ผู้เขียน หัวข้อ: ช่วยเลือกผ้าเบรคระหว่าง Dixcel EC กับ MuSpec หน่อยครับ  (อ่าน 18398 ครั้ง)

bigka

  • บุคคลทั่วไป
ช่วยเลือกผ้าเบรคหน่อยครับ

ระหว่าง Dixcel EC กับ MuSpec ตัวไหนดีกว่ากันครับ แตกต่างกันมากไหม

เปลี่ยนเฉพาะคู่หน้านะครับ

นิสัยการขับขี่ : ในเมือง ขับเรื่อยๆตามความเร็วถนนคับ
                    นอกเมือง 130++

รบกวนด้วยนะครับ :)

ออฟไลน์ Tee@Abuser

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 326
  • T&T Garage
Re: ช่วยเลือกผ้าเบรคระหว่าง Dixcel EC กับ MuSpec หน่อยครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2014, 23:48:49 »
dixxel ดีกว่าแต่ราคาก็สูงกว่า Mu Spec มากด้วยครับ

ถ้านอกเมืองใส่เต็มกลัวว่า สองตัววนี้ก็ยังจะเอาไม่อยู่
T&T Garage & Spp Garage
Sahakorn 17 racing factory

ออฟไลน์ 0%

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,579
Re: ช่วยเลือกผ้าเบรคระหว่าง Dixcel EC กับ MuSpec หน่อยครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2014, 05:31:10 »
ใช้mu spec ตัวถูกสุดอยุ่ เบรคดี เอาอยู่ แต่ฝุ่นเยอะมากก ต้องหมั่นเช็ดล้างบ่อยๆ

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,177
Re: ช่วยเลือกผ้าเบรคระหว่าง Dixcel EC กับ MuSpec หน่อยครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2014, 07:14:16 »
ผมใส่ MuSpec + ยาง PS3
ส่วนตัวคิดว่าเพียงพอครับ

MuSpec ถูกกว่า ต้องดูว่า เดิมๆใช้ผ้าเบรคอะไร
ถ้าผ้าเบรคเดิมๆ ขับมาได้ตลอด มาเจอ MuSpec คุณคงพอใจขึ้นครับ

ออฟไลน์ Bond007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 792
Re: ช่วยเลือกผ้าเบรคระหว่าง Dixcel EC กับ MuSpec หน่อยครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2014, 09:12:22 »
MuSpec ดีกว่าของเดิมๆติดรถในระดับที่ดีราคาไม่แรง
แต่ถ้าอยากขยับไปอีกนิดก็ Dixcel แล้วแต่งบครับ

ออฟไลน์ m_kritamet

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 89
Re: ช่วยเลือกผ้าเบรคระหว่าง Dixcel EC กับ MuSpec หน่อยครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2014, 09:32:38 »
ผมใส่ MuSpec + ยาง PS3
ส่วนตัวคิดว่าเพียงพอครับ

MuSpec ถูกกว่า ต้องดูว่า เดิมๆใช้ผ้าเบรคอะไร
ถ้าผ้าเบรคเดิมๆ ขับมาได้ตลอด มาเจอ MuSpec คุณคงพอใจขึ้นครับ

ตามท่านนี้ครับ
ผมตอนก่อนใช้ผ้าเบรคเดิม แล้วพอขยับมาใช้ Muspec ก็เพียงพอแล้วครับ ถ้านอกเมืองไม่ได้ขับบู้มาก

ออฟไลน์ MUKIMIKU

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 187
  • MEW
Re: ช่วยเลือกผ้าเบรคระหว่าง Dixcel EC กับ MuSpec หน่อยครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2014, 09:45:37 »
ถ้าสองตัวนี้ ขอจิ้มไปที่ Dixcel EC type ครับ

แต่ถ้าขับนอกเมือง 130+++ ถ้าบวกไปเยอะมากๆ อยากให้ขยับไปเล่นตัว M type ครับ

สมมุติว่าขับมา 180 ขวายาวๆ อยู่ดีๆมีรถเลนกลางโยกเข้าขวาเพื่อแซงคันหน้าที่ความเร็ว 100-110 โดยที่ไม่ได้ดูเลยว่าคุณมาเร็วแค่ไหน

