ตรวจสอบปัญหาช่วงล่างเบื้องต้นระดับคุณหนู 101

[2k]

สวัสดีปลายฝนต้นหนาว(รึเปล่า)แก่สมาชิกทุกท่านครับ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยดูแลสุขภาพกันให้ดีนะครับ กระทู้นี้จะเป็นกระทู้ยาวนิดหนึ่งที่จะบอกเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับช่วงล่างที่ผมพบเจอมาระดับมาราธอนหลายเดือนติดต่อกันมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วยันต้นปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นประโยชน์แก่หลายๆคนที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับช่วงล่างรถยนต์หรืออาจจะมีต่อไปในอนาคต จะได้แก้ไขระบุจุดที่เกิดปัญหาให้ตรงจุดไม่เสียเวลาบ้าบออย่างผมกันครับ 


ก่อนอื่นขอท้าวความถึงสาเหตุทั้งหมดทั้งมวลของเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนเลยดีกว่า เรื่องของเรื่องคือเมื่อสักประมาณช่วงเกือบๆปลายปีที่แล้วผมได้ยินเสียงอี๊ด…อี๊ด…อี๊ดเป็นจังหวะสม่ำเสมอเบาๆเวลายืนหน้ารถยามลงไปเปิดรั้วเข้าบ้าน เสียงอี๊ดๆนี่จะดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอแต่ต่างกันที่เร็วบ้างบ้างช้าบ้าง บางทีก็เสียงไม่ดังหายไปสามสี่วันแล้วก็กลับมาดังอีกให้รำคาญใจ  หลังจากที่ทำการตรวจสอบกับช่างศูนย์ช่างอู่และทำการศึกษาต้นตอของเสียงอี๊ดๆนี้จนท้ายที่สุดก็พบว่ามันมาจากตัวพัดลมระบายความร้อนนั่นแหละ สาเหตุของมันส่วนแกนของพัดลมสึกหรอกทำให้การหมุนของพัดลมไม่ได้ศูนย์จึงเป็นที่มาของเสียงอี๊ดๆดังบ้างไม่ดังบ้าง ความต่างของการดังฉี่ดังห่างนั้นมีสาเหตุมาจากถ้ารถแล่นมาไกลมีความร้อนในเครื่องยนต์สูงพัดลมก็จะหมุนรอบจัดเสียงก็จะดังถี่ กลับกันถ้าความร้อนน้อยลงเสียงก็จะมีความถี่น้อยลง ส่วนเรื่องดังบ้างไม่ดังบ้างนั้นเราเอาแน่เอานอนอะไรกับใบพัดที่เริ่มเสียศูนย์ไม่ได้ 


เสียงอี๊ดๆจากห้องเครื่องนี่จากที่ผมดูมามีสาเหตุหลักๆง่ายๆมาจากสองส่วนคือหนึ่งจากสายพานที่เริ่มหมดอายุการใช้งานแล้วมันก็จะดังอี๊ดๆ ตรวจสอบได้ง่ายๆว่ามาจากสายพานจริงไหมก็จัดการจอดรถเข้าเกียร์ว่างดึงเบรคมือหรือจะเข้าPแล้วดึงเบรคมือก็ได้ เปิดกระจกรถแล้วทดลองเหยียบคันเร่งแล้วฟังเสียง ถ้ารอบจังหวะของการดังอี๊ดๆถี่ขึ้นตามรอบของเครื่องยนต์ที่ขึ้นสูงขึ้นก้แน่นอนว่ามาจากสายพาน แต่ถ้ามาจากการแกนพัดลมที่มันรุนจนเสียศูนย์ก็ดูยากหน่อยจะเห็นชัดๆก็ต่อเมื่อถอดออกมาดูข้างนอก   

[2k]

