สวัสดีครับ
ผมเคยตั้งกระทู้ขอความเห็นในการซื้อรถใหม่เมื่อประมาณ 5 เดือนก่อน โจทย์คือรถราคาประมาณ 1.5 ล้าน+- ตอนนั้นเทียบกันในกลุ่ม D Segment และ Compact SUV
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,38953.0.htmlหลังจากได้รับความคิดเห็นของทุกท่าน ผมก็ตัดสินใจไปจอง Mazda CX5 2.5 สีขาว จองแล้วก็รอประมาณ 2 เดือน รถก็ไม่มาสักที ระหว่างนั้นก็ไม่หยุดที่จะตามหารถในฝันของตัวเองคือ BMW มีแอบไปดูรถมือสองอยู่หลายคัน ทั้ง E90 320D M Sport, E60 520D M Sport แต่ก็ยังไม่สามารถจบดีลกันได้ และก็ได้ไปคุยกับศุนย์ BMW เพื่อดู offer ของ F30 320i Sport ซึ่งจริงๆก็ได้ดีลมาดีมาก คือลดรวมประกันเกือบๆ 350k
แล้วเวลาก็ผ่านไปอีก 2 เดือน ผมก็มาเจอเนื้อคู่จริงๆสักที รถคันที่กำลังจะ Review ให้ทุกท่านฟังคันนี้ผมได้มาจาก Web ขายรถมือสองแห่งหนึ่ง แล้วการตามหารถในฝันก็เริ่มขึ้น มันเหมือนรักแรกพบก็ว่าได้ ผมกำลังอยากได้รถเบนซิลสีขาวเบาะดำ ผมอยากได้รถที่เจ้าของเดิมเป็นคนรักรถ และแต่งรถแบบที่ผมชอบ ไม่นึกว่ารถคันนี้จะมีอยู่จริง
ผมใช้เวลาคุยกับพี่เจ้าของเดิมไม่นานนัก ก็รู้ได้ทันทีว่าผมเจอแล้ว พี่เค้าเป็นคนรักรถมาก ชอบแต่งรถ ด้วยความที่เค้าเป็นเจ้าของคาร์แคร์รถคันนี้เลยได้รับการดูแลอย่างดีมาตลอด 20 เดือน ก่อนมาถึงมือผม เรียกว่า สภาพนางฟ้าเลยก็ว่าได้ เราตกลงเรื่องการซื้อขาย และแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ผมไปดูรถ 2 ครั้ง และการดีลก็จบลง
จากวันที่เจอรถคันนี้ครั้งแรก ผมใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ก็พาเธอกลับบ้าน...
รถคันนี้เป็น BMW 3 Series รหัสตัวถัง F30 ซึ่งเป็น 6th Generation ของตระกูลรถ BMW ที่ขายดีที่สุดในโลก อยู่ใน Segment ที่ทางเยอรมันใช้ชื่อว่า KKL+ หรือเทียบได้กับ C Segment ของรถญี่ปุ่น
วางเครื่องยนต์ N20B20 บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,997 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก
90.1 x 84.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.0 : 1 หัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ Direct Injection
พร้อมระบบแปรผันวาล์ว VALVETRONIC และ Turbocharger แบบ Twin Scroll กำลัง
สูงสุด 184 แรงม้า (HP) ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร ( 27.51 กก.-ม.)
