ผู้เขียน หัวข้อ: // Exclusive Sales Report เจาะยอดขาย Mazda CX-5 เครื่องเบนซิน vs เครื่องดีเซล //  (อ่าน 13722 ครั้ง)

ออฟไลน์ alankarm

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 182
ดีเซล เพิ่มเงินโอเวอร์ไปเยอะขนาดนี้ คนก็ยังซื้อกัน ประหยัดก็ไม่ได้่ประหยัดกว่า
เพราะแบบนี้สินะ เค้าถึงได้เอาเปรียบเราตลอด

เค้าไหน แล้วเอาเปรียบอะไรอีกครับ ผมงง




เครื่องดีเซลต้นทุนแพงกว่าเบนซิลไม่เกินแสนถ้ามองทียอดผลิตเท่าๆกัน ทีนี้ส่วนต่าง 2 แสน คืออะไร
-ออฟชั่นขับสี่ + อื่นๆ อีกน้อยนิด รวมกันไม่ถึง 1 หมื่นเลยด้วยซ้ำ ให้เต็มที่ +15,000
-เครื่องยนตร์ 2500cc เบนซิล -->ดีเซล 2200 cc  ส่วนต่าง + 80,000

รวมแล้วเพิ่มไม่เกิน แสนนึง ผมบวกภาษีสรรพสามิตให่อีก +35% รวมเป็น 135,000
แล้วส่วนต่างที่เหลือ  65,000 ไปไหน ตอบ !!!!!!

แล้วคงไม่ต้องถามนะครับ ว่าผมรู้ได้ไง ผมคงตอบในจุดนั้นออกไปไม่ได้ เอาเป็นว่าผมประมาณได้ว่าแต่ละ option มันกี่บาทก็แล้วกันนะครับ
 
ส่วนรถยุโรปไม่นับแล้วกันนะครับ เพราะมันค้ากำไรเกินควนโคตรๆแล้วครับ

ระบบขับสี่ล้อ  15000 !!!!!  ถูกไปมั่งครับ  มันมีอะไรมากกว่าแค่เพลากลางกับเพลาขับหลังนะ
จากขับ 2 เป็นขับ 4 ต้นทุนจริงๆ ไม่เท่าไหร่จริงๆครับ อย่าไปเทียบกับตลาด replacement ครับ
ถ้ามองที่ต้นทุน OEM จะน้อยกว่านั้นครับ ผมเห็นตัวเลขอยู่ทุกวัน
แต่ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรครับ ผมก็แค่อยากให้เปิดใจเปลี่ยนทัศนคตินิดนึงว่าจริงๆแล้วต้นทุน OEM ในพวกออฟชั่นมันถูกมากๆๆๆๆ
อย่าเอาราคาอะไหล่มาเป็นตัวเทียบครับ พวกนั้นบวกเยอะมากกกกก จนคุณต้องอุทานว่าพระเจ้าแม่งโคตรกำไรเลย

ส่วนใหญรุ่นล่างๆๆ ตัวเบส จะสะท้อนจากต้นทุนจริง ถ้าบริษัทรถไม่ตกแต่งตัวเลขเพื่อเสียภาษี และจะได้ขายแพงๆๆๆ
อย่างปิคอัพนี้ คุยกันที่จำนวนการผลิตเป็นล้านๆชิ้น แค่แม่พิมพ์ถูกมากกกกกกกกก

ไม่รู้หรอกว่าต้นทุนอะไรเท่าไรอย่างไร คันไหนแพงคันไหนถูก

แต่ CX-5 ดีเซลนั่นที่ขายดีเพราะในตลาดมันไม่มีรถที่ตอบสนองได้ดีกว่านี้เลยในราคาเท่านี้ ทั้งตัวรถและศูนย์บริการ เอาแต่ดีเซลนะ ได้ AWD แรงดึงในรอบต่ำๆ

ดีมาก ขับแล้วสบายฟิน เท่าที่ผมขับมา แค่นี้ก็ทำให้หลายคนไม่คิดถึงปัจจัยอื่นแล้วล่ะ ตัวดีเซลถึงได้ขายดีไง

ตัว 2.5 แรงครับ แต่อย่างว่าเครื่อง เบนซิน NA ไม่ให้ความรู้สึกดึงเหมือน ดีเซลโบไม่ได้ ถึงแม้จะแรงกว่าก็ตาม แต่ผมคิดว่าคนไทยชอบรถแบบดึงๆกดง่ายมาไวมากกว่าครับ

เอาแค่นี้

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,846
  • *** HLM.COM ***
ดีเซลขายดีจริงๆ

ออฟไลน์ yod artstu

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,156
ถึง 2.5 จะแรงกว่า แต่มันต้องกดลึกว่า 2.2 D
เสียงก็แผดหวานแบบที่เราๆชอบกัน
แต่ภรรยาและแม่ยายคงไม่ค่อยปลื้มก็ได้นะครับ

เคยขับดิเซลมา 100 โล ฟิลมันคงต่างจากเบนซิน
รอบไม่ต้องสูง แรงดึงก็มา พอแซงได้ก็จบ ไม่ได้ลากรอบต่อ
ใช้ camry hybrid เช่นกันไม่ต้องกดลึก แรงดึงมอเตอร์กับเครื่องก็มา
แซงพ้นก็ปล่อย


ส่วนตัวก็ว่ามันแพงกว่าสัก 1 แสนก็พอรับได้
นี่ยังไม่ตัดสินใจจอง :)
: )

