่าแน่นอน เมื่อเทคเปิดจะตอนสองทุ่มหรือ 4000 รอบก็ตาม....ซีวิคจะไปแบบลั่นทุ่งและ ทีด้า 1.6 ไม่สามารถต่อกรได้ เว้นเอารุ่นพี่ 1.8 มาท้าชิง อันนี้พอฟัดนะ แต่ก็คิดว่ายังกินฮอนด้าไม่ได้อยู่ดี (ดูจากแรงม้าแรงบิด บนไดโน...) ฮอนด้ามีมาให้มากกว่า 10 กว่าตัวในรอบเครื่องเดียวกันและไดโนตัวเดียวกัน!!!

ช่วงล่าง ทีด้าถ้าไม่ทำไรกับมันเลย ผมว่ากระด้างกว่าในตัว E10 /E20 นะครับ ส่วนตัวไมเนอร์เชนของทีด้าได้ปรับปรุงให้นิ่มนวลขึ้นน่าจะสูสีกับซีวิค แต่เท่าที่ขับใช้งานจริงๆ ซีวิคได้เปรียบที่ด้านหลังเป็นอิสระ คนนั่งหลังจะสบายตัวกว่าทีด้าครับ ในส่วนการคอนโทรลรถ ถ้าทางตรงยาวๆ ไหลๆ ซีวิคกินแน่นอน
แต่ถ้าในโค้ง สู้ทีด้าไม่ได้ชัวส์ แฮนริ่งพวงมาลัยซีวิค กระชับ ฉับไว กว่าทีด้า แฮนริ่งดีกว่านะ

การประกอบ ผมว่าทีด้าดีกว่าแม้จะเรียบๆ บางคนบอกว่าเชย แต่วัสดุดีกว่านะ เนี๊ยบกว่า ซีวิคผมว่าไม่เท่าไหร่่อ่ะ ยังมีเกทให้เห็นบ้าง และวัสดุสู้ไม่ได้แม้จะเอารุ่นต่ำสุดมาเทียบกันก็ตามที (แจ๊สไม่ต้องพูดถึง....)

[SignifeR]

เรื่องช่วงล่างนิดนึงนะ ซีวิคแข็งที่ความเร็วต่ำ และนิ่มที่ความเร็วสูง ถ้ามันสลับกันได้จะดีมากเลย....
คือเหมือนเซ็ทช่วงล่างมาแข็งนะ วิ่งในซอย ทางขรุขระเนี่ยมันออกอาการดีดๆ ที่พวงมาลัย (สงสัยยางห่วยด้วย)
แต่พอลอย จะเริ่มนิ่ม แต่ก็ดี ถนนโลกพระจันทร์แบบเมืองไทย ถ้าเจอช่วงล่างแข็งๆ ผมก็คงไปไม่เป็นเหมือนกัน

ในคำเสนอแนะของผม ผมแนะนำว่าให้ใส่ตัวค้ำยันกันชนหน้า และหลังเพิ่ม (เท่าที่ทราบเพิ่มอีกหน้า 10kg. หลัง 10Kg.)
นอกจากได้ความปลอดภัยมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้รถทั้งคันอีก 20 โล ผมว่าซีวิคควรเพิ่มน้ำหนักรถ
เพื่อให้ช่วงล่างมันแน่นกว่าเดิม จากความรู้สึกของคนที่ขับ Saab มาก่อนนะครับ ผมว่ารถมันดีแต่เบาไปหน่อย

ถ้ากระจกหนาขึ้นสักนิด เหล็กหนาขึ้นสักหน่อย การประกอบ QC ดีๆ ไม่ให้หลุด บุตัวเก็บเสียงดีๆ ไม่ลดคอร์สให้มากเหมือนปัจจุบัน
ฮอนด้านี่น่าใช้กว่ายี่ห้ออื่นนะ มันเสียก็อีตรงนี้แหละ.....

