จะเลือกซื้อรถเพราะ "ผ่อนสบาย" หรือเลือกซื้อรถที่อยากได้ "แต่ผ่อนเหนื่อย" ดีครับ

siamboots

ผมอยากขอคำแนะนำ หรือความคิดเห็นจากเพื่อนๆ ว่า จะเลือกซื้อรถแบบไหนดี  ระหว่าง "รถที่เราเฉยๆ แต่ผ่อนสบาย" หรือ "รถที่อยากได้แต่ผ่อนเหนื่อย"
กรณีนี้คือ รีบใช้รถนะครับ ไม่เอาคำแนะนำแบบที่ว่า ให้เก็บเงินดาวน์เพิ่ม ซัก 6 เดือน อะไรแบบนี้นะ...

1. กรณี "ผ่อนสบาย" ได้แก่พวก B-Seg หรือ Eco แต่ผมไม่ค่อยอยากได้  เพราะผมมี Swift อยู่แล้ว  ไม่อยากได้รถคลาสใกล้กัน
ที่มองๆ ไว้ มี City, Yaris และ Jazz ครับ

2. กรณีที่อยากได้คือ C-segment หรือ SUV เลย เพราะอยากได้รถใหญ่ ไว้เป็นรถครอบครัว
ที่มองๆ ไว้คือ Mazda 3 และ Mazda CX-5 ครับ

ถ้าซื้อกรณีผ่อนสบาย เงินจะเหลือเก็บพอสมควร ใช้เงินไปไหนมาไหน มีกินมีเที่ยว มีเก็บ
ถ้าซื้อกรณี รถที่ชอบ แต่ละเดือนพอผ่อนไหว แต่แทบจะไม่เหลือเงินเก็บเลยครับ  ซึ่งจะเป็นแบบนี้ไปประมาณ 3 ปี จนกว่า Swift จะผ่อนหมด  ก็จะกลับมาผ่อนแค่คันเดียวและหมดภาระคำว่า "ผ่อนเหนื่อย" ไป

ถ้าเป็นเพื่อนๆ จะเลือกแบบไหนดีครับ  ??



promt

เป็นผม

ผมเลือกแบบกลางๆ เอา c seg

ผ่อนสบาย มีกิน มีเก็บ มีเที่ยว มีลงทุน

เก็บเงิน อีก 3 ปี ออกรถใหม่ เอา suv

ถือคติ
"ไม่มีสิ่งสุดท้ายเสมอไป"



kez


 รถจะอยู่กับเราไปนาน พอสมควร  เลือกรถที่ชอบ จะได้ขับอย่างมีความสุข

 แต่ต้องไม่ทำให้ตัวเองเดือนร้อน  วางแผนอนาคตให้ดีๆ   เตรียมความพร้อมในกรณีฉุกเฉิน



mazeraty

ผมเลือก C-Seg ครับ กลางๆเพียงพอกับชีวิตประจำวัน และเลือกรุ่นต่ำสุด เพราะออฟชั่นไม่ได้ใช้เท่าไหร่ รถเดินทางประจำเน้นความคุ้มค่าเป็นหลัง



mikhail

ผมเลือกผ่อนสบายครับ

แต่ทีนี้ก็ต้องดูเรื่องความจำเป็นในการใช้รถด้วยครับ ว่ามันเหมาะกับการใช้งานของเรารึเปล่า

ผมว่า ถ้าจะเอาให้เป็นกลางๆระหว่างตัวเลือกทั้งสองข้อ

C-Segment น่าจะโอเคนะครับ เรื่องรุ่นย่อยก็เอาเท่าที่จำเป็นครับ  ;D
BMW 535i '16
BMW 528i '14
Honda Accord V6 3.5 L VCM '10



udis

เหนื่อกายพอไหว แต่เหนื่อใจล่ะสุดๆครับ
เรารักเราชอบอะไร ถึงจะเหนื่อย แต่เราก็มีความสุขที่ได้ทำครับ

ผมเลือกข้อ 2 ทำงานมากขึ้น หารายได้เสริม หรือขยันมากขึ้นครับ
คนเราไม่ต้องมีรถก็ได้ ถ้าใจเป็นสุข!

