รถยุโรปปลอดภัยมากกว่ารถญี่ปุ่นในทุกๆด้าน จริงหรือไม่?

Ma_Mhee

"อย่างไรก็ตาม รถยุโรปย่อมให้ความปลอดภัยมากกว่ารถญี่ปุ่นอยู่แล้ว"

เป็นประโยคที่ผมได้ยินเป็นประจำจากพ่อ

แต่ก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าปลอดภัยกว่าในแง่ใด และอย่างไร

รบกวนท่านใดที่พอทราบหรือมีความเข้าใจในเรื่องนี้ช่วยไขข้อสงสัยของผมทีครับ

เพราะโดยส่วนตัว ผมอยากเริ่มจากการใช้รถญี่ปุ่นเพื่อจะได้ดูแลค่าบำรังรักษาด้วยตนเองได้

แต่พ่อเค้าค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย

หากได้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์จะได้นำไปชี้แจงกับท่านได้

ขอบคุณล่วงหน้าครับ   :)



koruru

ถ้าถามว่าปลอดภัยในทุกๆเรื่อง ขอตอบว่า ไม่จริงคับ
รถญี่ปุ่น ที่ขายในต่างประเทศ ราคาก็พอๆกับรถ ยุโรป และก็
ทำยอดขายได้สูสีกันอีกด้วย แต่พอมาถึงเมืองไทย รถญี่ปุ่นตัดออฟชั่น
ต่างๆนาๆ ออก เลยทำให้ ราคาถูก แต่รถยุโรป ใส่ออฟชั่นมาเต็มๆ เลยทำให้
ราคาแพงคับ



GZaar

ผมจะมองเป็นยี่ห้อแล้วก็เป็นรุ่นๆไปคับ

รถญี่ปุ่นที่ผมมั่นใจในความปลอดภัย มีอยู่ยี่ห้อเดียวคือ Subaru
 
ยี่ห้ออื่นๆผมรู้สึกไม่ค่อยรู้สึกว่าปลอดภัยเท่าไหร่ ยี่งเป็นพวกรถตลาดในบ้านเรา ผมไม่มั่นใจเลยว่ามันจะปกป้องเราจากอุบัติเหตุได้ดีเท่าที่ควร ทุกวันนี้เวลาขับอัลฟาร์ดลองคิดถึงตอนโดนชนแรงๆกลางคันแล้วเสียวแปร๊บบบบเลย คงได้ตายกันยกคันแน่ๆ

แต่จะบอกว่ารถญี่ปุ่นไม่ปลอดภัยไปซะทั้งหมดก็คงไม่ได้ เพราะบางคันก็ทำคะแนนได้ดีในทดสอบการชนของ Euro NCAP เหมือนกัน

ถึงจะว่างั้นก็เถอะ ถ้าถามผมว่าโดยรวมแล้วรถญี่ปุ่นกับรถยุโรปอย่างไหนปลอดภัยกว่ากัน?

แน่นอน ยังไงผมก็มั่นใจในรถยุโรปมากกว่ามากอยู่ดีคับ
คาสโนวา = คนเจ้าชู้ = สุนัข = สัตว์เดรัจฉาน



Satanic za'

ผมก็คิดว่า ยังไงรถยุโรป มาตรฐานความปลอดภัยก็สูงกว่ารถญี่ปุ่นเช่นกันครับ ที่ยุโรปถึงได้มี  ยูโร เอ็น แคป ขึ้นมา เพื่อพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยเกี่ยวกับรถยนต์ครับ จนทำให้รถญี่ปุ่นก็ต้องพัฒนาตามมาด้วย

ผมว่า ยังไง ยุโรปก็ยังเหนือกว่าญี่ปุ่นในหลายๆด้านครับ



volvolover

ราคาแพงกว่า ของก็ต้องดีกว่า
แต่ก็ไม่เสมอไป

เอาไงเนี่ย 55
2011 Mitsubishi Lancer EX 1.8 GLS-Ltd.
2013 Honda City SV
2013 Toyota Prius TOP Option



