จะเลือกซื้อรถเพราะ "ผ่อนสบาย" หรือเลือกซื้อรถที่อยากได้ "แต่ผ่อนเหนื่อย" ดีครับ

DP kung

รถ มันก็เหมือนลูกเราแหละครับ เราก็อยากให้เค้าเป็นคันที่ใช่สำหรับเรา เวลาตื่นเช้าขึ้นมาแล้วเดินไปที่รถ เจอรถที่เรารักจอดอยู่ มันรู้สึกดีกว่าเจอรถที่เรารู้สึกเฉยๆจอดอยู่มากนะครับ ;D



taweek

ถ้ายังไม่พร้อมแต่จำเป็น เลือกรถมือสองตอนนี้ ราคาต่ำมากๆ แต่ต้องเงินสด หรือผ่อนต่อ

เลือกรถที่ราคาตกน้อย (รถกระบะ)

ทนใช้สักพัก ตั้งตัวได้ ขายคันเก่า จัดตามที่ต้องการเลยครับ



secrecyguy

ถ้าคุณมั่นใจสถานะปัจจุบัน มีรายได้เติบโตดี มีรายได้มากกว่า 1ทาง ซื้อสิ่งที่อยากได้เลยครับ




Monn

ผมเลือกรถที่ชอบ. หลายคนให้ความเห็นที่ดีครับ แต่ผมเคยผ่านมาแล้ว รถเป็นสิบคัน
ช่วงแรก เราก็มองเรื่องผ่อนสบาย แต่สุดท้าย เอาจริงๆ ใช้เงินไปกับอย่างอื่นเหมือนกัน (อันนี้สำหรับผม)
จนผ่านมา สิบกว่าปี ก็ตัดสินใจละ ไม่เอาละ ผมยอมเหนื่อย เพราะการขับรถที่ชอบ มันมีความสุขมากมาย
เวลาขับรถที่เราไม่ชอบจริง เวลาเห็นรถที่ชอบ มองเหลียวหลังตลอด ก็ไม่ happy นะ

ตอนนี้ ถึงจะยังไม่ได้เป็นรถคันที่ที่สุดจริงๆ แต่อย่างน้อยเวลาผมลงไปนั่ง กดปุ่มสตาร์ท เจ้า f30
ผม happy ทุกครั้งที่ได้ขับมัน เพราะ bmw เป็นรถในฝันมาตั้งแต่เริ่มทำงาน แต่คิดเอง ว่าแพงไป
สุดท้าย ไปซื้อรถญี่ปุ่นไปหลายคัย ซึ่งจริงๆ ผมซื้อได้ตั้งนานแล้ว คิดช้าไปหน่อย จริงๆ

รถ ในชีวิต เราจะซื้อกี่คันกันเชียวครับ และเราทำงานก็เพื่อความสุขในชีวิต ผมมองแค่นี้ ลุยตลอดครับ  ;D
S3 - F30
X1 - E84



แมวดราม่า

ควรจะเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับการใช้งานก่อน ถ้าคุณจำเป็นต้อง "ผ่อนเหนื่อย" จริงๆ ก็ต้องดูรายได้ว่าได้แน่ๆ ต่อเนื่องไหม

โดยส่วนตัวผมมองว่า SUV เป็นอะไรที่ค่าใช้จ่ายไม่ใช่แค่ ผ่อนเหนื่อย แต่ยังเหนื่อยค่าน้ำมันและค่าบำรุงรักษาที่สูงขึ้นกว่า C-Seg อะไหล่ก็อาจจะเทียบได้บางตัว แต่ยางแพงกว่า เปลืองน้ำมันกว่า ค่าบำรุงรักษารวมๆ สูงกว่า ถ้ามัน "เหนื่อย" กว่าเฉพาะค่างวดคนคงออกพวกล้านต้นๆ กันเยอะนะ

