E46 ไฟยก 323ia se ดูเครื่อง M52TU 6สูบไว้ครับ ราคาประมาณ 4-5แสน ปี 02-05
(เพิ่มอีกหน่อยได้ 330i แต่กลัวค่าดูแล กับการหาอะไหล่ครับ)
E90 320i , 320iA ปี06-08 ราคา 6-7 แสน
E39 523iA Sport ราคา 4-5แสน
แต่เรื่องหน้าตาชอบ E46 ที่สุดครับ รองมา E90 และ E39
3 รุ่นนี้ ตัวไหนการขับขี่ดีกว่ากันครับ อัตราเร่ง ความสนุกในการขับ และ ตัวไหนค่าดูแลถูกกว่ากัน+ซ่อมง่ายครับ เน้นขับในเมืองครับ จะเปลี่ยนรถจาก nissan sylphy น่ะครับ เห็นบางท่านว่าดีกว่า D Seg ป้ายแดงจริงหรือเปล่า และดีกว่า C segment อย่าง sylphy civic m3 ขอบคุณครับ
เครื่องที่ใส่ใน 323 325 328 330 m52-54 เป็นเครื่องบล็อคเดียวกันต่างกันแค่ระยะช่วงชัก กับ อุปกรณ์ส่วนควบที่เพิ่มขึ้นนิดหน่อย เครื่องบล๊อคนี้ใส่ยัน e60 เลยในล๊อตแรกๆ
จับ 330 ดีกว่า แต่ต้องหารถที่ไม่ช้ำ ได้โหลดเตี้ยมาจากโรงงาน แม๊กขอบ17 ยางต่างขนาด จานเบรคใหญ่
ยังไงรถบอดี้ใหญ่เกาะกว่ารถที่บอดี้เล็กกว่าอยู่แล้วครับในรถยี่ห้อเดียวกัน
เทียบการเกาะถนนกับใหม่ป้ายแดง กับที่บอกเทียบกันไม่ได้หรอกครับ การเกาะถนนห่างกันมวยคนล๊ะรุ่น บีเอ็มเกาะกว่า
ถ้าเป็นผมๆจะตัด e90 ออกไปเพราะหุ่นไม่ค่อยหล่อ แม้ช่วงล่างจะเกาะกว่า e46 มาก เพราะช่วงล่างหน้าe46 ยังเป็นแค่แม็กเฟอร์สันสตรัทธรรมดาอยู่เองเหมือนกับ e30 มีบู๊ชยึดแค่ 3 จุดเอง แต่ e90 ช่วงล่างละม้ายคล้าย e39 บอกไม่ถูกเหมือนกันกับการเขียนว่าช่วงล่างด้านหน้าลักษณะไหนเป็นรูปทรงคล้ายกับปีกนก 2 ชั้นแล้วแต่ไม่ใช่ เรียกไม่ถูกเหมือนกัน แต่ เป็นมิเนียมตัน เส้นเล็กๆ ด้านหลัง e46 จุดลิงค์แขนยึด 4 จุด ส่วน e90 ลิงค์ 5 จุด ด้านหน้าของ e46 ปีกนกเป็นมิเนียม
ช่วงล่าง e90 หนักแน่และเกาะกว่า e46
เทียบการเกาะถนน e46 อยู่ตำแหน่งบ๊วยสุด ในรถที่กำลังหาอยู่
ตัว e46 ช่วงล่างบอบบางมากๆ ลุกหมากตัวเล็ก บู๊ชปีกนกแตกง่าย แต่ราคาถูกมากๆ คู่นึง สองพันกว่าบาททั้งโครง มิหนำซ้ำยังมี เฉพาะใส้ของก็อบเอาไปอัดเปลี่ยนได้อีก ราคาหลัก ร้อยเอง
