แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?

sukhontha

ดูข่าวสองสามที่ผ่านมา  แนวโน้มที่จะมีการลอยตัวเชื้อเพลิงทุกชนิด เกินกว่า ร้อยละ 95แล้ว

โดยเฉพาะจะเก็บภาษีเพิ่มกับดีเซล......ประกอบกับราคาดีเซลในตลาดโลก ส่วนใหญ่จะสูงกว่ากลุ่มเบนซิน...ราคาดีเซลอาจจะเห็นสูงกว่าเบนซินได้
ส่วนปิโตรเหลว lng  ราคาปรับจาก 700เหรียญ(กว่า ๆ)  ลงมาอยู่ที่600เหรียญ...(แต่ยังบอกว่าตลาดโลกอยู่แถว ๆ29บาท/กม)

ส่วนตัว เห็นด้วยในการลอยตัว  แต่ผลกระทบลูกโซ่จากดีเซล มีมาก ...   ลูกชายมองมาสด้า 3   กำลังเชียร์ให้ดูมาสด้า2 ดีเซล  พอเห็นข่าว  ผมเกิดลังเลอีกแล้ว  รอไปก่อน  ขอปรับทิศทางมองสถานการณ์ก่อน 

แล้วสมาชิกท่านอื่นคิดอย่างไรกันบ้างครับ?.....



franky

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 11:40:00 »
ซะงั้นเพิ่งมาใช่ดีเซลยังไม่ถึงปีเลย
เหตุที่ใช้ดีเซลเพราะเรื่องราคา กับการบำรุงรักษา
ถ้าดีเซลแพงกว่าเบนซินเมื่อไหร่ คงต้องทบทวนใหม่แล้ว



Highway Star

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 12:03:11 »
ผมคิดว่ารัฐบาลไม่กล้าลอยดีเซลกับlpgหรอก เห็นขู่กันทุกยุคทุกสมัย แต่กับอย่างอื่นไม่แน่ แต่ถ้าลอยดีเซลจริงๆแบบแพงเวอร์ ผมใช้กระบะดีเซลอยู่คงต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการขับคลานอย่างเดียวที่ใช้ก็มองว่ามันนดูแลง่ายไม่จุกจิก ไม่งั้นถ้าไม่ไหวอาจจะหนีไปหาเอสยูวีครอสโอเวอร์เครื่องเบนซินติดlpgหรือไม่ก็กล่องจูนe85 จริงๆดีเซลกับlpgไม่น่าลอยเพราะของทุกอย่างจะต้องขึ้นราคาอีกชัวร์แม้จะกระทบนิดเดียวก็เหอะ



Pat.Lee

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 12:12:30 »
เท่าที่ผมสังเกตต่างประเทศก็ทำราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลถูกกว่าครับ ไม่ว่าจะเป็น เยอรมัน ออสเตรีย ฟิลิปปินส์ เท่าที่จำได้นะครับ ส่วนที่ดีเซลแพงกว่าเบนซินผมจำได้ประเทศเดียวคือ มาเล แต่แพงกว่าแค่ราวๆ ลิตรละ 5 สตางค์ครับ
ผมมองว่าน้ำมันดีเซลคงจะโดนเก็บภาษีสูงขึ้นแน่ๆ แต่คงไม่มากนักครับ เพราะการขึ้นราคาน้ำมันดีเซลจะกระทบภาพรวมของราคาสินค้าอุปโภคบริโภคครับ