Jxxx

ไม่เสมอไปครับ

บางรุ่นบูชที่ปลายสายเกียร์ที่เป็นพลาสติกจะมีโอกาสหลุดเสมอเวลามันเสื่อมสภาพ เพราะไม่มีตัวล็อคอีกต่างหาก เมื่อเทียบกับคู่แฝด(ที่ใช้ platform ร่วมกัน) ที่เป็นยี่ห้อญี่ปุ่นที่มีตัวล็อค (แล้วไม่ได้เป็นแค่รุ่นเดียวด้วยครับ)

เวลาใช้งานเคยมีหลุดตอนวิ่ง หรือ ตอนจอดติดไฟแดงแล้วเข้าเกียร์ ก็เคยมีมาแล้วครับ

แม้ตัวมันเองจะไม่สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้โดยตรง แต่ก็มีโอกาสครับ






Sarutino

ไม่เสมอไปครับ

บางรุ่นบูชที่ปลายสายเกียร์ที่เป็นพลาสติกจะมีโอกาสหลุดเสมอเวลามันเสื่อมสภาพ เพราะไม่มีตัวล็อคอีกต่างหาก เมื่อเทียบกับคู่แฝด(ที่ใช้ platform ร่วมกัน) ที่เป็นยี่ห้อญี่ปุ่นที่มีตัวล็อค (แล้วไม่ได้เป็นแค่รุ่นเดียวด้วยครับ)

เวลาใช้งานเคยมีหลุดตอนวิ่ง หรือ ตอนจอดติดไฟแดงแล้วเข้าเกียร์ ก็เคยมีมาแล้วครับ

แม้ตัวมันเองจะไม่สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้โดยตรง แต่ก็มีโอกาสครับ





เดาว่า Escape ตัวก่อน Monor Change ;D
"Lose who you are to save what you love."



ผมมองว่าเรื่องความปลอดภัยของรถมันเทียบกันได้อยู่แล้ว

แต่มันอยู่ที่ว่าบริษัทรถที่ทำตลาดนั้นต้องการลดต้นทุนขนาดไหน

เพราะถ้ายิ่งต้องการที่จะลดต้นทุนมากอุปกรณ์เกี่ยวกับความปลอดภัยมันก็จะลดลงตามไปด้วย ;D

ปล.ความเห็นส่วนตัวครับ



Jxxx

ไม่เสมอไปครับ

บางรุ่นบูชที่ปลายสายเกียร์ที่เป็นพลาสติกจะมีโอกาสหลุดเสมอเวลามันเสื่อมสภาพ เพราะไม่มีตัวล็อคอีกต่างหาก เมื่อเทียบกับคู่แฝด(ที่ใช้ platform ร่วมกัน) ที่เป็นยี่ห้อญี่ปุ่นที่มีตัวล็อค (แล้วไม่ได้เป็นแค่รุ่นเดียวด้วยครับ)

เวลาใช้งานเคยมีหลุดตอนวิ่ง หรือ ตอนจอดติดไฟแดงแล้วเข้าเกียร์ ก็เคยมีมาแล้วครับ

แม้ตัวมันเองจะไม่สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้โดยตรง แต่ก็มีโอกาสครับ





เดาว่า Escape ตัวก่อน Monor Change ;D


ไม่ใช่แค่ ESC 3.0 ครับ ตัวรถเก๋ง C-segment ที่ขายอยู่ตอนนี้ด้วยครับ

ตอนแรกผมก็นึกว่ามันเหมือนกัน แต่มันไม่เหมือนกันนะสิครับ

เพื่อนผมใน FCT นี่โดนมากับตัวเองเลยครับ แล้วเริ่มเป็นหลายคันแล้วด้วยครับ (ตามอายุการใช้งาน)

แล้วมันก็จะเหมือนตัว ESC 3.0 ที่จะต้องเป็นทุกคันถ้าไม่โมไม่ให้มันเป็น



pianopop

            ระบบฝรั่ง(ไม่ว่ารถ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า) ซับซ้อนกว่าญี่ปุ่น  เวลาเสียทีจุกจิกใช่ย่อย   พูดไงดีหละ.....
เช่น ระบบฝรั่ง  จากจุดA ไปจุดB   มันจะต้องมี เซ็นเซอร์หรือตัว รีเร มายุบยิบ มากมายไปหมด กว่าจะถึงจุดB  เวลาเสียทีนึงหาเหตุกันจนปวดหัว
      ระบบญีปุ่น จากจุดA ไปจุดB  เค้าจะต่อตรงๆเลย   ไม่ค่อยยุ่งยากเท่าของฝรั่ง ซ่อมง่าย อาการหายไว
       
