เกรย์ ตอนนี้อยู่ในสถานการณ์ เมาหมัด เหมือนโดนทุบหัว ซ้ำแล้วซ้ำอีก จะโงหัวก็โดนทุบใหม่มาสอง สามปีละ
ใครสายป่านไม่ยาวอยู่ยาก เจ้าเล็กๆ เรียกได้ว่าตายไปเยอะมากแล้ว
ตอนนี้เหลือโปรดักรุ่นที่พอทำได้ ทำไหวไม่กี่ตัว
เมื่อก่อนมีหลายโปรดัก ทั้ง Benz C class/ Coupe, E class/ Coupe/ CLS / SLK / SL , Lexus RX, Harrier, Alphard, Velfire/ Audi TT, Toyota Land /Nissan Cube
เดี๋ยวนี้เหลือไม่กี่โปรดักที่แข่งขันไหว เบนส์ กดราคาสู้ โตโยต้า ประกอบขายในนี้ LExus กดราคามาสู้
หลายๆโปรดัก ทำเอาเกรย์หมดสภาพคล่อง ไม่กล้าสต๊อกเยอะกลัวจม กลัวโดนถล่มราคา พวกที่ตัดรถคนอื่นมาขายก็เหลือน้อยลงๆ กำไรก็น้อยลง กลายเป็นธุรกิจลงทุนเยอะความเสี่ยงสูงมาร์จิ้นน้อย
ตัวอย่าง Harrier ราคาเปิดตอนแรก 2.99 ตอนนี้ สองต้นๆก็ได้ละ คิดเอาว่าคนสตีอกจะทำไง แถมศุลกากรเล่นกักรถไม่ยอมปล่อยออกมา เงินจมไปอีกกี่ล้าน โดนหมดทุกด้าน
และอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลทางอ้อม คือการปราบปรามธุรกิจสีเทาๆ ขณะนี้ทั้งหวย ตู้ม้า ไม้เถื่อน และอื่นๆทางการเมือง ขั้วอำนาจและกระแสเงินสีเทาหายไปเยอะมาก ส่งผลกระทบโดยตรงกับธุรกิจฟองเงินอย่าง เกรย์ และรถมือสอง ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ครับ
โดยส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับการเลี่ยงภาษีและการกระทำผิดกฎหมาย
แต่ก็ยอมรับว่าการบูมของเกรย์เมื่อสามสี่ปีที่ผ่านมาทำให้โครงสร้างราคารถยนต์ของเรามีการแข่งขันที่สมเหตสมผลขึ้นมาก
ดูจากราคาของ Benz / BMW / Lexus ศูนย์ราคาลงมาเยอะมาก ผู้บริโภคได้ประโยนชน์เต็มๆ
เห็นแว่วๆว่าS class ใหม่ที่ ประกอบไทย ราคาเปิดนี่กะลุยเต็มที่ อาจจะได้เห็นเลข 5
กดกันแบบนี้ เกรย์ที่คิดจะเอาเข้ามาก็คงคิดหนักจะตั้งราคาอย่างไร
สุดท้ายตลาดจะปรับตัวไปหาสมดุลของมันครับ รู้สึกว่าจะไปบูมพวก บิ๊กไบค แทนแต่ผมไม่ได้ติดตามสายมอเตอไซด์ไม่รู้เป็นไง