ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift

kittavach

ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2014, 01:05:04 »
ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift

ถ้าจะจองรถ ตอนนี้ได้ ส่วนลดประมาณเท่าไหรครับ

และรับรถช่วงไหน  และตัวนนี้ เห็นปีหน้า อาจ เปลี่ยนโฉม

ยังหน้าเล่นอยู่หรือเปล่า
ลังเล กับ w205 ตัวใหม่

ปล1. ซื้อ 0 นะครับ ตอนแรกเร่งๆ Grey แต่ กลัวปัญหาภาษี



V221

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2014, 06:46:32 »
บางรุ่นบางสีก็มีรถเลยครับ
ส่วนลด8หมื่นถึงแสนครับ
ถ้ากลัวตกรุ่นเร็วก็จัดW205ดีกว่าแต่W212กว้างขวางกว่า
BMW 750E M SPORT



iam_naam

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2014, 07:32:50 »
เป็นรถที่ดีครับ
แต่อย่าเพิ่งเลยครับ
รอให้ผ่านไปสักสี่ถึงห้าปีก่อนดีกว่าครับ
ระบบยังมีปัญหาอยู่พอสมควร
รถผมเองยังจอดอยู่ที่ศูนย์เลยครับ
อยากทราบอะไรเพิ่มเติม หลังไมค์ครับ



john

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2014, 09:02:55 »
ขอแนะนำด้วยคนว่าอย่างพึ่งเลยครับ ผมส่งเข้าศูนย์ไปเดือน มค พึ่งได้กลับมาวิ่งตอน มิย เหมือนกัน แนะนำว่าถ้ามีรุ่นอื่นได้ก็เอารุ่นอื่นไปก่อนครับ ถ้าอยากได้รุ่นนี้จริง ๆ รอก่อนสัก 2 - 3 ปีคาดว่าน่าจะดีกว่านี้  ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 04, 2014, 19:53:47 โดย john »



!+! Bomb !+!

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2014, 10:20:06 »
ส่วนลดประมาณ 1 แสนครับ ที่ถามมาสีขาวนี่รอกันยาวๆถึงปลายปี สีดำอาจจะมีหลุดมาบ้างช่วง Q3 ส่วนบรอนส์กับเทาบางศูนย์รับมีรถเลยครับ

เซลล์เพิ่งแจ้งมาว่าช่วงกันยาจะมีสีใหม่เป็นสีบรอนส์ฟ้าด้วยครับ แต่ลองศึกษาจากผู้ใช้จริงก่อนดีกว่าครับ รุ่นนี้เหมือนแอบมีปัญหาจุกจิกบ้างครับ



kittavach

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2014, 10:34:09 »
เป็นรถที่ดีครับ
แต่อย่าเพิ่งเลยครับ
รอให้ผ่านไปสักสี่ถึงห้าปีก่อนดีกว่าครับ
ระบบยังมีปัญหาอยู่พอสมควร
รถผมเองยังจอดอยู่ที่ศูนย์เลยครับ
อยากทราบอะไรเพิ่มเติม หลังไมค์ครับ

ขอบคุณครับ แอบลังเลเลย หรือจะกลับไป 520d ดี

ตัว w205  ข้างหลังเล็กมากๆเลย ตัวรถยาวแต่เนื้อที่หมดไปกีห้องเครื่อง

หรือไปเล่น ของ grey  e200 Full option ดีที่ไม่ใช้   Hybird




iam_naam

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2014, 10:41:29 »
เป็นรถที่ดีครับ
แต่อย่าเพิ่งเลยครับ
รอให้ผ่านไปสักสี่ถึงห้าปีก่อนดีกว่าครับ
ระบบยังมีปัญหาอยู่พอสมควร
รถผมเองยังจอดอยู่ที่ศูนย์เลยครับ
อยากทราบอะไรเพิ่มเติม หลังไมค์ครับ

ขอบคุณครับ แอบลังเลเลย หรือจะกลับไป 520d ดี

ตัว w205  ข้างหลังเล็กมากๆเลย ตัวรถยาวแต่เนื้อที่หมดไปกีห้องเครื่อง

หรือไปเล่น ของ grey  e200 Full option ดีที่ไม่ใช้   Hybird



ตอนนี้ผมเข็ดกับ MBTh มากมายครับ ขาดความรับผิดชอบพอสมควรกับ hybrid ตัวนี้
รถมีปัญหาผมทนได้แต่ขาดการเอาใจใส่ที่ดีและเห็นอกเห็นใจ ต่อลูกค้า แบบนี้ยังคงคาใจครับ
ถ้าเป็นผม อยากไปลอง BMW ครับผม --"



