ผู้เขียน หัวข้อ: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง  (อ่าน 64804 ครั้ง)

ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Mazda Astina รุ่นนี้ มีรหัสตัวถัง BG ตอนที่เข้ามาประกอบขายในเมืองไทย ผมกำลังเรียนอยู่ ม.3 พอเห็นครั้งแรก ถึงกะตะลึงของรูปทรงที่ออกแนว Sport ต่างจากรถทั่วไปในสมัยนั้น โดยเฉพาะไฟหน้าแบบ Popup อันเป็นที่มาของนิคเนมที่ใช้เรียกรถรุ่นนี้ สนนราคาในยุคนั้น 720,000 บาท ถือว่าแพงเอาการ เมื่อเทียบกับรถใน Segment เดียวกันอย่าง Toyota Collola ที่ว่ากันที่ 5 แสนปลายๆ หรือเพิ่มอีก 2 หมื่นบาท ก็สามารถซื้อรถที่ใหญ่กว่าอย่าง Toyota Corona 2.0 หัวฉีด รุ่น Top เกียร์ธรรมดา ได้แล้ว ซึ่งความจริงที่บ้านผมได้จองเจ้า Corona รุ่นนี้เอาไว้แล้วอีกต่างหาก แต่พอวันแรกที่เจ้า Popup ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ผมก็รีบบอกแม่ว่า ให้ออกคันนี้แทนเถอะ ด้วยความที่ ที่บ้านก็มีเจ้า 323 XG อยู่แล้ว เลยไม่ยากที่แม่จะคล้อยตามซื้อ Mazda อีกซักคัน

ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 15:47:29 »
บังเอิญที่บ้านได้บัตรเชิญไปงานเปิดตัวเจ้า Popup นี้ด้วย แล้วก็เลยจองรถในงานเปิดตัวเลย ถ้าจะไม่ผิดจะเป็นช่วงเดือนมีนาคม ปี 90 แต่กว่าจะได้รถมาขับ ก็เดือนกันยายนโน่น นั่นหมายถึงต้องรอรถรุ่นนี้เป็นเวลา 6 เดือนเต็มนับจากวันจอง เป็นยุคที่ใบจองรถยนต์สามารเอามาขายต่อกันเกินราคาอย่างกะตั๋วผีในโรงหนัง วันแรกๆ ที่ได้รถมาทั้งบ้านก็เห่อกันซะ พ่อขับรถสวนกันกับ Astina อีกคัน พ่อเลยกระพริบไฟ Popup ทักไป แล้วทางนั้นก็กระพริบทักกลับมา ก็ดูขำๆ ดี

ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 15:48:13 »
ภายนอก
อย่างที่ได้เกริ่นไปในเบื้องต้นว่า Mazda ออกแบบรถรุ่นนี้ไว้ไปในทาง Sport มาก โดยรูปทรงจะเป็นรถ Hatch back 5 ประตู ด้านหน้าลู่ต่ำ ด้านท้ายโด่ง มีค่าค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอยู่ที่ 0.32 ไฟหน้าแบบซ่อนเก็บได้ (Popup) ตามแบบฉบับของรถ Sport ในสมัยนั้น ซึ่งผมเดาว่าได้รับอิทธิพลจากรุ่นพี่ RX-7 ไม่มากก็น้อย


ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 15:48:58 »
ด้านข้าง จะมีเส้นขอบตัวถังลากยาวจากช่วงไฟหน้ารถ ไปยังท้ายรถ กระจกบานหน้าและหลังลาดเอียง โดยประตูบานท้ายออกแบบเป็น Spoiler ในตัว และมีที่ปัดน้ำฝนหลังมาให้ด้วย

ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 15:49:32 »
มิติของตัวถัง ยาว 4,260 มม.  กว้าง 1,675 มม. สูง 1,335 มม. และระยะฐานล้อ 2,500 มม. จะเห็นว่ารถออกแนวเตี้ย แบนพอสมควร

ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 15:50:04 »
มีล้อ Alloy หน้าตาบ้านๆ ยี่ห้อ Enkei ขนาด 5.5 x 14 นิ้ว + ยาง Bridgestone RE88 ขนาด 185/60 ติดมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน (รวมทั้งล้ออะไหล่ด้วย)

ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 15:50:30 »
พูดถึงอุปกรณ์ภายนอกแล้ว เท่าที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ที่ใช้รถรุ่นนี้ พบว่ามักจะมีปัญหากาบพลาสติกหุ้มด้านนอกของเสา A แตกหัก (รถทั่วไปบริเวณนี้จะเป็นเหล็กชิ้นเดียวกับตัวถังไม่มีพลาสติกมาหุ้มเหมือน Astina) ซึ่งสนนราคาของใหม่ อยู่ที่ 2400 บาทต่อข้าง แล้วก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ ส่วนของเก่าราคาสูงแล้วก็หาได้ยากพอสมควร ถึงมีก็สภาพไม่น่าจะดีมาก ซึ่งก็มีผู้ที่คิดทำกาบเสาหน้าเป็นเหล็กแผ่นขึ้นรูป แต่ผมลองสั่งมาแล้ว ปรากฎว่า ขนาดไม่พอดีกับของเดิม ต้องแก้กันหลายรอบ กว่าจะใส่ได้ ล่าสุดมีคนสั่งทำเป็นงาน ไฟเบอร์กลาส ไม่รู้ว่าพอดีขนาดไหนนะครับ แต่ก็น่าจะเป็นทางเลือกให้คนที่กำลังหาอะไหล่ชิ้นนี้ได้เป็นอย่างดี

ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 15:51:18 »
ภายใน และทัศนวิสัย
ห้องโดยสารมีขนาดไม่ใหญ่นัก มีอุปกรณ์ที่จำเป็นในสมัยนั้นมาครบทั้ง กระจกไฟฟ้า, เซ็นทรัลล็อค, พวงมาลัย Power แบบ 3 ก้าน ปรับระดับขึ้น-ลงได้ แต่ยืดหดไม่ได้, เทป และวิทยุ กับลำโพงคู่หน้า ซึ่งคุณภาพเสียงแค่ใช้ฟังได้ ซึ่งผมว่าในปัจจุบัน ผู้ที่ใช้รถรุ่นนี้คงได้เปลี่ยนวิทยุ+ลำโพงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างรถผมเปลี่ยน Front เป็นของ Honda Jazz เน้นถูก อิอิ


ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 15:53:03 »
เบาะนั่งเป็นทรงซิ่งกึ่งๆBucket Seat ใช้วัสดุหุ้มเป็นผ้ากำมะหยี่ มีช่วง Support ต้นขา และหลัง ตำแหน่งเบาะนั่งคู่หน้าต่ำมาก และไม่สามารถปรับขึ้นลงได้

ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 15:53:54 »
เบาะด้านหลัง แม้จะมีเข็มขัดนิรภัยให้ 3 ที่นั่ง แต่ผมว่า Mazda ออกแบบให้เหมาะสำหรับ 2 คน เนื่องจากเบาะนั่งด้านหลังทางซ้ายและขวา จะเป็นหลุมลงไป หากมีผู้โดยสารนั่งตรงกลาง ก็น่าจะเป็นเด็ก หรือคนที่สูงไม่เกิน 170 cm มิเช่นนั้น หัวจะชนหลังคา

ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 15:54:26 »
มาตรวัดจะแบ่งด้านในเป็น วงกลม 3 วง พื้นดำตัวหนังสือขาว เปิดไฟเป็นสีเขียว วงซ้ายสุดเป็น นาฬิกา Digital ที่วัดระดับน้ำมัน (ซึ่งจะบอกระดับน้ำมันค้างอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าจะดึงกุญแจออก) ที่วัดอุณหภูมิเครื่องยนต์  วงกลาง เป็นวงใหญ่ เป็นตัววัดความเร็ว โดยมีตัวเลขสูงสุด 240 km/h และวงขวาสุด เป็นวัดรอบ โดยขีดแดงจะเริ่มที่ 7000 rpm มีปัญหายอดฮิตคล้ายๆ กาบเสาหน้าก็คือเรื่องกรอบไมล์ที่เป็นพลาสติกแตกหัก รถผมเนี่ย เอากาวแปะมาหลายรอบแล้ว แปะจุดนึง มันก็ไปร้าวอีกจุดนึง สงสัยต้องลองไปหุ้มเคฟล่า ดูซิจะแตกอีกมั้ย

ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 15:55:15 »
ส่วนของ Dash Board เป็นวัสุดโฟมขึ้นรูปมีไวนิลลายหนังหุ้ม ใช้โทนสีเทา ยื่นมาจากกระจกหน้าพอสมควร ซึ่งเวลาขับรถในเวลาแดดจัดๆ จะมีปัญหาแสงแดดสะท้อน Dash Board ทำให้รบกวนสายตา
พวกอุปกรณ์ สวิทช์ไฟ ก็ให้มาตามปกติที่รถทั่วไปเค้ามีกัน จะมีปุ่มกลมๆ แปลกกว่ารถทั่วไปติดอยู่ด้านขวามือของกรอบเรือนไมล์ คือ ปุ่มกดเพื่อยกไฟหน้า ((ยกโคมแต่ไฟไม่ติด)) เอาไว้สำหรับซ่อมแซมไฟหน้า ส่วนแผงควบคุมแอร์เป็นแบบเลื่อนๆ รุ่นนี้ไม่มีฮีตเตอร์ติดมา ลำพังแอร์เดิมๆ ก็ไม่ค่อยจะเย็นฉ่ำอยู่แล้ว ในส่วนของแอร์ ก็มีปัญหายอดฮิตคือ เสียงแต๊กๆๆๆๆๆๆๆ จากคอมแอร์  คอมแอร์รุ่นนี้เป็นระบบโรตารี่ ((สงสัย Mazda จะนิยมกินโรตีจิงๆ ขนาดเครื่องไม่ใช่โรตี ขอคอมเพรสเซอร์แอร์เป็นโรตีก้ยังดี)) มันมีดีที่ฉุดกำลังเครื่องน้อย แต่ข้อเสียคือ ไม่ค่อยจะทน ไม่เย็นฉ่ำเท่าพวกเดนโซ่ ที่สำคัญ สนนราคามือ 1 เนี่ย หลักหมื่นเลยทีเดียว จึงไม่ค่อยแปลกที่จะเห็นคนเอาของเดนโซ่มาแปลงใส่เวลาคอมแอร์ติดรถลาโลกไป

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 22, 2010, 16:26:16 โดย pond_v »

ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 15:56:25 »
ทัศนะวิสัยในตัวรถ ไม่ค่อยจะดีนัก เนื่องจากเบาะอยู่ในตำแหน่งเตี้ย มุมมองด้านหลังถือเป็นจุดบอดสำคัญ โดยเฉพาะอีกเสา C ซึ่งมีขนาดใหญ่มากกกก ผมว่าใหญ่ที่สุดรถเก๋งขนาดเดียวกันเลยนะเนี่ย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2010, 23:48:26 โดย pond_v »

ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 15:57:16 »
เครื่องยนต์ และสมรรถนะ
ในเมืองไทย Mazda Astina รุ่นนี้มีเครื่องยนต์และเกียร์ให้เลือกแบบเดียวคือ BPD 1.8 คู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ((ส่วนรุ่น 1.6 จะเป็นตัวถัง Sedan และมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัตินะครับ))


ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 15:58:17 »
เจ้าเครื่องตัวนี้เป็นเครื่องตระกูล BP แบบ DOHC เป็นจ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด EGI ขนาดความจุ 1,840 cc 16 วาวล์ แบบไฮดรอลิคตั้งระยะห่างโดยอัตโนมัติ, กระบอกสูบ x ช่วงชัก = 83 x 85 mm. อัตราส่วนกำลังอัด 9.8 : 1  แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า (Din) ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 16.6 กก.ม. ที่ 4,700 รอบ/นาที

อัตราทด
เกียร์ 1: 3.307
เกียร์ 2 : 1.833
เกียร์ 3 : 1.310
เกียร์ 4 : 1.030
เกียร์ 5 : 0.837
เกียร์ถอยหลัง : 3.166
อัตราทดเฟืองท้าย 4.105


ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 15:58:49 »
การขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรติดขัด จะค่อนข้างลำบาก เนื่องจากอัตราทดเกียร์ และเฟืองท้ายที่ค่อนข้างสูงทำให้ต้องเปลี่ยน เกียร์สลับกันระหว่างเกียร์ 1-2 บ่อยๆ และคลัชท์ (คันนี้ใช้ระบบน้ำมัน) ก็ค่อนข้างแข็งพอสมควร แถมรอบต่ำยังไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงซักเท่าไหร่ตอนออกตัว ถ้าปล่อยครัชท์ไม่บาลานซ์เครื่องก็พาลจะดับได้ หรือถ้าออกตัวรอบสูงไป รถก็กระโดดออกเป็นกบเลย