            **อาจจะเปรียบเทียบไม่ค่อยได้เรื่องซักเท่าไหร่นะครับ อิอิ พูดง่ายๆ ฝรั่งกะญี่ปุ่นคิดไม่เหมือนกันครับ**
   
       อาจจะไม่เกี่ยวกะรถเท่าไหร่นะครับ แต่ผมว่า เครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อฝรั่ง เค้าออกแบบมาประมาณว่า เสียแล้วทิ้ง  แต่ยี่ห้อญี่ปุ่น เสียแล้วมักซ่อมได้ ;D ;D




1889

ผมว่ายังไงรถยุโรปก็ดี ปลอดภัยกว่ารถญี่ปุ่นทั้งแข็งแรงเวลาชน การทรงตัว การกระจายน้ำหนักเพราะที่ยุโรปเขาขับกันเร็วมาก แต่ที่ญี่ปุ่นขับไม่ค่อยเร็วจึงเอาประหยัดต้นทุนไว้ก่อน
ผมพูดถึงความปลอดภัยบนท้องถนนนะ ไม่เกี่ยวกับราคาหรือการซ่อมบำรุง เห็นรถญี่ปุ่นเวลาหักหลบอะไรก็โคลงโยกไปทั้งคันทั้งที่เป็นรถเก๋งเตี้ยๆ
เคยเกือบตายเพราะรถญี่ปุ่นมาหลายครั้งแล้วเพราะขับเร็วทางโค้งเบรกหน่อยก็โคลงหมุนปัด ใช้รถยุโรปขับยังไงก็ได้ ยังไงถ้าถึงจุดนึงรถอะไรก็เอาไม่อยู่
แต่เดี๋ยวนี้รถญี่ปุ่นก็ปลอดภัยกว่ารุ่นก่อนๆเยอะจากที่เห็นมา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 13, 2010, 19:45:11 โดย mh »



Satanic za'

อันนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับ design ของ บ แม่ครับ อยากจะบอกว่า บุช บริษัทผมนี่แหละทำอยู่ 555

จะเล่าให้ฟังเรื่องนึง ตัวผมเองดู product เกี่ยวกับ pulley  เคยมี pullay ของรถอยู่รุ่นหนึ่ง (เป็นของญี่ปุ่น แต่ขอไม่บอกยี่ห้อ)
ทาง engineer ของไทย ได้แย้งไปทางญี่ปุ่นว่า design มันไม่เหมาะ ทางนู้นเค้าก็ไม่เชื่อ ก็เลยไม่ approve DWG ตัวใหม่ ก็เลยผลิตไปแบบนั้น พอใช้ไปซักพัก ก็ไปเจอลูกค้า claim ว่ามันหลุดออกจากกัน (มันจะมีส่วนที่เค้าเรียกว่า hub แล้ว ring ซึ่งจะมียางอยู่ตรงกลาง) เท่านั้นแหละ ญุ่นปุ่น รีบ approve DWG ใหม่เลย จากนั้นก็ไม่มีปัญหาอีกสำหรับรุ่นนี้




Jxxx

ลองดูรายการ Test ของหนังสือ Wheels ของออสเตรเลียนะครับ

เค้า Test เรื่อง Active Safety ครับ

http://www.wheelsmag.com.au/wheels/site/articleIDs/2B811E5E8560784ECA25740F0007F169



Jxxx

อันนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับ design ของ บ แม่ครับ อยากจะบอกว่า บุช บริษัทผมนี่แหละทำอยู่ 555