Nikle_pk

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2014, 10:56:17 »
รถผม 2 เดือน มีปัญหาลมเข้า
สาเหตุจากกระจกบานหลังขึ้นไม่สุด
ทางศูนย์ปรับตั่งให้เรียบร้อยแล้วครับ

ส่วนการใช้งานปกติดีครับ
เปลี่ยนไฟฟ้า เป็นน้ำมัน
น้ำมันเป็นไฟฟ้า

ถ้าไม่กระแทกคันเร่ง ไม่รู้สึกถึงการกระตุกใดๆ
แต่ถ้ากระแทกคันเร่งมีกระตุกนิดๆเพราะเครื่องดีเซล
มันสตาร์ทแรงกว่าเบนซิลน่ะ

ภายในนั่งสบาย

ปล.ถ้าชอบขับสนุก. ไป F10
ถ้าชอบขับสบาย E300 ครับ
ปล.กว่าจะเปลี่ยนโฉมก็ปี 2016 ล่ะครับ กว่าจะมาไทยอีกพักใหญ่
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0



Nikle_pk

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2014, 10:57:22 »
ลืมบอกส่วนลด ผมได้ 1 แสน + ป.1 ครับ
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0



Mr.Joe

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2014, 11:20:24 »
มีเสียงบ่นค่อนข้างเยอะจากเซลส์เบ๊นซ์ MB Th เองเรื่องอาการต่างๆของ E300 Hybrid
ส่วน 520D-525D น่าใช้ทั้งคู่ สมรรถนะดี ประหยัด และไม่ค่อยมีเสียงบ่น (เกินมาตรฐานรถยุโรป) เรื่องความจุกจิก แถมมี BSi 5 ปี สบายใจยาวๆ ผมมองทางนี้มากกว่า
ส่วนถ้ายังอยากจะเป็นตราดาว ล่าสุดผมเห็น E200 ของดีลเลอร์เบ๊นซ์ MB Th ลดกันอยู่คันละ 300,000 ครับ ออปชั่นน้อย แต่น่าจะทนทาน สบายใจกว่าเจ้า E300 Hybrid



cefboy

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2014, 11:39:41 »
E มันเห็นกันบ่อยแล้ว เรียกว่าเยอะมากๆทั้งชายหรือหญิงขับ
ด้านนอกไม่ค่อยจะโดดเด่นกว่าเดิมมาก แต่ไฟทั้งหน้าและหลังมันสะดุดตาจริงๆ
แค่ ดีเซลเทอรโบผมว่าก็ดึงดีแล้ว ประหยัดอยู่แล้ว Hybrid ช่วงหลังเหมือนจะฝืดเพราะกลัวค่าซ่อมกัน
ยิ่งเห็นผลทดสอบ ของการผสมดีเซลกับไฟฟ้า ไม่ค่อยจะประทับใจ ( น่าจะแรงกว่านี้ หรือเป็นเพราะ Benz ตั้งใจทำมาแบบนี้)

ผมกลับมองว่าน่าจะเอา E250 แต่เป็น 2.2 ดีเซลมาขายดีกว่า แต่คงกลัวไปชน CLS 250
ไม่ลอง C250 ดูหรือครับ ตอนนี้มี Test ได้แล้วครับ ข้างในก็กว้างขวางดี ข้างนอก เหมือน S ตัวเล็ก กระทัดรัด 
ถ้าชอบบอดดี้ใหญ่ก็ไป 525D LCI แต่มันก็คงอีกไม่นานล่ะ



zeb80

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2014, 13:49:53 »
เข้ามาเชียร์ BMW จะดูวัยรุ่นกว่านะฮับ อิอิ



Pat.Lee

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2014, 17:08:34 »
ส่วนลดคงประมาณ 1 แสนบาท ส่วนตัวรถมันก็ใช้งานได้ดีครับ สวิทซ์เปลี่ยนเกียร์เคยเสียครั้งนึงตอน 1 หมื่นกิโลครับแต่เคลมได้อยู่ในประกัน เรื่องที่รำคาญใจก็มีเรื่องคันเร่งที่ช้ามากต้องกดรอตลอดครับ บางครั้งตอนเปลี่ยนไฟฟ้าเป็นน้ำมันก็มีกระตุกบ้างครับ



despinaauto lci

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2014, 18:19:33 »
   ผมเคยออกความเห็นไว้ใน 1st impression มั้ง ว่าตั้งแต่ผมใช้รถเบนซ์มาตั้งแต่ปี 2535 ไม่นับว่าที่เคยนั่งของพ่อ มาก่อนหน้านั้นอีกว่า