MUK

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 12:42:59 »
ผมว่าอยากให้ลองดูนะ ว่าประเทศไทยเราจะเอาอยู่ไหม ลองจินตนาการแล้วกันนะครับ แค่ประกาศว่าจะขึ้นเงินเดือนราชการ 10 %  แม่ค้าขายอาหารจานเดียว จาก 30 เป็น 35  มันเกิน 10% นะครับ แล้วถ้าราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปที่ เกือบ 40 บาท หรือคิดเป็น 40 บาท เพิ่มขึ้น 10 บาท ลองดูครับว่ากี่เปอร์เซนต์ครับ ขณะที่เงินเดือนขึ้นหลอกๆ 55555 นี่แค่ส่วนราชการนะครับ แต่เอกชนส่วนใหญ๋ก็ใช่ว่าจะมีรายได้สูงจนสู้สิ่งที่มันเพิ่มขึ้นได้ สินค้าและบริการมันไม่ได้ขึ้นอย่าเดียวนะครับ แต่ขึ้นกันเป็นแผงๆ นะครับ
ผมว่าไม่ต้องวิเคราะห์หรืออะไรหรอกครับ รับสภาพต่อไป 

--- สิ่งที่ผมอยากเห็นมากที่สุด ในการพัฒนารถยนต์ คือ ทำให้รถประหยัดน้ำมันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แรงม้านะไม่เอา เอา 120 มันก็เหลือๆ แล้ว แต่ขอสัก 20 กิโลเมตรต่อลิตร ที่ 110 กม./ชม. นะครับ เอาแบบประหยัดกันจริงๆ ไม่ใช่แค่โฆษณานะ
เอาประหยัดมากๆ ครับ ทุกวันนี้เล่นเอาเพิ่มแรงม้ากันอย่างเดียวเลย มันจะประหยัดได้อย่างไรครับผม --



yod artstu

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 13:16:04 »
มองๆดีเซลอยู่เหมือนกัน
หากขึ้นราคาจริงๆ ของแพงขึ้นเยอะพอสมควร
มันต้องโกลาหลช่วงแรกๆแน่ๆครับ

แต่พฤติกรรมคนขับรถส่งของ คงสุภาพขึ้นเยอะ
: )



GreenG

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 13:20:23 »
น่าเป็นห่วงจริงๆ ครับ

ถ้าดีเซลขึ้น ราคาข้าวของจะขึ้นไหม แอบหวั่นใจนะครับ



Auto

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 13:30:30 »
    ผมมีรถที่บ้านเบนซิน  Fortuner 2.7  สามารถติดแก๊สได้โดยไม่เดือดร้อน   คือเครื่องไม่พังเพราะใช้แก๊สแน่นอน   ต่างจากรถรุ่นอื่น ๆ ที่ติดไปแล้วต้องการการซ่อมมากกว่าปกติ     อนาคตราคาแก๊สแพงขึ้นมาจนค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกับการใช้ E85  ก็จะเปลี่ยนมาใช้ E85  ครับเพราะรุ่นนี้ก็ทำได้     โดยไม่มีปัยหา
ส่วนอนาคตมองไว้คือจะซื้อดีเซล Mazda 2 เข้ามาเพิ่มเติมครับ     ถึงแม้ราคาน้ำมันจะอยู่ที่  35 บาท แต่เรทนี้รับไหวสบายมาก  เพราะว่ารถ MAZDA2  กินน้ำมันมากกว่า 20 km/l   

  คือสรุปผมจะมีรถถึง 2-3 คัน คือแบ่งกันใช้ระหว่าง E85  น้ำมันราคาถูก  กับดีเซล  รถเก๋ง ที่ประหยัดน้ำมันมากกกกคาดว่าจะไม่เดือดร้อนตรงนี้ครับ       
**************************************************************
เพราผมคงจะไม่เอาเงินไปซื้อกระบะดีเซลที่กินน้ำมัน 10-15 km/l  แล้ววิ่งออฟโรดเข้าป่าไม่ได้ บรรทุกหนักไม่ได้   ใช้ทำงานปกติไม่ได้   วิ่งท่องเที่ยวทั่วไปในวันหยุดไม่ได้     ในคันดียวกัน รถพวกนี้ผมจะตัดออกไป
และไม่นำเงินไปซื้อรถเก๋งเครื่องเล็กเบนซิน  หรือ SUV  เบนซิน  ที่กินน้ำมัน 12-16 m/l   เพราะราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะเป็นภาระกับการใช้งานปกติ ประจำวัน ในขณะที่รถใช้งานได้จำกัดจำเขี่ย      ไม่คุ้มกับการซื้อมาใช้ระยะยาว   