ที่ รอบตั้งแต่ 1,250-4,500 รอบ/นาที (แรงบิดมาถึงต่อเนื่อง เป็นแบบ Flat Torque )
สมรรถนะจากโรงงานระบุว่า ทำอัตราเร่ง 0 - 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ ใน 7.3 วินาที ประหยัด
น้ำมันเบนซิน เฉลี่ย 16.9 กิโลเมตร/ลิตร และปล่อยไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เฉลี่ย 138 กรัม/
กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU)
**Copy ข้อมูลบางส่วนจาก Review คุณจิมมี่**
จากการใช้งานทุกวันประมาณเดือนกว่าๆ เส้นทางจาก เกษตร์นวมินทร์-สีลม 9โมงเช้า กลับประมาณ 1 ทุ่ม พบว่าอัตราสิ้นเปลือง Comfort Mode อยู่ที่ประมาณ 8-9 โลลิตร แต่ถ้าออกต่างจังหวัดวิ่งยาวๆ ผมทำได้ประมาณ 14 โลลิตร สำหรับผมรับได้ครับ เติม E10 Octane 95 ตลอด เคยเติม E20 อยู่สองถังพบว่ามีอาการหน่วงๆตอนออกตัว แต่อัตราสิ้นเปลืองไม่ต่างจากเดิม สรุปพอใจครับ หนึ่งถังเติมเต็มวิ่งไปประมาณ 550 กิโลเมตรโดยประมาณถ้าวิ่งในเมืองแบบไม่ติดโหดมาก
รถคันนี้เป็นรุ่น 320i Sport แต่งกันชน M Sport Package รอบคัน พร้อม Rear Spoiler, Diffuser และ Black Front Grill ของ M Performance ล้อเปลี่ยนมาใส่ล้อ BMW 19" M Style 403M หน้า 8" หลัง 9" ซึ่งเป็นล้อที่ใส่มากับรุ่น Activehybrid3 ยาง Bridgestone S001 หน้า 225/40/19 หลัง 255/35/19
ช่วงล่าง KW V2 INOX Line ปรับตั้งความสูง และอ่อนแข็งได้ รถคันนี้เอาลงประมาณ 1 นิ้วครึ่ง และตั้งความแข็งไว้ที่ค่ากลาง ซึ่งผมใช้มาพบว่าแข็งไปหน่อยเวลาวิ่งช้าตามซอย และถ้าวิ่งบนทางด่วนฟิลลิ่งดีมากๆ ไม่มีโยนเลย ไล่โค้งได้สนิทใจครับ ราคาเบิก Prodrive 7X,XXX
อีกอย่างที่ชอบมากๆของรถคันนี้คือเบรคครับ เปลี่ยนมาใช้ของ Brembo GT แบบตรงรุ่น F30 เบิกจาก Toon Motorsport เบรคหน้า 380mm 6 Pots และ เบรคหลัง 345mm 4 Pots ผมเองก็ไม่เคยใช้เบรคแต่งมาก่อน คิดว่าจะเบรคแบบหัวทิ่ม แต่ทีไหนได้นุ่มหนึบกำลังดี ที่ชอบมากๆคือ ไม่มีผงฝุ่นเบรคดำที่ล้อเลย หรือมีก็น้อยมากๆ เสียงหอนตอนเช้าก็แทบไม่มี
ฟิลลิ่งการเบรคคือ ถ้าแตะแบบเลียๆไม่ต่างจากเบรคทั่วไป แต่ถ้าตั้งใจกดความเร็วจะลดลงแบบทันที เคยวิ่ง 140km บนทางด่วนตอนแซง และต้องลงทางด่วนเจอท้ายแถวยาวกว่าปกติ เลยกดแรงๆ ความเร็วลดลงเหลิอ 40km แบบไวมากๆ สรุปชอบครับ แต่ถ้าให้เปลี่ยนเองคงคิดดูก่อน เพราะ ราคามันแรงมากๆ เค้าบอกว่าเบรคเป็นของแต่งรถที่แพงที่สุด สงสัยจะจริง เพราะ Set นี้ 3 แสนทอน 3 หมื่น =_=!
มาดูภายในกันบ้างครับ รุ่น Sport Line ซึ่งจะมีภายใน 2 themes ให้เลือกคือ แดงกับดำ คันนี้ theme ดำด้ายแดง ซึ่งผมว่ามองนานๆไม่เบื่อ และเบาะดำให้ความรู้สึกในการใช้งานที่ดี ไม่สะท้อนกระจก และดูแลความสะอาดง่ายกว่า เบาะเป็นทรง Sports ปรับไฟฟ้า มีรองน่องและปรับกระชับเอวได้ พร้อม Memory จากการใช้งานผมว่าเป็นเบาะที่นั่งสบายมาก ถ้าขับรถติดๆก็ปรับให้เบาะโอบหลวมๆหน่อย ถ้าขับเร็วก็ปรับให้ประชับ ซึ่งเห็นผลเวลามีการเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูงๆ ตัวเราจะไม่โยกไปตามรถ ทำให้บังคับรถได้ดีกว่าครับ