แสนสบายแต่ไม่สนุก คนเราจึงออกไปท่องเที่ยวครับ ทั้งๆที่อยู่บ้านสบายกว่ากันเห็นๆครับ
 ;D ;D ;D

และแน่นอน ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอนครับ เดือนร้อนใช้เงินขึ้นมาก็ล่ะยุ่ง แต่การหาทางออกอย่างสวยงาม ก็สนุก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ครับ
เขียนไปเขียนมา ชักวนครับ
 ;D ;D ;D



Adamas

เอาผ่อนสบายครับ
เพราะในระยะผ่อน 4-6 ปีมีเเนวโน้มจะเกิดภาวะ เศรษฐกิจ ตกต่ํา สูงมาก
คนที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต จะต้องทำงานให้คนที่มีเป้าหมายไปตลอดชีวิต



towa999

เป็นผมไม่เลือกทั้งสองข้อครับ เพราะมีswifอยู่แล้วนี่  รอผ่อนหมดเปลี่ยน ได้ที่ชอบ และ ผ่อนสบายด้วยครับ



aobness

ผ่อนเหนื่อยไม่เอาครับ แต่เอาผ่อนแบบพอไหว อันนี้เลือกรถที่ตัวเองชอบ มีความสุขกว่าเยอะ



Impulse

มองในฐานะคนที่ใช้รถยาวครับ

ถ้าคันเดิมไม่มีปัญหาผมเลือกจะใช้คันเดิมไปเรื่อยๆจนมีเงินมากพอที่จะยอมจ่ายก็จะเลือกคันที่ชอบ (ในความหมายของผมคือไม่เหนื่อยด้วย) เพราะถ้าเลือกคันที่รู้ว่าไม่ชอบอยุ่แล้ว เร็วๆนั้น(4-5ปี)ก็อาจจะต้องหาซื้อใหม่จนได้คันที่ชอบอยู่ดี เสียเงิน 2 รอบเสียค่าเสื่อม 2 รอบ หรือไม่ก็ต้องทนอยู่กับนถที่รุ้ว่าไม่ได้ชอบไปเรื่อยๆๆ ชีวืตไม่สนุกหรอก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 29, 2014, 00:41:23 โดย Impulse »



siamboots

เป็นผมไม่เลือกทั้งสองข้อครับ เพราะมีswifอยู่แล้วนี่  รอผ่อนหมดเปลี่ยน ได้ที่ชอบ และ ผ่อนสบายด้วยครับ

Swift แฟนใช้น่ะครับ แต่ผมต้องการอีกคัน เพราะต้องไปทำงาน ตจว. ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 29, 2014, 00:43:32 โดย Kanui »



np72




ichok

ไม่เอาทั้งสองอย่างแหล่ะครับ เอาผ่อนสบายและได้ใช้จำเป็นจริงๆดีกว่า รถยนต์มันของกิเลสฟุ่มเฟือยล้วนๆ ถ้าใช้คำว่าผ่อนเหนื่อยนี่ผมว่ามันรู้สึกรันทดในตัวเองยังไงไม่รู้ครับ เอาที่เราไหวดีกว่าครับ



virtual

เคยเลือกแล้วครับ โจทย์ลักษณะแบบนี้เลย

ผมเลือกผ่อนสบายแต่ก็ชอบ "รอง" ลงมาครับ

ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดีจากผ่อนสบายกลายเป็นผ่อนเหนื่อยแล้วล่ะครับ

อยากให้คุณลองทบทวนตัวเองอีกครั้ง โดยที่ไม่โทษตัวเองในวันข้างหน้านะครับ

ปล.รถออกใหม่เรื่อยๆเดี๋ยวก็มีที่ "ชอบ" โพล่มาอีกอยู่ดีครับ



0%

คำนวนดูดีๆ ค่าใช้จ่ายอะไรต่อเดือน

แล้วค่อยมาเลือกรถ

อีกกรณีนึง ที่ผมว่า น่าสนใจคือ ซื้อรถมือสอง เปลี่ยนสัญญาผ่อนต่อ ได้รถราคาถูก ปีใหม่ ไม่เสียดอก