บทสรุปสำหรับเจ้า ซีวิค FD ผมว่าเป็นรถมือสองที่คุ้มค่า คุ้มราคา มากกว่าจะตอบกว่าเป็นรถที่ดีที่สุดนะครับ
เหมาะกับวัยรุ่นอย่างผมเป็นอย่างมาก ขับแล้วเท่ห์ ดูเป็นเด็กกว่าหน้าตา 5 5 5 
ของเล่นเยอะมาก อะไหล่ถูก(ยิ่งมือสองถูกมากๆ) เว้น....ของ Type R ที่ขายกันเว่อร์ๆ
ศูนย์บริการเยอะดี(แต่ห่วยหรือเปล่าไม่ทราบ ต้องเจอกันหน่อย)

ถ้าปรับปรุงเรื่องบางเรื่องที่กล่าวมาข้างต้นได้ จะเป็นรถที่ดีกว่านี้มากๆ

[gugnoidea]

ผมเห็นด้วยกับกระทู้บนนะครับเรื่อง

เหล็กหนาขึ้นสักหน่อย การประกอบ QC ดีๆ ไม่ให้หลุด บุตัวเก็บเสียงดีๆ ไม่ลดคอร์สให้มากเหมือนปัจจุบัน
ฮอนด้านี่น่าใช้กว่ายี่ห้ออื่นนะ มันเสียก็อีตรงนี้แหละ.....

เพราะผมก็ใช้อยู่เหมือนกันอ่ะ แต่โดยรวมผมก็พอใจนะครับ Mc 2.0EL

[=TUM=]

อ้าว เจอเสียงต๊อกๆๆๆ แล้วหรอครับพี่อาท เซ็งเลย ถ้ามันดังไม่มากนักศูนย์อาจจะบ่ายเบี่ยงได้นะครับ และถ้ารถวิ่งมาเกิน 20,000 โลแล้วเค้าจะไม่เปลี่ยนเครื่องทั้งเครื่องให้ แต่จะผ่าเครื่องให้แทน ซึ่งปัญหามันอยู่ที่ว่า ช่างของศูนย์นั้นมีความชำนาญ มีฝีมือขนาดไหน บางคนในคลับผ่าออกมาปัญหาก็มีครับ บางที่ซีนเครี่องชนิดที่ว่า เอารถเข้าไปตีราคาที่เต้นท์ พอเปิดเครื่องดูเต้นท์ส่ายหน้าเลย ทำให้หลายคนที่ไม่ได้รับการเปลี่ยนเครื่อง เขาก็จะยอมทนให้ไปซึ่งหลายคนใช้ แต่เป็นผมของที่มันมีเสียงไม่ปกติใครจะอยากใช้ละครับ เครื่องผมที่เปลี่ยนใหม่นี้ ถามว่าเสียงหายไหม คือโดยรวมไม่ได้ยินแล้ว แต่ถ้าหากหักพวงมาลัยจนสุดแล้วเร่งเครื่องเบาๆขึ้นที่จอดที่บ้านมันก็ยังมีให้ได้ยินอยู่บ้าง แต่ผมไม่คิดมากแล้วละครับ เพราะรถเพื่อนผมมันดังมากกว่าผมแต่ใช้ไปแล้วอีกไม่กี่พันโลก็แสนโลแล้วเครื่องมันก็ยังไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งถ้าคิดแบบแง่ร้ายคือมันต้องเสียแน่ๆผมก็คิดว่าต้องมี 7ปีขึ้นไป ทางแก้ของผมคือ K20 ครับ 555+ ถึงตอนนั้นหากได้ไปเมืองนอกคงขายก่อน แต่คิดว่า ไม่มีปัญหาแล้วละครับ

[SignifeR]