ถ้าเจอแบบนี้บ่อยๆ เบรคหนักๆแบบนี้บ่อยๆ กลัวว่า EC type จะไม่อยู่ครับ

แต่ถ้า 130++ ไม่เยอะมาก สองตัวที่ท่านว่าเอาอยู่ครับ อะไรก็ได้ แล้วแต่สะดวกครับ

ออฟไลน์ berm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 520
Re: ช่วยเลือกผ้าเบรคระหว่าง Dixcel EC กับ MuSpec หน่อยครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2014, 10:35:39 »
ผมพึ่งเปลี่ยน dixcel type m ไปยังวิ่งแค่ 500 โล ก็ดีกว่าเดิมพอสมควร

จะบอกนิดนึงว่าราคาในญี่ปุ่น type m 16,000 เยน ขณะที่ type ec แค่ 8,000 เยน

แต่ตัวแทนในบ้านเราขายต่างกันแค่ 1500 บาท ผมเลยจัด type m ไปเลยครับ รู้สึกคุ้มกว่า

ออฟไลน์ PJ"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,722
  • Fake Forester
    • อีเมล์
Re: ช่วยเลือกผ้าเบรคระหว่าง Dixcel EC กับ MuSpec หน่อยคร&
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2014, 11:57:36 »
Dixcel ครับ

