วันนี้ขับรถไปจันทบุรีคับ พอถึงตรงทางแยกเข้าบ้านเพ มีไฟแดงตรงแยกนั้น ขับมา 100 กม./ชม. อีก 50 เมตรจะถึงไฟแดง(ไฟเขียวอยู่ตอนนั้น) ปรากฏว่าไฟเขียวเปลี่ยนเป็นเหลือง เบรคไม่ทันแล้วเพราะระยะกระชั้นชิดและมีปิคอัพขับตามหลังมาค่อนข้างชิดท้ายเรา ก็เลยตัดสินใจเหยียบคันเร่งไปต่อเพราะกลัวโดนชนท้าย แต่ว่าไฟเหลืองมันเหลืองแค่ 4 วินาที ก็แดง เลยจำต้องฝ่าไฟแดงไปเพื่อไม่ให้โดนชนท้าย ขับผ่านไฟแดงไปสัก 500 เมตร เจอเลยครับ ด่านตำรวจ ก็โดนเรียกเลย ตำรวจแจ้งว่าตำรวจที่ไฟแดง ว.แจ้งมาว่าฝ่าไฟแดง เราก็ลงไปเสียค่าปรับ รับใบเสร็จเรียบร้อยก็ฝากตำรวจว่า เปิดไฟเหลืองให้นานกว่านี้เป็นสัก 10 วินาทีเหมือนในกรุงเทพฯ ได้ไหม เพราะในกรุงเทพรถวิ่งช้ากว่าเขายังเปิดให้ 10 วินาทีเลย ถนนหลักต่างจังหวัดอย่างนี้รถวิ่งกัน 100 กม./ ชม. เปิดไฟเหลืองแค่นี้ผมก็เบรคไม่ทัน จริงๆ ผมไม่ได้เจตนาฝ่าไฟแดงเลยนะ ที่ต้องฝ่าเพราะกลัวโดนชนท้าย ตำรวจกลับบอกว่า เปิดนานแบบกรุงเทพฯไม่ได้หรอก เพราะหากเปิดนาน 10 วินาทีแบบกรุงเทพฯ รถชนกันวุ่นวายแน่ ผมก็ไม่เข้าใจตรรกของตำรวจจริงๆ ว่าทำไมเปิดไฟเหลืองนานกลับทำให้รถชนกันเยอะขึ้น ใครทราบช่วยสงเคราะห์เป็นความรู้ให้ผมหน่อยเถอะครับ
มันเป็นตรรกะของคนที่ต้องการฝ่าไฟเหลืองครับ
โดยหลักแล้ว
ไฟเหลือง คือ "หยุด" แต่ ยังให้"อภัย" ถ้าฝ่า เนื่องจาก หยุดรถไม่ทันกระชั้นชิดเกินไปไฟแดง คือ "หยุดสนิท" เท่านั้นดังนั้น การที่ทำไฟเหลืองนาน ทำให้ "คนบางกลุ่ม" จ้องที่จะใช้ "ความให้อภัย" เป็นเครื่องต่อรอง เพื่อให้ได้ไปต่อ สิ่งนี้เอง ที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ
โดยเฉพาะแยกกรุงเทพ หากท่านลองสังเกตุ กลุ่มรถมอเตอร์ไซด์ เขา
ไม่ได้ดู"ไฟเขียว"ที่ฝั่งตัวเองนะครับ แ
ต่เขาดู "ไฟเหลือง"จากฝั่งตรงข้าม พอฝั่งตรงข้าม ไฟเหลืองปั๊ป ก็มีทั้ง ออกรถแบบช้าๆ กับ "เบิ้ล"เครื่องพร้อมออกรถ
ถ้าฝั่งที่เป็น ไฟเหลือง ไม่ได้เตรียมหยุดรถ แต่ฝ่า"ไฟเหลือง" และฝั่งที่เป็นไฟแดง เห็นไฟเหลือง แล้วรีบไป
นั่นแหละครับ สาเหตุในการเกิดอุบัติเหตุอีกอย่างหนึ่งณรงค์รักษากฎจราจรกันเถอะครับ เพื่อความเป็นระเบียบ
เริ่มที่ตัวเราและครอบครัวก่อนครับ