ค่าดูแลสำหรับ e46 นั้นถูกกว่ารถญี่ปุ่น อะไหล่ถูกกว่า ถ้ารู้จักซื้อ ใส้กรองน้ำมันเครื่อง แบบเปลี่ยนใส้ ร้อยกว่าบาท ผ้าเบรคคู่นึง สองพันกว่าบาท โช๊คหาบิวสไตค์มาใส่ ก็ หลักพัน อะไหล่ที่แพงๆก็หาเซียงกงใส่เอา มอเตอร์กระจกไฟฟ้า พันกว่าบาท กระจกข้างนึง สามพันกว่าถึงสีพันกว่า ของเซียกง ถ้าเบิกห้างก็ข้างนึงหมื่นกว่าบาท
เเต่เรื่องซดน้ำมัน นั้นค่อนข้างซดถ้าขับในเมืองแบบแถบชานเมืองรถไม่ติด ถ้า 330 ก็ต่ำกว่า 7 โลลิตร
ส่วน e39 บอดี้รถหนักมากๆ เครื่องลูกเล็กนิดเดียว
e46 มักมีปัญหาหน้าเลื้อยมากถ้าไปใส่ยางหน้ากว้างมากๆ เต็มที่ไม่เกิน 225 มากกว่านี้ เลี้อยเป็นงู อย่าได้หวังว่า ถ้าจะซื้อ บีเอ็มไม่ว่ารุ่นไหนๆ มาแล้ว แล้วคิดว่าจะยกแพ เปลี่ยนช่วงล่างใส่ m-power ได้ เพราะบอดี้รถคล้ายกันแล้วช่วงล่างจะใส่กันได้ ใส่ของ m ไม่ได้ช่วงล่างไม่เหมือนกันเลย บอดี้รถแค่เหมือนกันเอง
e46 นั้น ขาแรง บางคนเอามาเซ็ทโบ กินซุป เวลาจับก็ดูๆด้วย ว่าทำมารึเปล่า ก่อนขายถอดออก ดู ตัวถังภายในดูจุดยึดต่างๆ ดูความร้อนที่ทำให้ ตัวถังที่อยู่ใก้ลๆเปลี่ยนสีไปแล้วเอาสีมาแต้มใหม่ก่อนขาย รึเปล่า รูน๊อตต่างๆ ตามตัวถังมีเจาะรึเปล่า
e39 ผมว่าหน้าตามันแก่เกินไป ดูเชยๆชอบกล
ถ้าหน้าตาไม่ใช่เป็นปัญหา ผมจะเอา e90 330 ไม่ก็ 325 ตัว 325 นั้น วิ่งเป็นรอง e46 330 นิดเดียวเอง แม้แรงม้าจะเท่ากัน แต่ e46 แรงกว่านิด แต่ด้วยบอดี้ที่เกาะกว่าของe90 ยังไงก็มั่นใจกว่า
ถ้าตามหา e90 325-330 ได้ก็ใช้ยาวเลย และรถไม่มีปัญหาหน้าเบาแบบ e46 สำหรับคนที่ขับรถเร็ว
หลายคนจับเอา e46 ไปใส่บู๊ชแต่ง เพาเวอร์เฟร๊ก ช่วงลางจะกระชับขึ้นมาอีกนิดพวงมาลัยหนักขึ้นอีกหน่อย เพราะยางให้ตัวไม่ค่อยได้ ออกแนวทื่อและกระด้าง แต่ถ้าเวลาจับมาแล้วรถมีปัญหาแต่แรก ใส่ของแต่งพวกนี้จะขึ้นพวงมาลัยเลยทีเดียวเวลาเบรคแรงๆ เพราะไม่มีระยะให้ตัว
เรื่องค่าเลี้ยงดูแพงมั้ย บีเอ็ม สำหรับ ซีรี่ 3 แล้ว รุ่นเก่าๆ นั้น ค่าเลี้ยงดูถูกว่ารถญี่ปุ่นอีกครับ ที่แพงนั้น อู่ฟันเกือบทั้งนั้น ซื้อ ของเทียบมาบอกของแท้ ของบิ้วมาบอกของใหม่ เช่น แร๊คพวงมาลัย ใส่ไปแล้วเจ้าของรถก็มองไม่เห็นแล้ว และของบิ้วใหม่ พ่นสีใหม่ เหมือนใหม่ด้วยจริงๆ
ซื้อเซียงกงมาใส่บวกราคาไปเกินเท่าตัว ค่าแรงบวกอีกตะหาก
ยังไงหาอู่ ที่ไม่ฟันให้ได้ก่อนดีกว่า บางคนแนะนำอู่นี้นั้นดี ก็ฟังหูไว้หู