ลองมองรถที่อรรถประโยชน์ใกล้เคียง อย่างพวก B-Segment SUV หรือแม้แต่กระบะ 4 ประตูยกสูงที่ใช้ประโยชน์ได้มาก ราคาพอๆ กะ C-Seg ตัวกลางๆ และค่าบำรุงรักษาถูกไหมครับ
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/



AkE

เป็นผมเอา City แล้วแต่งนิดๆ แค่นี้ก้เท่ละคับสมรรถนะก้ไม่ได้แย่เลยแถมห้องโดยสารไม่แพ้ 3 เลยคับ



gundam126

ถ้าเป็นผมเอาผ่อนสบาย โดยส่วนตัวไม่ได้มีความสุขอยู่แค่ในรถ ผมเลือกใช้รถพาไปหาความสุขมากกว่า มีรถที่ผ่อนสบายแต่มีเงินเหลือเอาไปทำอย่างอื่นได้ ถ้าคำว่าผ่อนเหนื่อยแต่เงินเหลือเก็บน้อย ในวันข้างหน้า หากคิดจะมีอะไรมากกว่ารถ อาจเป็นบ้านหรืออะไรก็ตาม ด้วยสภาพการณ์ที่คุณบอกว่าถึงกับต้องเหนื่อยเนี่ย ผมว่ามันจะทำให้ชีวิตไม่มีความสุข



Activehybrid

จากพวกB Jass Yaris           550,000-700,000
มาC1.8/2.0 Altis Mazda3  830,000-900,000
แล้วกระโดดไปCx-52.5        1,400,000

เป็นผมจะมองCที่ชอบ เพราะราคาไม่หนีจากผ่อนสบาย เพิ่มนิดเดียว ดีกว่าซื้อรถราคา5 6แสนแต่ไม่เหมาะกับเรา และยังไม่ชอบอีกต่างหาก



1212312121

ส่วนตัว คิดว่าแบบแรกดีกว่า  รถมันออกใหม่ทุกปี และมีแนวโน้มที่จะดีขึ้นทุกปี การที่เราทุ่มเงินกับมันมากไป โดยที่ไม่ทันได้คิดถึงอนาคต บางครั้ง มันอาจมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ เลือกสิ่งที่ชอบรองลงมาดีกว่า แล้วเอาเงินไปใช้หาความสุขอย่างอื่นหรือใช้ทำอย่างอื่น แต่คนเราไม่เหมือนกัน ดูจากคอมเม้นต่างๆ บางคนมีรถแล้วมีความสุข เพราะเค้าอาจไม่เดือดร้อนเรื่องผ่อนรถหรือเปล่า ซื้อสด หรืออะไรต่างๆ บางคนมีเงินเก็บแล้วมีความสุข บางคนได้ใช้ได้เที่ยวมีความสุข ต่างคนต่างเหตุผล ถามใจเราดีกว่า เบื่อง่ายไหม จะใช้กี่ปี



MUK

ถ้าเที่ยว ครอบตัวไม่เกิน 5 คน Ecocar ก็ไปได้ทั่วไทยครับ ยืนยันว่าไปได้แน่นอนครับผม
สำหรับเอาแบบไม่เดือนร้อนดีกว่า เพราะพอรายได้ขยับขึันไปหน่อยค่อยซื้อก็ยังไม่สายครับ
เพราะรถบางที มันต้องทำอะไรมากกว่าผ่อนอีกนะครับผม
 :)



No Trespassing

ผมเลือกผ่อนสบายครับ เงินที่เหลือก็เอาไว้หาความสุขใส่ตัวดีกว่า

น้องที่ทำงานซี้อ FB 1.8 ผ่อนเดือนล่ะหมื่นห้า แต่เงินเดือนสองหมื่นสาม ตอนนี้แทบไม่เหลือกินครับ เพราะไหนจะค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง ต่อภาษี

โชคดีที่อยู่บ้านตัวเอง ข้าวไม่ต้องซี้อ ไม่งั้นเหนื่อยกว่านี้อีก

ก่อนซี้อก็บอกแล้วว่าหารถเล็กๆซักคันก็ได้ ไม่เอา อยากได้ C-Seg แล้วเป็นไง ตอนนี้คิดไปจะเทื่ยวเมืองนอกยังทำไม่ได้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนอยากไปไหนก็ไป (น้องมันอยู่สายการบิน ขอตั๋วฟรีได้ยังไม่ไปเลย เพราะไม่มีตังค์)