แม้ว่า Mazda จะออกแบบท่อร่วมไอดีให้มีระบบ VICS (Variable Inertia Charging System) ซึ่งจะเป็นระบบแปรผันท่อทางเดินอากาศให้ยาวในรอบต่ำ และสั้นในรอบสูง เหตุผลก็เพื่อให้เครื่องยนต์มีแรงบิดที่ดีตั้งแต่ช่วงรอบต่ำ แต่ผมก็ว่าเวลาเจอรถติดก็ขับยากอยู่ดี

ไฮไลท์ของรถคันนี้ ผมว่ามันอยู่ที่เวลาวิ่งทางยาวๆ เมื่อรอบเครื่องเกินกว่า 2 พันรอบเป็นต้นไป คราวนี้พละกำลังจะมาทันทีเมื่อกระดิกปลายเท้าขวา เรียกได้ว่ากดปุ๊บติดปั๊บเลยทีเดียว ในสมัยที่เครื่องยังสมบูรณ์ ผมเคยจับอัตราเร่ง 0-100 km/h แบบคร่าวๆ โดยให้เพื่อนเป็นผู้จับเวลาเทียบกับ ความเร็วบนหน้าปัทม์ อยู่ที่ประมาณ 9 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดที่เคยทำได้นั้นอยู่ที่ คือ 210 km/h ที่เกียร์ 5 กับรอบเครื่องประมาณ 7 พันรอบ++ (ณ ตอนนั้นความเร็วยังไม่หยุดขึ้น แต่หมดถนนก่อน) นับว่าเป็นรถที่รอบจัดมาก เกียร์ 1-4 สามารถลากผ่าน red line ไปถึงประมาณ 7,500 รอบ ECU จึงสั่งให้หัวฉีดหยุดจ่ายน้ำมัน ถ้าเปลี่ยนเกียร์ที่ Red Line ทุกเกียร์ จะได้ยินเสียงล้อฟรีเอี๊ยดอ๊าดตั้งแต่เกียร์ 1 ไปยันเกียร์ 3 เลย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2010, 23:50:23 โดย pond_v »

ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 16:00:05 »
อัตราการสิ้นเปลือง
รถรุ่นนี้ยังไม่มี Cat ไม่มี O2 Sensor ((Minor Change มี Cat)) ออกมาในยุคที่น้ำมันราคาลิตรละไม่ถึง 10 บาท มีพี่ผู้มีความรู้เรื่อง Mazda เป็นอย่างดี ((ตอบเวปนี้บ่อยๆ ด้วย ^^)) เคยบอกว่า กดคันเร่งที หัวฉีดมันยิง 4 หัวพร้อมกันเลย ส่วนเพื่อนเคยขับตามบอกว่า ตอนอัดๆ เห็นเขม่าออกท่อดำปี๋อย่างกะรถดีเซล พอจะเดาได้คร่าวๆ แล้วว่า ECU มันโดนสั่งให้จ่ายน้ำมันหนาพอสมควร

ผมไม่ได้ใช้วิธีทดสอบอัตราสิ้นเปลืองแบบที่คุณ J!MMY ทำ แต่ใช้วิธีหาจากการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันเฉลี่ยทั้งปี โดยปกติ ผมใช้รถ จะมีตารางการใช้น้ำมันอยู่ในรถ เวลาเติมน้ำมันจะเติมเต็มถังทุกครั้ง และกด Reset ตัวจับระยะทาง เพื่อดูปริมาณน้ำมันที่เติม เทียบกับระยะทางที่วิ่ง บางครั้งรถติดมากก็ลงไปแตะ 6 กม/ลิตร ถ้าได้วิ่งทางยาวๆ เช่นเวลาไปต่างจังหวัดก็ได้ประมาณ 11-12 กม/ลิตร ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะรถเก่ามากแล้วจึงกินน้ำมัน แต่จากการที่ได้รื้อหนังสือทดสอบรถเก่าๆ มาอ่าน พบว่าสมัยที่เค้าทดสอบรถรุ่นนี้ ก็ทำได้ในระดับใกล้เคียงกันมาก จึงไม่น่าจะเกิดจากความผิดปกติใดๆ ของเครื่องยนต์ ส่วนหนึ่งที่รถรุ่นนี้กินน้ำมันมากไปนิดก็น่าจะมาจากการจ่ายน้ำมันหนา และอัตราทดเกียร์ที่ค่อน ข้างสูง หากวิ่งด้วยความเร็ว 100 km/h ที่ตำแหน่งเกียร์ 5 จะใช้รอบเครื่องสูงถึง 3,250 rpm เลยทีเดียว

