ทดลองขับเล่นที่ USA กับ VW Jetta 2.5SE

[seamonkey]

เนื่องด้วยผมโดนบริษัทส่งมาฝึกงานช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ Fort Worth, USAและก็ได้รถ VW Jetta 2.5 SE มาใช้ตลอดระยะเวลา 14 วัน จะไม่เน้นเขียนเกี่ยวกับทางเทคนิกเยอะนะครับ เพราะผมไม่ได้ไปศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถเท่าไร
เน้นเกี่ยวกับการใช้งานจริงมากกว่า

ที่มาเขียนช้าก็เพราะ Harddisk ผมหายจึงต้องกลับมาเอารูปจากกล้องและผมก็ติดงานเยอะทำให้ไม่ได้กลับบ้านมาหลายเดือนครับ

P.S. ใน Review จะไม่มีการทำ Top speed, อัตราเร่งและอัตราการสิ้นเปลืองนะครับ

[seamonkey]

สิ่งแรกที่จะพูดถึงคือจุดที่นั่งคนขับครับ

มาตรวัดสามารถอ่านได้ง่าย มีการบอกความเร็วเป็น mph และ kmph ไม่มีเข็มบอกอุณหภูมิเครื่องยนต์

มีระบบ Cruise control ซึ่งติดตั้งไว้กับก้านไฟเลื้ยว (ก้านไฟเลื้ยวอยู่ตรงข้ามกับคันเกียร์ตามหลักสรีระ)
ระบบCruise control จะเปิดเมื่อเลื่อนคันควบคุมไปที่ On และเมื่อได้ความเร็วก็กดปุ่ม Set
หากต้องการยกเลิกสามารถทำได้โดยดันคันควบคุมไปทาง Cancel แล้วไฟสถานะ Set จะดับลง
การเหยียบเบรกหรือคันเร่งจะไม่ปลดระบบ Cruise เมื่อเอาเท้าออกรถจะปรับเข้าสู่ความเร็วที่ Set ไว้
 

[seamonkey]

คันปรับความเร็วที่ปัดนํ้าฝนคล้ายกับรถยี่ห้ออื่นครับ

ระบบวิทยุก็เป็น FM ธรรมดา

ระบบปรับอากาศเป็นแบบมือหมุนซึ่งเข้าใจได้ง่าย

ระบบเกียร์เป็น DSG มีการกระตุกเป็นธรรมดาระหว่างการเปลี่ยนเกียร์ (เที่ยบกับ Mitsubishi Lancer EX ที่ผมขับตอนที่ไป CA Lancer สามารถเร่งความเร็วได้นุ่มนวลกว่า)
Mode D ก็มีอัตราเร่งใกล้เคียงกับรถทั่วไป แต่พอใช้ Mode S จะมีการลากรอบที่สูงขึ้นเพื่อเรียกกำลังมากขึ้น

[seamonkey]

สวิทช์ล๊อกประตูตั้งกับปุ่มปรับกระจกข้างอยู่ตามรูปครับ รถรุ่นนี้ไม่มีระบบเปิดไฟแบบ Auto

[seamonkey]

คันเร่งเป็นแบบจุดยึดด้านล่าง โดยส่วนตัวผมชอบการออกแบบคันเร่งแบบนี้มากกว่าเพราะโอกาสที่คันเร่งจะติดรองเท้าหรือพรมน้อยกว่าแบบจุดยึดด้านบน

[seamonkey]

ที่นั่งด้านหลังมีรู 12V ต่างหากแล้วมีสวิทช์ปลดล๊อกประตูด้วย

ที่นั่งด้านหลังใหญ่พอสมควรครับ เพื่อนผมที่นั่งตอนไปต่างเมืองไม่มีปัญหาเรื่องเมื่อยล้าครับ

[seamonkey]

กระโปรงหลังมีขนาดใหญ่พอควรครับ น่าจะใกล้เคียงกับ Teana J32 (กะประมาณด้วยสายตาเทียบกับรถที่แม่ผมใช้อยู่)

[seamonkey]

การออกแบบในห้องเครื่องค่อนข้างแน่นพอควรครับ

ECU นั้นถูกวางไว้ในห้องเครื่องครับ

การประกอบก็ไม่ต่างกับรถตลาดที่ประกอบในไทยเท่าไร (การเป็นสายไฟดูไม่เรียบร้อย เทียบกับ B** และ B*** ที่ผมได้ไปดูตามศูนย์ในไทยดูเรียบร้อยกว่าครับ)

[seamonkey]

รูปในห้องเครื่องต่อครับ

[seamonkey]

มาว่ากันในเรื่องสมรรถนะกันครับ

เครื่องยนต์และเกียร์
เนื่องจากที่ USA มีการเข้มงวดเรื่องการขับเร็วเกินกำหนดอย่างมาก ผมจึงได้แค่ลองอัตราเร่งเวลากลับจาก Training center ช่วงกลางคืนเท่านั้น
อัตราเร่งในโหมด D เพียงพอต่อการขับทั่วไปครับ หากต้องการลากรอบเครื่องก็สามารถตบเกียร์ให้เข้าโหมด S ได้ เมื่ออยู่ในโหมด S นั้น ช่วงเวลาเปลี่ยนเกียร์จะกระตุกมากกว่าโหมด D อยู่พอสมควร
Engine break ในโหมด S เหมือนจะเบรกแรงกว่าโหมด D ด้วยครับ