Auto

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 13:35:50 »
มองๆดีเซลอยู่เหมือนกัน
หากขึ้นราคาจริงๆ ของแพงขึ้นเยอะพอสมควร
มันต้องโกลาหลช่วงแรกๆแน่ๆครับ

แต่พฤติกรรมคนขับรถส่งของ คงสุภาพขึ้นเยอะ
ไม่จริงทั้งหมด  เพราะเขาต้องขับทำเวลาครับ    อีกทั้งบางคนเบิกค่าน้ำมันได้ 
คงมีผลแค่เล็กน้อย



bravo

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 14:14:50 »
สนับสนุนให้ลอยตัว ไม่บิดเบือนราคา
ยกเว้นพลังงานทดแทนที่ผลิตได้จากพืช เพราะเป็นการลดการขาดดุลการค้า ลดการนำเข้าน้ำมัน

รัฐควรจะเร่งการขนส่งระบบรางอย่างจริงจัง โดยเฉพาะรถไฟรางคู่ เอาไว้ขนส่งสินค้า เพื่อลดต้นทุนของสินค้าอุปโภคบริโภคครับ



nutvas

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 14:27:49 »
ดีเซลขึ้นราคา เตรียมตัวจ่ายค่ารถเมล์เพิ่มขึ้นได้เลย



sukhontha

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 14:42:31 »
ขอบคุณทุกความเห็นครับ

 ส่วนตัวผมก็อยากให้เป็นไปตามกลไก  แต่สรรพสามิตดีเซล ก็หย่อน ๆ ไว้สักหน่อยก็เป็นไรไป 

แต่ปัญหาก็คือรัฐ บักโกรกอยู่นะ  ปีงบที่ผ่านมาตั้งงบขาดดุลสองแสนล้าน  รายได้เข้ารัฐต่ำเป้าอีกแสนกว่าล้าน  บวกลบคูณหารแล้ว ขาดทุน   แล้วปีนี้  จำเป็นต้องหาเงินให้ได้เข้าเป้า  ก็มีที่เห็นเนื้อ ๆ ก็  แวตฯ  กับดีเซล นี่แหละ ทำง่ายเห็นเนื้อเห็นหนัง  แต่ผลกระทบเยอะมาก....



Niceguy_C

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 15:07:29 »
เห็นด้วยนะ ให้ลอยตัวให้หมดนั่นแหละ เราจะได้ปรับตัวได้กับความเป็นจริง ไม่ใช่ต้องมาหลอกตัวเอง แล้วพอมันถึงจุดไม่ไหวก็ล้มครืนมาทั้งหมด



raygun

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 16:42:02 »
ผมว่าอยากให้ลองดูนะ ว่าประเทศไทยเราจะเอาอยู่ไหม ลองจินตนาการแล้วกันนะครับ แค่ประกาศว่าจะขึ้นเงินเดือนราชการ 10 %  แม่ค้าขายอาหารจานเดียว จาก 30 เป็น 35  มันเกิน 10% นะครับ แล้วถ้าราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปที่ เกือบ 40 บาท หรือคิดเป็น 40 บาท เพิ่มขึ้น 10 บาท ลองดูครับว่ากี่เปอร์เซนต์ครับ ขณะที่เงินเดือนขึ้นหลอกๆ 55555 นี่แค่ส่วนราชการนะครับ แต่เอกชนส่วนใหญ๋ก็ใช่ว่าจะมีรายได้สูงจนสู้สิ่งที่มันเพิ่มขึ้นได้ สินค้าและบริการมันไม่ได้ขึ้นอย่าเดียวนะครับ แต่ขึ้นกันเป็นแผงๆ นะครับ
ผมว่าไม่ต้องวิเคราะห์หรืออะไรหรอกครับ รับสภาพต่อไป 

