ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 และรวมผลเทสค่ายอื่นๆ

U9WS

Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar

บรรยากาศที่ TestCar ศรีนครินทร์ 

ประเดิมขึ้นคันแรกของวันเลย


น้องกัส TDCi เครื่องเดิม กรองเดิม เปิดจมูกรับลม


ลูกกลิ้ง Dyno Test ที่ได้ชื่อว่าหินที่สุดในประเทศ




------------------------------------------------------

ไมล์ : 13,000km.

-รถเดิม เครื่องเดิม ไม่จูน ไม่พวงกล่อง ไม่รีแมพ
-ระบบกรองเดิม ไอเสียเดิม

+น้ำมันเครื่อง : ELF Excellium Pro 0W-30
+เชื้อเพลิง : Shell V-Power Diesel + Additive
+Stabilizer : Hot inazma ECO

เทสโดยใช้โหมดเกียร์ธรรมดา
เทสแรงม้าสูงสุดที่เกียร์ 4 (ที่มีอัตราทด 0.943)
 
ผลไดโนเทส




Corrected Power 143.5 แรงม้า
แรงม้าสุทธิจาก Flywheel โดยใช้ค่าอุณหภูมิมาร่วมคำนวน

Engine Power 141.8 แรงม้า
แรงม้าจาก Flywheel โดยไม่ได้ใช้ค่าอุณหภูมิมาร่วมคำนวน

Wheel Power 110.2 แรงม้า
แรงม้าที่ลงล้อจริง

Drag Power 31.6 แรงม้า
แรงม้าที่สูญเสียระหว่างจากเครื่องยนต์ลงล้อ

Max Power at แรงม้าสูงสุดมาที่ 3370 รอบ/นาที ( 135.3 กม./ชม.)


Torque 337.3 นิวตั้นเมตร
แรงบิด

Max Torque at แรงบิดสูงสุดมาที่ 2385 รอบ/นาที ( 85.5 กม./ชม.)


Max attained RPM รอบสูงสุดที่ใช้ในการทดสอบ ที่ 4105 รอบ/นาที ( 146.5 กม./ชม.)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 18, 2010, 22:36:29 โดย U9WS »



U9WS

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 00:35:13 »
Special

*สเปกโรงงาน
136 แรงม้า @ 4000 รอบ/นาที
แรงบิด 320 นิวตั้นเมตร @ 2000 รอบ/นาที

*เทสได้
143.5 แรงม้า @ 3770 รอบ/นาที
แรงบิด 337.3 นิวตั้นเมตร @ 2385 รอบ/นาที

ผลที่ได้ = มากกว่าสเปกโรงงานทั้งแรงม้า และแรงบิด
แรงม้า + 7.5 แรงม้า
แรงบิด + 12.7 นิวตั้นเมตร


แรงบิด

100 นิวตั้นเมตร ที่ 1300 รอบ/นาที
200 นิวตั้นเมตร ที่ 1900 รอบ/นาที
300 นิวตั้นเมตร ที่ 2150 รอบ/นาที

+ภายในเกียร์ 1 ก็สามารถเรียกแรงบิดออกมาใช้ได้ถึง 330 นิวตั้นเมตร ที่ 2200 รอบ/นาที

+และแรงบิดสูงสุด 337.3นิวตั้นเมตร ก็สามารถเรียกมาได้ตั้งแต่เกียร์ 2 ที่ 2385 รอบ/นาที


-กราฟแรงบิดช่วงที่ลดจนตัดกับกราฟแรงม้าที่ประมาณ 3500 รอบ/นาที ยังมีแรงบิดถึง 280กว่านิวตั้นเมตร

-และในช่วงกำลังตกที่เกิน 4000 รอบ/นาที ก็ยังคงมีแรงบิดให้ใช้ถึงประมาณ 240 นิวตั้นเมตร