---------------------------------------------------------------

และอย่าลืม .......... ต้องเผื่อเงินในกรณีฉุกเฉินด้วยนะครับ



Jomgayray

ความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน สำหรับผมมีความสุขที่ได้ขับรถที่ชอบ ผมก็ทุ่มมาทางนี้ครับ เรื่องอื่นไม่จำเป็นก็ลดๆลงแทน



raygun

.
.
.
สำหรับผมเลือกรถที่ชอบแน่นอนครับ
แต่ผมจะไม่ยอมผ่อนเหนื่อยด้วย
นั่นคือเมื่อไหร่ที่คิดจะซื้อรถใหม่ที่ชอบ
ผมจะจัดการหารายได้ส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นมาทันทีก่อนซื้อ

เพราะขับรถที่ชอบมันมีความสุขกว่าเยอะจริงๆ
แล้วยิ่งเดี๋ยวนี้ชีวิตเราอยู่ในรถเยอะขึ้นทุกวัน
เอารถที่ปลอดภัย เร่งแซงได้ ขับมันส์ๆดีกว่าครับ

เสียเงินแล้วยังได้ของที่ไม่ชอบ สู้ไม่ซื้อดีกว่าครับ  ;D




GreenG

เอาผ่อนสบาย ไม่สิ ไม่ผ่อนเลยครับ เอารถที่ไม่แพง ไม่เกิน 5 แสนมือหนึ่ง ถ้าเป็นมือสอง วิ่งไม่มาก ราคาไม่เกิน 3 แสน ก็ยิ่งดีครับ



TerngST

งั้นเอา mazda 3 ตัวล่างสิคับไม่แพงมาก



Monn

.
.
.
สำหรับผมเลือกรถที่ชอบแน่นอนครับ
แต่ผมจะไม่ยอมผ่อนเหนื่อยด้วย
นั่นคือเมื่อไหร่ที่คิดจะซื้อรถใหม่ที่ชอบ
ผมจะจัดการหารายได้ส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นมาทันทีก่อนซื้อ

เพราะขับรถที่ชอบมันมีความสุขกว่าเยอะจริงๆ
แล้วยิ่งเดี๋ยวนี้ชีวิตเราอยู่ในรถเยอะขึ้นทุกวัน
เอารถที่ปลอดภัย เร่งแซงได้ ขับมันส์ๆดีกว่าครับ

เสียเงินแล้วยังได้ของที่ไม่ชอบ สู้ไม่ซื้อดีกว่าครับ  ;D



ชอบบรรทัดสุดท้าย เห็นด้วยครับ  ;D

ส่วนคำตอบก่อนหน้า ว่า เงินเดือน 23000 ผ่อน 15000 อันนั้นไม่ใช่เหนื่อยละคับ เรียก ไม่คิดมากกว่า รถ ผ่อน เกิน 30% ของเงินเดือนก็บ้าแล้วครับ ชีวิตมีไรต้องใช้อีกมากมาย งงกับน้องเขาแทนจริงๆ สงสาร ไม่มีใครให้คำปรึกษาเหรอครับ
S3 - F30
X1 - E84



!note!

