ผู้เขียน หัวข้อ: // Exclusive Sales Report เจาะยอดขาย Mazda CX-5 เครื่องเบนซิน vs เครื่องดีเซล //  (อ่าน 13721 ครั้ง)

ออฟไลน์ MoO Cnoe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,486
    • อีเมล์
 ;D ;D ;D ตามภาพเลยครับ
เบนซิน Skyactiv-G vs ดีเซล Skyactiv-D



ออฟไลน์ Pat.Lee

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 961
ดีเซลขายดีจริงๆ คิวจองก็ยาวอีกต่างหาก

ออฟไลน์ TRcdi

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 670
ดีเซล รุ่นเดียว แต่ถือว่าสัดส่วนสูงเลยนะเนี่ย

ถ้ามี ดีเซล ขับ 2  ราคาถูกลง สงสัยขายกระฉูด

ออฟไลน์ Vitz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 358
  • The power of dreams
โห! ดีเซลอย่างเดียวกวาดยอดขายไปเกือบครึ่งเลยหรอเนี่ย ขนาดขายแพงกว่า2.5เบนซินตั้ง2แสน! เห็นยอดดีเซลดีขนาดนี้แล้วอยากให้ mazda ทำcx5รุ่น 2.2D ขับ2 low option จังเลย =W=
呵呵呵

ออฟไลน์ Highway Star

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,930
ดีเซลขายได้เยอะ เหมือนกัน

ออฟไลน์ cipher_rank

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 88
  • รักและคิดถึงเกียร์กระปุกอยู่เสมอ
อยากให้ดีเซลลงมาสด้า3 อิอิ

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,206
เบนซินนี่เรียงลำดับ 2.0S > 2.5S > 2.0C ด้วยใช่มั้ยครับ
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

ออฟไลน์ yod artstu

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,156
ดีเซลคิวยาวประมาณกี่เดือนครับ ท่านใดพอทราบบ้าง  ;D
: )

ออฟไลน์ secrecyguy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,743
  • 3.2plus
ดีเซลคิวยาวประมาณกี่เดือนครับ ท่านใดพอทราบบ้าง  ;D


ผมรอ 2เดือนก็ได้รถนะครับ

ออฟไลน์ @PPs

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 82
เห็นอย่างนี้แล้ว น่าจะนำเครื่องดีเซลมาลงรุ่นอื่นๆด้วยนะ

ออฟไลน์ Lammerison

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 942
    • อีเมล์
หรือเป็นนัยยะว่า
จะมี Mazda 2 desiel
และ Mazda 3 desiel  มาเสริมกระตุ้นตลาดรอบที่ 2 !!!!!

ออฟไลน์ HME

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 718
ขอมโน

ถ้ามีแบบเติม E85 ได้
คิดว่าสัดส่วนจะไปทางเบนซินมากกว่านี้

ออฟไลน์ MoO Cnoe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,486
    • อีเมล์
เบนซินนี่เรียงลำดับ 2.0S > 2.5S > 2.0C ด้วยใช่มั้ยครับ

ถูกต้องครับ

ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,552
ดีเซล เพิ่มเงินโอเวอร์ไปเยอะขนาดนี้ คนก็ยังซื้อกัน ประหยัดก็ไม่ได้่ประหยัดกว่า
เพราะแบบนี้สินะ เค้าถึงได้เอาเปรียบเราตลอด

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ผมได้ยินคนรอบตัวบอกว่า เอา CX-5 diesel ไปเทียบกับ X1 เลยนะครับ

รถเขาดีจริงๆ ;)

ออฟไลน์ PorrMacKenna

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 165
ดีเซล เพิ่มเงินโอเวอร์ไปเยอะขนาดนี้ คนก็ยังซื้อกัน ประหยัดก็ไม่ได้่ประหยัดกว่า
เพราะแบบนี้สินะ เค้าถึงได้เอาเปรียบเราตลอด

ถ้าเป็นรถยุโรป เครื่องยนต์ดีเซลแพงกว่าเบนซิน
แล้วพอมาไทย ภาษีรถยนต์เบนซินต่ำกว่า เพราะมีอัตราภาษีของรถ E20 กับ E85 ช่วยครับ