ระบบเกียร์แบบ PowerShift มี Drag Power (แรงม้าที่สูญเสียระหว่างเครื่องยนต์ลงล้อ) น้อยกว่าเกียร์ Auto ทั่วไป
แต่ยังคงมากกว่าระบบเกียร์แบบ CVT และ ระบเกียร์ธรรมดา



*ระหว่างอัดขึ้นไดโนเทส ก็ไม่มีควันดำๆเป็นลูกๆออกมาเลยครับ มีเพียงควันเล็กน้อยเพื่อให้รู้ว่าเป็นดีเซลเท่านั้นเอง


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 18, 2010, 01:45:01 โดย U9WS »



GAG

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 01:03:01 »
แรงมากครับ รถก็สวย ประหยัดน้ำมันอีกต่างหาก สุดยอดจริงๆครับ



Tonaka

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 01:16:11 »
Torque สูงมาาาาาาก
阿蘇山



best

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 01:46:19 »
อยากได้ๆๆ น่าขับมากๆเลย ชอบจริงๆรถแรงบิดสูงๆ
There is nothing either good or bad but thinking makes it so



U9WS

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 02:00:39 »
ถ้ายังไม่พอใจกับสเปกแตนๆ

มี TDCi MT ไปจูนกล่อง Peak Power

ขึ้นไดโนเทสที่เดียวกัน

Corrected Power ออกมา 170-180 แรงม้า
Wheel Power 130-140 แรงม้า
Torque 400 กว่านิวตั้นเมตร


ผลออกมาไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วยการแลกกับเงิน 2หมื่นกว่าบาท

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 18, 2010, 02:06:39 โดย U9WS »



Chris Evn

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 03:30:00 »
ถ้ายังไม่พอใจกับสเปกแตนๆ

มี TDCi MT ไปจูนกล่อง Peak Power

ขึ้นไดโนเทสที่เดียวกัน

Corrected Power ออกมา 170-180 แรงม้า
Wheel Power 130-140 แรงม้า
Torque 400 กว่านิวตั้นเมตร


ผลออกมาไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วยการแลกกับเงิน 2หมื่นกว่าบาท

จากแรงบิดที่เพิ่มมามาก
มันจะมีปัญหากับระบบส่งกำลังตามมาไหมครับ เช่นเกียร์ เพืองท้าย และอื่นๆ



U9WS

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 03:53:56 »

จากแรงบิดที่เพิ่มมามาก
มันจะมีปัญหากับระบบส่งกำลังตามมาไหมครับ เช่นเกียร์ เพืองท้าย และอื่นๆ

ไม่ทราบถึงเอฟเฟคอื่นๆมากนัก


แต่จากข้อมูลเกียร์ PowerShift (6DCT450) รับแรงบิดได้สูงสุด 450นิวตั้นเมตรครับ

และในเกียร์ธรรมดา น่าจะรับได้สูงกว่านี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 18, 2010, 17:46:23 โดย U9WS »



qooboy

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 04:01:09 »
จากความคิดผมถ้าเพิ่มไม่เยอะไม่น่ามีปัญหา
ไม่งั้นเกียร์พังแน่ๆ ในระดับ 400 กว่าๆสำหรับก็น่าหวาดเสียวอยู่เหมือนกัน
และการจูนกล่องเค้ารับประกันแค่ ECU ไม่ใช่เกียร์และอุปกรณ์อื่นๆ ต้องระวังครับ

ส่วนเรื่องแรงม้าแรงบิด ผมเฉยๆนะ เพราะแรงบิด 350 nm
รถดีเซล 2.0 ทั่วๆไปที่จำหน่ายในต่างประเทศที่ผ่านมา ก็ประมาณนี้ทั้งนั้นในอดีต
ตอนนี้ BMW BENZ AUDI VW ก็ก้าวข้ามตรงนี้ไปอีกขั้นนึงแล้ว



