ผู้เขียน หัวข้อ: A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน  (อ่าน 7073 ครั้ง)

ออฟไลน์ Larry

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 562
A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน
« เมื่อ: สิงหาคม 10, 2014, 10:53:24 »
การจูน ecu จำพวก stand alone เพื่อให้ใช้น้ำมัน E85 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จำเป็นต้องใช้ a/f ratio หรือไม่ครับ หรือเวลาจูนจริงๆ เค้าจะปิดฟังก์ชั่นนี้ไว้ แต่หากใช้ก็เอาค่าจาก O2 Sensor มาคำนวนใช่หรือไม่ครับ แบบนี้หากเราจะใช้กล่องจำพวกนี้อยู่แล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหา flex fuel sensor มาติด เพราะตัวรถสามารถอ่านค่าออกซิเจนหลังจากเผาไหม้ได้อยู่แล้ว ใช่หรือไม่ครับ

การติดตั้ง flex fuel sensor จะติดระหว่างทางเดินน้ำมันเข้าหาหัวฉีด ส่วน O2 sensor จะติดหลังจากการเผาไหม้ ตัวไหนให้ค่าที่แม่นยำกว่าในการจูนครับ

หากเอาทั้ง 2 ค่ามาใช้ในการจูนเพื่อเปรียบเทียบก่อนเผาไหม้และหลังเผาไหม้ จะสามารถทำได้หรือไม่ครับ ส่วนตัวผมคิดว่าหากทำได้คงจะได้ค่าที่แม่นยำมากขึ้น การจูนจะละเอียดมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นแค่ในความคิดของผม ไม่ทราบว่าความจริงจะเป็นเช่นไร แนะนำด้วยนะครับ

ออฟไลน์ popdemonic

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 190
  • I'm Back!
Re: A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2014, 11:34:34 »
ในกล่อง standalone จะมีcorrection ได้อยู่แล้วขึ้นอยู่กับเราเซ็ตให้ชดเชยมากน้อยแค่ไหน
O2 wideband จำเป็นครับ สำหรับจูน เพื่อหาค่าในตาราง เมื่อได้ค่าในตาราง โดยมากมักจะใช้
O2 ให้ทำงานช่วงเดินเบา ส่วนช่วงรอบสูง มักจะให้standaloneอิงค่าในตารางเป็นหลักครับ(ไม่ได้
ให้กล่องปรับค่าตามO2)
เพราะ O2 wideband จะยังมีความล่าช้าในการคำนวณ อยู่ครับ
flex sensor จำเป็นมั้ย ถ้ามีการเติมน้ำมันหลายชนิดผมว่า มีไว้ก็ดีครับ แต่ก็ต้องมานั่ง
จูน ชดเชย ค่าethanol อยู่ดีครับ สำหรับผมเอง ถ้าจำเป็นต้องจูน ผมใช้น้ำมันอยู่แค่2
ประเภท เพราะฉะนั้น flex sensorผมเลยไม่จำเป็นครับ ผมใช้จูน2ตารางแล้ว
ต่อconfig switch ถ้าเติม95 ก็กดปุ่มสลับตาราง ง่ายๆแค่นั้นเองครับ

ออฟไลน์ popdemonic

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 190
  • I'm Back!
Re: A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2014, 11:38:00 »
ถ้าไม่มี flex sensor กล่องมันไม่สามารถชดเชยได้มากขนาดนั้นครับ
correction พวกส่วนผสมหนา บาง มันแค่5-15%เต็มที่ไม่เกินนี้
มันจะมีปัญหาเรื่องการจูนรอบเดินเบาอีก ไหนจะ ความไวในการ
คำนวณ ยิ่งcorrection ชดเชยมาก การทำงานของstandalone
ยิ่งมีโอกาสไม่แม่นยำมากขึ้น และใช้เวลาคำนวณมากขึ้น

ออฟไลน์ Larry

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 562
Re: A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2014, 11:47:36 »
ในกล่อง standalone จะมีcorrection ได้อยู่แล้วขึ้นอยู่กับเราเซ็ตให้ชดเชยมากน้อยแค่ไหน
O2 wideband จำเป็นครับ สำหรับจูน เพื่อหาค่าในตาราง เมื่อได้ค่าในตาราง โดยมากมักจะใช้
O2 ให้ทำงานช่วงเดินเบา ส่วนช่วงรอบสูง มักจะให้standaloneอิงค่าในตารางเป็นหลักครับ(ไม่ได้
ให้กล่องปรับค่าตามO2)
เพราะ O2 wideband จะยังมีความล่าช้าในการคำนวณ อยู่ครับ
flex sensor จำเป็นมั้ย ถ้ามีการเติมน้ำมันหลายชนิดผมว่า มีไว้ก็ดีครับ แต่ก็ต้องมานั่ง
จูน ชดเชย ค่าethanol อยู่ดีครับ สำหรับผมเอง ถ้าจำเป็นต้องจูน ผมใช้น้ำมันอยู่แค่2
ประเภท เพราะฉะนั้น flex sensorผมเลยไม่จำเป็นครับ ผมใช้จูน2ตารางแล้ว
ต่อconfig switch ถ้าเติม95 ก็กดปุ่มสลับตาราง ง่ายๆแค่นั้นเองครับ
ใช้ flex fuel sensor เพื่อรับค่าปริมาณ ethanol ในสายน้ำมัน เมื่อได้ค่านั้นแล้ว ตัว stand alone ก็มีค่าตาราง a/f ratio ที่จะปรับแก้ได้อยู่ ก็เอาค่าที่ได้จาก flex fuel sensor มาปรับแก้ แล้วส่งค่าที่แก้ได้ไปหัวฉีดเพื่อสั่งจ่ายน้ำมัน ทำแบบนี้ได้หรือไม่ครับ