--- สิ่งที่ผมอยากเห็นมากที่สุด ในการพัฒนารถยนต์ คือ ทำให้รถประหยัดน้ำมันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แรงม้านะไม่เอา เอา 120 มันก็เหลือๆ แล้ว แต่ขอสัก 20 กิโลเมตรต่อลิตร ที่ 110 กม./ชม. นะครับ เอาแบบประหยัดกันจริงๆ ไม่ใช่แค่โฆษณานะ
เอาประหยัดมากๆ ครับ ทุกวันนี้เล่นเอาเพิ่มแรงม้ากันอย่างเดียวเลย มันจะประหยัดได้อย่างไรครับผม --


ผมว่าคนเรามีหลายกลุ่มหลายความคิดนะครับ
ผมเป็นคนนึงที่ยังอยากให้พัฒนาเรื่องแรงม้าอยู่ครับ ประหยัดน้ำมันก็โอเค
เดี่ยวนี้ก็ประหยัดมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะมากแล้ว และคงประหยัดขึ้นเรื่อยๆ
แต่จะไม่พัฒนาเรื่องแรงม้าเลยผมไม่เห็นด้วย
ผมว่าคุณน่าจะเหมาะกับพวกรถใช้ไฟฟ้าน่ะครับแนวทางนั้นน่าจะเหมาะกว่า

โดยส่วนตัวผมอยากให้ลอยตัวให้หมด เลิกบิดเบือนได้แล้ว
ต้นทุนอะไรเท่าไหร่ก็ว่ากันไป ไม่ใช่ให้คนใช้เบนซินมาจ่ายตังค์
ให้คนใช้แก๊ส ใช้ดีเซล ซึ่งเค้าเน้นไว้ทำอาหารการกิน กับภาคขนส่ง
แต่เดี๋ยวนี้รถส่วนตัวเห็นว่าพลังงานพวกนี้มันถูกก็หันมาใช้กัน
โดยไม่ได้สนใจว่าประเทศจะล่มจมไหม

เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปครับ
ใครใช้อะไรเท่าไหร่ก็จ่ายเท่านั้น ว่ากันตามความเป็นจริง



Ruksadindan

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 17:06:02 »
รู้จักใช้พลังงานให้คุ้มค่าครับ



Yangyang

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 17:31:20 »
ผมว่าอยากให้ลองดูนะ ว่าประเทศไทยเราจะเอาอยู่ไหม ลองจินตนาการแล้วกันนะครับ แค่ประกาศว่าจะขึ้นเงินเดือนราชการ 10 %  แม่ค้าขายอาหารจานเดียว จาก 30 เป็น 35  มันเกิน 10% นะครับ แล้วถ้าราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปที่ เกือบ 40 บาท หรือคิดเป็น 40 บาท เพิ่มขึ้น 10 บาท ลองดูครับว่ากี่เปอร์เซนต์ครับ ขณะที่เงินเดือนขึ้นหลอกๆ 55555 นี่แค่ส่วนราชการนะครับ แต่เอกชนส่วนใหญ๋ก็ใช่ว่าจะมีรายได้สูงจนสู้สิ่งที่มันเพิ่มขึ้นได้ สินค้าและบริการมันไม่ได้ขึ้นอย่าเดียวนะครับ แต่ขึ้นกันเป็นแผงๆ นะครับ
ผมว่าไม่ต้องวิเคราะห์หรืออะไรหรอกครับ รับสภาพต่อไป 

--- สิ่งที่ผมอยากเห็นมากที่สุด ในการพัฒนารถยนต์ คือ ทำให้รถประหยัดน้ำมันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แรงม้านะไม่เอา เอา 120 มันก็เหลือๆ แล้ว แต่ขอสัก 20 กิโลเมตรต่อลิตร ที่ 110 กม./ชม. นะครับ เอาแบบประหยัดกันจริงๆ ไม่ใช่แค่โฆษณานะ
เอาประหยัดมากๆ ครับ ทุกวันนี้เล่นเอาเพิ่มแรงม้ากันอย่างเดียวเลย มันจะประหยัดได้อย่างไรครับผม --