redtopup

  • บุคคลทั่วไป
Re: ช่วยเลือกผ้าเบรคระหว่าง Dixcel EC กับ MuSpec หน่อยครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2014, 13:16:26 »
ดิ๊กเซล ดีแน่ ไม่กินจานด้วย ผมเคยใช้อยู่ ผมใช้รุ่น ดีกว่าสแตนดารท์ติดรถขึ้นมา รุ่นเดียว ตัวฝักสีทองจำไม่ได้ไม่รู้รุ่นอะไร แต่ผ้าแข็งมาก แป้นเบรคแข็งขึ้นรู้สึกได้ แต่แปลกผ้าเบรคแข็งกลับไม่กินจาน ฝุ่นสีน้ำตาลอ่อน เกาะแม๊กมองไม่ค่อยเห็น ราคาแพงโหดเกินพอดีไป ไม่คุ้ม สำหรับผม แต่ผ้าก็สึกช้ามากๆ ผ้าเบรคแข็งตัวเร็วไปหน่อยหากใช้ไปนานๆ
แนะนำตัวเลือกเพิ่ม ebc เขียวก็พอแล้ว ตัวนี้ผ้านิ่มมากๆ แป้นเบรคจะนิ่มขึ้น ใส่แรกๆอย่าตกใจเบรคปั๊บหนืดเลย พอ บดไปซัก 1000-2000 โลผ้าจะจับกำลังดีเลย ระยะ หยุ่นตัวมากกกว่าดิ๊กเซลล์ แป้นเบรคนิ่มกว่า ฝุ่นมากสีดำ
ผมว่า ถ้าไม่ได้ไปลงสนามอะไร ตัวเลือกเพิ่ม แค่ ebc เขียวผมว่ามันก็เหลือๆแล้ว ในการใช้งานประจำวัน  
ผ้าเบรคจะคงประสิทธ์ภาพสูงอยู่ตลอดเวลา ควร เป่าลม ด้วย เพื่อให้ฝุ่นที่เกาะที่ฝักเบรคออกไป เป่าบ่อยๆ จานจะไม่มีรอยเส้นเลย
ผมว่า ebc ดีมากๆเลย เนื่องจากมันมีระยะหยุ่นตัวหน่อยนึง แล้วถึง หนืดขึ้น แค่เพียงเสี้ยววินาทีเอง ระยะหยุ่นตัวของมัน แบบนี้ดีครับ กดแรงๆเต็มเม็ดในนาทีฉุกเฉินนั้น จานเบรคจะไม่คด เหมือนผ้าเบรคที่แข็งๆ ที่แบบว่า ทื่อหน่อยๆ แต่ไม่ได้หมายความว่า ดิ๊กเซลล์มันทื่อน๊ะครับเพราะยังไงดิ๊กเซลล์มันอยู่ระดับบนอยู่แล้ว  เพียงแต่ดิ๊กเซลล์มันเป็นผ้าที่แข็งมากๆ ตอบสนองไว ให้ความรู้สึกที่ ดีมากๆ  ฟิลของผ้าเบรคมันก็ดีด้วยผมว่าฟิลลิ่งดีกว่า ebc ดิ๊กเซลล กะระยะได้ง่าย พวกผ้าเบรคที่ต้องออกแรงกดมากขึ้น แต่แบบว่ากดแล้วไม่หนืดในครั้งแรกที่กดแป้น ผ้าพวกนี้จะกะระยะได้ง่ายกว่าผ้าที่กดครั้งแรกแล้วนิ่มถึงจะดูด  
 พวกผ้าแข็งๆ ที่เกรดไม่ดี  พวกนี้กดแรงๆจานเบรคอาจจะคดได้คด เพราะผ้ามันแข็ง
จานเบรคคด สาเหตุหลักมาจากเบรครุนแรงบ่อยๆทั้งนั้นความร้อนสะสม กับผ้าเบรคไม่ดี บางทีแผ่นทองเหลืองเป็นแผ่นๆคมๆเลยพวกนี้กินจาน
 และบางช่วงจับไม่เท่าจากแรงกด แต่อาจจะไม่รู้สึกแต่จริงๆมัน ฝืดไม่เสมอกันเวลามันจับ ตามการหมุนของจานเบรคพอกดแรงๆ จานเบรคมีคดได้ ดิ๊กเซลล์ทองเหลืองที่ผสมมา เนียนกริ๊บเลยครับ ทองเหลืองที่ผสมมาเสมอกันขนาดเท่าๆกัน น่าจะคัดเกรดและขนาดของทองเหลืองมาแล้ว
ดิ๊กเซลล์มีข้อติอย่างเดียวคือราคาแพงเกินความจำเป็นไปมากๆ และราคาเกินพอดีไปมากไปหลายๆมาก มันเหมาะกับรถที่ทำมา มากกว่า
ข้อดีอีกหลายข้อเลยสำหรับท่านเซอร์ดิ๊กคือ ผ้ามันสึกช้ามากๆ แทบไม่สึกเลยแหละครับ ใช้ได้ทนจริง และไม่กินจานเบรคเลย จานเบรคโดยมากถ้าผ้าเบรคไม่ดี จานจะดำนิดๆไม่เอี่ยม ที่จานดำก็เพราะส่วนผสมของผ้าเบรคเนี่ยแหละครับ ที่เมื่อหลุดออกมาแล้วไปเกาะพอเจอความร้อนมากๆเลยเกาะติดจานมันซะเลย แต่กับดิ๊กเซลล์นั้น มันขัดจานจนขาวเลย จานยิ่งขาวก็แสดงว่าไม่มีอะไรไปเกาะผ้าก็จะจับๆได้ดียิ่งขึ้นด้วย  ดังนั้นดิ๊กเซลล์เป็นผ้าเบรคที่ตอบสนองได้ดีมากๆ กะระยะเบรคได้ดีขึ้น อยู่ไม่อยู่เรารับรู้ด้วยแรงกดของแป้นเบรคจากผ้าเบรคยี่ห้อนี่้ได้ดีมากๆ ฟิลลิ่งยอดเยี่ยม เหมือน เราขี่จักรยาน แล้ว เอาขาขวาใส่รองเท้าถีบที่ยางกับตะเกียบหน้าเวลาเบรคจริงๆ ดิ๊กเซลล์มันให้ความรู้สึกว่าเหมือนว่าเราเป็น  ecu หลักคอยประมวลผลได้เลยจริงๆเพราะมันให้ฟิลที่ดี จริงๆ