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2014, 16:47:07 »
มองในภาพง่ายๆคือตัว FlexFuel Sensor (ผมเรียก Ethanol Sensor) นั่นส่งสัญญาณไปบอกกล่องโดยมีการจูนได้ตามที่คนจูนเขาตั้งไว้ สมมติกล่องบอกมา E85 input ก็คือแบบนึง ก็เลือก Map น้ำมันกับไฟมาแบบนึง หรือกล่องบอกมา E10 ก็จะให้เลือก Map อีกแบบนึงที่จูนเอาไว้ จะใช้วิธีเติมน้ำมันผสมให้ได้ค่าเอทานอลตามต้องการแล้วจูนจริงๆเลยหรือจะเกลี่ยค่าเอาก็ได้ เท่าที่ลองดูมาก็ใช้ได้ผลดี เพียงแต่ขอลองกับรถตัวเองก่อน จะได้รู้วิธีการของมันจริงๆ

อันที่จริงอาจจะไม่ต้องใช้กล่อง Stand alone ก็ได้ ผมกำลังจะลองกล่อง OctaneMax คู่กับ Ethanol Sensor ของ Zeitronix (เพื่อนผมทำ ไม่ใช่ผมทำเอง) แต่ Piggyback บางตัวก็อาจจะไม่เป็นมิตรกับการจูนคู่กับ Ethanol Sensor นัก อย่าง Unichip Q กับ Q+ นี่ทำไม่ได้ ..ไม่ได้นั่งเทียน นี่คือผมนั่งอ่านอีเมล์ที่เพื่อนผมคุยกับเจ้าของบริษัท ..แต่ผมมองว่าก็แล้วไง พ่วงสวิตช์ Mode ก็ได้ สามารถสร้างได้ 5 Map ตามต้องการ เหนื่อยตอนจูน กับต้องไม่ลืมบิดสวิตช์เท่านั้นเวลาเติมน้ำมันแบบต่างๆ วิธีนี้ก็คือแนวคิดแบบเดียวกับคุณ DKW ผมมองว่าใช้ได้นะ แต่ที่เปลี่ยนมาลอง OctaneMax เพราะราคามันดี และเพื่อนๆที่เป็นจูนเนอร์คุยกันแล้วเห็นตรงกันว่ากล่องฝีมือคนไทยตัวนี้ไม่กระจอกนะ น่าใช้ ผมชอบสนับสนุนสินค้าคนไทยทำอยู่แล้วเลยขอลองหน่อย
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ Larry

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 562
Re: A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2014, 19:16:53 »
มองในภาพง่ายๆคือตัว FlexFuel Sensor (ผมเรียก Ethanol Sensor) นั่นส่งสัญญาณไปบอกกล่องโดยมีการจูนได้ตามที่คนจูนเขาตั้งไว้ สมมติกล่องบอกมา E85 input ก็คือแบบนึง ก็เลือก Map น้ำมันกับไฟมาแบบนึง หรือกล่องบอกมา E10 ก็จะให้เลือก Map อีกแบบนึงที่จูนเอาไว้ จะใช้วิธีเติมน้ำมันผสมให้ได้ค่าเอทานอลตามต้องการแล้วจูนจริงๆเลยหรือจะเกลี่ยค่าเอาก็ได้ เท่าที่ลองดูมาก็ใช้ได้ผลดี เพียงแต่ขอลองกับรถตัวเองก่อน จะได้รู้วิธีการของมันจริงๆ