จากตารางนี้เป็นการขับขี่ในชีวิตประจำวัน จากบ้าน-ที่ทำงาน (พระราม 9 – ลาดพร้าว) และมีออกต่างจังหวัดเป็นบางครั้ง เติมน้ำมัน Gasohol E10 โดยใช้ผลเฉลี่ยเฉพาะของปี 2549 เนื่องจากเป็นปีที่เก็บตัวเลขได้ครบถ้วนที่สุด ส่วนปีถัดๆ มาผมใช้รถคันนี้สัปดาห์ละ 1-2 วัน เท่านั้น เลยไม่ได้เอามาคิดครับ

ได้ผลดังนี้ครับ วิ่งไปทั้งปี 10,875 กม. เติมน้ำมัน 1,293.15 ลิตร เฉลี่ย 8.41 กม/ลิตร

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 22, 2010, 16:01:45 โดย pond_v »

ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 16:02:17 »
ปัญหาด้านเครื่องยนต์ที่เคยพบ นอกเหนือจากการสึกหรอตามปกติ
- สมัยออกรถมาได้ซัก 3-4 ปี รถเกิด Start ไม่ติด เช็คแล้วแบตเตอร์รี่ไม่หมด มีเสียง Start แต่เครื่องยนต์ไม่ทำงาน ตามช่าง ((ไม่ควรเรียกว่าช่างเลย)) จากอู่แถวบ้านมาดู เช็คโน่น นี่ แล้วบอกว่า เครื่องพัง ต้องยกเครื่อง ตอนนั้นรถวิ่งไปไม่ถึง 60,000 km คุณพ่อรีบไล่กลับไปไม่ทัน สรุปเลยต้องลากเข้าศูนย์ Mazda ตรงซอยศูนย์วิจัย ((เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว))  ช่างที่ศูนย์ใช้เวลาเช็คเพียง 10 นาที ก็แจ้งมาว่า Relay B6S8 จ่ายน้ำมันเสีย แต่ของมือ 1 ไม่มี Stock ช่างเลยหามือสองแถวนั้นใส่ให้ชั่วคราวไปก่อน ช่างไม่คิดเงิน อ่านไม่ผิดครับ ช่างไม่คิดเงินจริงๆ  เลยให้ค่าเสียเวลาไป 100 บาท
- รถเคยสายพาน Timing ขาด จากการที่ไม่ได้นำรถเข้าไปเปลี่ยนสายพาน Timing ตามเวลาที่กำหนด ขับๆ อยู่เครื่องดับไป โชคดีที่ลูกสูบหลบ วาวล์ไม่ยันกับลูกสูบ จึงแค่เปลี่ยนสายพาน

- วาวล์รั่ว เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ขณะขับรถกลับบ้าน อยู่ดีๆ เครื่องสั่นเหมือนเดินไม่ครบสูบ ลากไปให้ช่างดู ปรากฎว่าช่างวัดกำลังอัดแล้ว สูบที่ 3 ไม่มีกำลังอัด จึงรื้อเครื่องออกมาปรากฎว่าวาวล์รั่ว ก็จัดการทำวาวล์ แล้วเลยถือโอกาส เปลี่ยนแหวนลูกสูบ ชาฟท์ก้านสูบด้วยเลยในคราวเดียวกัน แต่หลังจากทำแล้วดันมีเสียงวาวล์ดังแต๊กๆๆๆ ตลอดเวลา มีหลายคนบอกว่าให้ลองใช้น้ำมันเครื่องเบอร์หนืดๆ ผมลอง 0-50W แล้วก็ไม่หายดัง เลยปล่อยเลยตามเลย

- รอบเดินเบาสวิง อันแทบจะเป็นเรื่องปกติของ Mazda รุ่นเก่าๆ แล้ว ก็ล้างมอเตอร์เดินเบา แล้วให้ศูนย์ Mazda Tune up ให้ อาการรอบเดินเบาสวิง เบาดับก็หายไป

- ปัจจุบันมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องรอบเดินเบาสูง (1200-1500 rpm) เป็นเวลานาน ในช่วงเวลาอากาศเย็น เช่น ช่วงเช้า หรือกลางคืน ต้องใช้เวลานานประมาณ 15-20 นาที รอบเดินเบาจึงลงมาในระดับปกติ ((อันนี้ดูเหมือนคนจะเป็นเยอะ))

- เวลาน้ำมันเหลือไม่ถึง ¼ ของถัง แล้วกลับรถหรือเลี้ยวขวาแรงๆ รถจะวูบ คล้ายน้ำมันมาไม่ทัน เป็นเฉพาะเลี้ยวขวานะ เลี้ยวซ้ายไม่เป็น ((อันนี้ก็เจอกันหลายคน))


ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 16:02:52 »
ช่วงล่าง และระบบกันสะเทือน
ทั้งด้านหน้า และด้านหลังเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท อิสระ 4 ล้อ โดยจุดเด่นของระบบช่วงล่างของ Mazda ในสมัยนั้นอยู่ที่ด้านหลัง ที่ Mazda เรียกว่า TTL (Twin Trapezoidal Link) หรือปีนกคู่สัมพันธ์ ที่ได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมแห่งปีของญี่ปุ่นในยุคนั้นมาแล้ว


ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 16:03:28 »
เท่าที่ผมอ่านจาก Mazda Magazine เข้าใจว่า ระบบนี้มันมีดีตรงที่บูชยางของคานล้อหลัง เค้าออกแบบให้มีด้านนึงแข็ง ด้านนึงนิ่ม ดังนั้น เวลามีแรงมากระทำด้านข้างเช่นเวลาเลี้ยว หรือมีแรงกระทำจากแนวด้านหน้าเช่นเวลาเบรค บูชยางด้านที่นิ่มจะยุบตัวลง ส่วนด้านที่แข็งก็จะขืนแรงกระทำ เป็นผลให้ล้อหลังเกิดมุม Toe in ได้ประมาณ 1 องศา ผมจำได้ว่ารถ Mazda 626 ยุคนั้นเคยมีโฆษณาว่า ใช้ระบบเลี้ยว 4 ล้อ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วก็เป็นการใช้ช่วงล่างแบบ TTL ให้เกิดมุมเลี้ยว ไม่ได้เป็นการเลี้ยว 4 ล้อจริงๆ แบบ ที่มีใน Mazda 929

อย่างไรก็ ดีการที่มีช่วงล่างแบบนี้ ผนวกกับการ Set ช็อคอัพ และสปริงไว้ค่อนข้างแข็ง ((พี่ที่รู้เรื่อง Mazda ท่านเดิมบอกว่าค่า K ของสปริงเจ้า Popup นี่ สูงกว่าของ Mazda3 อีก)) แถมด้วยเหล็กกันโคลงดุ้นบะเร่อ ก็ทำให้ Mazda ขึ้นชื่อเรื่องการเกาะถนนมากกว่ารถญี่ปุ่นในระดับเดียวกัน ซึ่งจากการที่ได้สัมผัสมาก็น่าจะจริงอยู่ ทั้งเรื่องของความแข็งสะเทือนดึ๋งดั๋ง และเกาะถนน แต่ทั้งนี้รถทุกคันมันก็มี Limit อยู่ หากเข้าโค้งไปแรงๆ ก็จะเจออาการ Understeer  แล้วถ้าขับมาเร็วมากๆ แล้วเปลี่ยนเลนกระทันหัน ไอ้ระบบ TTL นี่ มันก็ช่วยไม่ได้ หรอก ก้นส่ายไปมาไม่เป็นท่าเลย เจอมาแว้ววววว -_-“


เนื่องจากมีบางท่านอาจจะยังไม่เห็นภาพระบบ TTL เลยมาอธิบายเพิ่มเติมนะครับ ไป Scan รูปจาก Mazda Magazine ฉบับที่ 5 ปี 2534 มาด้วย

เจ้า TTL เนี่ยได้รับรางวัลสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมแห่งประเทศญี่ปุ่นประจำปี 1988 โดยมีหลักการทำงานง่ายๆ แต่มีประสิทธิภาพคือ การออกแบบบูชยางหลังพิเศษ จะมีบางส่วนที่แข็ง และบางส่วนที่นิ่ม

ลองดูภาพที่ 1 ครับ ภาพนี้เป็นช่วงล่างหลังซ้าย เมื่อมองจากด้านบน จะมีภาพขยายของบูชยางหลัง ส่วนที่ Hilight สีดำ นั่นเป็นส่วนที่แข็งของบูชยาง ส่วนที่ไม่ได้ Hilight เป็นส่วนที่นิ่ม