จากประสบการ์ณ ผมแนะนำผ่อนสบาย สมัยก่อนฝืนซื้อ e46 ใช้แบบฝืนนิดๆ ใช้ไปซักพักไม่มีเงินเก็บเลย ดีใจแค่ตอนซื้อ ตอนได้ขับ และตอนขายได้ สุดท้ายขายเพราะเก็บเงินแต่งงาน ทุกวันนี้ฝืนใช้น้องมีนามาสองปีเหลือเงินเก็บเป็นล้าน ทนอีกสามปีหมดโครงการรถคันแรก คงได้จัดหนักยุโรปอีกรอบแบบสบายๆ ใช้ปันผลจากเงินเก็บผ่อนยังได้ อดทนครับอดทนปีๆนึงแป๊ปเดียวอดเปรี้ยวไว้กินหวานครับ ;D



Nut_K

ก่อนจะออกรถผมก็ลังเลเหมือนกันเลยครับระหว่าง City 1.5SV กับ Altis 1.8S ผมผ่อนไหวทั้งคู่นะครับ แต่สุดท้ายเลือก City 1.5SV เพราะคำนวณรายจ่ายรวมๆทั้งหมดออกมาแล้วถ้าออก Altis แล้วต้องจำกัดรายจ่ายนู่นนี่ผมขอเลือกรถที่ผ่อนสบายๆ มีเงินเหลือไว้ใช้ + เก็บมากขึ้นดีกว่า เพราะอนาคตมันไม่มีอะไรแน่นอนครับ



kenny523

ง่ายๆ ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ซื้อรถตามอารมณ์ และกิเลส  แต่ถ้ายังคิดมากเรื่องค่าใช้จ่าย ต้องซื้อตามเหตุและผลถ้าซื้อแล้วเหนือย ต้องกินน้อยลง เที่ยวน้อยลงก็อย่าไปซื้อมันเลย รถแค่พาหนะพาเราไปทำงาน ครับ (ส่วนคนมีตังค์เหลือ รถไม่ใช่แค่พาหนะครับ)



golf8023

เอาที่อยากได้ และ ผ่อนสบายด้วยครับ
ผมจะไม่ซื้อรถที่ต้องกัดฟันผ่อน ต้องเป็นรถที่ชอบ และ ผ่อนสบาย

เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นกับคนรอบข้างผม2ครั้ง
แฟนผมเมื่อปีที่แล้ว อยากได้Cruze LTZ / Focus2.0 คันละเกือบล้าน ผ่อนไหว ตกเดือนละเกือบ2หมื่น แต่ฟิตมาก แทบทำอย่างอื่นไม่ได้ เลยตัดสินใจลดSeg.มาอยู่ที่B-Seg.พอ ไปดูJazz Vios Fiesta สุดท้ายไปจบที่JazzตัวTop ผ่อนสบายเดือนละหมื่นหน่อยๆ ทุกวันนี้Happyครับ แถมยังมามองย้อนกลับไปว่าถ้าวันนั้นถอบCruze LTZมาตอนนี้จะเป็นยังไง คงไม่ได้ไปเกาหลี คงไม่ได้ซ่อมบ้าน เงินเหลือเพิ่ม6-7พันต่อเดือนนี่ทำไรได้อีกเยอะเลยครับ

อีกกรณีคือแม่ผม บ้านผมทำธุรกิจ เมื่อ5ปีก่อนเศรษฐกิจดี ขายดี เงินเป็นกอบเป็นกำ แม่ผมมีโครงการจะถอยE200 W211 ราคาตอนนั้ถ้าจำไม่ผิด2ล้านกลางๆ เดินเข้าโชว์รูมแล้ว ดูอัตราส่งต่อเดือนแล้วส่งได้แน่ๆ แต่ผม่ผมมาฉุกคิดอีกทีว่าเกิดวันนึงค้าขายไม่เหมือนเดิม ยอดขายตก เก็บสต็อคมากขึ้น กำไรลดลง บลๆๆๆ คิดเยอะมาก สุดท้ายไปจบที่Camry2.4 ทุกวันนี้คุณแม่Happy เพราะ2ปีต่อมาน้ำท่วมใหญ่ โรงงานผมโดนด้วยเสียหายไปไม่น้อย แต่ก็ซ่อมแซมได้ไม่มีปัญหาไม่ต้องไปกู้สินเชื่ออะไรเพิ่ม แม่ผมก็ไม่เคยไปสนใจE200อีก