อันที่จริงอาจจะไม่ต้องใช้กล่อง Stand alone ก็ได้ ผมกำลังจะลองกล่อง OctaneMax คู่กับ Ethanol Sensor ของ Zeitronix (เพื่อนผมทำ ไม่ใช่ผมทำเอง) แต่ Piggyback บางตัวก็อาจจะไม่เป็นมิตรกับการจูนคู่กับ Ethanol Sensor นัก อย่าง Unichip Q กับ Q+ นี่ทำไม่ได้ ..ไม่ได้นั่งเทียน นี่คือผมนั่งอ่านอีเมล์ที่เพื่อนผมคุยกับเจ้าของบริษัท ..แต่ผมมองว่าก็แล้วไง พ่วงสวิตช์ Mode ก็ได้ สามารถสร้างได้ 5 Map ตามต้องการ เหนื่อยตอนจูน กับต้องไม่ลืมบิดสวิตช์เท่านั้นเวลาเติมน้ำมันแบบต่างๆ วิธีนี้ก็คือแนวคิดแบบเดียวกับคุณ DKW ผมมองว่าใช้ได้นะ แต่ที่เปลี่ยนมาลอง OctaneMax เพราะราคามันดี และเพื่อนๆที่เป็นจูนเนอร์คุยกันแล้วเห็นตรงกันว่ากล่องฝีมือคนไทยตัวนี้ไม่กระจอกนะ น่าใช้ ผมชอบสนับสนุนสินค้าคนไทยทำอยู่แล้วเลยขอลองหน่อย
มองไปที่  stand alone เพราะจะทำต่อไปอีกสเต็บ เลยไม่อยากเสียเงินหลายต่อจูนหลายรอบ (จูนจริงๆ รอบเดียวไม่จบ บางที 10 รอบก็ไม่จบ อันนี้เข้าใจ เพียงแต่เราข้ามการจูนกล่องคิท E85 ไปจูน stand alone เลย) ผมยังไม่เข้าใจว่าหากเราติดเอทานอลเซ็นเซอร์แล้ว ค่าที่เซ็นเซอร์อ่านได้มันจะเอาไปใช้กับ STAND ALONE ได้มั๊ย หรือต้องใช้ค่าจาก O2 Sensor เท่านั้น ซึ่งจะเป็นแบบ narrow band หรือ wide band ก็อีกเรื่องหนึ่ง เพราะหากเป็นอย่างหลังแล้ว ผมจะได้หา O2 Sensor wide band มาใช้งานแทน ใจจริงอยากจะจูนแล้วให้มันปรับค่าเอาเองตามที่เซ็นเซอร์มันวัดได้ โดยไม่ต้องมาสวิตซ์แมพ ไม่ต้องกังวลว่าเติมน้ำมันชนิดไหน ในปริมาณเท่าไหร่ อยากเติมอะไรเติมไปเลย เดี๋ยวกล่องมันจะจัดการเอง เราสามารถทำแบบนี้ได้มั๊ยครับ หากทำได้ ต้องทำอย่างไร

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2014, 19:46:32 »
https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xpa1/t1.0-9/10514645_913991748627709_2584359070785268751_n.png

ทำได้แน่นอน ถ้าความต้องการคือหลังจูนเสร็จแล้วเติมน้ำมันตามใจชอบไม่ต้องมาคอยสวิตช์ Map ตัวนี้ผมเทสต์มาแล้วใน Swift 1.2 Turbo E85 คือลองกับน้ำมันหลายแบบ มีทั้งเติมปนๆเป็น E70, E50, E32 โดยรถปรับองศาไฟจุดระเบิดกับน้ำมันเอง
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ Larry

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 562
Re: A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2014, 19:54:40 »
https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xpa1/t1.0-9/10514645_913991748627709_2584359070785268751_n.png

ทำได้แน่นอน ถ้าความต้องการคือหลังจูนเสร็จแล้วเติมน้ำมันตามใจชอบไม่ต้องมาคอยสวิตช์ Map ตัวนี้ผมเทสต์มาแล้วใน Swift 1.2 Turbo E85 คือลองกับน้ำมันหลายแบบ มีทั้งเติมปนๆเป็น E70, E50, E32 โดยรถปรับองศาไฟจุดระเบิดกับน้ำมันเอง
ตัวนี้คือเป็นเซ็นเซอร์ที่ทำงานร่วมกับกล่องออกเทนแม็กโดยตรง แล้วถ้าเป็นกล่อง stand alone เลยจะมีเซ็นเซอร์ตัวไหนทำงานร่วมกับกล่องได้บ้างครับ แต่ผมอาจจะต้องถามว่ากล่อง stand alone มีฟังก์ชั่นการอ่านค่าเอทานอลในน้ำมันจากเซ็นเซอร์หรือไม่

ปล. รูปที่เอามาให้ดูให้อ่าน ผมชอบมากเลยครับ เจ๋งดี อยากลองบ้างครับ

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2014, 20:33:19 »
เซ็นเซอร์ Zeitronix แค่ส่งค่าเป็น Volt ไปเข้ากล่องครับ คือไม่จำเป็นต้องใช้กับ OctaneMax นะ
ถ้าคุณเน้นใช้กับ Standalone ผมค้นอันนี้มาให้ดู ใช้กับกล่อง Link Standalone ใน Swift คันที่ผมลองนั่นแหละครับ คือคอนเฟิร์มว่า Zeitronix ใช้กับ OctaneMax ได้ ใช้กับ LINK ได้ แต่ใช้กับ Unichip ไม่ได้ เพราะไม่มีช่องรับสัญญาณเสริมที่จะมาจากตัวเอทานอลเซนเซอร์ (หรืออะไรทำนองนี้แหละ ผมอาจจะจำคำพูดเพื่อนมาผิดนะ) ส่วน F-Con กับกล่องอื่นๆ ผมยังไม่แน่ใจ