จะเล่าให้ฟังเรื่องนึง ตัวผมเองดู product เกี่ยวกับ pulley  เคยมี pullay ของรถอยู่รุ่นหนึ่ง (เป็นของญี่ปุ่น แต่ขอไม่บอกยี่ห้อ)
ทาง engineer ของไทย ได้แย้งไปทางญี่ปุ่นว่า design มันไม่เหมาะ ทางนู้นเค้าก็ไม่เชื่อ ก็เลยไม่ approve DWG ตัวใหม่ ก็เลยผลิตไปแบบนั้น พอใช้ไปซักพัก ก็ไปเจอลูกค้า claim ว่ามันหลุดออกจากกัน (มันจะมีส่วนที่เค้าเรียกว่า hub แล้ว ring ซึ่งจะมียางอยู่ตรงกลาง) เท่านั้นแหละ ญุ่นปุ่น รีบ approve DWG ใหม่เลย จากนั้นก็ไม่มีปัญหาอีกสำหรับรุ่นนี้



อันนี้นะรู้ทั้งรู้นะครับ แต่ไม่ยอมแก้ไขครับ

จนลูกค้าต้องไปโมกันเองครับ



Sarutino

อันนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับ design ของ บ แม่ครับ อยากจะบอกว่า บุช บริษัทผมนี่แหละทำอยู่ 555

จะเล่าให้ฟังเรื่องนึง ตัวผมเองดู product เกี่ยวกับ pulley  เคยมี pullay ของรถอยู่รุ่นหนึ่ง (เป็นของญี่ปุ่น แต่ขอไม่บอกยี่ห้อ)
ทาง engineer ของไทย ได้แย้งไปทางญี่ปุ่นว่า design มันไม่เหมาะ ทางนู้นเค้าก็ไม่เชื่อ ก็เลยไม่ approve DWG ตัวใหม่ ก็เลยผลิตไปแบบนั้น พอใช้ไปซักพัก ก็ไปเจอลูกค้า claim ว่ามันหลุดออกจากกัน (มันจะมีส่วนที่เค้าเรียกว่า hub แล้ว ring ซึ่งจะมียางอยู่ตรงกลาง) เท่านั้นแหละ ญุ่นปุ่น รีบ approve DWG ใหม่เลย จากนั้นก็ไม่มีปัญหาอีกสำหรับรุ่นนี้



อันนี้นะรู้ทั้งรู้นะครับ แต่ไม่ยอมแก้ไขครับ

จนลูกค้าต้องไปโมกันเองครับ

งั้นรบกวนถามต่ออีกนิดนึงครับ

Part ของรุ่น Moinor Change ที่ว่าปรับปรุงแล้ว ใส่เข้ากับตัว 3.0 ได้รึเปล่าครับ

เพราะตำแหน่งคันเกียร์ต่างกัน

(ที่จริงเป็นรถของคนรู้จัก และก็ขาดไปเรียบร้อยรอบนึงแล้วครับ ;D)
"Lose who you are to save what you love."



Jxxx

อันนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับ design ของ บ แม่ครับ อยากจะบอกว่า บุช บริษัทผมนี่แหละทำอยู่ 555

จะเล่าให้ฟังเรื่องนึง ตัวผมเองดู product เกี่ยวกับ pulley  เคยมี pullay ของรถอยู่รุ่นหนึ่ง (เป็นของญี่ปุ่น แต่ขอไม่บอกยี่ห้อ)
ทาง engineer ของไทย ได้แย้งไปทางญี่ปุ่นว่า design มันไม่เหมาะ ทางนู้นเค้าก็ไม่เชื่อ ก็เลยไม่ approve DWG ตัวใหม่ ก็เลยผลิตไปแบบนั้น พอใช้ไปซักพัก ก็ไปเจอลูกค้า claim ว่ามันหลุดออกจากกัน (มันจะมีส่วนที่เค้าเรียกว่า hub แล้ว ring ซึ่งจะมียางอยู่ตรงกลาง) เท่านั้นแหละ ญุ่นปุ่น รีบ approve DWG ใหม่เลย จากนั้นก็ไม่มีปัญหาอีกสำหรับรุ่นนี้



อันนี้นะรู้ทั้งรู้นะครับ แต่ไม่ยอมแก้ไขครับ

จนลูกค้าต้องไปโมกันเองครับ

งั้นรบกวนถามต่ออีกนิดนึงครับ

Part ของรุ่น Moinor Change ที่ว่าปรับปรุงแล้ว ใส่เข้ากับตัว 3.0 ได้รึเปล่าครับ

เพราะตำแหน่งคันเกียร์ต่างกัน

(ที่จริงเป็นรถของคนรู้จัก และก็ขาดไปเรียบร้อยรอบนึงแล้วครับ ;D)