ผมจัดการให้อู่แถวๆบ้านเปลี่ยนพัดลมระบายความร้อนตัวใหม่ให้ส่วนตัวเก่าเก็บใช้เป็นอะไหล่ไว้ยามที่แปรงถ่านเสื่อมสภาพไปแล้ว……สงสัยใช่ไหมว่าจะพูดถึงเรื่องเสียงจากช่วงล่างทำไมมาเรื่องเสียงอี๊ดๆจากพัดลมระบายความร้อน? เรื่องมันเริ่มจากตรงนี้แหละครับ……  ไอ้ตอนที่เปลี่ยนพัดลมเนี่ยผมได้ให้ช่างอู่มาสด้า/ฟอร์ดเจ้าหนึ่งย่านศรีณครินทร์จัดการเปลี่ยนพัดลมให้ ด้วยความที่ผมกำลังอยากจะเปลี่ยนผ้าเบรคพอดีก็เลยจัดแจงเพิ่มงานให้อู่เข้าไปอีกเรื่องหนึ่งหรือเปลี่ยนผ้าเบรคให้หน่อยทั้งหน้าและหลัง ผ้าเบรคที่ผมใส่คือ National Brake กล่องสีดำตรงรุ่นทั้งหน้าและหลังเลย…… ผ่านไปสองวันหลังจากทิ้งรถไว้ติดตั้งทุกอย่างเสร็จ……พัดลมไม่มีเสียงอี๊ดๆแล้วเงียบสงัดดีแต่กลับมามีปัญหาที่ช่วงล่างแทน….. หลังเปลี่ยนผ้าเบรคไปแล้วแทบทุกครั้งที่มีการเบรคจะมีเสียง”แก๊ก”ดังขึ้นมาจากส่วนล่างของรถให้รำคาญใจ  และมีเสียงอ๊อดดแอ๊ดดดดยามที่ขึ้นลงเนินเพิ่มขึ้นมาให้ปวดเศียรยามใช้งาน ผมก็ให้อู่เดิมนั่นแหละจัดการตรวจสอบดูให้ทีว่าเสียงมันเกิดมาจากอะไรมาได้ยังไง? คำตอบของช่างคือ”เสียงอ๊อดแอ๊ดมาจากที่บู๊ชยาง ช่วงล่างด้านหลังที่มันเสื่อมสภาพไปแล้วครับถ้าจะแก้ต้องอัดบู๊ชใหม่“  ผมก็มาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมก็พบว่าอืมเสียงอ๊อดแอ๊ดเวลาขึ้นลงเนินหรือยามตัวถังบิดตัวมันมาจากการที่บู๊ชยางมันฉีกขาดส่งเสียงดังจริงๆนั่นแหละ รถผมก็ใช้มา6หมื่นกิโลแล้วแถมยังใส่สตรัทอีกอีก เคยตกหลุมหนักๆจนแกนคดมาแล้วบู๊ชจะเสื่อมก็คงไม่แปลก…….มั้งงงงงงง 


ผ่านไปอีกหนึ่งอาทิตย์ที่ช่างอู่จัดการถอดช่วงล่างหลังออกมาแล้วอัดบู๊ชเข้าไปใหม่ทุกชิ้น วันรับรถคืนจ่ายค่าเสียหายเสร็จเสียงอ๊อดแอ๊ดเงียบหายไปแต่เสียงแก๊กยังอยู่………แม่มมมมเกิดอะไรขึ้นกับรถตรูฟะ?  เสียงแก๊กยังอยู่แต่ดันมีรายการรื้อช่วงล่างด้านหลังไปซะแล้วด้วยนี่ตรูหนีเสือปะจรเข้ใช่ไหม? บัดซบจริงๆเลยอ่ะ!!!      ด้วยความกังวลว่าจะเกิดอันตรายระหว่างที่ใช้งานอีกสามวันต่อมาผมเอารถกลับไปอู่อีกครั้งคราวนี้กำชับอย่างหนักแน่นว่าแก้ไขเสียงแก๊กให้ได้นะช่าง ก่อนหน้านี้มันไม่มีเลยนะเฟ้ยยย!!! เวลาล่วงเลยไปสามวัน…..ฮัลโหลๆเจอสาเหตุของเสียงแก๊กไหมครับช่าง? ไม่เจอเหรอครับ? ฮึ่มมมไม่เป็นไร ยังไงฝากรถด้วยนะคร้าบบบ……   ผ่านไปห้าวันช่างบอกว่าจัดการทาจารบีที่ชิ้นส่วนเบรคกับเจียรจานเบรคหลังให้แล้วครับเสียงน่าจะหายไปแล้ว รับรถมาเสียงก็ยังดังแก๊กอีก!!! ผมทิ้งรถไปกับอู่นี้เป็นครั้งสุดท้ายให้แก้ปัญหาให้ได้ถ้าเสียงมาจากเบรคก็ต้องจบที่เบรคสิฟะ!!! ผ่านไปอีกสองวัน….ผมไปรับรถคืนตอนค่ำหัวหน้าช่างไม่อยู่รับรถคืนกับลูกน้องแต่เจอปัญหาหนักกว่าเก่าที่แค่ถอยหลังตรงๆช้าๆก็มีเสียงก๊องๆปั่กๆครืดดดด…….นี่แค่ถอดประกอบเบรคคุณเอ็งทำให้เลวร้ายยิ่งกว่าเดิมได้ขนาดนี้เชียวเหรอวะ!!!!            ฟางเส้นสุดท้ายของผมขาดกับอู่นี้ เป็นครั้งสุดท้ายและท้ายจริงๆ ผมทิ้งรถอีกหนึ่งวันให้หัวหน้าช่างจัดการถอดเบรคแล้วใส่มันให้เหมือนเดิมก่อนหน้าที่เค้าจะให้ลูกน้องมาทำแทน  ทีนี้เสียงดังๆเวลาถอยหายไปแล้วเหลือแต่เพียงเสียงแก๊กๆเวลาเบรค 

[2k]