เรื่องกล่องตัวไหนอ่านค่าได้นี่ผมไม่รู้นะ แต่รู้ว่าถ้าต้องการอ่านน้ำมันจากต้นทาง (คือเอาเซนเซอร์ทิ่มไปในน้ำมัน) อย่างน้อยก็ต้องมี ECA (Ethanol Content Analyser) ตัวนี้ เป็นตัวเริ่มต้นก่อน กล่องบางรุ่นรับสัญญาณจากตัว ECA ได้โดยตรงก็จบงานเร็ว แต่บางตัวรับเป็นโวลท์มา ก็ต้องใช้ชุดแปลงสัญญาณจากตัว ECA มาเป็น Volt ซึ่งในชุดของ Zeitronix ก็มีมาให้อยู่แล้ว

ปล. รู้สึกว่ามีคนไทยทำขายแล้วนะพวก ECA นี่ แต่ผมไม่แน่ใจว่ายี่ห้ออะไร อยากให้ลองค้นๆดูก่อนจะได้มีตัวเลือกเยอะๆ

- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ supercat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 796
Re: A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2014, 23:14:50 »
รบกวนถามนิดนึงครับ

ถ้าติดตั้งชุด  "กล่อง OctaneMax คู่กับ Ethanol Sensor ของ Zeitronix"   แล้วเนี่ย
เรายังต้องให้ tuner จูน map น้ำมันเพิ่มอีกมั้ยครับ หรือว่ามันจะปรับ map ได้เองโดยอัติโนมัติตามค่า E ที่เราเติมได้เลย

อย่างเช่น ถ้าเติมน้ำมันผสมๆ จน ethanol sensor อ่านค่า E ได้ค่านึง เช่น E57 (ตัวเลขสมมติ)
เราต้องมี map น้ำมันสำหรับ E57 ที่ให้ tuner ทำใว้รองรับด้วยใช่มั้ยครับ  ไม่ยังงั้นก็ไม่มีประโยชน์
เหมือนแค่มี ethanol sensor เอาไว้อ่านค่า E น้ำมันเฉยๆ 

ขอบคุณคร้าบบ  ;D ;D ;D


 

ออฟไลน์ Larry

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 562
Re: A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2014, 23:34:27 »
รบกวนถามนิดนึงครับ

ถ้าติดตั้งชุด  "กล่อง OctaneMax คู่กับ Ethanol Sensor ของ Zeitronix"   แล้วเนี่ย
เรายังต้องให้ tuner จูน map น้ำมันเพิ่มอีกมั้ยครับ หรือว่ามันจะปรับ map ได้เองโดยอัติโนมัติตามค่า E ที่เราเติมได้เลย

อย่างเช่น ถ้าเติมน้ำมันผสมๆ จน ethanol sensor อ่านค่า E ได้ค่านึง เช่น E57 (ตัวเลขสมมติ)
เราต้องมี map น้ำมันสำหรับ E57 ที่ให้ tuner ทำใว้รองรับด้วยใช่มั้ยครับ  ไม่ยังงั้นก็ไม่มีประโยชน์
เหมือนแค่มี ethanol sensor เอาไว้อ่านค่า E น้ำมันเฉยๆ 

ขอบคุณคร้าบบ  ;D ;D ;D


 
อยากรู้เหมือนกันครับ ในความคิดผมเองควรที่จะมีค่าคงตัวค่าหนึ่งอยู่แล้วเป็นค่าอ้างอิง สมมุติ E100=9  แต่เติมน้ำมันผสมกันไปกันมา เซ็นเซอร์วัดค่าแล้วส่งสัญญาณ กล่องอ่านได้ค่าว่า E92 coupe เอ้ย ไม่ใช่ E92 เฉยๆ ซิ กล่องก็จะคำนวณจากเลขอ้างอิงข้างต้นคือ 9 จะปรับลดหรือเพิ่มขึ้นตามอัตราส่วน คราวนี้ก็จะจูนกำหนดค่าแค่ครั้งเดียว หรือไม่งั้นก็กำหนดค่าจากโรงงานมาเลยว่าค่าของ E100 คือเท่าไหร่ ให้ยกหัวฉีดนานเท่าไหร่ หากได้ค่าที่ลดลงไป จะยกหัวฉีดเป็นเวลาเท่าไหร่ อันนี้มโนเอา และอยากให้เป็น เพราะไม่งั้นก็ไม่มีประโยชน์ที่จะติดแบบที่ว่าจริงๆ แหละครับ

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2014, 01:15:07 »
เท่าที่เห็นมาคือจะจูน 2 map คือตอน E85 (เรียกว่า 85 แต่ที่จริงมันไม่เคยถึงนะ จะบางจากหรือปตท.วัดออกมาไม่เคยถึงเลย)
แบบเต็มถัง เอาไว้ 1 map หลังจากนั้นปล่อยวิ่งเกลี้ยงๆถังแล้วเติม E10 เต็มๆ ทีนี้ส่วนผสมมันก็จะออกมาราวๆ E20 แล้วจูน ส่วนที่เหลือคือแล้วแต่เจ้าของรถจะชอบ แต่อาศัยตัวโปรแกรมเกลี่ยค่าเฉลี่ยเอา ถ้าเจ้าของรถไม่รีบ อย่างตอนคัน Swift เขาไม่รีบนะ เพื่อนผมขับและจะลองเติมน้ำมันผสมหลายๆแบบ แล้วให้ผมช่วยขับแล้วก็นั่งจ้อง A/F ดูว่ามันปรับค่าอัตโนมัติได้ดีมั้ย ผลออกมาคือโอเค น้ำมันเปลี่ยน องศาจุดระเบิดและน้ำมันเปลี่ยนตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ให้เอง A/F สวย ไม่บางเกินไป ขับไม่มีเสียงน็อค