   เป็นรถเบนซ์รุ่นแรกที่ผมผิดหวัง  ผมสนิทกับเซลล  ก็ยังไม่แนะนำให้ซื้อครับ

   ทีนี้ถ้าชอบแนะนำ E200 ศูนย หรือไม่ก็ไปเกรยเลย option เยอะ สวย

   แต่ถ้าอยากขับสนุกเลือก บีเอ็ม ตัวเบนซินจะสนุกกว่าเยอะ แต่ค่าน้ำมันแพงกว่า 

   ชอบขับสบายๆ รถก็ไม่อืด เลือกเบนซ์ครับ แถมราคาตกน้อยกว่าด้วย  แต่เบาะนั่งผมว่าบีเอ็มนั่งสบายกว่า
Last id: despinaauto
2003-ACCORD 3.0 gen 7(2008 sold)
2006-CIVIC FD 1.8(2012 sold)
2008-ACCORD 2.4 gen 8(2013 sold)
2012-E250 CGI
2013-520i F10
2013-E200 coupe sport facelift
2014-528i F10 lci M Sport
2014-320d F30 upgrade m performance power



kittavach

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2014, 00:36:38 »
รถผม 2 เดือน มีปัญหาลมเข้า
สาเหตุจากกระจกบานหลังขึ้นไม่สุด
ทางศูนย์ปรับตั่งให้เรียบร้อยแล้วครับ

ส่วนการใช้งานปกติดีครับ
เปลี่ยนไฟฟ้า เป็นน้ำมัน
น้ำมันเป็นไฟฟ้า

ถ้าไม่กระแทกคันเร่ง ไม่รู้สึกถึงการกระตุกใดๆ
แต่ถ้ากระแทกคันเร่งมีกระตุกนิดๆเพราะเครื่องดีเซล
มันสตาร์ทแรงกว่าเบนซิลน่ะ

ภายในนั่งสบาย

ปล.ถ้าชอบขับสนุก. ไป F10
ถ้าชอบขับสบาย E300 ครับ
ปล.กว่าจะเปลี่ยนโฉมก็ปี 2016 ล่ะครับ กว่าจะมาไทยอีกพักใหญ่

ขอบคุณครับ ดุแล้ว ท่าน Nikle_pk ไม่พบปัญหา



kittavach

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2014, 00:38:05 »
E มันเห็นกันบ่อยแล้ว เรียกว่าเยอะมากๆทั้งชายหรือหญิงขับ
ด้านนอกไม่ค่อยจะโดดเด่นกว่าเดิมมาก แต่ไฟทั้งหน้าและหลังมันสะดุดตาจริงๆ
แค่ ดีเซลเทอรโบผมว่าก็ดึงดีแล้ว ประหยัดอยู่แล้ว Hybrid ช่วงหลังเหมือนจะฝืดเพราะกลัวค่าซ่อมกัน
ยิ่งเห็นผลทดสอบ ของการผสมดีเซลกับไฟฟ้า ไม่ค่อยจะประทับใจ ( น่าจะแรงกว่านี้ หรือเป็นเพราะ Benz ตั้งใจทำมาแบบนี้)

ผมกลับมองว่าน่าจะเอา E250 แต่เป็น 2.2 ดีเซลมาขายดีกว่า แต่คงกลัวไปชน CLS 250
ไม่ลอง C250 ดูหรือครับ ตอนนี้มี Test ได้แล้วครับ ข้างในก็กว้างขวางดี ข้างนอก เหมือน S ตัวเล็ก กระทัดรัด 
ถ้าชอบบอดดี้ใหญ่ก็ไป 525D LCI แต่มันก็คงอีกไม่นานล่ะ


cls เกินงบไปนิดครับ ไม่ไหว



kittavach

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2014, 00:39:37 »
   ผมเคยออกความเห็นไว้ใน 1st impression มั้ง ว่าตั้งแต่ผมใช้รถเบนซ์มาตั้งแต่ปี 2535 ไม่นับว่าที่เคยนั่งของพ่อ มาก่อนหน้านั้นอีกว่า