ส่วน ebc เขียวก็ดีอีกเช่นกันครับ เหมาะแก่การใช้งานในชวิตประจำวันมากกว่า เพราะผ้านิ่มทำให้แป้นเบรคนิ่มขึ้นด้วยฝุ่นมากดำยังกับถ่านไม้โกงกางทีเดียว กดนิดเดียวดูดอยู่จริงๆ ไม่ใช่อยู่เลย รึ อยู่แต่เลยไป เเปลกจริงๆเรื่องภาษาเนี่ย
ส่วน อีกญี่ห้อ ผมไม่เคยใช้
บอกตรงๆว่า แค่ ebc เขียว มันก็เหลือๆแล้วแหละครับในการใช้งานในชวิตประจำวัน เพราะแป้นเบรคมันจะนิ่มขึ้นกว่าผ้าเบรคติดรถครับ ให้การเบรคที่มีความสุนทรีมากกกว่าดิ๊กเซลล์ในการใช้งานในชวิตประจำวันแบบปกติที่บางทีมีเหตุการณ์ฉุกเฉินมันก็เอาอยู่ ดีกว่าผ้าติดรถมากๆหลายเท่า ผมไปเที่ยวเขาประจำ ด้วยรถsuvที่หนักถึง 2 ตัน มันเอาอยู่สบายเลย ไม่มีคำว่าเบรคแล้วทื่อแข็งเฟร๊ตอะไรออกมาให้เห็น เลยซักครั้ง  
รถไม่ได้ไปลงสนาม อย่าไปใช้เกรดที่ทนความร้อนสูงที่สุดนั่นแหละดีครับ เพราะเกรดสูงสุดผ้ามันแข็งมากๆ ผ้ามันทนได้แต่จานเบรคมันทนไม่ได้จานเดิมๆกดแรงๆเอาแค่ครั้งเดียวมันก็คดแล้ว ถ้าผ้าแข็งจานนิ่ม ยังไงผ้ามันก็กินจานวันยังค่ำ ถ้าเอาให้ดี ถ้าจะเปลี่ยน จานเป็นยี่ห้อเดียวกันด้วยให้มันแมช์กันกับผ้าเกรดทนความร้อนได้สูงที่สุดในยี่ห้อนั้นๆ  แต่ราคาจะรับได้รึเปล่า มันจะคุ้มมั้ย กับการใช้งานในชวิตประจำวันแค่ผ้าเบรคยี่ห้อแต่ง เกรดทนความร้อนปานกลางเหมาะที่สุดครับ




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 09, 2014, 13:44:16 โดย redtopup »