ถ้าไม่มีเวลา ก็เลือกน้ำมันมา 1 แบบที่ชอบที่สุด แล้วจูนด้วยน้ำมันนั้น ที่เหลือเราเซ็ตค่าไว้ว่าอ่าน Volt จาก sensor ได้เท่าไหร่ จะcorrespond มันยังไง ซึ่งส่วนมากไม่เคยเจอพลาดนะ ยังไงก็ต้องมี 1 Map ไว้เป็น Reference point ส่วนในใจผม ยังไงผมก็ขอจูน 2Map คือ E10 กับ E85 ส่วนที่เหลือปล่อยให้ออโต้เอา

ผมถึงบอกว่าถ้าไม่มากเรื่องแบบผม คุณจะหากล่องที่สับสวิตช์มาจูนก็ได้นะ แต่อย่างน้อยก็ต้องมี 2map เหมือนกันถ้าจะให้ดี อย่าง Unichip ซื้อสวิตช์โหมดอันนึง บิดได้ 5 map อันแรกจะเอาเป็น E10,ต่อด้วย E20, E50, E70, E85 อย่างนี้ก็ได้ แต่ก็ต้องบิด และกะด้วยตัวเองนะ คุณเติม E85 วิ่งไปถึงเพชรบุรี เห็นเหลือ 1/4 ถัง คุณเติม E10 เข้าไปจนเต็มถัง ในหัวคุณต้องเวิร์คได้ว่าตกลงมัน E เท่าไหร่ในถัง แต่ถ้าไม่ซีเรียส ก็ได้ ผมเห็นบางคนก็ไม่ซีเรียสนะ จูนไว้แค่ E10 กับ E85 สองโหมดเท่านั้น เขาใช้วิธีว่าจะใช้น้ำมันอะไรก็ใช้จนเกือบหมดถังแล้วเติม แบบนั้นผมไม่ไหว ลุ้นขี้แข็ง เหมาะสำหรับคนขับแต่บริเวณมีปั๊มเยอะๆ
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ supercat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 796
Re: A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2014, 03:46:05 »
เท่าที่เห็นมาคือจะจูน 2 map คือตอน E85 (เรียกว่า 85 แต่ที่จริงมันไม่เคยถึงนะ จะบางจากหรือปตท.วัดออกมาไม่เคยถึงเลย)
แบบเต็มถัง เอาไว้ 1 map หลังจากนั้นปล่อยวิ่งเกลี้ยงๆถังแล้วเติม E10 เต็มๆ ทีนี้ส่วนผสมมันก็จะออกมาราวๆ E20 แล้วจูน ส่วนที่เหลือคือแล้วแต่เจ้าของรถจะชอบ แต่อาศัยตัวโปรแกรมเกลี่ยค่าเฉลี่ยเอา ถ้าเจ้าของรถไม่รีบ อย่างตอนคัน Swift เขาไม่รีบนะ เพื่อนผมขับและจะลองเติมน้ำมันผสมหลายๆแบบ แล้วให้ผมช่วยขับแล้วก็นั่งจ้อง A/F ดูว่ามันปรับค่าอัตโนมัติได้ดีมั้ย ผลออกมาคือโอเค น้ำมันเปลี่ยน องศาจุดระเบิดและน้ำมันเปลี่ยนตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ให้เอง A/F สวย ไม่บางเกินไป ขับไม่มีเสียงน็อค

ถ้าไม่มีเวลา ก็เลือกน้ำมันมา 1 แบบที่ชอบที่สุด แล้วจูนด้วยน้ำมันนั้น ที่เหลือเราเซ็ตค่าไว้ว่าอ่าน Volt จาก sensor ได้เท่าไหร่ จะcorrespond มันยังไง ซึ่งส่วนมากไม่เคยเจอพลาดนะ ยังไงก็ต้องมี 1 Map ไว้เป็น Reference point ส่วนในใจผม ยังไงผมก็ขอจูน 2Map คือ E10 กับ E85 ส่วนที่เหลือปล่อยให้ออโต้เอา

ผมถึงบอกว่าถ้าไม่มากเรื่องแบบผม คุณจะหากล่องที่สับสวิตช์มาจูนก็ได้นะ แต่อย่างน้อยก็ต้องมี 2map เหมือนกันถ้าจะให้ดี อย่าง Unichip ซื้อสวิตช์โหมดอันนึง บิดได้ 5 map อันแรกจะเอาเป็น E10,ต่อด้วย E20, E50, E70, E85 อย่างนี้ก็ได้ แต่ก็ต้องบิด และกะด้วยตัวเองนะ คุณเติม E85 วิ่งไปถึงเพชรบุรี เห็นเหลือ 1/4 ถัง คุณเติม E10 เข้าไปจนเต็มถัง ในหัวคุณต้องเวิร์คได้ว่าตกลงมัน E เท่าไหร่ในถัง แต่ถ้าไม่ซีเรียส ก็ได้ ผมเห็นบางคนก็ไม่ซีเรียสนะ จูนไว้แค่ E10 กับ E85 สองโหมดเท่านั้น เขาใช้วิธีว่าจะใช้น้ำมันอะไรก็ใช้จนเกือบหมดถังแล้วเติม แบบนั้นผมไม่ไหว ลุ้นขี้แข็ง เหมาะสำหรับคนขับแต่บริเวณมีปั๊มเยอะๆ