2.3 ไม่เป็นครับ เพราะใช้เกียร์คนละลูกกันครับ (2.3 ใช้ GF4AX-EL ส่วน 3.0 ใช้ CD4E)

3.0 นี่ต้องระวังเกียร์พังด้วยนะครับ โดยเฉพาะในล๊อตแรกๆ พังกันหลายคันแล้วครับ

ส่วนเรื่องบูช 2.3 กับ 3.0 นั้นใช้แทนกันได้หรือไม่ นี่ไม่ทราบครับ

เห็นแต่เค้าโมใส่ล็อคกันเลยครับ

ลองอ่านตามกระทู้ใน FCT ดูครับ

http://www.fordclub.net/module_view.php?mod=webboard&fn=view&cid=26883

(ผมรอดตัวเพราะเป็น 2.3   ;D)




FyGI

เรื่องนี้คุยกันยาวครับ

ไม่รู้กี่วันจะจบ



Arado_kung

ถ้าเป็นรถญี่ปุ่นขนาดกลางในปัจจุบันอย่างแคมรี่,แอคคอร์ด,เทียน่า เทียบกับ E-Class,Series5,S80 ผมว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกันนะ ชนหนักๆบางเคสคนในรถออกมาแบบไม่บุบสบายได้ทั้งคู่เลย



TAI ^^

ผมเคยเห็นผลการทดสอบของยูโร เอ็น แคป รถญี่ปุ่นที่นู่นก็ได้ไม่ห่างจากรถยุโรปเลยนะครับ บางทีแทบไม่ต่างกันเลย

แต่พอมาไทยมันต่างแน่ๆ



VenusF

ไม่เกี่ยวกันนะครับ
รถญี่ปุ่นบางรุ่นยังดีกว่ารถยุโรปบางรุ่นซะอีก
ถ้ารถญี่ปุ่นไม่มีดีจริงคงไม่ทำยอกขายให้รถฝั่ง
ยุโรปปวดหัวหรอกคครับอีกทั้งยังมีแฟนพันธุ์แท้
พวกรถญี่ปุ่นทางยุโรปกันอีกด้วย
เมื่อก่อนอาจจะใช่แต่เดี๋ยวนี้ผมว่าก็พอๆกันนะครับ
อาจจะเป็นรองเป็นรองเรื่องทางวิศวะกรรมอยู่บ้าง
แต่ก็ไม่หนีกันมากครับเพราะไม่นานก็พัฒนาตามๆกันมาทันอยู่ดี

ปล.
ความปลอดภัยนี่ให้ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท
มีสติรักษากฎจราจรมีน้ำใจ แค่นี้ก็ช่วยได้มากแล้วครับ
อย่าหวังไปพึ่งแต่รถ ถ้าซัดมาเต็มที่แล้วชนต่อให้รถถังก็ไม่เหลือครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 12, 2010, 23:07:51 โดย VenusF »



r0u0g0e0k

 ;) ;) ถ้าเมื่อก่อนผมเชื่อว่าจริง 

ถ้าปัจจุบัน รถในคลาสระดับเดียวกัน คงไม่หนีกันมาก



Ruksadindan

ก็บอกแล้วครับมันเป็นแค่ความเชื่อที่ไม่มีคำตอบ
ถ้าดูเว็บ Euro NCAP รถยุโรปบางรุ่นยังทำดาวไม่ดีเลย



KnoT

ไม่แน่เสมอไปหรอกครับ..... เดี๋ยวนี้รถญี่ปุ่นราคาไม่สูงมากก็ปลอดภัยได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับผู้ขับขี่ด้วยอ่ะครับ
ต่อให้รถดีแค่ไหนแต่คนขับเอาไม่อยู่(หรือขับประมาท)ก็ช่วยไม่ได้เช่นกันอ่ะครับ