ออฟไลน์ View

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,889
  • -SIXFLOOR-
    • อีเมล์
ในเมื่อ SUV ขนาดนี้ที่ใส่เครื่องดีเซลมันมีอยู่แค่ 2รุ่นคือ CX-5 2.2 Skyactiv-D AWD  กะ Chevrolet Captiva 2.0 VCDI AWD

CAPTIVA อัตราเร่งอยู่เกือบบ๊วยของตาราง มีดีแค่ 7ที่นั่ง CX-5 อยู่อันดับ 3 อัตราการสิ้นเปลือง CX-5 ดีกว่า CAPTIVA มันเหมาะกับครอบครัว ส่วน CX-5 มันเป็นแบบขับสนุก เป็นผมๆเอา CX-5 แบบไม่ตัองคิดอะไรมาก เพราะถ้าจะเอารถครอบครัวจริงๆผมไปมองรถ PPV ดีกว่าใหญ่กว่า แต่เจ้านี้มันขนาดกระทัดลัดเอามาขับสนุกๆดีกว่า
2013 Honda City 1.5V
2013 Chevrolet Trailblazer 2.8 LTZ 4WD

ออฟไลน์ Koong

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 993
ดีเซล เพิ่มเงินโอเวอร์ไปเยอะขนาดนี้ คนก็ยังซื้อกัน ประหยัดก็ไม่ได้่ประหยัดกว่า
เพราะแบบนี้สินะ เค้าถึงได้เอาเปรียบเราตลอด

เค้าไหน แล้วเอาเปรียบอะไรอีกครับ ผมงง




เครื่องดีเซลต้นทุนแพงกว่าเบนซิลไม่เกินแสนถ้ามองทียอดผลิตเท่าๆกัน ทีนี้ส่วนต่าง 2 แสน คืออะไร
-ออฟชั่นขับสี่ + อื่นๆ อีกน้อยนิด รวมกันไม่ถึง 1 หมื่นเลยด้วยซ้ำ ให้เต็มที่ +15,000
-เครื่องยนตร์ 2500cc เบนซิล -->ดีเซล 2200 cc  ส่วนต่าง + 80,000

รวมแล้วเพิ่มไม่เกิน แสนนึง ผมบวกภาษีสรรพสามิตให่อีก +35% รวมเป็น 135,000
แล้วส่วนต่างที่เหลือ  65,000 ไปไหน ตอบ !!!!!!

แล้วคงไม่ต้องถามนะครับ ว่าผมรู้ได้ไง ผมคงตอบในจุดนั้นออกไปไม่ได้ เอาเป็นว่าผมประมาณได้ว่าแต่ละ option มันกี่บาทก็แล้วกันนะครับ
 
ส่วนรถยุโรปไม่นับแล้วกันนะครับ เพราะมันค้ากำไรเกินควนโคตรๆแล้วครับ

ระบบขับสี่ล้อ  15000 !!!!!  ถูกไปมั่งครับ  มันมีอะไรมากกว่าแค่เพลากลางกับเพลาขับหลังนะ
จากขับ 2 เป็นขับ 4 ต้นทุนจริงๆ ไม่เท่าไหร่จริงๆครับ อย่าไปเทียบกับตลาด replacement ครับ
ถ้ามองที่ต้นทุน OEM จะน้อยกว่านั้นครับ ผมเห็นตัวเลขอยู่ทุกวัน
แต่ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรครับ ผมก็แค่อยากให้เปิดใจเปลี่ยนทัศนคตินิดนึงว่าจริงๆแล้วต้นทุน OEM ในพวกออฟชั่นมันถูกมากๆๆๆๆ
อย่าเอาราคาอะไหล่มาเป็นตัวเทียบครับ พวกนั้นบวกเยอะมากกกกก จนคุณต้องอุทานว่าพระเจ้าแม่งโคตรกำไรเลย

ส่วนใหญรุ่นล่างๆๆ ตัวเบส จะสะท้อนจากต้นทุนจริง ถ้าบริษัทรถไม่ตกแต่งตัวเลขเพื่อเสียภาษี และจะได้ขายแพงๆๆๆ
อย่างปิคอัพนี้ คุยกันที่จำนวนการผลิตเป็นล้านๆชิ้น แค่แม่พิมพ์ถูกมากกกกกกกกก
ตามที่ท่านว่ามาก็น่าจะจริง   เดี๋ยวนี้คำว่าราคาอะไหล่รถญี่ปุ่นถูก อาจจะใช้ไม่ได้แล้ว อะไหล่หลายๆชิ้นแอบแพงขึ้นเรื่อยๆแบบเราไม่รู้ตัว


ออฟไลน์ P233

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 145
น่าจะช่วยกระตุ้นให้honda เอาเครื่องดีเซลเข้ามาขายบ้างนะครับ

ออฟไลน์ littlepig1430

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 28
ปัจจัยในการเลือกซื้อรถ คุณคิดว่าความพอใจของผู้ซื้อ หรือความคุ้มค่าของตัวรถมีผลมากกว่ากันหละครับ
แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน คิดไม่เหมือนกัน ถึงได้มีรถออกมาหลายรุ่น และผลก็ออกมาตามข้อมูลแหละครับ
ส่วนตัวคิดว่าบางท่าน ซื้อเพราะว่าเป็นตัวท็อปด้วยซ้ำ ไม่คิดอะไรเลย
บางคนขับแล้วชอบ มากกว่ามานั่งดูข้อมูลต่างๆนาๆ ข้อบกพร่องต่างๆเค้ารับได้ เพื่อความพอใจของเค้าเป็นต้น