ออฟไลน์ shikimaru

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
    • อีเมล์
Re: ช่วยเลือกผ้าเบรคระหว่าง Dixcel EC กับ MuSpec หน่อยครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2014, 19:29:44 »
ดิ๊กเซล ดีแน่ ไม่กินจานด้วย ผมเคยใช้อยู่ ผมใช้รุ่น ดีกว่าสแตนดารท์ติดรถขึ้นมา รุ่นเดียว ตัวฝักสีทองจำไม่ได้ไม่รู้รุ่นอะไร แต่ผ้าแข็งมาก แป้นเบรคแข็งขึ้นรู้สึกได้ แต่แปลกผ้าเบรคแข็งกลับไม่กินจาน ฝุ่นสีน้ำตาลอ่อน เกาะแม๊กมองไม่ค่อยเห็น ราคาแพงโหดเกินพอดีไป ไม่คุ้ม สำหรับผม แต่ผ้าก็สึกช้ามากๆ ผ้าเบรคแข็งตัวเร็วไปหน่อยหากใช้ไปนานๆ
แนะนำตัวเลือกเพิ่ม ebc เขียวก็พอแล้ว ตัวนี้ผ้านิ่มมากๆ แป้นเบรคจะนิ่มขึ้น ใส่แรกๆอย่าตกใจเบรคปั๊บหนืดเลย พอ บดไปซัก 1000-2000 โลผ้าจะจับกำลังดีเลย ระยะ หยุ่นตัวมากกกว่าดิ๊กเซลล์ แป้นเบรคนิ่มกว่า ฝุ่นมากสีดำ
ผมว่า ถ้าไม่ได้ไปลงสนามอะไร ตัวเลือกเพิ่ม แค่ ebc เขียวผมว่ามันก็เหลือๆแล้ว ในการใช้งานประจำวัน  
ผ้าเบรคจะคงประสิทธ์ภาพสูงอยู่ตลอดเวลา ควร เป่าลม ด้วย เพื่อให้ฝุ่นที่เกาะที่ฝักเบรคออกไป เป่าบ่อยๆ จานจะไม่มีรอยเส้นเลย
ผมว่า ebc ดีมากๆเลย เนื่องจากมันมีระยะหยุ่นตัวหน่อยนึง แล้วถึง หนืดขึ้น แค่เพียงเสี้ยววินาทีเอง ระยะหยุ่นตัวของมัน แบบนี้ดีครับ กดแรงๆเต็มเม็ดในนาทีฉุกเฉินนั้น จานเบรคจะไม่คด เหมือนผ้าเบรคที่แข็งๆ ที่แบบว่า ทื่อหน่อยๆ แต่ไม่ได้หมายความว่า ดิ๊กเซลล์มันทื่อน๊ะครับเพราะยังไงดิ๊กเซลล์มันอยู่ระดับบนอยู่แล้ว  เพียงแต่ดิ๊กเซลล์มันเป็นผ้าที่แข็งมากๆ ตอบสนองไว ให้ความรู้สึกที่ ดีมากๆ  ฟิลของผ้าเบรคมันก็ดีด้วยผมว่าฟิลลิ่งดีกว่า ebc ดิ๊กเซลล กะระยะได้ง่าย พวกผ้าเบรคที่ต้องออกแรงกดมากขึ้น แต่แบบว่ากดแล้วไม่หนืดในครั้งแรกที่กดแป้น ผ้าพวกนี้จะกะระยะได้ง่ายกว่าผ้าที่กดครั้งแรกแล้วนิ่มถึงจะดูด  
 พวกผ้าแข็งๆ ที่เกรดไม่ดี  พวกนี้กดแรงๆจานเบรคอาจจะคดได้คด เพราะผ้ามันแข็ง
จานเบรคคด สาเหตุหลักมาจากเบรครุนแรงบ่อยๆทั้งนั้นความร้อนสะสม กับผ้าเบรคไม่ดี บางทีแผ่นทองเหลืองเป็นแผ่นๆคมๆเลยพวกนี้กินจาน
 และบางช่วงจับไม่เท่าจากแรงกด แต่อาจจะไม่รู้สึกแต่จริงๆมัน ฝืดไม่เสมอกันเวลามันจับ ตามการหมุนของจานเบรคพอกดแรงๆ จานเบรคมีคดได้ ดิ๊กเซลล์ทองเหลืองที่ผสมมา เนียนกริ๊บเลยครับ ทองเหลืองที่ผสมมาเสมอกันขนาดเท่าๆกัน น่าจะคัดเกรดและขนาดของทองเหลืองมาแล้ว
ดิ๊กเซลล์มีข้อติอย่างเดียวคือราคาแพงเกินความจำเป็นไปมากๆ และราคาเกินพอดีไปมากไปหลายๆมาก มันเหมาะกับรถที่ทำมา มากกว่า
ข้อดีอีกหลายข้อเลยสำหรับท่านเซอร์ดิ๊กคือ ผ้ามันสึกช้ามากๆ แทบไม่สึกเลยแหละครับ ใช้ได้ทนจริง และไม่กินจานเบรคเลย จานเบรคโดยมากถ้าผ้าเบรคไม่ดี จานจะดำนิดๆไม่เอี่ยม ที่จานดำก็เพราะส่วนผสมของผ้าเบรคเนี่ยแหละครับ ที่เมื่อหลุดออกมาแล้วไปเกาะพอเจอความร้อนมากๆเลยเกาะติดจานมันซะเลย แต่กับดิ๊กเซลล์นั้น มันขัดจานจนขาวเลย จานยิ่งขาวก็แสดงว่าไม่มีอะไรไปเกาะผ้าก็จะจับๆได้ดียิ่งขึ้นด้วย  ดังนั้นดิ๊กเซลล์เป็นผ้าเบรคที่ตอบสนองได้ดีมากๆ กะระยะเบรคได้ดีขึ้น อยู่ไม่อยู่เรารับรู้ด้วยแรงกดของแป้นเบรคจากผ้าเบรคยี่ห้อนี่้ได้ดีมากๆ ฟิลลิ่งยอดเยี่ยม เหมือน เราขี่จักรยาน แล้ว เอาขาขวาใส่รองเท้าถีบที่ยางกับตะเกียบหน้าเวลาเบรคจริงๆ ดิ๊กเซลล์มันให้ความรู้สึกว่าเหมือนว่าเราเป็น  ecu หลักคอยประมวลผลได้เลยจริงๆเพราะมันให้ฟิลที่ดี จริงๆ