P_Wut

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 08:51:20 »
ถ้ายังไม่พอใจกับสเปกแตนๆ

มี TDCi MT ไปจูนกล่อง Peak Power

ขึ้นไดโนเทสที่เดียวกัน

Corrected Power ออกมา 170-180 แรงม้า
Wheel Power 130-140 แรงม้า
Torque 400 กว่านิวตั้นเมตร


ผลออกมาไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วยการแลกกับเงิน 2หมื่นกว่าบาท



ขนาดเกียร์ MT ยังมี Drag Power เสียไปร่วมๆ 40 แรงม้าเชียวเหรอ ?
ผมว่า มันไม่น่าเยอะขนาดนั้นนะ  รถขับล้อหน้าด้วย ไม่ใช่ขับล้อหลัง



Ruksadindan

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 08:58:30 »
แรง



sirisak_ac118

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 09:11:52 »
แรงม้าของจริง.....ไม่ใช้แรงโม้.....ว้าว!!!



JIRATH

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 09:48:18 »
โห... แรงขนาด
2008 Mazda CX-9 (SOLD)
2008 BMW X5 3.0si E70 (SOLD)
2010 Volkswagen CC R-Line (SOLD)
2014 Subaru BRZ Limited (SOLD)
2016 Subaru STi (SOLD)
2016 Honda Accord Sport
2016 BMW 328d F31 Xdrive
2015 Lexus CT200h F-Sport
2006 BMW 330i E90 6M/T



Valkilrey

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 09:55:44 »
"ระบบเกียร์แบบ PowerShift มี Drag Power (แรงม้าที่สูญเสียระหว่างเครื่องยนต์ลงล้อ) น้อยกว่าเกียร์ Auto ทั่วไป
แต่ยังคงมากกว่าระบบเกียร์แบบ CVT และ ระบเกียร์ธรรมดา"<-- ข้อมูลตรงนี้ยืนยันได้ 100% ไหมครับ มีท่านใดพอรู้ ช่วยขยายความลงลึกหน่อยสิครับ

เพราะถ้าตามนั้น เรียงตามลำดับการสูญเสียน้อยสุดไปหามาก หรือไล่จากดีสุดไปแย่สุด ก็คือ
1 MT
2 CVT
3 Dual clutch
4 AT



Sarutino

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 10:18:41 »
Additive ที่เติมมีผลมากไม๊ครับ ในด้านแรงม้าและแรงบิด
"Lose who you are to save what you love."



Lookkaew

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 10:50:41 »
น่าแปลกใจ  :o

CVT แม้จะช่วยลดการสูญเสียกำลังในระบบก็จริงอยู่ แต่ในเมื่อระบบตัด/ต่อกำลัง ยังใช้ torque converter อยู่ ก็น่าจะยังมีการเสียกำลังไปในระหว่างขับเคลื่อนเยอะอยู่ ต่อให้การสูญเสียกำลังในช่วงเปลี่ยนเกียร์เกิดขึ้นน้อยก็เถอะ

ระบบคลัทช์คู่ ยังคงมีระบบส่งกำลังคล้ายเกียร์ธรรมดา ถึงจะไม่เหมือนเกียร์ธรรมดาเป๊ะ แต่ในช่วงที่มีการรีดกำลังสูงสุด น่าจะสูญเสียกำลังในระบบน้อยกว่า CVT อยู่ดี เพราะยังใช้แผ่นคลัทช์จับกันอยู่

งงดีครับ กับผลทดสอบ



penalty

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 14:35:51 »
"ระบบเกียร์แบบ PowerShift มี Drag Power (แรงม้าที่สูญเสียระหว่างเครื่องยนต์ลงล้อ) น้อยกว่าเกียร์ Auto ทั่วไป
แต่ยังคงมากกว่าระบบเกียร์แบบ CVT และ ระบเกียร์ธรรมดา"<-- ข้อมูลตรงนี้ยืนยันได้ 100% ไหมครับ มีท่านใดพอรู้ ช่วยขยายความลงลึกหน่อยสิครับ