ออฟไลน์ Mekkub

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 435
    • อีเมล์
เห็นแบบนี้ทางมาสด้าน่าจะพิจารณา mazda6 มาได้แล้วนะครับขายได้เดือนล่ะพันคันก็ยังดีครับ

ออฟไลน์ oryor

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 666
ผมกำลังงงอยู่ว่าทำไมคนซื้อตัวดีเซลเยอะจัง

ข้อดี
ขับสี่(คงไม่ได้ใช้ตลอดอยู่แล้ว)
Option เล็กๆน้อยๆ
ประหยัดน้ำมัน (แต่ส่วนต่างต้องจ่ายเป็นราคารถ)

ข้อเสีย
ราคาแพงกว่าตั้งเยอะ
เสียงดัง
รอรถนานกว่า

งง จริงๆ

ออฟไลน์ XyteBlaster

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,296
    • อีเมล์
ดีเซล ทนกว่า เบนซิน เยอะครับ ..

แล้วก็ ดีเซล เทอร์โบ แรงบิดมหาศาล   เร่งแรงนรก

ออฟไลน์ secrecyguy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,743
  • 3.2plus
ผมกำลังงงอยู่ว่าทำไมคนซื้อตัวดีเซลเยอะจัง

ข้อดี
ขับสี่(คงไม่ได้ใช้ตลอดอยู่แล้ว)
Option เล็กๆน้อยๆ
ประหยัดน้ำมัน (แต่ส่วนต่างต้องจ่ายเป็นราคารถ)

ข้อเสีย
ราคาแพงกว่าตั้งเยอะ
เสียงดัง
รอรถนานกว่า

งง จริงๆ


คนซื้อcx5 เครื่องดีเซล เขาไม่คิดอะไรซับซ้อนหรอกครับ

ออฟไลน์ oryor

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 666
555
ถึงว่าทำไมผมถึงไม่ได้ซื้อ
เพราะว่าผมคิดซับซ้อนนี่เอง

ออฟไลน์ praphan

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 105
จากที่ได้ลองขับแล้ว 2.2ดีเซลขับดีจริงครับ และขับ4 แค่บางเวลา อีกปัจจัยนึง น่าจะมาจากราคาเบนซิล 45บ.ส่วนดีเซลนั้น30 ต้นๆครับ การจะตัดสินใจซื้อรถ สำหรับผม คิดว่า หลักใหญ่มาจาก การได้ลองขับดูก่อนมากกว่า ถึงตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,649
    • อีเมล์
ปัจจัยเรื่องราคาเชื้อเพลิง ผมว่ามีผลทั้งด้านจิตวิทยา และ การเลือกของผู้บริโภคค่อนข้างชัดนะ

ถึงแม้ว่าจะคำนวนได้ว่า ต้องวิ่งถึงเท่าไหร่ๆ กม. ถึงจะคุ้มทุน แต่...เวลาจ่ายเงินเติมน้ำมัน เมื่อเทียบกันถังต่อถัง ทุกๆวัน ใน 1 ปี มันสบายใจกว่า (แม้ว่าเงินจะไม่ได้ประหยัดกว่าก็ตาม)

ก็คงไม่ต่างจากคนใช้เบนซิน ติดแก๊ส ก็ไม่เคยเห็นมีคนอยากกลับมาเติมน้ำมันกันเลย

ถ้าเติม E85 ได้ขึ้นมา หรือ เป็นเครื่องยนต์ระบบที่ติดเเก๊สได้ง่ายๆ คนยอมรับ ผมว่าเบนซินก็จะยอดขายฉีกไปแน่นอน

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
ดีเซล เพิ่มเงินโอเวอร์ไปเยอะขนาดนี้ คนก็ยังซื้อกัน ประหยัดก็ไม่ได้่ประหยัดกว่า
เพราะแบบนี้สินะ เค้าถึงได้เอาเปรียบเราตลอด

เค้าไหน แล้วเอาเปรียบอะไรอีกครับ ผมงง


ออฟไลน์ Koong

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 993
เหตุผลที่ผมจะเลือก CX-5 ดีเซล ก็คือ
1. ถึงแม้ตอนซื้อราคาจะแพงกว่า     แต่ตอนขายออก ผมว่าผมก็ขายออกได้แพงกว่า   ฉะนั้นส่วนต่างที่ว่าเติมน้ำมันถูกกว่า ต้องวิ่งกี่ กม ถึงคุ้ม มันน้อยกว่า 200000 แน่นอน