ส่วน ebc เขียวก็ดีอีกเช่นกันครับ เหมาะแก่การใช้งานในชวิตประจำวันมากกว่า เพราะผ้านิ่มทำให้แป้นเบรคนิ่มขึ้นด้วยฝุ่นมากดำยังกับถ่านไม้โกงกางทีเดียว กดนิดเดียวดูดอยู่จริงๆ ไม่ใช่อยู่เลย รึ อยู่แต่เลยไป เเปลกจริงๆเรื่องภาษาเนี่ย
ส่วน อีกญี่ห้อ ผมไม่เคยใช้
บอกตรงๆว่า แค่ ebc เขียว มันก็เหลือๆแล้วแหละครับในการใช้งานในชวิตประจำวัน เพราะแป้นเบรคมันจะนิ่มขึ้นกว่าผ้าเบรคติดรถครับ ให้การเบรคที่มีความสุนทรีมากกกว่าดิ๊กเซลล์ในการใช้งานในชวิตประจำวันแบบปกติที่บางทีมีเหตุการณ์ฉุกเฉินมันก็เอาอยู่ ดีกว่าผ้าติดรถมากๆหลายเท่า ผมไปเที่ยวเขาประจำ ด้วยรถsuvที่หนักถึง 2 ตัน มันเอาอยู่สบายเลย ไม่มีคำว่าเบรคแล้วทื่อแข็งเฟร๊ตอะไรออกมาให้เห็น เลยซักครั้ง  
รถไม่ได้ไปลงสนาม อย่าไปใช้เกรดที่ทนความร้อนสูงที่สุดนั่นแหละดีครับ เพราะเกรดสูงสุดผ้ามันแข็งมากๆ ผ้ามันทนได้แต่จานเบรคมันทนไม่ได้จานเดิมๆกดแรงๆเอาแค่ครั้งเดียวมันก็คดแล้ว ถ้าผ้าแข็งจานนิ่ม ยังไงผ้ามันก็กินจานวันยังค่ำ ถ้าเอาให้ดี ถ้าจะเปลี่ยน จานเป็นยี่ห้อเดียวกันด้วยให้มันแมช์กันกับผ้าเกรดทนความร้อนได้สูงที่สุดในยี่ห้อนั้นๆ  แต่ราคาจะรับได้รึเปล่า มันจะคุ้มมั้ย กับการใช้งานในชวิตประจำวันแค่ผ้าเบรคยี่ห้อแต่ง เกรดทนความร้อนปานกลางเหมาะที่สุดครับ






เห็นด้วยตามนี้ครับ ถ้ารถเดิมๆ แต่ขับเร็ว ebc เขียว เวิคจริง ใส่มินิอยู่จากเบรคเดิมๆ ช่วงกดตอนแรกจะทื่อๆหน่อย ต้องย้ำขึ้นอีกถึงจะดึงลง แต่ ebc เขียวจะดึงให้ตั้งแต่แตะเลยแบบไม่กระชากลง มันให้ความนุ่มนวลกว่าเยอะ แต่ข้อเสียเลยคือ ฝุ่นเยอะมากๆ เยอะในระดับขับทุกวันนี่อาทิตย์นึงดำทั้งล้อเลย

ส่วนผ้าเบรค dixxel ผมไม่เคยใช้ แต่เท่าที่ตามอ่านในหลายๆที่เห็นใส่กันแต่รถทำเครื่อง โมม้า 200 กว่า 300 กว่าทั้งนั้น
ถ้า ebc เขียวถ้ายังคิดว่าไม่พอ ลองเปลี่ยนจารนเบรคเพิ่มผมว่าน่าจะพอแล้วนะครับ บางครั้งเบรคดึงดีมากๆจะไปทำให้ระบบช่วยเหลืออย่างอื่นทำงานไวขึ้นรึเปล่า อย่างที่ผมใช้ fortuner ตัวแรก เบรคไม่อยู่ไปเปลี่ยน ผ้าเบรค จานเบรค หม้อลมเพิ่ม กดแรงๆอยู่จริงแต่ abs  ทำงานตลอดเลย

ออฟไลน์ mick

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,549
Re: ช่วยเลือกผ้าเบรคระหว่าง Dixcel EC กับ MuSpec หน่อยครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2014, 20:13:01 »
เอ แล้วตกลง ebc หรือ dixel ดีกว่ากันคับ

ออฟไลน์ xenon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 229
    • อีเมล์
Re: ช่วยเลือกผ้าเบรคระหว่าง Dixcel EC กับ MuSpec หน่อยครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2014, 21:20:59 »
เปลี่ยนทั้ง 4ล้อจะดีกว่านะครับ

