ผมใช้ toyota pruis ครับ จะบอกว่า อะไหล่ แพงมากๆ พัดลมหม้อน้ำ ต้องเปลี่ยนพร้อมกันสองตัว ตัวละ หกพันบาท สองตัวก็หมื่นสอง พอดี แล้ว วิธีการ ทำต้องถอดวินาดเลยครับ เห้นแล้วเหนื่อย แบตไฮบริด เสีย ทุกๆ สามปีกว่า เพราะ รถวิ่งทุกวัน รับประกัน สิบปี เปลี่ยน ประมาณ สามลูก ลูก ละเป้น แสน ดีหน่อยที่ ว่า ตัว contronl รับประกัน 15 ปี ถ้าเสีย ก็เป็น แสน ฝากะทะล้อ อันละ สองพันห้าได้ ตาไฟข้างละ สองหมื่นผมว่ามีอีกเยอะ ละครับ แต่ ยังไม่รูเว่าจะโดน อะไรบ้าง ฝากะโปรงแปดพัน หม้อน้ำ หมื่นเจ็ด แร็ค สองหมืนเจ็ด ในความเห็นผม เป้นรถที่ ซ่อมยากต้องใช้ ตัวคอมมือถือของโตโยต้าset อย่างเดียว ไม่ว่าจะไล่นำ้มันเบรค เปลี่ยน น้ำหล่อเย็น น้ำยาแอร์ มีแต่คนบอกว่ารถแพงตามราคารถครับ รถคันละ ยี่สิบล้าน ประตูคนขับ คงราคา สองล้านน่าจะได้
สรุป รถดีครับ ขับดีประหยัดจริง คล่องตัว
อะไหล่แพงถึงแพงมากๆๆๆๆ แต่ก็ไม่เสียง่ายนะครับแต่ถ้าเสีย กระเป๋าฉีกแน่เลย
แต่จะบอกว่า ในอนาคต รถในประเทศที่พัฒนาแล้วจะใช้ ไฮบริบกันแทนจะทุกรุ้น อยู่แล้วนะครับ ต้องทำใจว่า แนวโน้มจะเป้นอย่างนั้น ตอนนี้ เริ่มมี รถไฮโดรเจนมาแยวนะครับ ควรศึกษาไว้บ้าง ก็น่าจะดีนะครับ รถใช้น้ำมันอย่างเดี่ยวกำลังกลายเป้นรถ โบราณไปซะแล้วครับ ไม่นึกไม่ฟันเลยว่า จะมีเทโนโลยีกล้าวไกลขนาดนี้
สุดยอดครับ หัวอกเดียวกัน ห่วงแค่ราคาอะไหล่หลังหมดประกัน นี่แพงจริงๆ เพิ่มให้อีกครับ
- คอมแอร์ 45,000
- ปั๊มเบรคเป็นปั๊มไฟฟ้ามา pressurize ตัวน้ำมันเบรคใน reservoir (ไม่มีหม้อลม) 62,000
Iรถดีครับไม่มีอะไรที่ไม่ดีเลย แต่..ผมแปลกใจว่าแบตทำไมมันเสียง่ายจัง มีประกันก็เถอะ
อีกทั้งราคาคอมแอร์ไฮบริดขึ้นมากขนาดนี้แล้วเหรอ เมื่อก่อนผมเคยเช็คแค่ 3 หมื่นปลาย ๆ เท่านั้น ตอนนี้ 45000 ไปแล้ว ส่วนราคาอะไหล่อื่น ๆ ก็ตามนั้น รค่าซ่อมแพงไม่ได้แพงเพราะราคารถแพงน่ะครับแต่แงพเพราะสาเหตุอื่น ๆ อีกทั้งรถมันทำไว้ทิ้งมากกว่าที่จะเอามาใช้ยาว ๆ เพื่อหวังซ่อม
ผมคนนึงล่ะที่เห็นว่าตนเองไม่มีปัญญาาซื้อเพราะคงเก็บใช้ยาวไม่ไหว ขายต่อราคาตกพอควร บ้านเรายังไม่ตกมากแต่เป็นผมไม่กล้าซื้อมือ 2 รุ่นไฮบริด เพราะมันถึงเวลาซ่อมเมื่อมาอยู่กับเรา
อีกอย่างนึงราคาอะไหล่ในอนาคตไมได้ลดลงน่ะครับอย่าเข้าใจผิด TOYOTA cost down ราคาชิ้นส่วนกับ Maker ทุกปีแต่ในขณะเดียวกันราคาอะไหล่ก็จะแพงขึ้นทุกปี จะไปคาดหวังราคาถูกลงในอนาคตก็ไม่ใช่แน่นอน