2. ถึงแม้ตัวเลขอัตราเร่งต่างๆ จะสูสีรุ่น 2.5 เบนซิน   แต่การใช้งานจริง  สำหรับรถประเภทนี้ เครื่องดีเซล แรงบิดสูงที่รอบต่ำ มันน่าจะตอบสนองได้ดีกว่า  ยิ่งนั่งเตเมคัน ขับขึ้นเขายิ่งเห็นผล   
คือตัวเลขแม้จะใกล้เคียงกัน แต่อารมย์มันต่างกัน   เครืองเบนซิลมันต้องลากรอบเสียงเครื่องกวาดเหมือนรถแข่ง  ถ้าอยู่ในรถเก๋งก็โอเค  แต่ใน SUV  ผมชอบอารมแบบดีเซลมากกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 20, 2014, 16:22:42 โดย Koong »

ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,552
ดีเซล เพิ่มเงินโอเวอร์ไปเยอะขนาดนี้ คนก็ยังซื้อกัน ประหยัดก็ไม่ได้่ประหยัดกว่า
เพราะแบบนี้สินะ เค้าถึงได้เอาเปรียบเราตลอด

เค้าไหน แล้วเอาเปรียบอะไรอีกครับ ผมงง



เครื่องดีเซลต้นทุนแพงกว่าเบนซิลไม่เกินแสนถ้ามองทียอดผลิตเท่าๆกัน ทีนี้ส่วนต่าง 2 แสน คืออะไร
-ออฟชั่นขับสี่ + อื่นๆ อีกน้อยนิด รวมกันไม่ถึง 1 หมื่นเลยด้วยซ้ำ ให้เต็มที่ +15,000
-เครื่องยนตร์ 2500cc เบนซิล -->ดีเซล 2200 cc  ส่วนต่าง + 80,000

รวมแล้วเพิ่มไม่เกิน แสนนึง ผมบวกภาษีสรรพสามิตให่อีก +35% รวมเป็น 135,000
แล้วส่วนต่างที่เหลือ  65,000 ไปไหน ตอบ !!!!!!

แล้วคงไม่ต้องถามนะครับ ว่าผมรู้ได้ไง ผมคงตอบในจุดนั้นออกไปไม่ได้ เอาเป็นว่าผมประมาณได้ว่าแต่ละ option มันกี่บาทก็แล้วกันนะครับ
 
ส่วนรถยุโรปไม่นับแล้วกันนะครับ เพราะมันค้ากำไรเกินควนโคตรๆแล้วครับ

ออฟไลน์ Koong

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 993
ดีเซล เพิ่มเงินโอเวอร์ไปเยอะขนาดนี้ คนก็ยังซื้อกัน ประหยัดก็ไม่ได้่ประหยัดกว่า
เพราะแบบนี้สินะ เค้าถึงได้เอาเปรียบเราตลอด

เค้าไหน แล้วเอาเปรียบอะไรอีกครับ ผมงง



เครื่องดีเซลต้นทุนแพงกว่าเบนซิลไม่เกินแสนถ้ามองทียอดผลิตเท่าๆกัน ทีนี้ส่วนต่าง 2 แสน คืออะไร
-ออฟชั่นขับสี่ + อื่นๆ อีกน้อยนิด รวมกันไม่ถึง 1 หมื่นเลยด้วยซ้ำ ให้เต็มที่ +15,000
-เครื่องยนตร์ 2500cc เบนซิล -->ดีเซล 2200 cc  ส่วนต่าง + 80,000

รวมแล้วเพิ่มไม่เกิน แสนนึง ผมบวกภาษีสรรพสามิตให่อีก +35% รวมเป็น 135,000
แล้วส่วนต่างที่เหลือ  65,000 ไปไหน ตอบ !!!!!!