หลังจากที่ผมค้นคว้าข้อมูลด้วยตัวเองถึงสาเหตุของเสียงแก๊กนี้ก็พบว่าเสียงแก๊กนี่เนี่ยมันมาจากการที่ขนาดของผ้าเบรคใหม่มันไม่พอดีกับของเดิมเท่านั้นเอง!!!    เวลาประกอบกลับเข้าไปในระบบเบรคแล้วมันจะเหลือที่ว่างนิดนึงทำให้เวลาเราเหยียบเบรคที่ความเร็วต่ำแล้วจะเกิดเสียงขึ้นมา ในเรื่องของการใช้งานนั้นไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อ้างอิงจากการโทรไปสอบถามอู่แปลงเบรครับทำเบรคสามแห่งช่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าถ้าเกิดจากการที่ขนาดผ้าเบรคไม่พอดีกับของเก่าไม่เกิดปัญหาในการใช้งานแน่นอนยกเว้นว่าจะรำคาญเวลาเบรคความเร็วต่ำเท่านั้น   


เรื่องเบรคแล้วมีเสียงแก๊กๆนั้นพบเจอได้มากในหมู่คนที่เปลี่ยนไปใช้ผ้าเบรคนอก ศูนย์ที่อยากให้การเบรคมีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม ถ้าหากว่าคุณไม่อยากให้มีเสียงแก๊กๆขึ้นมาเวลาถอดผ้าเบรคของเก่าออกไปแล้วอย่าลืมที่จะเอา”แผ่นชิม” (Shim Pad) หรือที่ช่างเรียกกันว่า”แผ่นกันเสียง”ในผ้าเบรคอันเก่าจากศูนย์มาประกบเข้ากับผ้าเบรคยี่ห้อต่างๆของใหม่ด้วย    อนึ่ง!!!เรื่องของแผ่นชิมจะมีไม่หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่ายี่ห้อที่คุณเลือกมาจะใส่มาให้รึเปล่า  ในกรณีที่ไม่มีหรือลืมเก้บของเก่ามาด้วยก็สามารถใช้วิธีเอาแผ่นเหล็กหรือแผ่นอลูมิเนียมอะไรสักอย่างมาตัดให้พอดีกับขนาดผ้าเบรคแล้วประกบแนบเวลาประกอบใส่กับรถ แผ่นชิมหน้าตาเป็นยังไงอยู่ตรงไหนดูตามรูปด้านล่างนี้ครับ    การเปลี่ยนผ้าเบรคในแต่ละครั้งนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องเจียรจานเบรค การจะเจียรจานเบรคจะทำยามที่จานเบรคเกิดการคดเวลาจานเบรคร้อนจัดๆแล้วลุยน้ำทันที หรือในกรณีที่หน้าสัมผัสของจานเบรคกับผ้าเบรคไม่เข้ากันมากๆอันนั้นถึงจะเหมาะสมที่จะเจียรจาน ตรวจสอบว่าจานเบรคกับผ้าเบรคใหม่ต้องเจียนจานไหมตรวจสอบง่ายๆด้วยการแล่นรถตั้งพวงมาลัยตรงแล้วเบรค ถ้าจังหวะที่เบรคแล้วพวงมาลัยสั่นสะท้านนั่นแหละครับควรจะเจียรจาน    ในกรณีที่เบรคแล้วไม่สั่นสะท้านแต่กังวลเรื่องหน้าจานกับผ้าเบรคแนบไม่สนิทคุณไม่ต้องกลัวเลย ใช้งานไปสักพักชิ้นส่วนทั้งสองจะเสียดสีจนแนบกันสนิทในท้ายที่สุดแน่นอน  จบภาคเสียงแก๊กจากเบรค…..ขึ้นภาคเสียงอ๊อดแอ๊ดจากช่วงล่างต่อ!!!   

[2k]