เพราะถ้าตามนั้น เรียงตามลำดับการสูญเสียน้อยสุดไปหามาก หรือไล่จากดีสุดไปแย่สุด ก็คือ
1 MT
2 CVT
3 Dual clutch
4 AT



น่าแปลกใจ  :o

CVT แม้จะช่วยลดการสูญเสียกำลังในระบบก็จริงอยู่ แต่ในเมื่อระบบตัด/ต่อกำลัง ยังใช้ torque converter อยู่ ก็น่าจะยังมีการเสียกำลังไปในระหว่างขับเคลื่อนเยอะอยู่ ต่อให้การสูญเสียกำลังในช่วงเปลี่ยนเกียร์เกิดขึ้นน้อยก็เถอะ

ระบบคลัทช์คู่ ยังคงมีระบบส่งกำลังคล้ายเกียร์ธรรมดา ถึงจะไม่เหมือนเกียร์ธรรมดาเป๊ะ แต่ในช่วงที่มีการรีดกำลังสูงสุด น่าจะสูญเสียกำลังในระบบน้อยกว่า CVT อยู่ดี เพราะยังใช้แผ่นคลัทช์จับกันอยู่

งงดีครับ กับผลทดสอบ

ผมก็สงสัยเหมือนคุณ Valkilrey และคุณ Lookkaew ครับ
ในความคิดผม AMT ไม่ว่าจะเป็นแบบ Dual Clutch หรือ Single Clutch เช่น Selespeed ก็น่าจะมีการสูญเสียน้อยกว่า CVT
แล้วยิ่งถ้าเป็น Dual Clutch แบบที่ใช้ Dry-Clutch น่าจะไปเทียบกับ MT ได้เลย แต่ถึงเป็น Wet Multiple Clutch แบบใน Focus ก็ไม่น่าจะแย่กว่า CVT
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 18, 2010, 14:45:49 โดย penalty »
If God did not build it, an Engineer did.



Chimp

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 17:49:44 »
ม้าเยอะจริงๆตัวนี้

ไม่ทราบว่าขึ้นที่ ราคาเท่าไหร่ครับ



U9WS

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 17:59:42 »
จากความคิดผมถ้าเพิ่มไม่เยอะไม่น่ามีปัญหา
ไม่งั้นเกียร์พังแน่ๆ ในระดับ 400 กว่าๆสำหรับก็น่าหวาดเสียวอยู่เหมือนกัน
และการจูนกล่องเค้ารับประกันแค่ ECU ไม่ใช่เกียร์และอุปกรณ์อื่นๆ ต้องระวังครับ

ส่วนเรื่องแรงม้าแรงบิด ผมเฉยๆนะ เพราะแรงบิด 350 nm
รถดีเซล 2.0 ทั่วๆไปที่จำหน่ายในต่างประเทศที่ผ่านมา ก็ประมาณนี้ทั้งนั้นในอดีต
ตอนนี้ BMW BENZ AUDI VW ก็ก้าวข้ามตรงนี้ไปอีกขั้นนึงแล้ว

แต่ก็มีรถหลายๆยี้ห้อที่มีแรงบิดสูงกว่าสเปกเกียร์ ขายอยู่ในตลาดนะครับ
(เพราะเค้าให้เหตุผลว่า การใช้งานจริงไม่ได้ใช้แรงบิตสูงสุดตลอดเวลา)


เรื่องจูนผมไม่ได้อะไรเท่าไหร ผมชอบรถเดิมๆ ไม่แต่งอะไรมากมาย แล้วก็ขับไม่ค่อยเร็วอยู่แล้ว


---------------------------------------------

เรื่องกำลังไม่ใช่เรื่องแปลกครับ กับรถที่มีราคาถูกกว่ากันตั้ง 2-3เท่า เทคโนโลยีย่อมตามหลังอยู่เสมอ