วิธีการอย่างที่พี่แพนว่าไว้นี่ก็น่าสนนะครับ เพราะผมมีโอกาสที่จะต้องเติมน้ำมันผสมอยู่บ่อยๆ
ถ้าปรับจูนแบบย่อหน้าสุดท้าย 
ผมคงกะไม่ถูกแน่ๆ ว่าต้องปรับ switch เลือก map ไหน


ปล ถ้าจะจูนอย่างพี่แพนในย่อหน้าแรกเนี่ย
เราต้องทิ้งรถไว้ให้พี่จูนเน่อวิ่ง(บนถนน) ให้น้ำมันหมด 1 -2 ถังเลยใช่มั้ย (คือ E85 1 ถัง แล้วก็ E10 1 ถัง)
 , แต่ถ้าเป็นแบบย่อหน้าที่ 2 กับ ย่อหน้าที่ 3  เนี่ย จูนบน dyno เสร็จก็ขับกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องวิ่งจูนบนถนน

ปล คำถามผม noob มาก พี่ๆอย่าเพิ่งรำคาญนะครับ  ;D ;D ;D

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2014, 11:26:10 »
มันมีวิธีทำให้เร็วนะ ตอนมาก็เติม E10 มาน้อยๆ จูนเสร็จก็ถ่ายทิ้ง แล้วเอา E85 ที่เตรียมมาใส่ถังเข้าไป วิธีนี้ก็จะเร็ว
อีกวิธีคือจูนเป็น E85 ไปก่อน แล้วหลังจากนั้นก็วิ่งจนใกล้หมดมากๆแล้วเติม E10 แล้วกลับมาจูน อาจจะได้ค่าลงที่ประมาณ E20 ซึ่งอย่างน้อย E20 ก็หาเติมง่ายกว่า E85 ..ส่วน E10 ก็จูนแบบออโต้ไป

อย่างคันของผม แผนของจูนเนอร์น่าจะเอาอย่างหลังคือ E10 ไว้ใช้เฉพาะตอนเดินทางไกล หาปั๊มเติม E20,E85 ยากๆเท่านั้น ซึ่งมันจะใช้การได้ด้วย E10 และไม่พัง ไม่ร้อน แต่ประสิทธิภาพอาจไม่ได้เต็มร้อยเหมือนการจูนเองจริงๆ อาจจะสัก 90% อะไรอย่างนี้

การทำงานของจูนเนอร์บางครั้งก็มีข้อจำกัดด้วยความเป็นคนขายเซอร์วิสกับลูกค้า ลูกค้าบางคนไม่ชอบให้ใครมาจับรถตัวเอง แบบนี้ก็ต้องช่วยจูนเนอร์ขับเอง ลูกค้าบางคนไม่หวงรถ แต่ไม่ค่อยมีเวลา จูนเนอร์ก็จะเอาไปขับแล้วเติมน้ำมันผสมแต่ละอย่างพร้อมเช็คความเรียบร้อย โดยผสมน้ำมันให้ได้ 1. เหมือนขับ E85 เติมเต็มถัง 2. เหมือนขับ E85 จนเหลือน้อยแล้วไปเติม E10 เต็มถัง 3. เหมือนขับ E20 เต็มถัง ใข้จนน้อยแล้วเจอปั๊ม E85 ก็ซัด E85 เต็ม

ยิ่งให้เวลา ยิ่งให้โอกาส หรือ ยิ่งช่วยจูนเนอร์ได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสเก็บงานได้เนียนเท่านั้น เหมือนการตัดรองเท้าหรือเสื้อผ้า ถ้าคุณบอกไซส์ แต่ไม่มีเวลาให้วัดตัว แล้วสั่งคนตัดว่าให้ตัดมาเลยนะ กับคุณใจเย็นๆให้วัดตัววัดเท้าให้ดีก่อนแล้วค่อยตัด ผลที่ได้มันย่อมต่างกัน ไอ้ความต่างตรงนี้ บางคนบอกรับได้ บางคนรับไม่ได้ ส่วนมากพวกที่ไม่มีเวลา ไม่ให้โอกาส แต่จะเอาเป๊ะ เพื่อนผมมักเชิญไปทำที่อื่น
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ supercat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 796
Re: A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2014, 23:43:23 »
มันมีวิธีทำให้เร็วนะ ตอนมาก็เติม E10 มาน้อยๆ จูนเสร็จก็ถ่ายทิ้ง แล้วเอา E85 ที่เตรียมมาใส่ถังเข้าไป วิธีนี้ก็จะเร็ว
อีกวิธีคือจูนเป็น E85 ไปก่อน แล้วหลังจากนั้นก็วิ่งจนใกล้หมดมากๆแล้วเติม E10 แล้วกลับมาจูน อาจจะได้ค่าลงที่ประมาณ E20 ซึ่งอย่างน้อย E20 ก็หาเติมง่ายกว่า E85 ..ส่วน E10 ก็จูนแบบออโต้ไป