Slipknot`

ถามตัวเองเถอะครับว่าถ้าทำข้อ 2 แล้ว คุณจะแฮปปี้รึเปล่า

บางคนทำข้อ2 แล้วถึงจะลำบาก แต่เค้าก็มีความสุข บางคนทำข้อ1 แต่ก็ไม่มีความสุขเพราะใจมันอยากได้รถที่สูงคลาสกว่า

ไอเรื่องเงินเก็บ ตัวเลขในบัญชีธนาคารอันนี้มัน นนจต.ครับ

บางคนมีความสุขที่ได้เก็บเงินเห็นตัวเลขแล้วอุ่นใจ บางคนมีความสุขกับการใข้เงิน บันดาลสิ่งที่ต้องการสักครั้งในชีวิต



ตาสว่าง

เลือก ผ่อนสบาย ยึดหลักความพอเพียง รถไม่ใช่ทรัพย์สิน เอาเงินส่วนเหลือไปลงทุน เก็บออมเพื่ออิสรภาพทางการเงินดีกว่าครับ

ความสุข ความชอบ ในการเป็นเจ้าของรถบางคันมันไม่ยั่งยืน เป็นอนิจจัง วันนี้ชอบ อีกไม่กี่ปีก็เบื่อละ



Poj

ต่างจังหวัด กระบะ 4 ประตูไป เลยครับ
ขนของได้เยอะ (บ้านผมมีBT- 50 PRO 4
ประตู  กับ Swift)



YZA

ผ่อนสบายครับสำหรับผม   ความสุขไปลงกับอย่างอื่นได้



The_One

ผมว่าผ่อนสบายครับ
ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าครับ



Devil13

สำหรับผมเลือกผ่อนสบายครับ  ;D
คติผม"มีรถไ้ว้หาเงิน ไม่ใช่หาเงินมาให้รถ"

ผมเองก็ขับ B Sec แต่เงินเดือนผ่อน C-D ได้ ผมเลือกเก็บเงินไว้เผื่อทำการใหญ่ในอนาคตครับ
 :D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 29, 2014, 07:32:13 โดย Devil13 »



Dubee

เลือกตามกำลังของเราไหวครับ ผมเพิ่งออกรถบีเซ็กเม้นท์ ก็เลือกปกติผ่อนราวๆ 5-6 พันต่อเดือนครับ เพราะมองแล้วถ้าเปนโปรผ่อนสบาย คุ้มค่าอยู่จริงแต่ต้องจ่ายอัดตูดตอนท้ายๆหนักเอาการนะครับ (ผมกะใช้ยาวครับ ไม่ใช่สามปีห้าปีขายจด) สู้ผ่อนยาวๆ โอเคมันต้องมีดอกเบี้ยอะไรบ้างร่วมๆแสนก็ช่างมันครับ



Gamnoom

ตอนรุ่นๆ ผมเอาแบบที่ชอบ
ตอนนี้ ผมขอเลือกผ่อนสบาย
อนาคต ผมจะกลับมาเอาแบบที่ชอบอีกครั้ง ;D
2001 Mitsubishi Lancer Gen7 ท้ายเบนซ์ 1.6 M/T(sold)
2007 Honda CRV G3 2.0S(sold)
2014 BMW Series3 F30 320i base(pre LCI) (sold)
2020 MB W205 C220d Avangarde(Facelift)



joe560-4

นอกประเด็นรถมือหนึ่งนิดนะครับ ลองหารถที่ชอบที่เป็นมือสอง

ที่เพิ่งออกไม่กี่เดือน วิ่งหลักพัน ซื้อดาวน์ผ่อนต่อ น่าจะประหยัดได้

เกือบ 3 แสนอยู่นะ แต่ต้องใช้ความพยายามหน่อยครับ



Puitam

ผมเชียร์เอาที่ชอบครับ ผมว่ามันมีแรงกระตุ้นดี. มันมีความสุขทุกครั้งที่ได้ขับรถที่เราชอบ

คนเราต้องโตขึ้นนะ. อีกสองปีจากผ่อนลำบาก คุณอาจจะผ่อนสบายขึ้นเพราะหน้าที่การงานดีขึ้น