กำลังของ TDCi วันนี้ก็ไม่ต่างกับพวก CDi / TDi / ตระกูลd ในอดีต

ในวันนี้ดีเซลจากกลุ่มยุโรปพรีมเมียม ก็ขยับไประดับ 200แรงม้ากันแล้ว
320d = 177 / 520d ใหม่ = 180กว่า / 323d = 200กว่า
C220 = 170 / C250 = 204 ม้ากับ 500นิวตั้น
2.0 TDi ก็ํ 160-170
แล้ว All New Focus Mk (2010-2011) ก็จะขยับไป 160-170แรงม้ากับ 350นิวตั้นเช่นกัน


มันเป็นเรืื่องของเทคโนโลยี ราคา และเวลาครับ
คงไม่มีใครเอา TDCi ไปเทียบกับ CDi หรือ ตระกูลd ในชื่อชั้นและราคาที่ต่างกันขนาดนี้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 18, 2010, 18:02:14 โดย U9WS »



U9WS

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 18:05:31 »
ขนาดเกียร์ MT ยังมี Drag Power เสียไปร่วมๆ 40 แรงม้าเชียวเหรอ ?
ผมว่า มันไม่น่าเยอะขนาดนั้นนะ  รถขับล้อหน้าด้วย ไม่ใช่ขับล้อหลัง


Drag Power ที่เสียไปถ้าดูแต่ตัวเลขประมาณ 30แรงม้าพอๆ กับเกียร์ PS
แต่ถ้าดูแรงม้าที่เพิ่มขึ้นมา แล้วคิด Drag Power เป็น % ก็ยังถือว่าน้อยกว่านะครับ



U9WS

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 18:08:59 »
Drag Power ของ CVT ผมอิงจากผลเทสของ Teana ครับ



ที่เสีย Drag Power เพียงแค่ 24.2เท่านั้นเอง


แต่ไม่รู้ว่า CVT ของคันอื่นๆจะเป็นอย่างไงกันบ้าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 18, 2010, 22:35:38 โดย U9WS »



U9WS

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 18:12:02 »
ม้าเยอะจริงๆตัวนี้

ไม่ทราบว่าขึ้นที่ ราคาเท่าไหร่ครับ

รันเดียว 800.-ครับ

แล้วก็มีโปรโมชั่น 2รัน 1000.- ครับ
(ภายใน 1เดือน)

แต่ผมไม่คิดจะแต่งอะไรมารันเปรียบเทียบ ก็เลยวิ่งแค่รันเดียวครับ


Additive ที่เติมมีผลมากไม๊ครับ ในด้านแรงม้าและแรงบิด

ผมใช้ MPG-CAPs ที่เน้นทำความสะอาด การเผาไหม้ และประหยัดน้ำมันเป็นหลักครับ
และไม่ทราบว่ามีผลต่อกำลังขนาดมากขนาดไหน


แต่เคยเห็น Additive ตระกูลแรง แบบเพิ่มแรงม้า เพิ่มออกเทน/ซีเทนโดยเฉพาะ
เค้ารันไดโนเทสกันแล้วขึ้น 4-5แรงม้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 18, 2010, 18:20:58 โดย U9WS »



U9WS

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 18:15:12 »
ผลไดโนเทสคันอื่นๆ



Civic 1.8


Civic 1.8


CR-V 2.0


C30


IS250



penalty

Re: ผลการขึ้น Dyno Test : Ford Focus 2.0 TDCi PowerShift 2009 @ TestCar
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 18:25:40 »
ก่อนจะมาหักลบกับ P-wheel แล้วได้ P-drag
ผมอยากทราบว่า P-norm/P-eng วัดได้อย่างไร?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 18, 2010, 21:52:53 โดย penalty »
If God did not build it, an Engineer did.