อ้าว เจอเสียงต๊อกๆๆๆ แล้วหรอครับพี่อาท เซ็งเลย ถ้ามันดังไม่มากนักศูนย์อาจจะบ่ายเบี่ยงได้นะครับ และถ้ารถวิ่งมาเกิน 20,000 โลแล้วเค้าจะไม่เปลี่ยนเครื่องทั้งเครื่องให้ แต่จะผ่าเครื่องให้แทน ซึ่งปัญหามันอยู่ที่ว่า ช่างของศูนย์นั้นมีความชำนาญ มีฝีมือขนาดไหน บางคนในคลับผ่าออกมาปัญหาก็มีครับ บางที่ซีนเครี่องชนิดที่ว่า เอารถเข้าไปตีราคาที่เต้นท์ พอเปิดเครื่องดูเต้นท์ส่ายหน้าเลย ทำให้หลายคนที่ไม่ได้รับการเปลี่ยนเครื่อง เขาก็จะยอมทนให้ไปซึ่งหลายคนใช้ แต่เป็นผมของที่มันมีเสียงไม่ปกติใครจะอยากใช้ละครับ เครื่องผมที่เปลี่ยนใหม่นี้ ถามว่าเสียงหายไหม คือโดยรวมไม่ได้ยินแล้ว แต่ถ้าหากหักพวงมาลัยจนสุดแล้วเร่งเครื่องเบาๆขึ้นที่จอดที่บ้านมันก็ยังมีให้ได้ยินอยู่บ้าง แต่ผมไม่คิดมากแล้วละครับ เพราะรถเพื่อนผมมันดังมากกว่าผมแต่ใช้ไปแล้วอีกไม่กี่พันโลก็แสนโลแล้วเครื่องมันก็ยังไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งถ้าคิดแบบแง่ร้ายคือมันต้องเสียแน่ๆผมก็คิดว่าต้องมี 7ปีขึ้นไป ทางแก้ของผมคือ K20 ครับ 555+ ถึงตอนนั้นหากได้ไปเมืองนอกคงขายก่อน แต่คิดว่า ไม่มีปัญหาแล้วละครับ

จริงๆ ผมอยากให้ผ่าเครื่องมากกว่าเปลี่ยนอยู่แล้วนะครับ เพราะต้องการเช็คอัพชิ้นส่วนต่างๆ และบาลานซ์ใหม่ไปในตัว เรื่องบ่ายเบี่ยง หรือประกอบห่วย
ผมคิดว่าคงไม่มีเคทนั้น เพราะพี่ที่ผมสนิทด้วย เป็นเพื่อนกับหัวหน้าศูนย์ฮอนด้าปทุมวัน....แต่ถ้าไม่เครมจริงๆ ผมจะทำรถที่ CM (พี่โก้) แทนครับ ใกล้บ้านด้วย
ไหนๆ เปิดเครื่องแ้ล้วก็โมเพิ่มกันไปเลย..ฮิฮิ จะเอาไปเครมแอร์โฟล กับลงโปรแกรมกล่องใหม่ด้วยครับ

ผมว่าเสียงต๊อกๆ นี่มันเบามากๆเลยนะ ถ้าไม่ตั้งใจฟังชนิดที่ว่าจับผิดกันจริงๆแทบมะได้ยินเลย แต่ไหนๆก็มีช่องให้เราใช้ ก็ขอได้ใช้สักหน่อยน่ะครับ ดีเลวอย่างไรก็ว่ากันอีก เพราะรถคันนี้อีก หกเดือนก็หมดประกันศูนย์แล้วครับ ขอลองก่อน

[Akeem-CLII]

ใช้ทั้ง city และ jazz รุ่นปัจจุบันอยู่ ยังเสียว ต๊อก ๆ เลยอะครับ

honda น่าจะชี้แจงได้แล้วครับ + รับเคลม ซ่อมอย่างเป็นทางการด้วย

เสื่อมศรัทธา ความมั่นใจ และความภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ honda อะครับ

[Lovely_Car]

ใช้อยู่เหมือนกันครับ แต่ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย

นอกจากโช้ครั่วตอนออกรถแรกๆครับ

ใช้ดีมากๆครับ

[vellcap]

ขอบคุณครับ

[kritphakhin]

อดีตหมูขาวของผมครับ

[nizaary]

คนหล่อ ทำอะไรก็หล่อ

โอ้วซีวิค

[flyboy]