จำได้ใช่ไหมที่ผมเอ่ยไว้ว่ามีการอัดบู๊ชยางทุกชิ้นของช่วงล่างด้านหลังทั้งหมดใหม่ไปแล้ว? เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดหรือสวรรค์กลั่นแกล้งอะไรสักอย่าง ทันทีที่ประเด็นเรื่องเสียงแก๊กจากเบรคหายคาใจแล้วเสียงอ๊อดแอ๊ดกลับมาอีกครั้งครับ…….จากที่มันเงียบหายไปเกือบสองอาทิตย์มันค่อยๆดังขึ้นจนกลับมามีสภาพเดิมก่อนอัดบู๊ชเลย!!! ที่ตรูเสียเงินค่าอัดไปเป็นหมื่นนี่คือเสียเปล่าชิมิ?? ผมได้ทำการค้นคว้าบนเว็บบอร์ดรถต่างๆรวมถึงสรรหาอู่ที่น่าจะสามารถวิเคราะห์แก้ไขปัญหาได้ตรงจุดที่สุด ทั้งหมดทั้งมวลแล้วลงท้ายที่อู่มาสด้าแห่งหนึ่งย่านพระราม9 จากการที่คุยกับช่างที่นี่เค้าสันนิฐานว่าเสียงอ๊อดแอ๊ดน่าจะเกิดจากการที่เค้าอัดบู๊ชนั่นแหละ อ้าว? อัดบูชแล้วทำไมยังมีเสียงอีก?     คำตอบที่ได้รับมาคือชิ้นส่วนของช่วงล่างที่ผลิตมาจากโรงงานนั้นจะมีกรรมวิธีการผลิตที่ทำให้บู๊ชยางกับชิ้นส่วนช่วงล่างแต่ละชิ้นแนบสนิทเป็นชิ้นเดียวกัน การที่เราเอาชิ้นส่วนช่วงล่างที่บู๊ชยางเสื่อมสภาพไปแล้วมาถอดบู๊ชยางออกแล้วอัดเข้าไปใหม่ก็เหมือนกับการดัดแปลงชิ้นส่วน ที่นี้เราต้องมาดูแล้วว่าบู๊ชยางที่จะเอามาอัดใส่ใหม่นั้นมีคุณภาพแค่ไหน? ต่างแหล่งผลิตต่างคุณภาพความทนทานของบู๊ชยางก็ไม่เหมือนกัน และแม้คุณจะได้บู๊ชยางที่ดีเท่าๆกันแต่ช่างที่ทำการอัดบู๊ชเข้าไปทำงานไม่ดีก็จะมีปัญหาเช่นกันในรูปแบบที่บู๊ชเคลื่อนบู๊ชปลิ้นหลุดจากตำแหน่ง  แม้นในกรณีที่บู๊ชคุณภาพดีช่างอัดได้ถูกต้องแต่ความคงทนก็จะไม่เท่ากับของเดิมที่มาจากโรงงานเลย    ถ้าจะเปลี่ยนอะไหล่จบงานจริงๆเบิกชิ้นส่วนใหม่ไปเลย หรือซื้อบู๊ชยูรีเทนของแต่งคุณภาพมาให้ช่างฝีมือดีอัดให้ก็จะได้บู๊ชที่คงทนกว่าของเดิมจากโรงงานใช้งานกันยาวนานแต่ต้องรับให้ได้กับความแข็งกระด้างของช่างล่างที่จะเพิ่มมากขึ้นและที่สำคัญบู๊ชยูรีเทนก็สามารถมีเสียงอ๊อดแอ๊ดทั้งที่ยังไม่สึกได้เช่นกัน…..ไม่รู้จะดีใจดีไหมที่ผมไม่ใช่รายแรกของประเทศที่เจอปัญหาอัดบูชแล้วไม่จบเพราะปัญหานี้เจอกันได้ถ้วนหน้าทุกยี่ห้อ แก้งานจนทะเลาะกับช่างมาก็มี

[2k]

ช่างที่นี่บอกว่ากรณีของผมน่าจะมาจากส่วนของ”ปีกนกชิ้นล่างด้านหลัง” (Rear lower control arm) part number MEMS40153 ที่มันเกิดอาการบู๊ชหลุดจากตำแหน่ง  ทีนี้ช่างก็จัดแจงยกขึ้นฮ๊อยแล้วเอาไขควงธรรมดาๆงัดให้ดู ซึ่งชิ้นส่วนช่วงล่างมันต้องรองรับน้ำหนักรถทั้งคันเป็นตันแต่ชิ้นส่วนของรถผมในตอนนั้นออกแรงงัดนิดเดียวมันก็เคลื่อนไปมาแล้ว          เค้าแนะนำว่ากลับไปให้อู่ที่ผมอัดบู๊ชมาจัดการแก้งานให้ใหม่ดีกว่า……แต่ไม่มีทาง!!! เจ็บไปเจ็บมาซ้ำๆครั้งนี้ศรีจะไม่ทน!!!  แค่ใส่ผ้าเบรคยังสร้างปัญหาเพิ่มผมไม่ให้มายุ่งกับอะไรที่ยุ่งยากในการถอดใส่อย่างช่วงล่างอีก    ผมจัดการสั่งชิ้นส่วนจุดนี้มาจากศูนย์ฟอร์ดศรีณครินทร์มาในราคาชิ้นละสามพันบาท ใช้เวลารออะไหล่ส่วนนี้สองวันจากโกดัง แต่ด้วยความที่ผมสั่งไปวันศุกร์ก็ต้องรอไปติดตั้งวันจันทร์แทน   


