D segment ญี่ปุ่น นั้นทำรถดีขึ้นมากครับ (ในภาพรวมนะ )แต่ถ้า pin point ไปเลยว่า เอาเฉพาะการขับขี่ผมว่ามันก็มีคำตอบชัดเจนอยู่แล้ว เพราะ concept ของรถญี่ปุ่นระดับนี้ ( Camry ,Accord , Teana )แตกต่างจาก รถยุโรป อยู่แล้ว ( ราคาตัวรถถูกว่า, ซ่อมน่าจะถูกกว่า,ความซับซ้อนน้อยกว่า)
ใจจริง ผมไม่อยากให้เอาฟีลลิ่งมาเป็นตัวแปรหลัก เพราะแต่ละคน ความรู้สึกไม่เท่ากัน ผมเคยใช้ Mazda 3 ตัวถัง BK ปี2005รถที่ใครๆก็ชื่นชมว่าเกาะถนนมากๆ ในยุคนั้นsegment นั้น มีวันนึงมีโอกาสเอานิสสันTiida hatch back ไปขับระหว่างMazda3 เข้าซ่อม. ปรากฎว่าในโค้งเดียวกัน ที่มาสด้า ยาง 205 ขอบ 16 เข้าโค้งด้วยความเร็ว 80 km/hr เจ้าTiida ยาง 185 ขอบ 15 ก็เข้าโค้งนั้นได้ ด้วยความเร็วพอๆกัน จนผมประหลาดใจ
ถ้าเป็นไปได้ อยากลองให้ 528 i หรือ E 300 blue tech hybrid vs. D segment ญี่ปุ่น บ้านๆเช่น ACV 50 ,L33 ไปซัดโค้งในสนามบุรีรัมย์ ดูโดยใช้เงื่อนไขที่ว่า ยางเบอร์เดียวกัน. ยี่ห้อเดียวกัน ซัดดูว่าใครหลุดก่อน เผลอๆ ความเร็วก่อนหลุดโค้ง D segment ญี่ปุ่นอาจทำได้น้อยกว่า รถยุโรปแค่ บวกลบ 5 km/hr ก็เป็นได้
แต่ถ้าเอาฟีลลิ่งการขับขี่มาจับจริงๆ อยากให้เอาLexus GS รึ infinity Q50 มาลองวัดกับ ยุโรป น่าจะพอฟัดพอเหวี่ยงกว่าครับ