แล้วคงไม่ต้องถามนะครับ ว่าผมรู้ได้ไง ผมคงตอบในจุดนั้นออกไปไม่ได้ เอาเป็นว่าผมประมาณได้ว่าแต่ละ option มันกี่บาทก็แล้วกันนะครับ
 
ส่วนรถยุโรปไม่นับแล้วกันนะครับ เพราะมันค้ากำไรเกินควนโคตรๆแล้วครับ

ระบบขับสี่ล้อ  15000 !!!!!  ถูกไปมั่งครับ  มันมีอะไรมากกว่าแค่เพลากลางกับเพลาขับหลังนะ

ออฟไลน์ sith(สิทธิ์)

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,411
  • นับ1ใหม่
    • อีเมล์
เค้าคุยเรื่องขับ4ของมาสด้ารึครับ 15,000฿
ผมนึกว่าขับ4ของอีสุดาร์กอนอาย  ;D ไมมันถูกจัง

ออฟไลน์ beeday

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 520
ดีเซลคิวยาวประมาณกี่เดือนครับ ท่านใดพอทราบบ้าง  ;D


++

ของผมได้รับรถ 3 วันหลังจากไฟแนนซ์อนุมัตินะครับ :) สีขาว Diesel

++

ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,552
ดีเซล เพิ่มเงินโอเวอร์ไปเยอะขนาดนี้ คนก็ยังซื้อกัน ประหยัดก็ไม่ได้่ประหยัดกว่า
เพราะแบบนี้สินะ เค้าถึงได้เอาเปรียบเราตลอด

เค้าไหน แล้วเอาเปรียบอะไรอีกครับ ผมงง




เครื่องดีเซลต้นทุนแพงกว่าเบนซิลไม่เกินแสนถ้ามองทียอดผลิตเท่าๆกัน ทีนี้ส่วนต่าง 2 แสน คืออะไร
-ออฟชั่นขับสี่ + อื่นๆ อีกน้อยนิด รวมกันไม่ถึง 1 หมื่นเลยด้วยซ้ำ ให้เต็มที่ +15,000
-เครื่องยนตร์ 2500cc เบนซิล -->ดีเซล 2200 cc  ส่วนต่าง + 80,000

รวมแล้วเพิ่มไม่เกิน แสนนึง ผมบวกภาษีสรรพสามิตให่อีก +35% รวมเป็น 135,000
แล้วส่วนต่างที่เหลือ  65,000 ไปไหน ตอบ !!!!!!

แล้วคงไม่ต้องถามนะครับ ว่าผมรู้ได้ไง ผมคงตอบในจุดนั้นออกไปไม่ได้ เอาเป็นว่าผมประมาณได้ว่าแต่ละ option มันกี่บาทก็แล้วกันนะครับ
 
ส่วนรถยุโรปไม่นับแล้วกันนะครับ เพราะมันค้ากำไรเกินควนโคตรๆแล้วครับ

ระบบขับสี่ล้อ  15000 !!!!!  ถูกไปมั่งครับ  มันมีอะไรมากกว่าแค่เพลากลางกับเพลาขับหลังนะ
จากขับ 2 เป็นขับ 4 ต้นทุนจริงๆ ไม่เท่าไหร่จริงๆครับ อย่าไปเทียบกับตลาด replacement ครับ
ถ้ามองที่ต้นทุน OEM จะน้อยกว่านั้นครับ ผมเห็นตัวเลขอยู่ทุกวัน
แต่ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรครับ ผมก็แค่อยากให้เปิดใจเปลี่ยนทัศนคตินิดนึงว่าจริงๆแล้วต้นทุน OEM ในพวกออฟชั่นมันถูกมากๆๆๆๆ
อย่าเอาราคาอะไหล่มาเป็นตัวเทียบครับ พวกนั้นบวกเยอะมากกกกก จนคุณต้องอุทานว่าพระเจ้าแม่งโคตรกำไรเลย

ส่วนใหญรุ่นล่างๆๆ ตัวเบส จะสะท้อนจากต้นทุนจริง ถ้าบริษัทรถไม่ตกแต่งตัวเลขเพื่อเสียภาษี และจะได้ขายแพงๆๆๆ
อย่างปิคอัพนี้ คุยกันที่จำนวนการผลิตเป็นล้านๆชิ้น แค่แม่พิมพ์ถูกมากกกกกกกกก