V care ประชาชื่น 33 ครับᅠ
ความทรงจำยังชัดเจน กินโฮกๆ ของผม M/T4จังหวะ กินประมาณ6โล/ลิตร ท่อไอเสียผุตลอดจนต้องเปลี่ยนเกือบทุกปี กุญแจประตูกะฝาท้ายคนละดอกแถมฝาถังน้ำมันอีกหนึ่งดอกเล็ก ช่วงล่างแข็งมากกจนตอนเปลี่ยนมาใช้w124เผลอนึกว่าขี่พรม
ฟังคุณอธิบายแล้วมันใช่เลย ใช่แบบเป๊ะๆ นี่ผมเติม 95 ไปเต็มถัง เพิ่งวิ่งไปราว 55 โล น้ำมันหายไปเกือบ 1/4 แล้ว กุญแจรถมาเป็นพวง ผมเจอครั้งแรกตกใจเลย มันจะไขอะไรกันเยอะแยะวะมีกุญแจประตูกับสตาร์ท มีกุญแจฝาท้าย และก็มีดอกขับเสาอากาศ..(ไม่แน่ใจ ลุงบอก แต่ผมยังไม่รู้เลยมันใช้ยังไง) ส่วนฝาถังน้ำมันผมไม่ได้สังเกตว่าดอกไหนหน้าตายังไง แค่ขับเข้าปั๊มไปเติม ก็เปิดฝาเติมได้ปกติเลยไม่ได้สังเกต
ช่วงล่างแข็งนี่ใช่เลย แล้วมันแข็งแบบอธิบายยากด้วย คนไม่เคยขับคงบอกว่ามันต้องนุ่มๆยานๆยวบๆ แต่คันนี้ลุงยืนยันว่าใช้โช้คตามสเป็คตรงรุ่น มันแข็งแบบตึงตังครับ วิ่งบนถนนขรุขระนี่ยังกะใส่โช้คสปอร์ตมาเลย แต่พอสลาลอมเล่น ดันยวบเหมือนรถบ้านทั่วไป เอากะมันสิ ไม่ต้องเทียบกับ 124 ก็ได้ เทียบกับ 123 หรือ E28 ก็สู้ไม่ได้ทั้งในเรื่องความนุ่มสบายและความมั่นคง
คันนี้ที่ผมใช้อยู่ เข็มความเร็วไม่มี วัดรอบก็ไม่มี ประสาทกินมากครับสำหรับคนที่ประสาทไม่ไว ฟังเสียงเครื่องกับแรงดึงไม่ค่อยเป็น ผมมันคนประเภทชอบดูวัดรอบดูความเร็วตลอด พอไม่มีทั้งสองอย่างก็เหมือนขับด้วยประสาทสัมผัสล้วนๆ เกร็งมาก แต่ตอนหลังนึกขึ้นได้ว่า GPS ในโทรศัพท์ก็ช่วยได้นี่หว่า
ยิ่งพูดก็ยิ่งคิดถึง เพราะมันเป็นรถคันแรกจริงๆในชีวิตผมเพราะเกิดมาก็เจอมันแล้ว คุณพ่อได้ต่อมาจากคุณลุงตอนช่วงผมเกิดพอดี ตอนนั้นที่บ้านใช้โคโรน่าRT100อยู่เลยยกให้อาต่อไปอย่างด่วนๆเพราะวอลโว่ป้ายแดงตอนนั้น 880,000 ส่วนโคโรน่า 130,000 ราคาต่างกันเจ็ดเท่า
เรื่องน้ำมันนี่หายห่วงจริงๆ ตอนปี1980 วิกฤติน้ำมันครั้งแรกนี่พ่อผมถึงกะต้องนั่งรถเมล์ไปทำงานเพราะเติมไม่ไหวจริงๆ เท่าที่ฟังมาเห็นบอกว่าลิตรละสิบกว่าบาท ถ้าเป็นค่าเงินสมัยนี้คงเฉยๆแต่นี่มันย้อนหลังไปร่วมสามสิบสี่สิบปีราคานี้ถือว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
เรื่องเด่นๆอย่างอื่นก็คงมีเรื่องความแข็งนี่แหละรถผมเป็น244รุ่นบิ๊กบัมเพอร์กันชนเหล็กกล้าขลิบยางอย่างหนา ตอนหัดขับรถใหม่ๆเผลอถอยไปจิ้มL200มั้งบี้เลย ไอ้รถเรานี่ไม่มีแม้แต่รอย พอเป็นรุ่นหลังๆก็เป็นไฟเบอร์ไปแล้ว มีเข็มขัดนิรภัยสามจุดสี่ตำแหน่งพร้อมไฟเตือนให้คาดเข็มขัด หมอนรองศรีษะครบทุกตำแหน่ง กระจกมองหลังตัดแสง เบาะคนขับมีดันหลังมือหมุนแถมบางรุ่นเบาะรองนั่งมีปรับยกรองต้นขาได้ด้วย. อุปกรณ์พื้นฐานพวกนี้ไม่ต้องไปหาในรถอื่นในยุคไล่ๆกันนะครับหาไม่เจอหรอก ผ้ายางรองพื้นเป็นแบบกะบะขึ้นรูปเอาเป็ปซี่ขวดสองลิตรเทใส่นี่ผมว่าไม่มีล้นไม่มีรั่ว ถ้าเป็นGLTนี่เข็มอะไรต่ออะไรนี่พราวเต็มหน้าปัดไปหมด เบาะกำมะหยี่กระจกไฟฟ้าเซ็นทรัลล็อค แถมมีห้าเกียร์โดยเกียร์ห้าเป็นโอเวอร์ไดร์แต่ต้องกดปุ่มเอาคือเข้าเกียร์สี่แล้วพอความเร็วได้ก็กดปุ่มบนหัวเกียร์รอบเครื่องก็จะตกลงมาอีกนิสสนึงพอให้ใจชื้น
จนถึงวันนี้นับได้เกือบยี่สิบปีแล้วที่ผมปล่อยมันออกไปแต่บอกตรงๆว่าผมยังมองหามันอยู่ตลอด คอยเปิดเว็ปดูว่ามีใครเอามาปล่อยมั๊ย ขับรถผ่านเต็นท์ก็คอยชำเลืองมอง. คิดอยู่ตลอดว่าถ้ามีโอกาสเจอซี้เก่าจะเก็บมาบูรณะเข้าพิพิธภัณฑ์คู่กะW124ว่าจะทำห้องติดแอร์ให้อยู่กันเลยทีเดียว555