ออฟไลน์ shikimaru

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
    • อีเมล์
Re: ช่วยเลือกผ้าเบรคระหว่าง Dixcel EC กับ MuSpec หน่อยครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2014, 23:24:50 »
เอ แล้วตกลง ebc หรือ dixel ดีกว่ากันคับ

ต้องรอดูคนที่เคยใช้ทั้งคู่ดีกว่า ebc เขียวประมาณ 4000 eb จะมี แดง กับเหลืองอีก เหลืองจะเป็นตัวแพงสุดตัวนี้ราคาน่าจะใกล้กับ dixxel ที่ราคาร่วมๆหมื่นต่อคู่

bigka

  • บุคคลทั่วไป
Re: ช่วยเลือกผ้าเบรคระหว่าง Dixcel EC กับ MuSpec หน่อยครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2014, 23:28:59 »
ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ  แต่ตอนนี้เริ่มลังเลระหว่าง DIXCEL กับ EBC แทนซะแล้วสิ   :-\ :-\

ปล.ลืมบอกไปครับ รถผม camry วางเครื่อง 3.0 v6 ประมาณ 210 แรงม้า ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 09, 2014, 23:32:22 โดย bigka »

ออฟไลน์ berm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 520
Re: ช่วยเลือกผ้าเบรคระหว่าง Dixcel EC กับ MuSpec หน่อยครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2014, 11:20:26 »
ถ้ารถมีสัก 200 ม้า mu spec ตัดทิ้งไปเลยครับ อย่างน้อยต้อง  n500

คราวนี้ถ้าเป็น Dixcel ก็ควรจะเป็น type m หรือ es ด้วยครับ ec มันไม่น่าพอ

ebc เขียวก็พอ แต่ไม่รู้จะเทียบให้ยังไงเพราะไม่เคยใช้ ebc แต่ถ้าถามความคุ้ม

 ebc คุ้มกว่าครับ ด้วยราคาที่ถูกกว่าน่าจะ 4 พันกว่า


redtopup

  • บุคคลทั่วไป
Re: ช่วยเลือกผ้าเบรคระหว่าง Dixcel EC กับ MuSpec หน่อยครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2014, 12:35:31 »
ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ  แต่ตอนนี้เริ่มลังเลระหว่าง DIXCEL กับ EBC แทนซะแล้วสิ   :-\ :-\

ปล.ลืมบอกไปครับ รถผม camry วางเครื่อง 3.0 v6 ประมาณ 210 แรงม้า ครับ


คันเก่าผม e46 330 ไปรีแม๊พเพิ่ม ทางโปรแกรเมอร์คุยว่า ได้ 240 แรงม้ามากกกว่าสเป็คยุโรปนิดนึง  น้ำหนักรถประมาณ ตันสามร้อยกว่าโล ผมยังใส่แค่ ดิ๊กเซลล์ ตัวฝักสีทอง ที่เลยสแตนดารท์ขึ้นมาเกรดเดียวเอง เบรคอยู่ดีไม่มีเฟร๊ต อยู่ดี ทั้งผ้าเย็นและร้อน เปลี่ยนเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วที่คนหิ้วเอาเข้ามาใหม่ๆ แต่ผมจำฟิลได้เพราะขับคันนี้นานหลายปี ฟิลออกแป้นเบรคแข็งๆ แต่ไม่ทื่อ
suv ปัจจุบัณ ไปรีแม๊พมาอีกได้ แรงบิดประมาณ 40
 ม้าประมาณ 200 ตัวที่เครื่อง ใส่ ebc เขียวบอกตรงๆว่าผมชอบ ebc เขียวมากกกว่าอีกเพราะแป้นเบรคนิ่มขึ้น ผ้าเบรคนั้นดูดดีจริงๆ แค่นี้มันก็เหลือๆสำหรับผมแล้ว
ผ้าเบรคดีๆ คงสงสารช่วงล่างน่าดู
ผ้าเกรดที่ทนความร้อนสูงกว่าสแตนดารท์ขึ้นมาอีกนิด ผ้าพวกนี้ คุณกด เเล้วเบรค แค่ หยุดกดปั๊บนึง ผ้ามันก็ระบายความร้อนออกไปแล้ว  มันไม่ใช่ในสนามแข่งที่ไม่กี่วิก็ถึงทางโค้งแล้ว
แล้วอีกอย่างนึง คุณขับในชวิตประจำวัน ขึ้นรถไปปั๊บ จะขับอย่างกับพายุตลอดเวลาเลยรึ