อย่างคันของผม แผนของจูนเนอร์น่าจะเอาอย่างหลังคือ E10 ไว้ใช้เฉพาะตอนเดินทางไกล หาปั๊มเติม E20,E85 ยากๆเท่านั้น ซึ่งมันจะใช้การได้ด้วย E10 และไม่พัง ไม่ร้อน แต่ประสิทธิภาพอาจไม่ได้เต็มร้อยเหมือนการจูนเองจริงๆ อาจจะสัก 90% อะไรอย่างนี้

การทำงานของจูนเนอร์บางครั้งก็มีข้อจำกัดด้วยความเป็นคนขายเซอร์วิสกับลูกค้า ลูกค้าบางคนไม่ชอบให้ใครมาจับรถตัวเอง แบบนี้ก็ต้องช่วยจูนเนอร์ขับเอง ลูกค้าบางคนไม่หวงรถ แต่ไม่ค่อยมีเวลา จูนเนอร์ก็จะเอาไปขับแล้วเติมน้ำมันผสมแต่ละอย่างพร้อมเช็คความเรียบร้อย โดยผสมน้ำมันให้ได้ 1. เหมือนขับ E85 เติมเต็มถัง 2. เหมือนขับ E85 จนเหลือน้อยแล้วไปเติม E10 เต็มถัง 3. เหมือนขับ E20 เต็มถัง ใข้จนน้อยแล้วเจอปั๊ม E85 ก็ซัด E85 เต็ม

ยิ่งให้เวลา ยิ่งให้โอกาส หรือ ยิ่งช่วยจูนเนอร์ได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสเก็บงานได้เนียนเท่านั้น เหมือนการตัดรองเท้าหรือเสื้อผ้า ถ้าคุณบอกไซส์ แต่ไม่มีเวลาให้วัดตัว แล้วสั่งคนตัดว่าให้ตัดมาเลยนะ กับคุณใจเย็นๆให้วัดตัววัดเท้าให้ดีก่อนแล้วค่อยตัด ผลที่ได้มันย่อมต่างกัน ไอ้ความต่างตรงนี้ บางคนบอกรับได้ บางคนรับไม่ได้ ส่วนมากพวกที่ไม่มีเวลา ไม่ให้โอกาส แต่จะเอาเป๊ะ เพื่อนผมมักเชิญไปทำที่อื่น

อ่านแล้วเข้าใจการเอารถไปใส่กล่องจูนขึ้นเยอะๆๆๆ เลยครับ
ตอนแรกผมนึกว่าแค่เอาไปเดินสายไฟใส่กล่อง + จูนบน dyno แป๊ปๆ ก็ขับกลับได้แล้วซะอีก  ;D ;D ;D

ปล รบกวนถามอีกนิดครับ
ไม่ทราบว่าค่าจูนเนี่ย เค้าคิดกันยังไงครับ
เหมาจ่ายไปเลยจนกว่างานจะจบ หรือว่าคิดเป็นครั้งๆ เป็น map ๆ ไป

อย่างสองตัวอย่างที่พี่แพนยกมาเนี่ย จะขึ้น dyno จูน 2 ครั้ง  ก็คือต้องเสีย "ค่าจูน + ค่าขึ้น dyno"  2 ครั้งใช่มั้ยครับ   

Ex.1    "มันมีวิธีทำให้เร็วนะ ตอนมาก็เติม E10 มาน้อยๆ จูนเสร็จก็ถ่ายทิ้ง แล้วเอา E85 ที่เตรียมมาใส่ถังเข้าไป วิธีนี้ก็จะเร็ว "

Ex.2   " อีกวิธีคือจูนเป็น E85 ไปก่อน แล้วหลังจากนั้นก็วิ่งจนใกล้หมดมากๆแล้วเติม E10 แล้วกลับมาจูน
         อาจจะได้ค่าลงที่ประมาณ E20 ซึ่งอย่างน้อย E20 ก็หาเติมง่ายกว่า E85 ..ส่วน E10 ก็จูนแบบออโต้ไป"



ขอบคุณพี่แพนมากคร้าบบ  ;D ;D ;D

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2014, 00:45:24 »
โดยปกติจูนกี่ Map ก็นับเป็นค่าแรงจูนตามจำนวนครั้งไป
2 Map ค่าจูนเท่ากับ 2 ครั้ง
3 Map ก็ 3 ครั้ง อันนี้เป็นเรื่องปกติ ค่าไดโน่ก็คิดตามจำนวนครั้ง

แต่ทุกอย่างมีข้อยกเว้นนะ ผมพูดในเง่ที่ดูร้ายที่สุดไว้ก่อน เวลาทำรถ พกเงิน 105 เพื่องาน 100 เสมอ ผมไม่อยากบอกคุณว่ามันอาจจะ 90 แล้วเจอไป 100 เต็ม