เกียร์ไฟฟ้า ZF 8 Speeds เปลี่ยนเกียร์ได้เร็ว และนุ่มนวลมากครับ ไม่มีอาการรอรอบ หรือกระตุกใดๆเลย ต่อเนื่องไหลลื่น
สรุปรถให้สมถรรนะการขับขี่ที่ดีมาก ด้วยเครื่องยนต์ Turbo แบบ Twin Scroll แรงบิดมารอบต่ำ และ Flat ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้ต่างจากเครื่องดีเซลมากนัก ยกเว้นอัตราการสิ้นเปลืองที่ต่างแบบเห็นได้ชัด แต่ต้องแลกกับค่าตัวที่ต่างกัน 2 แสนกว่าบาท ทำให้ 320i สมเหตุสมผลกว่า อีกอย่างที่ชอบคือ Driving Experience Control ที่ให้ฟิลลิ่งในการขับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ใช้ได้จริง ผมเองใช้ทุกวันรถติดหนักๆใข้ Eco-Pro รถไหลๆใช้ Comfort กดเล่นบนทางด่วนตอนดึกๆใช้ Sport
การ Set รถที่กระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ควบคู่กับการขับเคลื่อนล้อหลังทำให้รถมีความเป็นธรรมชาติเวลาขับขี่ และเข้าโค้ง รถให้ความมั่นใจที่ดี ตัวถึงมีความแข็งแรง และยืดหยุ่น แต่เพราะคันนี้ใส่ shock up แต่งมาจึงค่อนข้างแข็งไปหน่อยเวลาขับช้าๆ
เรื่องอุปกรณ์ความปลอดภัย และความสะดวกสบายจัดมาเต็มๆ ตั้ง Comfort access และระบบ sensor สารพัดที่ทำให้การใช้ชีวิตในรถคันนี้สบายมากๆ ที่ใช้บ่อยคือการใช้เท้าเตะใต้กันชน และต้องแตะแบบยืนห่างๆหน่อย ไม่งั้นมันไม่ปลดล็อคให้ครับ
การออกแบบ Console Layout ที่เป็นแบบ Driver's Oriented ทุกปุ่มสามารถเรียกใช้งานได้อย่างพอเหมาะพอดีหากปรับเก้าอี้นั่งคนขับให้ถูกวิธี คือเมื่อนั่งพิงเต็มหลัง แล้วสามารถเอาข้อมือวางตรงตำแหน่ง12นาฬิกาบนพวงมาลัยได้ โดนข้อศอกหย่อนนิดหน่อย ปุ่มiDrive ถ้าสังเกตุจะพบความลาดเอียงของปุ่มไม่เหมือนกัน ว่ากันว่าเพื่อให้คนขับไม่ต้องละสายตามามองแต่อย่างใด นับว่าBMW ใส่ใจในการออกแบบภายในเป็นอย่างดี เพื่อให้คนขับ Focus การขับรถมากที่สุด
อีกเรื่องที่ประทับใจคือ เบาะหลัง ที่ออกแบบมาให้นั่งสบายสำหรับ2คน คือ เนื้อเบาะที่ค่อนข้างแข็ง กว้าง และเบาะรองนั่งที่ลึก ทำให้นั่งได้เต็มก้น และซุ้มเพลาล้อค่อนข้างใหญ่ทำให้การนั่งตรงกลางลำบาก ซึ่งเป็นข้อจำกัดของรถขับหลัง อันนี้ต้องทำใจ
-------------------------------------------------------------------
บางท่านอาจกำลังจะบอกกับผมว่าผมสะกดผิดที่ชื่อกระทู้ ผมตั้งใจเขียนแบบนี้ครับ เพราะ Soulmade หมายถึงรถที่ถูกสร้างด้วย Passion ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกในการขับขี่ สมกับที่ BMW ใช้ Slogan ว่า Sheer Driving Pleasure ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆเวลาอยู่หลังพวงมาลัย
รถคันนี้เป็นรถยุโรปคันแรก ไม่ผิดหวังเลยครับ ด้วยราคามือสองที่ตกลงมาพอสมควร และได้รถสภาพนี้ ของแต่งแบบนี้ ทำให้ผมตัดสินใจได้ไม่ยาก และที่สำคัญไปกว่านั้น ผมได้พี่ชายเพิ่มขึ้นอีกคน (เจ้าของเดิม) ทุกวันนี้เรายังนัดทานข้าว และแลกเปลี่ยนความชอบเรื่องรถยนต์กันอยู่เป็นประจำ
อยากบอกเพื่อนๆว่า ถ้ามีความฝันกับรถสักคัน หามันให้เจอครับ บางทีเหตุผลกับอารมณ์อาจเกิดขึ้นพร้อมๆกับแบบผม
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