เจ้าของเงินจะตัดสินใจยังไง อันนี้ก็แล้วแต่ครับ  ;D




balliblue

เคยมีประสบการณ์จากรถคันแรกครับ ระหว่าง civic กับ city สุดท้ายตอนนั้นเอาที่ชอบ ซื้อ civic สุดท้ายเหนื่อยเกินจน มาตอนนี้ คือ กรณีเดิมซ้ำรอย คันที่ 2 ระหว่าง city top กับ altis esport ก็ยังคงต้องตัดสินใจอีก ปต่คราวนี้ผมมีเวลาคิดนาน อีก 6 เดือน ปละตอนนี้กำลังหารายได้เพิ่มถ้าไปได้ดีคงไปเอา altis แต่ถ้าไม่ดีมากหรือต้องลงทุน คงต้องไปเอา city แต่สำหรับคุณผมว่าถ้ารายได้ ไม่ได้หาเพิ่มเร็วๆนี้ ผมว่าเอา b segment เถอะ เชื่อผมการผ่อนรถเหนื่อยมันทำให้คุณขาดอะไรในชีวิตไปอีกเยอะ



AMARONE

เลือกตัวที่ชอบในงบที่ผ่อนสบายครับ ผ่อนสบายคือ ค่างวดไม่กระทบชีวิตก่อนซื้อรถ
Don't play hard to get, play hard to forget.



TheGTO

ผ่อนสบาย ครับ

เผื่อฉุกเฉิกจะได้ไม่เดือดร้อนมาก

ไว้การเงินมั่นคง แล้วค่อยว่ากันใหม่

อย่าลืมว่ารถ 1 คันไม่ได้อยู่กับรถไปตลอดชีวิตนะครับ
อนาคตได้เปลี่ยนแน่นอน



MUK

ที่เลือกผ่อนสบาย เพราะจะได้สบาย มีรถไปกับครอบครัวอย่างมีีความสุข
รถถูกใจเรา แต่ไม่มีความสุข เพราะต้องเหนื่อยกับการผ่อน
แต่รถไม่ถูกใจร้อยเปอร์เซนต์ แต่ว่าไปกับครอบครัวที่ถูกใจและมีความสุขดีกว่า มีเงินเหลือ มีเงินพาครอบครัวไปหาความสุข ดีกว่าได้สุขแค่รถถูกใจครับ
 ;D



Volta

แนะนำว่าเลือกผ่อนสบายครับ
ซื้อมาแล้ว ต้องไม่หนักเราเกินไป ไม่งั้นเราจะเครียดเปล่าๆครับ

ผ่อนสบายมีเงินเหลือ เอาไปทำอย่างอื่นได้เยอะครับ
สวัสดีทุกๆคนครับ



siamboots

ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นมากครับ เป้นประโยชน์และให้แง่คิดมากๆ
ทีนี้ ก็เหลือแต่ผมที่ต้องตัดสินใจแล้ว

 ;D



Teera

เหมือนมันต้องเลือกรถที่อยากได้น๊ะครับ เพราะจุดประสงค์คือ รถครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับการใช้งาน



ab4u


ถ้าโจทย์นี้ ผมจะหันไปมองพวก Avanza หรือ Ertiga ครับ

 :D :D



FyGI

นอกจากค่าผ่อน

ยังมีค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา ฯลฯ ตามมาอีกนะครับ

ลองคำนวณรายรับรายจ่าย และกำลังวังชาดู



promay

ช้อยส์เดียวกับผมเลย แต่ผมเลือกแบบนี้นะครับ ผมเลือกรถที่เราชอบมากกว่าครับ ถึงจะผ่อนหนักหน่อยเราก็เก็บเงินดาวน์ให้ได้เยอะๆซิครับ เก็บเงินดาวน์ให้ได้เยอะพอที่จะทำให้เราผ่อนแบบไม่เหนื่อยมากน่ะครับ ได้รถช้าหน่อยแต่ถูกใจผ่อนก็ไม่เหนื่อยมาก ที่บ้านมีรถใช้อยู่แล้วผมว่าทนเก็บเงินดาวน์อีกซักหน่อยดีกว่าครับ ;D