เรื่องเครื่อง 6 เม็ดของบีเอ็มนั้น ทนยิ่งกว่าแรดอีกครับ ทั้งอึดทั้งทน และเกียร์ zf นั้นทดโครตๆครับ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ ห้าหมื่นโลเนี่ย ใช้เกิน 3 แสนโลเป็นของแน่อยู่แล้วครับ คันเก่าผมกดไม่รู้จะยังไง วิ่ง แสนแปด เกียร์มันเวลาเปลี่ยนก็ไม่มีสะดุดอะไรเลย ขับหลังเนี่ยขับมันส์มากๆปลอดภัยเพราะเชนเกียร์จนล้อเอี๊ยดก็ยังได้ กด dsc ค้างเอาไว้ 3 วินาที กดคันเร่งปั๊บ ออกตัวล้อฟรี สบายเลย รถพุ่งเป็นกบกระโดดเลยทีเดียว
อ้อ เสียงท่อ ของ e46 330 นั้นเพราะมากๆครับ เสียงท่อนั้นหนักแน่นและหวานมากๆ เพราะกว่า 323 มากๆ ตัว 323 กับ 330 จะมีวาวล์ปิดกักไอเสียที่ปลายท่อด้วย วาวล์เรียกแรงบิดปิดและเปิดได้เอาแว๊คคั่ม จากแรงดันท่อไอเสียมาเป็นตัวสั่งงาน ให้ปิดและเปิดเพื่อเรียกแรงบิด เวลากดคิกซ์ดาวน์แรงๆ เสียงนั้น เพราะมากๆ ท่อไอเสีย ตีคู่ 3 สูบต่อหนึ่งเส้น ตี 2 เส้นออกมาตั้งแต่ หน้าเครื่องเลย ตั้งแต่เล่นรถมา ในระดับราคาไม่แรงมาก เสียงท่อของ 330 เนี่ยแหละครับเพราะมากๆ โครตเพราะเลยก็ว่าได้
ตัว e46 e90 e39 รถออกมาได้นานแล้ว อู่นอก ทำได้ เดี่ยวนี้เครื่องจับแบบกระเป๋าหิ้วราคาก็ไม่กี่หมื่นบาท อู่ทั่วไปก็มีกันทุกอู่ ถ้าอยู่กรุงเทพก็สบายใจได้ อู่ บีเอ็ม มีมากพอๆกับร้านขายยาเลยทีเดียว
ขอต่ออีกหน่อย บีเอ็มเป็นรถที่ระบบเซพตี้นั้น ใช้งานได้จริงครับ เชื่อ มั้ยครับว่า ในนาทีฉุกเฉินเมื่อ abs ทำงาน และระบบตรวจจับ อะไรต่างๆ คำนวนไม่พลาดแล้วแหละกับแรงดันน้ำมันเบรขนาดนี้ความเร็วขนาดนี้องศาของล้อขนาดนี้ เทมื่อคำนวนไม่พลาด มันสั่งกระจกลงเองหมดทุกบานเลยครับ เพื่อ ช่วยหน่วงความเร็วรถด้วยกระแสลม
ระบบความปลอดภัยของรถที่โฆษณากันๆนั้น ไม่เหมือนกันครับ ซอรพ์แวร์ที่โปรแกรมให้มันจับคนเขียนก็ใส่ได้ไม่เหมือนกันด้วยในรถแต่ล๊ะยี่ห้อ ไม่ใช่ว่ามี ตัวหนังสือ ภาษา อังกฎษตรางูแล้ว ระบบมันจะทำงานได้เหมือนกัน มันแค่คล้ายกันเองครับ
ยังไม่มีนักยืมรถมาขับคนไหนได้ทดสอบระบบต่างๆให้เป็นจริงเป็นจัง ซักที เพราะก็คงหาถนนลองไม่ได้ด้วย ยังไง รถระดับ ราคา 3 ล้านกว่าสำหรับ e46 330 มานาทีนี้เหลือแค่ หกแสนกว่ามั้ง คุ้มครับถ้ายอมรับกับการซดน้ำมันของมันได้