แต่ถ้าตกงานขึ้นมามันก็ไม่มีตังผ่อนอยู่ดี ไม่ว่าจะถูกหรือแพง

แต่ถ้าเอาปลอดกังวล มีเวลาไปคิดเรื่องอื่น มีโปรเจคอื่นที่ตั้งใจเช่นมีลูก หรือ จะลงทุนอะไร เอาที่ประหยัดที่สุดดีกว่าครับ

เพราะเวลาไม่มีนี่มันไม่มีจริงๆนะครับ.



rutxthe

ถ้าซื้อเพราะความจำเป็น เอาข้อ 1
เพราะผมทำมาแล้ว มีเงินเหลือเอาไปลงทุน ต่อยอดให้มีเงินซื้อรถที่เราชอบจริง ๆ โดยไม่ต้องกังวล

ตอนแรกจะเอา Altis,Civic ตัดใจไปเอา Almera
คันที่สองอยากได้ MX-5 แต่ตัดใจเพราะความจำเป็นไปเอา Pajero เพื่อเอาไว้ขนของไปขายได้เยอะ ๆ
ถึงตอนนี้ Pajero ก็ทำให้ผมได้ MX-5 รถที่ผมต้องการจริง ๆ โดยไม่ต้องกังวลและเหนื่อยเรื่องผ่อน เพราะซื้อสด

ชอบและอยากได้รุ่นที่แพงกว่าจริง ๆ และตัดใจไม่ได้ ก็ข้อ 2 ครับ
Nissan Almera 2013
Mitsubishi Pajero Sport V6 2014
Mazda MX-5 NA 1992
Mercedes Benz Cla250 2016
Volvo Xc40 Recharge T5 Inscription 2021
Porsche Cayenne Coupe E Hybrid 2021
KIA Carnival 2023


ยังอยู่ครบทุกคัน :)



pladaek

ผ่อนสบายครับ
ถ้าเอาผ่อนเหนื่อย วันใดวันนึงเกิดเรื่องไมีคาดฝันจำเป็นต้องใช้ตังจะชักหน้าไม่ถึงหลังนี่สิ

ผ่านไป 5-6 ปี มีเงินแล้วค่อยผ่อนสบายๆกับ c secment ก็ได้
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..



Chanaphol

ส่วนตัวชอบรถ ผ่อนสบาย แต่ผมชอบมือสองที่เพึ่งออกแล้วเจ้าของเบื่อมากกว่า ;D ;D

ถึงเป็นมือ 1 ผมก็ชอบพวก B-C SAG เพราะตัวคนเดียวใช้คนเดียว รถแค่ B-C SAG ก็เหลือๆครับ

ปอละออ (จะเปลืองก็ที่นั่งเพราะผมตัวใหญ่ม๊วกก)



NineKlao

ถ้าแฟนใช้ swift และคุณต้องออกตจว. ผมว่ารถขนาด กลาง ที่ปลอดภัยน่าจะดีกว่า

ถึงแม้จะผ่อนหนักขึ้นแต่ให้คิดถึงคนที่รอด้วยว่าถ้าคุณเป็นอะไรไป รถที่ถูกมันไม่ได้ช่วยเซฟชีวิตคุณเท่าไหา่

ส่วนจะเป็นกระบะหรือเก๋ง ก็ขึ้อยู่กับการใช้งานของคุณ

แต่ผมไม่ค่อยชอบกระบะเท่าไหร่ ขับตจว. ลงข้างทางมันง่ายไป



Nerdys

มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องพิจารณา

หน้าที่ การงาน รายได้ ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า มั่นคงไหมครับ มีโอกาสถูกออกจากงาน รายได้ลด รายได้ไม่นิ่งเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงหรือเปล่า สุขภาพคนในครอบครัวเป็นไงบ้าง แข็งแรงดีไหม มีใครเป็นโรคประจำตัว หรือมีแนวโน้มที่จะต้องใช้เงินรักษาพยาบาลในอนาคต 2-3 ปีนี้หรือไม่ ฯลฯ ถ้ายังมีความเสี่ยงผมว่าเอาผ่อนสบายดีกว่า
แต่ถ้าอยากได้รถที่เราชอบจริงๆ ดาวน์ให้มากขึ้น (ถ้าทำได้) ก็จะผ่อนสบายขึ้นด้วยครับ  :)