ผมว่าคนเรามีหลายกลุ่มหลายความคิดนะครับ
ผมเป็นคนนึงที่ยังอยากให้พัฒนาเรื่องแรงม้าอยู่ครับ ประหยัดน้ำมันก็โอเค
เดี่ยวนี้ก็ประหยัดมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะมากแล้ว และคงประหยัดขึ้นเรื่อยๆ
แต่จะไม่พัฒนาเรื่องแรงม้าเลยผมไม่เห็นด้วย
ผมว่าคุณน่าจะเหมาะกับพวกรถใช้ไฟฟ้าน่ะครับแนวทางนั้นน่าจะเหมาะกว่า

โดยส่วนตัวผมอยากให้ลอยตัวให้หมด เลิกบิดเบือนได้แล้ว
ต้นทุนอะไรเท่าไหร่ก็ว่ากันไป ไม่ใช่ให้คนใช้เบนซินมาจ่ายตังค์
ให้คนใช้แก๊ส ใช้ดีเซล ซึ่งเค้าเน้นไว้ทำอาหารการกิน กับภาคขนส่ง
แต่เดี๋ยวนี้รถส่วนตัวเห็นว่าพลังงานพวกนี้มันถูกก็หันมาใช้กัน
โดยไม่ได้สนใจว่าประเทศจะล่มจมไหม

เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปครับ
ใครใช้อะไรเท่าไหร่ก็จ่ายเท่านั้น ว่ากันตามความเป็นจริง

ผมเห็นด้วยนะครับ
น่าจะเลิกการบิดเบือนได้แล้ว ไม่ว่าจะน้ำมัน แก๊ส ข้าว ยาง
แล้วเอาเงินส่วนนั้นไปพัฒนาประเทศแนว sustainability ดีกว่ามั้ย ไอ้ที่ทำๆกันอยู่ทุกวันนี้มันแก้แบบให้พ้นๆตัว แก้เฉพาะหน้ากันไป อนาคตค่อยไปตายเอาดาบหน้า



Mr.Chaw

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 18:01:46 »
เดี๋ยวนะครับ คุณใจเย็นๆ คุยกันเรื่องรถอยู่ดีดีมิใช่หรือ  ;D ;D

สมมติ ใช้ mazda2 diesel ได้ 20 km/l กะ Ford Fiesta ใช้ E20 ได้ 15 km/l
ดีเซลขึ้นสุดๆไปเลย แพงกว่าเบนซินลิตรละ 2 บาท สมมติ E20 34 บาท ดีเซล 36
กลายเป็น Mazda2 คุณวิ่ง กม ละ 1.8 บาท ส่วน Fiesta ได้ กม. ละ 2.27 บาท
ยังงัยๆดีเซลมันก้ยังคุ้มอยู่นะครับ

ทีนี้ก้ต้องมาดูว่า คุณที่ใช้รถกระบะขับแทนเก๋งนี่ เราจะเอาไปเทียบกะเก๋งรุ่นอะไร
แบบ สมมติคุณเอา NP300 มาเทียบอัตราการสิ้นเปลืองกะ Honda Brio มันก้ไม่ไหวป่ะคับ
คือ NP300 มันก้คงขับสบายก่า เหยียบมันสกว่า อาจจะต้องเทียบให้ถูกหน่อย คุณก็คงจะเห็นว่า ดีเซลก็ยังจ่ายต่อ กม ถูกกว่าอยู่นะคับผมว่า

ปล. หลายๆประเทศที่ไม่ได้ส่งออกน้ำมันเป็นสินค้าหลัก ราคาดีเซลแพงกว่าเบนซินนะครับ เช่นอังกฤษ ออสเตรเลีย
(แต่ในอังกฤษคนก็ยังใช้ดีเซลมากกว่า)
Own : Porsche Boxster 986 MT
Drive : +Volvo S80 D4 +Toyota Fortuner
Drove : Honda Accord Euro CL9, Volvo 960, Volvo S80 D5, Toyota Prado J120
Want : Porsche C2 996 MT



secrecyguy

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 19:48:14 »
ยังจำกันได้หรือป่าว ครั้งหนึ่งราคาดีเซลที่ขึ้นสูง มีการปรับราคาข้าวของขึ้นอ้างค่าขนส่ง