ก่อนหน้าที่ผมจะทำการสั่งนั้นเองก็มีเสียงจากช่วงล่างดังขึ้นมาอีกเสียงหนึ่งจะเป็นเสียงดัง”แก๊ก”เช่นกันแต่จะดังกว่าเสียงแก๊กจากผ้าเบรคและจะดังจังหวะที่มีการเลี้ยวรถในบางครั้ง    สาเหตุทั้งหมดทั้งมวลเกิดมาจากการที่บู๊ชยางของลูกหมากข้างซ้ายด้านหน้ามันฉีกขาดไปแล้วซึ่งเจ้าลูกหมากนี้เป็นลูกหมากที่มาพร้อมกับชุดสตรัทซิลเวอร์ ช่างที่ศูนย์ฟอร์ดไม่แน่ใจว่าของเดิมกับของที่มากับสตรัทนั้นขนาดพอดีกันไหมเลยแนะนำให้ผมไปเปลี่ยนใช้กับของที่มากับสตรัทเลยจะดีกว่า  ผมก็เลยต้องมาสู่S9ณเกษตรนวมินทร์ในวันเสาร์ก่อนใส่ปีกนกใหม่ อ่ะไหนๆก็มาที่นี่แล้วผมก็ให้เค้าเปลี่ยนสปริงกับน๊อตยึดที่เริ่มมีสนิมขึ้นมาแล้ว ซึ่งผมจบปัญหาอ๊อดแอ๊ดที่นี่เอง    ในระหว่างที่ดูช่างถอดชิ่นส่วนที่เกี่ยวกับสปริงผมก็บ่นๆปัญหานี้ให้ช่างเค้าฟังไปว่าเจอมายังงี้ๆๆนะ ช่างก็ว่างั้นผมขอลองทาจารบีหน่อยเผื่อมันจะหล่อลื่นปรื๊ดๆช่วยได้ ว่าแล้วเอาจารบีสีน้ำตาลในกระปุกมาป้ายบน”ยางหุ้มหัวสปริง” ซึ่งยางนี่ก็อยู่ที่หัวของสปริงนั่นแหละ ทาเสร็จสรรพทั้งนอกทั้งในทาถูทาถูประหนึ่งยาหม่องตราถ้วยทอง    ประกอบเสร็จป๊าบทดลองขับบรื๊นนนน…………….เสียงทุกอย่างเงียบกริบเหมือนย้อนเวลากลับไปเมื่อสามเดือนที่แล้วก่อนเปลี่ยนพัดลมระบายความร้อน……บัดซบไหมล่ะครับ?    สรุปแล้วตัวการของเสียงอ๊อดแอ๊ดนั้นมาจากที่ยางหุ้มหัวสปริงที่มันเสียงสีกับชิ้นส่วนช่วงล่างส่วนอื่นเท่านั้นเอง นึกแล้วก็ชวนสยองไม่น้อยว่าอู่ศรีณครินทร์นั้นทำงานได้เลวร้ายแค่ไหน ให้เปลี่ยนแค่ผ้าเบรคพวกเล่นทำให้ยางหุ้มหัวสปริงมันเปลี่ยนไปจนมีเสียงอ๊อดแอ๊ดขึ้นมาได้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตอนที่ลูกน้องประกอบเบรคแก้งานครั้งที่สองแล้วมีเสียงปึงปังดังขึ้นมาเพิ่มแย่ไปกว่าเดิมเสียอีก สรุปแล้วบู๊ชยางช่วงล่างด้านหลังยังก็ไม่ได้เสื่อมอะไรเลยแล้วก็ไปอัดบู๊ชใหม่เพิ่มปัญหาให้แย่ไปกว่าเก่าเสียอีก เรียกว่าโดนฟันคอขาดกลิ้งหลุนๆๆๆทำ strike โบลิ่งกันเลยทีเดียว           

[2k]

จากที่ผมรวบรวมข้อมูลจากหลายๆเว็บบอร์ดรวมถึงการส่งข้อความไปถามคุณผู้การและคุณpopdemonic          ผมจะแจกแจงเป็นลักษณะของเสียงและสาเหตุของเสียงเป็นข้อๆตามด้านล่างนี้ครับ แต่ละเสียงต้องการสมาธิและความสามารถในการวิเคราะห์แยกแยะโทนเสียงค่อนข้างเยอะเหมือนกัน 


เสียงอี๊ดๆอ๊าดๆ ที่เกิดตามจังหวะรอบเครื่องยนต์ที่เพิ่มและลดลงส่วนใหญ่มาจากสายพานและพัดลมระบายความร้อนตามที่ผมเกริ่นยาวยิดไปในช่วงต้น   