   เป็นรถเบนซ์รุ่นแรกที่ผมผิดหวัง  ผมสนิทกับเซลล  ก็ยังไม่แนะนำให้ซื้อครับ

   ทีนี้ถ้าชอบแนะนำ E200 ศูนย หรือไม่ก็ไปเกรยเลย option เยอะ สวย

   แต่ถ้าอยากขับสนุกเลือก บีเอ็ม ตัวเบนซินจะสนุกกว่าเยอะ แต่ค่าน้ำมันแพงกว่า 

   ชอบขับสบายๆ รถก็ไม่อืด เลือกเบนซ์ครับ แถมราคาตกน้อยกว่าด้วย  แต่เบาะนั่งผมว่าบีเอ็มนั่งสบายกว่า


ขอบคุณครับ

e200 ส่วนตัว ออฟน้อยไปหน่อย จุดเ่นอยู่ที่ไหนเลย e300 minor



kittavach

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2014, 00:43:14 »
ขอบคุณทุกท่านครับ สำหรับคำแนะนำ

ตอนนี้ใจเท่มาทาง ตราดาวแล้ว

ติดปัญหาแค่ 2 อย่าง

1.จะออก e300 MBTH ก็กลัวปัญหาจุกจิก บางท่านเจอ บางท่านไม่เจอ และต้องเสี่ยงกะประกัน หมด 3 ปี
2.E 250 ของ Grey ตอนนี้ก็ กังวลเรื่อง ภาษี

มิทราบว่า ถ้าเราเกิดออก Gray แล้ว เกิดแจ็กพ็อต รถคันนี้ เอามีการหลบภาษี ดดยเราไม่ทราบ
ใคร เป็นส่วน รับผิดชอบตรงนี้ครับ



V221

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2014, 14:28:02 »
ขอบคุณทุกท่านครับ สำหรับคำแนะนำ

ตอนนี้ใจเท่มาทาง ตราดาวแล้ว

ติดปัญหาแค่ 2 อย่าง

1.จะออก e300 MBTH ก็กลัวปัญหาจุกจิก บางท่านเจอ บางท่านไม่เจอ และต้องเสี่ยงกะประกัน หมด 3 ปี
2.E 250 ของ Grey ตอนนี้ก็ กังวลเรื่อง ภาษี

มิทราบว่า ถ้าเราเกิดออก Gray แล้ว เกิดแจ็กพ็อต รถคันนี้ เอามีการหลบภาษี ดดยเราไม่ทราบ
ใคร เป็นส่วน รับผิดชอบตรงนี้ครับ
ถ้าเป็นรถนำเข้าถูกต้องไม่ต้องกังวลครับเพราะเราไม่ใช่ผู้นำเข้า
ภาระอากรเป็นของผู้นำเข้า ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มก็ต้องห้ามทำให้เราไม่ได้นำมาใช้อยู่แล้วครับ
BMW 750E M SPORT



Nikle_pk

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2014, 14:51:28 »
รถเกรย์ ถ้าดีก็ดีไปครับ ได้รถราคาถูก option เพียบ
แต่ถ้าเกิดเสียขึ้นมา แจ๊คพอตแตก รอซ่อมรออะไหล่
ทะเลาะกันยาวครับ (ปล.ส่วนตัวเข็ดกับเกรย์น่ะครับ)
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0



kittavach

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2014, 09:54:29 »
รถเกรย์ ถ้าดีก็ดีไปครับ ได้รถราคาถูก option เพียบ
แต่ถ้าเกิดเสียขึ้นมา แจ๊คพอตแตก รอซ่อมรออะไหล่
ทะเลาะกันยาวครับ (ปล.ส่วนตัวเข็ดกับเกรย์น่ะครับ)

ขอบคุณครับ



Nighthawk

Re: ข้อคำแนะนำ New E 300 Hybrid Blue TEC Face lift
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2014, 10:17:58 »
เป็นรถที่ดีครับ
แต่อย่าเพิ่งเลยครับ
รอให้ผ่านไปสักสี่ถึงห้าปีก่อนดีกว่าครับ
ระบบยังมีปัญหาอยู่พอสมควร
รถผมเองยังจอดอยู่ที่ศูนย์เลยครับ
อยากทราบอะไรเพิ่มเติม หลังไมค์ครับ
ถ้าเป็นแบบคุณน้าเดชว่าไว้หันมาเลือกBMWก็คงไม่เสียหายอะไรถ้าไม่สติกกะแบรนด์ สำหรับe300HB ลุคด้านนอกดูดีมากครับแต่ภายในผมว่า MBน่าจะทำได้ดีกว่านี้ คหสต ครับ