ตอนนี้ราคา ดีเซลเกือบ30บาท ราคาข้าวของก็ไม่เคยปรับลง

นี้จะขึ้นราคาดีเซลอีกแล้ว ราคาข้าวของก็อ้างปรับขึ้นอีกสินะ

เหนื่อย




deardida

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2014, 22:23:36 »
ขอให้นโยบายนิ่งซักทีเถอะขอร้อง คนใช้รถจะได้ปรับการใช้ให้ถูกกับนโยบาย ไม่ใช่เปลี่ยนรัฐบาลทีนึง ไอเดียร์ไหม่ผุด มาเปลี่ยนนโยบายกันอีก เอาเข้าแผนพัฒนาเศรฐกิจเลยก็ได้อย่างน้อยก็หลายปีหน่อยกว่าจะเปลี่ยน ชาวบ้านอย่างผมที่ต้องใช้เชื้อเพลิงจะได้ทำตามถูก



Impulse

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2014, 00:50:45 »
ผมว่าอยากให้ลองดูนะ ว่าประเทศไทยเราจะเอาอยู่ไหม ลองจินตนาการแล้วกันนะครับ แค่ประกาศว่าจะขึ้นเงินเดือนราชการ 10 %  แม่ค้าขายอาหารจานเดียว จาก 30 เป็น 35  มันเกิน 10% นะครับ แล้วถ้าราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปที่ เกือบ 40 บาท หรือคิดเป็น 40 บาท เพิ่มขึ้น 10 บาท ลองดูครับว่ากี่เปอร์เซนต์ครับ ขณะที่เงินเดือนขึ้นหลอกๆ 55555 นี่แค่ส่วนราชการนะครับ แต่เอกชนส่วนใหญ๋ก็ใช่ว่าจะมีรายได้สูงจนสู้สิ่งที่มันเพิ่มขึ้นได้ สินค้าและบริการมันไม่ได้ขึ้นอย่าเดียวนะครับ แต่ขึ้นกันเป็นแผงๆ นะครับ
ผมว่าไม่ต้องวิเคราะห์หรืออะไรหรอกครับ รับสภาพต่อไป 

--- สิ่งที่ผมอยากเห็นมากที่สุด ในการพัฒนารถยนต์ คือ ทำให้รถประหยัดน้ำมันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แรงม้านะไม่เอา เอา 120 มันก็เหลือๆ แล้ว แต่ขอสัก 20 กิโลเมตรต่อลิตร ที่ 110 กม./ชม. นะครับ เอาแบบประหยัดกันจริงๆ ไม่ใช่แค่โฆษณานะ
เอาประหยัดมากๆ ครับ ทุกวันนี้เล่นเอาเพิ่มแรงม้ากันอย่างเดียวเลย มันจะประหยัดได้อย่างไรครับผม --
สิ่งที่ควรทำอย่างแรกและไม่เปลืองงบขึ้นมาเลยคือการตั้งคำถามทำไมข้าวขึ้นทีละ 5 บาท ไม่ขึ้น 3.25 บาท ทั้งที่เรามีเงิน สตรางค์ใช้



Adios

Re: แนวนโยบายด้านพลังงานเปลี่ยนไป...เตรียมตัวอย่างไร?
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2014, 03:17:13 »
ก็ปล่อยไปตามหัวใจ คิคิ

จริงๆ ก็คิดว่าปล่อยให้เป็นไปตามที่ควรจะเป็นของตลาดดีกว่าครับ
สำหรับผม ถ้าจำเป็นจะต้องใช้รถอยู่ ก็จะยังคงใช้ต่อไปครับ ไม่ว่าราคาน้ำมันจะเป็นเท่าไหร่ก็ตาม