เสียงกุกๆ กักๆ เสียงโทนทุ้มที่เกิดเวลาที่ช่วงล่างขยับตัวหรือขึ้นลงเนินชลอความเร็วรวมถึงเวลาตกหลุมทั้งหลายทั้งแหล่ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังส่วนใหญ่จะมาจากการที่โช๊คอัพเสื่อมสภาพไปแล้วจนซีลยางข้างในขาดมีน้ำมันในกระบอกโช๊ครั่วซึมออกมา ตรวจสอบง่ายๆแค่ก้มลงไปดูถ้าหากว่าคราบสกปรกที่เกาะตามกระบอกโช๊คมีรอยเปียกก็ชัดเจนแล้วครับว่าโช๊คท่านรั่ว เปลี่ยนใหม่เถิดอย่าซ่อมถ้าไม่ใช่ของแต่งที่ออกแบบมาให้ซ่อมได้หรือมีช่างซ่อมชัดเจนในประเทศไทย แล้วจะสบายใจไปอีกนาน เสียงกุกๆกักๆในกรณีที่เอารถไปใส่โช๊คสตรัทใหม่กิ๊งก็สามารถพบเจอได้เช่นกัน สาเหตุเกิดมาจากการที่ช่างใส่โช๊คไม่ตรงตำแหน่งต้องให้ช่างทำการใส่ให้ใหม่อีกรอบ บางครั้งท่านอาจจะเจอในรูปแบบของเสียงกุ๊กๆเช่นกัน เป็นที่มาของสำนวนช่างว่า “เอาไก่ออก” เสียงกุกๆกักๆกุ๊กๆในโช๊คสตรัทก็บ่งบอกถึงอาการโช๊ครั่วได้เช่นกันไม่ต่างจากโช๊คทั่วๆไป อย่าแปลกใจถ้าหากสตรัทของท่านมีเสียงก๊อกๆแก๊กๆหลังจากใช้งานไปสัก3-4ปีแล้วแต่พอตรวจสอบทั้งหมดพบว่าไม่มีอะไรเสื่อมสภาพเลย  เพราะว่าสตรัทเป็นอุปกรณ์ที่มีจุดขยับได้เยอะมากดังนั้นจึงมีโอกาสที่มันจะเกิดเสียงทั้งๆที่ไม่เสียได้เช่นกัน ป็นเหมือนกันหมดทุกยี่ห้อจ้า แต่งรถก็ต้องทำใจ……อนึ่ง!!!การก้มลงไปดูคราบน้ำมันรั่วในกรณีที่เจ้าของรถโหลดเตี้ยต่ำจนอมล้ออาจจะทำไม่ได้ ในกรณีนี้หาอู่แถวบ้านให้เค้ายกขึ้นฮ๊อยดูจะดีกว่า อย่าคิดใช้อุปกรณ์เปลี่ยนยางที่แถมมาให้ยกขึ้นแล้วลอดลงไปดูเองเป็นอันขาด!!! โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาอยู่คนเดียว อุบัติเหตุมันคลายตัวเองเกิดได้ทุกเมื่อครับอย่าเสี่ยง จากที่คุยกับคุณป๊อบมาผมก็ได้ข้อมูลเพิ่มมาว่าในกรณีที่เราเอาสตรัทไปใส่ตัวเสริมที่เป็นหัวแบบ ball joint เราก็อาจจะเกิดเสียงได้เช่นกันในระยะเวลาอันสั้นเพราะบอลจ๊อยท์เป็นชิ้นส่วนที่มีการขยับเวลาที่ช่วงล่างทำงาน  ในบางกรณีเสียงกุกกักอาจมาจากการที่สป็อตตัวถังเกิดการฉีกขาดขึ้นจากการใส่สตรัทแล้วปรับแข็งมากๆแล้วรถกระแทกกระทั้นอย่างแรงจนส่งผลต่อตัวถัง พลพรรครักสตรัทต้องระวังในเรื่องนี้ให้ดี

[2k]

เสียงก๊อกๆแก๊กๆ เสียงลักษณะของอะไรสักอย่างที่เป็นของแข็งกระทบกันยามช่วงล่างทำงาน แต่จะไม่ทุ้มเท่าเสียงที่เกิดจากโช๊ค ส่วนใหญ่เสียงพวกนี้จะเกิดมาจากชิ้นส่วนช่วงล่างต่างๆยามที่มันเสื่อมสภาพไปแล้วตามอายุการใช้งานและสภาพความหฤโหดของเจ้าของรถ เสียงนี้เป็นเสียงที่น่ากลัวกว่ากุกๆกักๆเยอะครับเพราะว่าสาเหตุของเสียงนี้มันมาได้จากหลายส่วนมากๆๆ ความปวดเศียรของปัญหาช่วงล่างแก้ไม่จบเริ่มจากตรงนี้แหละ การตรวจสอบเบื้องต้นเจ้าของรถลองก้มลงไปดู เบาะๆอาจจะเกิดจากแค่ลูกหมากเหล็กกันโคลงมันสึกแค่นั้นเอง นอกเหนือจากนั้นมีสาเหตุมากมายเป็นสิบๆอย่างที่เกิดได้เช่นน็อตยึดชิ้นส่วนบางอย่างหลวม,เบ้ารับโช๊คน็อตคลาย,เบ้ารับโช๊คลูกปืนแตก, เหล็กบริเวณเบ้ารับโช๊คผุ, ปีกนกคดงอปีกนกผุม บูชช่วงล่างฉีกขาดจนแหล็กระทบกันโดยตรง, สารพัดสาเหตุที่ก่อให้เกิดเสียงขึ้นมาได้ แต่ก็ใช่ว่าจะหาสาเหตุไม่ได้เลยต้องพึ่งช่างเท่านั้น ลองใช้วิธีค่อยๆนึกย้อนกลับไปว่าก่อหน้าที่จะมีเสียงขึ้นมารถไปเจออะไรมาบ้าง ตกหลุม กระโดดคอสะพานหรือรูดทางขรุขระมา แล้วค่อยๆไล่ตั้งใจฟังเสียงว่าเสียงต้นเหตุมาจากไหน? หน้าหรือหลังซ้ายหรือขวาและจังหวะไหนที่จะเกิดเสียง บางครั้งต้นเหตุของเสียงอาจจะมาจากจุดที่เราคาดไม่ถึงเช่นเหล็กยึดยางอะไหล่หลวมมันเลยกลิ้งไปกลิ้งมาก็มีหรือแปลกๆประเภทที่เอาจารบีไปทาที่ตัวเกี่ยวเบาะหลังในรถที่พับเบาะหลังได้แล้วหายก็มี