RhinoMango

คห.ส่วนตัวนะครับ

ถ้าถามว่ามันใจอะไร ยังไงผมก็มั่นใจในรถยุโรป
เนื่องจากรถยี่ปุ่นทำขายทีละเยอะๆ กำไรต่อหน่วยน้อยกว่า เพื่อให้ขายได้มากกว่า
รถเลยต้องออกมาถี่ หลากรุ่นมีให้เลือกเยอะๆ เพื่อที่จะจับตลาดกลุ่มใหญ่ได้
ไม่ใช่ลูกค้ากลุ่มเฉพาะ ซึ่งสมัยนี้รถยุโรปบางยี่ห้อก็เริ่มจะเอาอย่างบ้างแล้ว

เมื่อต้องทำการตลาดที่เร็วและต้องไว อายุตลาดของรถเลยน้อย ฉะนั้นอุปกรณ์บางอย่าง
เขาก็เลยไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างมาให้ทนมือทนเท้าได้นาน เน้นพังแล้วทิ้งเปลี่ยนใหม่เลย

แล้วเท่าที่ทราบมา ยี่ห้อหลักในไทยบางยี่ห้อ ก็พยายามลดต้นทุนด้านความปลอดภัยนี้ด้วย
ทุกวันนี้เลยยังสบายใจอยู่กับรถยุโรปอายุ 23ปี เก่าๆบุโรทั่ง แต่โดนรถรุ่นใหม่ๆชนแล้วก็แทบไม่ระคายอะไร

ถึงให้ซื้อรถ ก็คงจะไม่ซื้อใหม่ เพราะรู็สึกว่ารถรุ่นใหม่ๆ "อันตราย" ..

:. Volkswagen Vento VR6 '94 // :. Nissan NX "กูปรี" '94

You can Follow me on Twitter : @rhinomango



J!MMY

มันไม่อันตรายน่ากลัวขนาดนั้นหรอก บอม

ถ้าว่ากันด้วยเรื่องโครงสร้างอย่างเดียว รถสมัยใหม่ มีการออกแบบให้กระจายแรงปะทะ ได้ดีกว่า รถสมัยเก่า

แต่ ว่า วัสดุ หรือชิ้นส่วนต่างๆนั้น ญี่ปุ่น กับยุโรป เดี๋ยวนี้ ผมว่า บางเจ้าดีขึ้นกว่าเดิม
แต่บางเจ้าก็แย่ลง แย่ไม่ต่างกันเท่าไหร่
การควบคุมคุณภาพเดี๋ยวนี้ มีไม่กี่เจ้า ที่ยังเข้มงวด



Ma_Mhee

ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะครับ

เป็นประโยชน์อย่างมาก  :)



Ma_Mhee

ที่มักจะได้ยินบ่อยๆว่า

"รถยุโรปตัวถังแข็งกว่ารถญี่ปุ่น"

จริงหรอครับ

แล้วการที่ตัวถังแข็งกว่าัมันปลอดภัยกว่าหรือ?

(แต่เหมือนเคยอ่านมาว่า แข็งเกินก็ไม่ดีนี่หน่า)



YenChar

ผมเคยได้ยินมาว่า

รถยิ่งชน ยิ่งยุบตัว เท่ากับมันซับแรงกระแทกได้ดี แต่โครงรถ
ที่ปกป้องคนข้างในต้องแข็งมากๆ
ผู้โดยสารข้างในจะบาดเจ็บน้อย

บางคนคิดว่า รถยิ่งบุบเยอะ ยิ่งเละ แปลว่าไม่ดี
ถ้าชนเล็กๆน้อยๆ

ผมอยู่ในเหตุการณ์โฟกัสบวกกับแท๊กซี่มาแล้ว
ที่มหาลัย จะมีช่วงที่รถบรรจบกัน(จากโรงจอดรถ กับถนนของมหาลัย)
รถ2คันใจตรงกัน ไม่มีเบรก แถมแท๊กซี่เลี้ยวกินเลนมาอีก สรุปหน้าชนกัน(แบบหันมุมชน)
แท๊กซี่นี่ เละเลยครับ หน้ายับไปเลย แต่เสาAยังอยู่ได้
คนขับลงมาร้องไห้เลยครับ รถพัง บาดเจ็บนิดหน่อย ส่วนผู้โดยสารเดินขึ้นไปเรียนต่อ(แบบตัวสั่นๆ) ไม่เป็นอะไรเลย
ในขณะที่โฟกัส คนขับเลือดโชคครับ ผมคิดว่ามาจากตัวรถที่แข็งเกินไปนั่นแหละ เสาAที่แข็งอยู่แล้ว
เลยรับไม่ไหว ตัวเหล็กแข็งๆเลยทิ่มเข้าหาผู้โดยสารซะเอง