เอาผ้าที่ราคาสมเหตุผล งบที่เหลือ เปลี่ยนจานแต่งแบบที่เป็นเส้นตัดขวางๆ จะเจาะรูด้วยรึไม่ต้องเจาะก็ดี แต่ ผมชอบเเบบไม่เจาะรู เพราะความแข็งแรงมีมากกกว่าแบบเจาะรู เพราะรถเราไม่ใช่รถสนามแข่งรึเป็นพวกซุปเปอร์คาร์อะไร ที่มีลูกสูบ 2-3 ลูก พวกนี้ ผ้าเบรคจะหน้าไม่กว้างแต่ยาวแรงกดมันสม่ำเสมอตลอดทั้งหน้า ไม่เหมือน ลุกสูบตัวเดียวแบบรถบ้านๆ ดังนั้นผมคิดว่า รถบ้านแค่จาน ฝานร่องมามันก็เหลือๆแล้ว  แต่รถผมก็เอาจานเดิมๆติดรถเนี่ยแหละ เพราะจานเดิมๆติดรถราคาไม่กี่พัน จานแต่งล่อหมื่นขึ้น ผมเก็บเงินเข้ากระเป๋าดีกว่า
แค่นี้ผมว่า ก็เบรคจนช่วงล่างโย้แล้วแหละครับ  กับจานแต่งอีก คู่
เบรคกำลังดี ดีที่สุด เบรคดีมากไปเดี่ยวรถหลังชนตูดอีก เบรคดีมากไปเคยตัว ประมาทขึ้น
ทำเป็นนิจสิน ช่วงล่างไปไว เพราะเบรคดีเกินไป
รถเบรคดีเกินไปมันก็มีข้อเสียครับไม่ได้มีแต่ข้อดี  พยายามอย่าไปออกนอกลู่พื้นฐานที่โรงงงานวิจัยมาดีที่สุดครับ ออกให้น้อยที่สุด เพราะแค่ผ้าเบรคเกรดสูงขึ้นมาอีกนิดกับจานเนื้อแข็งๆอีกคู่ แค่นี้มันก็เหลือๆแล้วแหละ   กับยางดีๆ อีก 4 เส้น โช๊ค เจ๋งๆอีก 2 คู่
ลงไปมากๆ เติมอย่างอื่นเข้าไปอีก เงินจำนวนไม่ใช่น้อยๆสำหรับรถ  ลงไปผิดฝาผิดทาง ฟิลรถก็เปลี่ยนไปมากๆ กลายเป็นตรูขับรถอะไรแล้วหว่า ฟิลเดิมๆของรถยี่ห้อที่เราขับหายไปหมดแล้ว ซื้อรถจะเอาเงียบแต่ซื้อมาแล้วไปเปลี่ยนท่อให้เสียงดัง
ได้พอดีมาแต่เอาไปโหลดเตี้ย ได้เตี้ยมามายกสูง ได้สูงพอดีมากลับเอาไปโหลดเตี้ย  กระเป๋าฟีบพอดี สุดท้ายแล้วไปิีกซักพักจะกลับคืนสู่สามัญทั้งนั้น
ถ้าเดินทางต่างจังหวัดบ่อยๆ ผ้าเบรคแต่ง กับจานดีๆ ที่ราคาย่อมเยาว์  ผมว่าจบกว่า ผ้าเบรคดีราคาแพง กับจานติดรถ ที่ราคาใก้ลเคียงกัน เพราะลองบ้าค่อยๆวึมไปเรื่อยๆ เดี่ยวมีคิดต่ออีกแหละครับไหนๆก็ไหนๆแล้วเปลี่ยนจานด้วยดีกว่า  ไม่จบซักทีเพราะเพิ่มเงินอีกนิดก็ได้คาลิปเปอร์เก่าเซียงกงลุกสูบคู่ก็ได้แล้ว
ดังนั้นเอาจบแต่แรกด้วยงบที่ลงตัวดีกว่าครับ ได้ใช้ยาวๆได้ให้มันคุ้มก่อนดีกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2014, 13:06:26 โดย redtopup »