[2k]

เสียงอี๊ดๆอิ๊สๆ เสียงแหลมของเหล็กที่เสียดสีกันยามช่วงล่างทำงาน ส่วนใหญ่จะมาจากการที่ชิ้นส่วนช่วงล่างมันเสื่อมสภาพในระดับที่แย่มากแล้วเช่นบูชยางสึกร่อนออกหมดจนเหล็กสีกัน กรณีนี้ไม่ค่อยมีปัญหาเพราะแม้เราหาสาเหตุเองไม่เจอแต่ถ้าเอาไปให้ช่างดูแล้วมักจะเห็นสาเหตุได้โดยไวเพราะชิ้นส่วนมันจะแสดงอาการให้เห็นจนแจ่มแจ้งแดงแจ๋แล้ว ถ้าไม่ดวงตกแบบที่ผมเจอจริงๆ…..อืม….คงไม่มีปัญหาเทียวไปเทียวมาเท่าไหร่ ผมไปเจอวีดีโอวิธีการตรวจสอบเสียงอี๊ดๆอิ๊สๆด้วยตัวเองมาในยูทูปอันนึงตามลิงค์นี้     เป็นการค้นหาเสียงต้นตอของปัญหาที่พอจะทำได้ด้วยตัวเองได้ ฝรั่งจะเรียกเสียงนี้ว่า “suspension squeak” จากการที่ได้คุยฟุดฟิดฟอไฟกับคุณผู้การกับคุณป๊อบแล้ว ทั้งสองคนแนะนำวิธีตรวจสอบด้วยตนเองวิธีง่ายๆคือให้คนนึงขับแล้วอีกคนนึงฟังครับ จะลองนั่งเบาะหน้า เบาะหลัง หรือไปนอนในกระโปรงหลังฟังต้นตอของเสียงก็ได้ แต่ในกรณีที่เป็นรถซีดานพับเบาะไม่ได้อย่าไปนอนฟังนะครับเดี๋ยวขาดอากาศตายเอา!!! จุดไหนที่ได้ยินเสียงอี๊ดๆอิ๊สๆก็ลองเอาจารบีแบบสเปรย์ไปพ่นดูแล้วลองฟังอีกครั้ง ถ้าพ่นแล้วเสียงเงียบนั่นแหละสาเหตุมาจากตรงนั้นล่ะ

[2k]

เสียงออดแอดอืดอาด เสียงที่ทึบๆเป็นเสียงของการเสียดสีระหว่างที่รถขึ้นลงเนิน ช่วงล่างมีการขยับตัว หรือตัวถังรถบิดตัว เสียงนี้จะทึบไม่ใสต่างจากเสียงของชิ้นส่วนเหล็กที่มากระทบหรือเสียดสีกันเป็นเสียงของชิ้นส่วนที่เป็นยางมันเสียดสีกัน อันนี้ล่ะครับคือเสียงของบูชยางที่มันเสื่อมสภาพไปตามอายุไข งานนี้ต้องวิเคราะห์ว่าชิ้นไหนของบู๊ชของช่วงล่างที่เป็นสาเหตุของเสียงนี้ หากว่าเลือกใช้วิธีอัดบู๊ชแทนที่จะเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ทั้งชิ้นช่างอาจจะแนะนำให้ทำการอัดบู๊ชใหม่ให้หมดเลยทุกจุดจะได้คุ้มเวลาช่างถอดประกอบชิ้นส่วนช่วงล่างด้านนั้นๆ ที่ผมโดนของช่วงล่างด้านหลังทั้งหมดไปก็รวมแล้ว24จุดได้ ซึ่งก็ต้องเลือกอู่เลือกช่างให้ดีไม่ใช่ว่าที่ไหนก็ทำได้ครับ แค่ขันน็อตจุดนึงไม่แน่นพอแล้วคลายตัวขึ้นมาก็ไล่หาสาเหตุกันยาวละ เสียงออดแอดนี้สามารถหาฟังได้จากการนั่งแท็กซี่ที่ช่วงล่างเก่าๆครับ ขึ้นลงเนินทีเสียงดังฟังชัดกันเลย เสียงออดแอดก็สามารถดังได้จากยางขอบประตูที่เสื่อมสภาพเช่นกันเวลาที่ตัวถังรถบิดตัว ในกรณีที่ยางขอบประตูใหม่ๆแต่ดันดังออดแอดกับเค้าก็มีในฟอร์ดโฟกัสดีเซลนั่นไง!!!ออดแอดน่ารำคาญสาเหตุเพราะการประกอบยางขอบที่ไม่ได้มาตรฐานจากโรงงานที่อินโดนีเซีย เสียงนี้สามารถกำจัดได้ด้วยสเปรย์หล่อลื่น Pando พ่นปุ๊บเสียงเงียบสนิทเสียดสีกันยังไงก็ลื่นปรื๊ดลื่นปรื๊ด