เพิ่งได้มาอ่าน review สรุปว่าแต่ละคันก็มีปัญหาเรื่องเกียร์หอนใช่มัียครับ  ของผมทำเรื่องเคลมเปลี่ยนลูกใหม่ไปเมื่อพฤศจิกาปีที่แล้ว อาการคือเริ่มหอนที่ 60 แล้วไปดังสุดๆที่ 78 km/hr ใช้เวลาตั้งแต่เดินเรื่องจนเกียร์ลูกใหม่มา ประมาณเดือนนึง เปลี่ยนเกียร์อีกสองวัน ทำเรื่องที่เอกอินทราเลียบด่วน รองผู้จัดการเป็นคนรับเรื่อง แล้วบริการดีมากครับ

ขับออกจากศูนย์ปุ๊บ พอความเร็วถึง 60 เริ่มมีเสียงวี๊ดเบาๆ  เซ็งโคตร แต่ก็ช่างมัน ใช้ไปซักสี่เดือน ไปเข้าศูนย์รามอินทราจะขอเคลมอีกรอบ เค้าบอกว่า ไม่เคยเจอเคสนี้เลย ต้องทิ้งรถไว้วันนึง พอถึงเวลารับรถ ก็แจ้งมาว่า ทางฮอนด้าบอกเป็นเรื่องปกติ โดยทางหัวหน้าช่างได้เอารถทดสอบ แล้วมีรถลูกค้าที่ต้องวิ่งทดลองมาฟังเสียงเกียร์ ก็บอกว่า หอนทั้งสองคันเลย ดังกว่ารถผมอีก เลยไม่ได้เปลี่ยน

ทีแรกกะว่าจะเอาไปเคลมที่เอกอินทราอีกรอบ แต่ถ้าส่วนใหญ่เป็นกันหมด แล้วไม่ได้ทำให้การใช้งานทั่วไปเป็นปัญหา ผมก็คงอยู่เฉยๆดีกว่า แต่รักรถคันนี้มากเลย ขับสนุก ประหยัดใช้ได้ เกาะถนนก็ดี ผมใช้รุ่น 1.8 E MC ปลายปี 09 เปลี่ยนไปใช้ล้อของ 2.0 ลาย EP3 ยาง Michelin PS3 รอดเสียงต๊อกๆ กับไม่มีปัญหาเรื่องกระจกตกรางแล้วก็ยางรองแท่นเครื่อง มีแค่เกียร์นี่แหละครับ 

[=TUM=]

เสียงวีดๆผมเป็นจนตอนนี้ 4 หมื่นโลแล้วครับ มันก็ยังไม่มีปัญหาอะไรนะครับ เปลี่ยนเกียร์นุ่มปกติดี ผมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 10000 กิโลด้วยครับ  เอาเป็นว่ารถคันนี้รักษาสุดๆละ

-น้ำมันเครื่องใช้สังเคราะห์ 100% ใช้ยี้ห้อที่พวกขาซิ่งบอกว่าดีๆอะครับ เบอร์ 30 เปลี่ยนก่อนกำหนดหมื่นโลทุกครั้ง
-น้ำมันเกียร์เปลี่ยนทุก 10,000 กิโล
-น้ำมันเบรคเปลี่ยนทุก 30,000 กิโล
-ยางเปลี่ยนทุก 30,000 กิโล สลับยาง ถ่วงล้อ ตั้งศูนย์ทุก 10,000 กิโล
-เคลือบสี chemical guy blacklight ทุกอาทิตย์ clear ผิวด้วยเบอร์ 408 ทุกเดือน
-ไม่เคยจอดรถตากแดด ยกเว้นตอนรถติด ไม่เคยจอดซ้อนคัน ดังนั้นไม่ต้องกลัวใครจะมาเข็นชน ไม่มีลักยิ้ม
-สีเดิมทั้งคัน
-ผ้าเบรคหน้า national กล่องดำ เบรคดีกว่าเดิมมากมาย
-เปิดฝากระโปรงระบายความร้อนเครื่องทุกครั้งไม่ว่าจะขับไกลหรือใกล้มา


ใครสนใจเอามา 700,000 ครับต่อได้นิดหน่อย