ผมไม่มีความรู้เท่าไหร่ แต่พอเดาๆ
น่าจะเพราะค่าGที่เกิดขึ้น ระหว่างรถเหล็กหนา กับรถเหล็กบาง
รถเหล็กหนา พอชนขึ้นมารถจะหยุดทันที ส่วนรถบางๆจะมีการซับแรง ค่าGที่เกิด
จะค่อยๆเกิด ไม่พรวดเข้ามาทีเดียว
ปล. ความเห็นส่วนตัวนะครับ.


แต่คนทั่วไป ไม่เคยชนหนักๆ มีแต่สะกิดกันเบาๆ แล้วมาถากถางว่า
รถมันโดนนิดเดียวบุบ หมาเห่าก็บุบแล้ว
ผมเรียนคาราเต้มา อาจารย์เอาฝากระโปรงรถมาชกให้ดู
ทั้งสำนักรุมกันชกที่จุดเดิมๆ ทำได้แค่สร้างรอยบุบเท่านั้น



P_Wut

"อย่างไรก็ตาม รถยุโรปย่อมให้ความปลอดภัยมากกว่ารถญี่ปุ่นอยู่แล้ว"

แค่นี้ ก็รู้แล้วครับ มันไม่ใช่ ข้อเท็จจริง ครับ  เป็นแค่ความเชื่อ

รถยุโรป มีกี่ยี่ห้อ กี่รุ่น  มันเหมารวมได้เหรอครับ ?



RhinoMango

มันไม่อันตรายน่ากลัวขนาดนั้นหรอก บอม

ถ้าว่ากันด้วยเรื่องโครงสร้างอย่างเดียว รถสมัยใหม่ มีการออกแบบให้กระจายแรงปะทะ ได้ดีกว่า รถสมัยเก่า

แต่ ว่า วัสดุ หรือชิ้นส่วนต่างๆนั้น ญี่ปุ่น กับยุโรป เดี๋ยวนี้ ผมว่า บางเจ้าดีขึ้นกว่าเดิม
แต่บางเจ้าก็แย่ลง แย่ไม่ต่างกันเท่าไหร่
การควบคุมคุณภาพเดี๋ยวนี้ มีไม่กี่เจ้า ที่ยังเข้มงวด

บอมยอมรับครับ ว่ารุ่นใหม่ ถ้าเกิดการปะทะจริงๆมันจะอันตรายต่อมนุษย์น้อยกว่าครับ

แต่ด้วยการลดต้นทุนนี่เองแหละ ที่ทำให้ผมรู็้สึกว่า รถรุ่นใหม่มันอันตราย
ทั้งในเรื่องของระบบต่างๆ ยิ่งเดี๋ยวนี้เข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้นแล้ว เฮ่อ ....

อย่างน้อยรถเก่าๆอย่างบอมมันก็ไม่ขึ้นฮอยส์แล้วโช็คตายล่ะน่า ;D ;D

กลับมาเรื่องญุ่ปุ่นกับยุโรป

คห.ส่วนตัวนะครับ ผมคิดว่า Logic หลายๆอย่างของการออกแบบระบบโครงสร้าง
ระหว่างรถสัญชาติญี่ปุ่นกับยุโรปเขาคิดได้ละเอียดอ่อนต่างกัน

ชอบ Logic ของยุโรปบางเจ้าที่เมื่อมีการปะทะ ชิ้นส่วนบางอย่างจะดีดตัวออก
เพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ไม่บุบสลายมากนัก Cool!


:. Volkswagen Vento VR6 '94 // :. Nissan NX "กูปรี" '94

You can Follow me on Twitter : @rhinomango