[2k]

เสียงแก๊งๆก๊องๆกึงๆ เสียงแหลมที่เป็นเสียงของเหล็กกระทบกันยามเลี้ยวรถหรือช่วงล่างทำงาน ที่ผมอ่านเจอมาคือระบบท่อไอเสียเก่าจนเริ่มผุแล้วจุดยึดหลุด เวลารถแล่นมันก็จะสั่นตีกับตัวรถนั่นแหละดังแก๊งๆหรืออาจจะดังปุกๆถ้าจุดที่กระทบกันเป็นส่วนหนาทึบ อันนี้ผมก็เคยได้ยินด้วยตัวเองเวลานั่งบนแท็กซี่เช่นเดียวกัน

เสียงหวึ่งๆวุ๊งๆ เสียงนี้ผมไม่เคยได้ยินด้วยตัวเอง ดูเหมือนว่าจะเป็นเสียงของการหมุนอะไรสักอย่างที่มันไม่ได้ศูนย์แกว่งไปมา บางคนจะเรียกว่า “เสียงเหมือนเฮลิคอปเตอร์” เสียงนี้จะดังเวลาล้อรถหมุนอาจจะดังแปรผันตามการหมุนของวงล้อหรืออาจจะดังเพียงบางช่วงเวลาเท่านั้น ส่วนใหญ่สาเหตุมาจากการที่ลูกปืนล้อสึก  ลูกปืนล้อจะสึกได้อย่างไร? หนึ่งในสาเหตุยอดนิยมของลูกปืนล้อสึกคือการขึ้นลงเนินชลอความเร็วแรงๆครับ อาการนี้ไม่เกิดขึ้นในครั้งเดียวหรอกเพราะอะไหล่มันเป็นเหล็กทนทานแต่มันจะสะสมความเสียหายขึ้นเรื่อยๆจนออกอาการ

[2k]

เท่าที่ผมนึกออกและจำได้ถึงเสียงของอาการผิดปกติของช่วงล่างก็มีเท่านี้ล่ะครับ  ไม่ครอบคลุมทั้งหมดหรอกแต่น่าจะช่วยเหลือเป็นแนวทางได้บ้าง ต้องขอเตือนเพิ่มอีกอย่างว่าเวลาหล่อลื่นแก้ปัญหาชั่วคราวพยายามเลี่ยงการใช้โซแน็กจะดีกว่าเพราะโซแน็กมีฤทธ์กัดกร่อนชิ้นส่วนที่เป็นยาง อาจจะทำให้ปัญหาที่มีอยู่แย่ไปกว่าเก่าได้ และโซแน็กจะมีฤทธ์ชะล้างจารบีออก    ยกตัวอย่างจักรยานที่เอาโซแน็กไปพ่นโซ่ มันหล่อลื่นจริงแต่ไม่นานสนิมก็จะชึ้นโซ่เพราะจารบีที่เหลือไว้โดนชะหายไปหมด สายพานรถยนต์ก็ไม่ควรเอาจารบีไปพ่นครับอาจะกัดกร่อนทำให้สายพานเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรเช่นกัน  ลิงค์ของเสียงผิดปกติต่างๆจากช่วงล่างที่ผมรวบรวมไว้มีตามด้านล่างนี้เลย   

http://board.eg3d-club.com/index.php?topic=110722.0


http://www.cefiro-ff-club.com/forum/index.php?topic=6816.0


http://www.thaimazda3.com/forum/index.php?showtopic=46832


http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php?topic=863.0


http://www.hondacrvclub.com/2008/viewtopic.php?f=1&t=8669


http://www.thaimazda3.com/forum/index.php?showtopic=70787&st=0


http://www.focusfanatics.com/forum/showthread.php?t=273079#/forumsite/20515



http://aacandtrw.wordpress.com/2013/11/08/ช่วงล่างเสียงดัง-ระวัง-2/



http://www.vlovepeugeot.com/webboard/07467.html



http://www.fordfocusclub.com/forum/index.php/topic,21129.0.html

[z4kas]

โอ้ว ความรู้เพียบ
เก็บไว้ก่อน อ่านไม่หมด = ="

ขอบคุณมากครับ

[Pat.Lee]

อ่านจบแล้วได้ความรู้เพียบจะไปลองกับรถที่บ้านบ้างครับ ขอบคุณครับ

ปล. ชอบตรง ทาถูทาถู เหมือนยาหม่องตราถ้วยทอง ครับ

[Jub]

อิ่มเรย ขอบคุณครับ

[promt]

เอิ่ม..ครับ

เวลาเข้าศูนย์หรืออู่ที่ช่างฝีมือไม่ถึง หัวหน้าไม่ดูแล ให้เด็กใหม่ฝึกงาน แก้ปัญหาเอง

ผมหมดคำพูดครับ

หลายๆ ศูนย์ของค่ายรองๆ กำลังจะเป็นศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องครับ

[time traveler]

กระทู้สุดติ่ง ครับ ขอบคุณครับ