Nirvash

CR-V  2.0 อุณหภูมิสูงมากเลย 39.2 องศา อุณหภูมิท่อไอดี 50 องศา
IS250 ก็ 35 องศา ท่อไอดีขึ้นไป 49 องศา

วัดตอนอากาศเย็นน่าจะได้ผลดีกว่านี้

ผมว่า แรงม้าของ Teana เพี้ยนนะครับ ค่า Drag power ก็พลอยเพี๊ยนไปด้วย
ปกติขึ้นไดโน ต้องเลือกเกียร์ที่อัตราทดใกล้ 1 มากที่สุด

แต่ CVT ของ Teana จะรู้ได้ยังไง ว่าตรงไหนใกล้ 1
ก็ในเมื่อเกียร์มันแปรผันอัตราทด

กราฟของ Taena ถึงออกมาแปลก Max power ที่ แค่ 5,000 รอบ ที่ความเร็วขึ้นแค่ 107km/hr เอง
เหมือนทดสอบยังไม่สุดกำลัง แล้วผ่อนซะก่อน



Valkilrey

ผมลองคิด % การสูญเสียการถ่ายกำลังจากเครื่องลงล้อดู ตามนี้ ถูกผิดยังไงก็ขอโทษนะครับ คิดแบบง่ายๆ

ถ้าดูตามนี้ cvt ของ Teana ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ สูญเสียแค่ 15.46 % แต่อย่างที่คุณ Nirvash บอก ว่า cvt วัดด้วยวิธีนี้ทำให้ค่าเพี้ยนมากๆ ผมว่าน่าจะสูญเสียมากกว่านี้ แต่ไม่รู้ว่าจะมากกว่า PS หรือ MT ไหม ที่สูญเสียน้อยใกล้เคียงกันมาก และดีกว่า AT ทั่วๆไปอย่างเห็นได้ชัด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 19, 2010, 00:16:04 โดย Valkilrey »



The Coup Channel

คุ้มจริง คุ้มจัง จนชักจะอิจฉาคนได้ขับ TDCi ละนะ  >:(
ท่าทางจะมันส์น่าดู



SignifeR

ของ C30 นี่น่าจะขับสนุกนะ มาเป็นแฟลททอร์คเลย  :-*
In Garage Subaru Impreza GDG WRX  y2008 // Nissan March 1.2E y2011



2k

ข้อมูลแน่นปึ๊กป๊าบดีจริงๆ สงสัยว่าแรงม้าเยอะกว่าเสป็กโรงงานแบบนี้ตกลงแล้วความเร็วปลายมันอยู่ที่เท่าไหร่กันแน่ครับ? ใครคำณวนเป็นช่วยดูที   ;D
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com




PREM


ผมว่า แรงม้าของ Teana เพี้ยนนะครับ ค่า Drag power ก็พลอยเพี๊ยนไปด้วย
ปกติขึ้นไดโน ต้องเลือกเกียร์ที่อัตราทดใกล้ 1 มากที่สุด

แต่ CVT ของ Teana จะรู้ได้ยังไง ว่าตรงไหนใกล้ 1
ก็ในเมื่อเกียร์มันแปรผันอัตราทด

กราฟของ Taena ถึงออกมาแปลก Max power ที่ แค่ 5,000 รอบ ที่ความเร็วขึ้นแค่ 107km/hr เอง
เหมือนทดสอบยังไม่สุดกำลัง แล้วผ่อนซะก่อน

ถ้าจะให้ใกล้เคียงเกียร์ 1 ที่สุดต้องใช้เกียร์ L อ่ะครับ
เพราะมันจะปรับอัตราทดให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ณ ความเร็วระดับหนึ่ง

อยากเอา Teana 2.0 ไปลองมั่งจัง ว่าจะเหลือม้าลงพื้นสักกี่ตัว (เดาว่าประมาณ 105-110)
2013 Mercedes E 63 AMG (W212)
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP