ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุใด Camry HV วิ่งความเร็วคงที่ ใช้โซฮอล 91 ประหยัดกว่า โซฮอล 95 ครับ?  (อ่าน 3640 ครั้ง)

ออฟไลน์ Torque

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 248
เท่าที่ลองใช้สลับดูหลายถัง
สังเกตุดูเหมือนว่าตอนที่่ใช้
โซฮอล 91 เหมือนว่ามันจะประหยัดกว่า โซฮอล 95

ในช่วงที่วิ่งความเร็วนิ่งๆคงที่ 100-110 Km/h
ผมสังเกตกราฟอัตราสิ้นเปลือง บนเส้นมอเตอร์เวย์
วิ่งโดยเปิด ECO ไม่ใช้ Cruise  (แบตเต็ม  6 ขีดตลอด)

ถ้าเป็นโซฮอล 91  โดยมากแล้วจะเฉลี่ยอยู่ราวๆ 19-20 Km/L
กราฟที่ได้ส่วนมากจะเป็นแบบคล้ายๆในรูปบนนี้




แต่ถ้าเติมโซฮอล 95  โดยมากแล้วจะเฉลี่ยอยู่ราวๆ 17-18 Km/L
กราฟที่ได้ส่วนมากจะเป็นแบบคล้ายๆในรูปด้านล่าง




ผมเคยคิดมาตลอดว่าโซฮอล 95 น่าจะได้ Km/L มากกว่า
ท่านใดพอทราบเหตุผลไหมครับ ?

หรือท่านที่ใช้ Camry HV หรือ Prius
เคยทดลองเปรียบเทียบกันชัดๆระหว่าง 91 กับ 95 ไหมครับ  ;D
a = F/m

ออฟไลน์ berm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 520
ของผมเติม โซฮอล์ 91 อย่างเดียว เลยเปรียบเทียบไม่ได้ แต่ขอถามเทคนิค

หน่อยครับ ผมขับยังไงก็ไม่เคยได้เกิน 17 เลยครับ ถ้าจะให้เกินต้องขับ

ไม่เกิน 80 แล้วยกให้ไฟ ev ติด 

ออฟไลน์ Torque

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 248
ของผมเติม โซฮอล์ 91 อย่างเดียว เลยเปรียบเทียบไม่ได้ แต่ขอถามเทคนิค

หน่อยครับ ผมขับยังไงก็ไม่เคยได้เกิน 17 เลยครับ ถ้าจะให้เกินต้องขับ

ไม่เกิน 80 แล้วยกให้ไฟ ev ติด 

ถ้าขับแบบรถธรรมดา
คือกดคันเร่งไต่ความเร็วถึงความเร็วที่ต้องการ
แล้วแค่เบาคันเร่งลงเล็กน้อย ให้ความเร็วมันหยุดคงที่อยู่แค่นั้น
มันก็จะกินประมาณที่ว่าครับ จะได้ราวๆ 16-17 Km/L
คล้ายกับการเปิด cruise control


เท่าที่ลองขับดู HV ถ้าต้องการจะขับความเร็วคงที่ให้ประหยัด
พอกดคันเร่งไต่ความเร็วให้ถึงความเร็วที่ต้องการแล้ว
ให้ถอนคันเร่งออกเลย แล้วก็กดคันเร่งเติมเข้าไปใหม่เบาๆ
จะรู้สึกได้เลยว่ามันมีทอร์คมาช่วยพยุงความเร็วค่าที่เราต้องการไว้ได้ตลอดยาวๆ
จนกว่าจะถอน หรือกดคันเร่งเพิ่มไต่ความเร็วสูงขึ้น   

ขึ้นสะพานเล็กๆที่มีอยู่ในเส้นมอเตอร์เวย์
แถบแสดงอัตราสิ้นเปลืองแบบ real time แทบไม่กระดิกลงเลยครับ
คล้ายกับว่ามอเตอร์มันจะพยุงความเร็วเอาไว้แบบนั้น
โดยเครื่องยนต์ไม่ได้มองเห็นโหลดเพิ่มขึ้น
a = F/m

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
ของผมเติม โซฮอล์ 91 อย่างเดียว เลยเปรียบเทียบไม่ได้ แต่ขอถามเทคนิค

หน่อยครับ ผมขับยังไงก็ไม่เคยได้เกิน 17 เลยครับ ถ้าจะให้เกินต้องขับ

ไม่เกิน 80 แล้วยกให้ไฟ ev ติด 

ถ้าขับแบบรถธรรมดา
คือกดคันเร่งไต่ความเร็วถึงความเร็วที่ต้องการ
แล้วแค่เบาคันเร่งลงเล็กน้อย ให้ความเร็วมันหยุดคงที่อยู่แค่นั้น
มันก็จะกินประมาณที่ว่าครับ จะได้ราวๆ 16-17 Km/L
คล้ายกับการเปิด cruise control


เท่าที่ลองขับดู HV ถ้าต้องการจะขับความเร็วคงที่ให้ประหยัด
พอกดคันเร่งไต่ความเร็วให้ถึงความเร็วที่ต้องการแล้ว
ให้ถอนคันเร่งออกเลย แล้วก็กดคันเร่งเติมเข้าไปใหม่เบาๆ
จะรู้สึกได้เลยว่ามันมีทอร์คมาช่วยพยุงความเร็วค่าที่เราต้องการไว้ได้ตลอดยาวๆ
จนกว่าจะถอน หรือกดคันเร่งเพิ่มไต่ความเร็วสูงขึ้น   

ขึ้นสะพานเล็กๆที่มีอยู่ในเส้นมอเตอร์เวย์
แถบแสดงอัตราสิ้นเปลืองแบบ real time แทบไม่กระดิกลงเลยครับ
คล้ายกับว่ามอเตอร์มันจะพยุงความเร็วเอาไว้แบบนั้น
โดยเครื่องยนต์ไม่ได้มองเห็นโหลดเพิ่มขึ้น


ผมขับพรีอุสก็ทำแบบนี้
เร่งขึ้นไปถึง 120 แล้วผ่อนคันเร่ง ให้มอเตอร์ทำงานอย่างเดียว
มันจะมีขีดบอก สีฟ้าคือมอเตอร์ สีเหลืองคือเครื่อง ผมเลี้ยงให้เครื่องทำงานนิ๊ดเดียว
มันจะมีแรงบิดพยุงรถให้วิ่งไปเรื่อยๆเอง แต่วิ่งไปซักพัก ความเร็วจะตกลงเรื่อยๆ ต้องเลี้ยงขึ้นไปใหม่

พรีอุสที่บ้านผม ขับประหยัดๆ ล่าสุดน้องผมทำได้ 24 โลลิตรนะครับ
โซฮอล91 ขับแบบที่ว่าอะครับ เร่งไป 120 เลี้ยงคันเร่ง ตกเหลือ 100 แล้วค่อยๆเหยียบขึ้นไปใหม่
แต่ระวังเวลารถเยอะๆจะไม่ทำแบบนี้ กลัวรบกวนเพื่อนร่วมทาง

เพื่อนพ่อผมก็ทำแบบคุณ Torque นะครับ ในแคมรี่ไฮบริด 2.4 โฉมที่แล้ว
แกก็ได้ 16-17 โลลิตร (วัดจากเติมจริงๆ)

ออฟไลน์ john

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 718
ผมว่าถ้าจะทดสอบความเร็วคงที่ เปิดครูซคอนโทรลล็อคความเร็วที่เท่ากันแล้วทดสอบดีกว่าครับ เหยียบเองบางทีความเร็วเท่ากันรอบเครื่องยังไม่เท่ากันเลย

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าเอากันตามทฤษฎี OCTANE ไม่ได้บอกค่าพลังงานนี่ครับ

และยิ่งออกเทนสูง ก็ต้องมีการเติม MTBE หรือ พวกoctane booster ลงไปมากกว่า ทำให้ค่าพลังงานตกลงไปอีก ก็ไม่แปลกที่มันจะประหยัดกว่า อย่าลืมว่าพื้นฐานน้ำมันคือตัวเดียวกัน แต่Booster ต่างกัน พวก Octane Booster มีค่าพลังงานต่ำ แต่ต้องเติมลงไปเยอะเพื่อให้ octane สูง

ในรถทั่วไป ถ้าใช้ octane ยิ่งต่ำ แต่ไม่knock ได้มันก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้วครับ แต่รถที่มี Variable timing มักจะมีผลตรงกันข้าม ไม่ใช่เพราะ พลังงานเยอะ แต่เพราะการควบคุมอัตราส่วนกำลังอัดให้ได้ประสิทธิภาพมากกว่าแค่นั้นเอง

รถที่เป็น Atkinson cycle ได้ประโยชน์ตรงที่มันมีระยะยืด มากกว่า โดยไม่ต้องอาศัยoctane สูง ๆ ทำให้ใช้พลังงานได้เต็มที่มากกว่า ก็เลยเห็นผลไปตามความเป็นจริงมากกว่าด้วย

รถสันดาปภายใน จะอาศํยoctane rating ในการทนการชิงจุด ไม่ใช่พลังงานครับ อย่าสับสน


ออฟไลน์ Torque

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 248

ผมขับพรีอุสก็ทำแบบนี้
เร่งขึ้นไปถึง 120 แล้วผ่อนคันเร่ง ให้มอเตอร์ทำงานอย่างเดียว
มันจะมีขีดบอก สีฟ้าคือมอเตอร์ สีเหลืองคือเครื่อง ผมเลี้ยงให้เครื่องทำงานนิ๊ดเดียว
มันจะมีแรงบิดพยุงรถให้วิ่งไปเรื่อยๆเอง แต่วิ่งไปซักพัก ความเร็วจะตกลงเรื่อยๆ ต้องเลี้ยงขึ้นไปใหม่

พรีอุสที่บ้านผม ขับประหยัดๆ ล่าสุดน้องผมทำได้ 24 โลลิตรนะครับ
โซฮอล91 ขับแบบที่ว่าอะครับ เร่งไป 120 เลี้ยงคันเร่ง ตกเหลือ 100 แล้วค่อยๆเหยียบขึ้นไปใหม่
แต่ระวังเวลารถเยอะๆจะไม่ทำแบบนี้ กลัวรบกวนเพื่อนร่วมทาง

เพื่อนพ่อผมก็ทำแบบคุณ Torque นะครับ ในแคมรี่ไฮบริด 2.4 โฉมที่แล้ว
แกก็ได้ 16-17 โลลิตร (วัดจากเติมจริงๆ)

ถ้าขับแบบ pulse & glide
มันจะประหยัดกว่า เพียงแต่รถมันจะต้องเร่งแล้วปล่อยไหลเอื่อยๆ
ขับแล้วเกรงใจรถข้างเคียง แบบที่คุณ YenChar ว่าจริงๆครับ


แต่ถ้าขับแบบให้ความเร็วคงที่โดยยกแล้วกดกลับไปใหม่เบาๆ
เข็มของมิเตอร์จะอยู่เลยติ่ง ECO มานิดหน่อยครับ
แต่มันจะรักษาความเร็วไว้ไม่ตกครับ  และกินกว่า pulse & glide ไม่มากครับ
กราฟในต้นกระทู้ได้มาจากการขับแบบความเร็วคงที่ครับ






ถ้าเอากันตามทฤษฎี OCTANE ไม่ได้บอกค่าพลังงานนี่ครับ

และยิ่งออกเทนสูง ก็ต้องมีการเติม MTBE หรือ พวกoctane booster ลงไปมากกว่า ทำให้ค่าพลังงานตกลงไปอีก ก็ไม่แปลกที่มันจะประหยัดกว่า อย่าลืมว่าพื้นฐานน้ำมันคือตัวเดียวกัน แต่Booster ต่างกัน พวก Octane Booster มีค่าพลังงานต่ำ แต่ต้องเติมลงไปเยอะเพื่อให้ octane สูง

ในรถทั่วไป ถ้าใช้ octane ยิ่งต่ำ แต่ไม่knock ได้มันก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้วครับ แต่รถที่มี Variable timing มักจะมีผลตรงกันข้าม ไม่ใช่เพราะ พลังงานเยอะ แต่เพราะการควบคุมอัตราส่วนกำลังอัดให้ได้ประสิทธิภาพมากกว่าแค่นั้นเอง

รถที่เป็น Atkinson cycle ได้ประโยชน์ตรงที่มันมีระยะยืด มากกว่า โดยไม่ต้องอาศัยoctane สูง ๆ ทำให้ใช้พลังงานได้เต็มที่มากกว่า ก็เลยเห็นผลไปตามความเป็นจริงมากกว่าด้วย

รถสันดาปภายใน จะอาศํยoctane rating ในการทนการชิงจุด ไม่ใช่พลังงานครับ อย่าสับสน



ขอบคุณมากครับคุณ Jaesz ได้คำตอบชัดเจน  ;D
a = F/m