สมมติว่าคุณเจอจูนเนอร์แล้วคุยกันถูกคอ มันมีความเป็นไปได้ที่เขาอาจจะคิดทุกอย่างตามความรู้สึกหรือพลังกายพลังสมองที่เขาต้องใช้จริงๆ..อันนี้ผมไม่ได้หมายถึงที่ใดที่หนึ่งโดยเฉพาะนะ อันที่จริงผมกล้าพูดด้วยซ้ำว่าจูนเนอร์ส่วนมากก็คือคนมีจิตมีอารมณ์ เวลาคุยกันถูกคอ งานดีๆเดินด้วยเงินที่น้อยลง มันเป็นไปได้ครับ

สมมติว่าบางรุ่นมา เป็นรุ่นที่เขาเคยทำแล้ว และstep การโมดิฟายของคุณไม่ต่างจากคนอื่นๆที่เขาเคยทำมาก งานสายไฟก็คุ้น การจูนก็รู้ แค่ตั้ง Map จูนอันแรกให้สวย ที่เหลือก็ง่าย <--ถ้ารถของคุณเป็นแบบนี้ บางที่คิดค่าไดโน่คุณเท่ากับครั้งเดียว คิดค่าจูนเท่ากับ 1.5 ครั้ง ก็เป็นไปได้ อันนี้คุณต้องโทรถามเป็นรายบุคคลไปครับ

คุณจะเริ่มเห็นแล้วว่าค่าใช้จ่ายจริงๆมันบานนะ ผมก็คุยกับเพื่อนผมเหมือนกันว่าคนที่ทำรถให้เติม E85 นั้นมี 2 แบบ คือแบบที่ต้องการเอ็นจอยจากค่าเชื้อเพลิงที่ถูกลงมาก และแบบที่อยากได้ค่าออคเทน 105 เพื่อเค้นพลังม้าเพิ่มโดยได้ค่าน้ำมันถูกลงเป็นโบนัส

คนที่ชอบแบบแรก ผมมักให้ลองหากล่องตัวที่มีขายกันดาษดื่นในราคาไม่กี่พันมาใช้ ไม่ต้องไปปรับไฟจุดระเบิดนะ เอามันไว้แบบเดิม แต่ใส่กล่องปรับให้ปริมาณน้ำมันจ่ายหนาขึ้นให้เติม E85 แล้วส่วนผสมวัดออกมาพอดี ไม่พัง ไม่บาง แล้วลองเติม E20 ดูว่าเติมแล้ววิ่งออกมั้ย อาจจะน้ำมันหนาไป เร่งไม่ออก แต่ถ้าควันไม่ดำ เขม่าไม่เยอะแล้วมันยังพอวิ่งได้ก็โอเค จุดประสงค์มีแค่ 2 อย่างคือเซฟเงิน และไม่พัง เพียงเท่านี้ค่าใช้จ่ายคุณลดลงไปหลายหมื่นบาท

ส่วนกลุ่มที่เน้นแรงม้าเป็นหลัก แล้วมองว่าค่าน้ำมันถูกลงเป็นของแถม ก็ต้องมา step ที่เราคุยกันในกระทู้นี้ ผมกลัวคุณจะเข้าใจว่าจะทำ E85 มันต้องมีหนทางเดียว เปล่าเลย ถ้าเรายอมที่จะไม่ต้องเพอร์เฟคท์ทุกอย่าง ค่าใช้จ่ายมันก็เซฟได้ครับ
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ crucifixzz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 960
Re: A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2014, 15:13:47 »
แล้วการเปลี่ยนหัวฉีดใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการฉีดน้ำมัน E85   ในกรณีที่A/F ของ e85พอดี หากเติม E20 จะหนาไปใช่มั้ยครับ เพราะพวก o2 sensor, knock sensor ปรับลดน้ำมันได้ไม่พอ

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: A/F Meter (O2 Sensor) กับ Flex Fuel Sensor หลักการทำงาน
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: สิงหาคม 14, 2014, 13:06:00 »
มีความเป็นไปได้ว่าจะหนาไป แต่หนาไปก็ยังดีกว่าบางไป แค่ขับแล้วเปลืองน้ำมัน แรงหายไปนิดๆ เขม่าเยอะหน่อย แต่ไม่ร้อนและไม่พัง

ที่ต้องตอบกว้างๆเพราะรถแต่ละรุ่นสามารถปรับตัวได้ดีไม่เท่ากัน

รถบางรุ่นถึงเราเปลี่ยนหัวฉีดไป แต่ O2 Sensor เป็นตัวเดิม และไม่ได้มีการหลอกกล่อง วัด AF มาหนาเตอะ กล่องตกใจก็สั่งลดน้ำมันสู้ แต่จะสู้ได้แค่ไหน ขีดจำกัดก็แล้วแต่ว่ามันคือรถรุ่นไหน

รถบางรุ่น กล่องเดิม ทุกอย่างเดิม เติม E85 กลับปรับตัวปรับน้ำมันได้ค่อนข้างจะดีเลย พวกนี้ส่วนมากจะใช้ O2 Sensor มีสายไฟ 5 สาย (wide band) แต่ก็ไม่ใช่ว่า Wide band ทุกคันจะ react ได้ดีเท่ากันหมด

- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8