ช่วงล่างและสามารถในการเกาะถนน
จากที่ทดลองขับตามถนน Back road (Texas6) ตัวรถสามารถเกาะถนนได้ดีครับแต่เหมือนนํ้าหนักตัวรถจะค่อยข้างสูง ทำให้เหมือนจะ Understeer ได้ง่ายกว่า
เทียบกับ Lancer EX ที่ผมขับตามเขาใน Serra Nevada นั้น ตัว Lancer EX สามารถทำ Corner speed ได้สูงกว่า Jetta พอสมควรครับ โดยเฉพาะการขับ Downhill นั้น Lancer EX ให้ความมั่นใจกับผมมากกว่า

[seamonkey]

ที่นี้เรามาดูในมุมมองว่า "ถ้าผมต้อง Tranfer ไปทำงานที่ USA แล้วควรจะซื้อ Jetta มาใช้ไหม"
ราคาแนะนำจากทาง VW ของ Jetta SE อยู่ที่ 23xxx$
ถ้าผมต้องไปอยู๋ที่ USA จึงผมจะขอผ่านรถขนาดนี้เลยครับเนื่องจากคันใหญ่ นํ้าหนักเยอะ โดนส่วนตัวผมเป็นคนไม่ชอบขับรถหนักอยู่แล้ว
ดังนั้นถ้าผมต้องเลือก ผมขอเลือก Ford Fiesta ST ซึ่งราคาใกล้เคียงกันจะเหมาะสมกว่า แต่น่าเสียดายที่ทางรถเช่าไม่มี Fiesta ST ให้เลือกครับ HAHAHAHAHA

ขอโทษด้วยครับที่ข้อมูลน้อย ส่วนใหญ่ผมขับรถคันนี้แค่ระหว่างโรงแรมกับ Training center จึงไม่ค่อยได้ทดลองกับรถคันนี้มากเท่าไรครับ
ขอจบ Review เพียงเท่านี้ครับ ใว้ผมไป Training รอบหน้าจะพยายามเก็บข้อมูลมาฝากมากขึ้นครับ

[J!MMY]

ขอบคุณมากๆครับ ที่นำมาโพสต์ให้อ่านกัน

Jetta ตัวนี้ ใช้พื้นฐานจาก Golf Mk6 รุ่นที่แล้ว
แต่น่าแปลกว่า กลับมีแต่คนด่าเละเทะว่า ช่วงล่างไม่ดี
เมื่อเทียบกับคู่แข่งจากญี่ปุ่น เสียอย่างนั้น

เสียงบ่นในประเด็นนี้ ดังในสื่อฝั่งอเมริกาเหนือ ค่อนข้างมากครับ
ผมเลยแปลกใจนิดหน่อย เพราะสมัยที่ลอง Golf GTi มันเป็นรถที่
ดีมากๆที่สุดคันหนึ่งเท่าที่ผมเคยลองขับมา

[VITHAN]

ขอบคุณคับ

[seamonkey]

ขอบคุณมากๆครับ ที่นำมาโพสต์ให้อ่านกัน

Jetta ตัวนี้ ใช้พื้นฐานจาก Golf Mk6 รุ่นที่แล้ว
แต่น่าแปลกว่า กลับมีแต่คนด่าเละเทะว่า ช่วงล่างไม่ดี
เมื่อเทียบกับคู่แข่งจากญี่ปุ่น เสียอย่างนั้น

เสียงบ่นในประเด็นนี้ ดังในสื่อฝั่งอเมริกาเหนือ ค่อนข้างมากครับ
ผมเลยแปลกใจนิดหน่อย เพราะสมัยที่ลอง Golf GTi มันเป็นรถที่
ดีมากๆที่สุดคันหนึ่งเท่าที่ผมเคยลองขับมา

ผมคิดว่าเพราะทาง VW เซ็ตช่วงล่างมาให้นุ่มสบายเหมาะกับการขับแบบ Cruise ไปตาม Highway ที่โค้งค่อนข้างกว้างครับ
พอนำมาใช้ในถนนที่มีโค้งแคบๆต่อกันก็จะเกาะถนนได้น้อยลง ประกอบกับนํ้าหนักที่เยอะ (น่าจะเยอะกว่า GTI พอสมควร) ทำให้ไม่เกาะเท่าที่ควรครับ

[Gunn]

ขอบคุณครับสำหรับ Review ดีๆ ....นอกเรื่องหน่อยครับ ขับรถใน USA แล้วกลับมาขับรถในไทย เห็นชัดว่าวินัยจราจรมันผิดกันอย่างสวรรค์กับนรกครับ (ฟ้ากับเหวยังน้อยไป) จากที่เคยกังกลว่ารถพวงมาลัยซ้าย , รถขับชิดขวา กฎหมายค่าปรับแรง ฯลฯ กลับกลายเป็นว่าขับรถได้สบายใจมากๆครับ

[Sammy_]

ขอบคุณครับสำหรับรีวิว อยากมีโอการดีๆแบบนนี้บ้างจังครับ

[promt]

ขอบคุณครับ

[GreenG]

ขอบคุณครับ