ภาพที่ 2 เป็นภาพเมื่อมีแรงกระทำจากทั้งด้านนอก และด้านในของล้อหลัง ((เวลาเข้าโค้ง จะมีแรงกระทำจากด้านข้างของล้อ)) เมื่อมีแรงมากระทำ ส่วนของบูชยางที่แข็ง ก็จะไม่ยุบตัว แต่ส่วนของบูชยางที่นิ่มจะยุบตัวลงไป นั่นทำให้ล้อหลังเกิดเป็นมุม Toe in โดยดูได้จากล้อที่ไม่ใช่เส้นประครับ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2010, 23:38:18 โดย pond_v »

ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 16:03:59 »
พวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ ที่ค่อนข้างต้องใช้แรงในการหมุนมากกว่ารถหลายๆ รุ่น และจะยิ่งหน่วงมือเมื่อใช้ความเร็วสูงขึ้น ซึ่งผมก็ชอบ เว้นแต่เวลาจอดรถในอาคาร ก็เมื่อยแขนอยู่เหมือนกัน พวงมาลัยมีความไวอยู่มากกว่ารถญี่ปุ่นในยุคนั้นที่ผมเคยขับไม่ว่าจะเป็น Civic เตารีด หรือ Collola 3 ห่วง อันนี้เอาไว้มุดได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเทียบกับรถในปัจจุบันอย่าง Mazda 3 แล้ว ผมว่า Mazda 3 ไวกว่ากันนิดหน่อย

ระบบเบรค รุ่นที่ผมซื้อเป็น Disc เบรค 4 ล้อ โดยที่ล้อหน้าเป็นแบบมีช่องระบายความร้อนไม่มีระบบ ABS ((รุ่น minor change มี ABS)) เท่าที่เคยเหยียบเบรคกระทันหันมา ในอดีตพบว่า มีอาการล้อล็อค แต่รถไม่มีแถออกด้านข้างเลย ความรู้สึกในการเบรค จะค่อนข้างแข็งไม่หยุ่นเท้าเหมือนพวกรถยุโรป หรือรถยนต์รุ่นใหม่ๆ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร หยุดรถได้ดีทั้งตอนขับเร็ว ขับช้า


ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 16:04:36 »
ปัญหาจากระบบช่วงล่างที่เคยพบ นอกเหนือจากการสึกหรอตามปกติ
- เมื่อประมาณ หนึ่งปีก่อนหน้านี้ เอารถไปเปลี่ยนยางตั้งศูนย์ ช่างไม่ยอมตั้งให้ บอกว่า ให้ไปซ่อมก่อน เพราะคอม้าบริเวณรูยึดลูกหมากปีกนกมันสึกมากจนไม่สามารถจับลูกหมากเอาไว้ แม้จะไขน๊อตจนแน่นแล้ว ก็เลยให้ช่างหาคอม้ามาเปลี่ยน ปรากฎว่าหาของตรงรุ่นไม่ได้ ไปดูที่เซียงกงก็เจอแต่ของตัวเครื่อง 1.5 ในญี่ปุ่นซึ่งขนาดของจานเบรคจะเล็กกว่าของบ้านเรา ในที่สุดเลยตัดสินใจเปลี่ยนเอาของรุ่นตาตี่ใส่แทนทั้ง 2 ข้าง ก็ใส่แทนกันได้ครับ แต่ต้องเปลี่ยนลูกหมากปีกนกด้วย เพราะขนาดลูกหมากของตาตี่จะใหญ่กว่าของ Popup

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 23, 2010, 14:37:53 โดย pond_v »

ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 16:06:13 »
สรุป
เรื่องรูปร่างหน้าตา ที่แม้จะผ่านมา เกือบ 20 ปีแล้ว ก็ยังดูเป็นรถ Sport ยังขับได้สนุกอยู่มากจริงๆ ถ้าจะบอกว่ารถคันนี้อายุระดับคุณป้า แต่ก็คงเป็นคุณป้าที่ไม่ยอมเข้าสู่วัยทองกันล่ะครับ ทั้งในเรื่องรูปทรง ที่ยังดูไม่โบราณ, เรื่องเครื่องยนต์นี่ บอกได้เลยว่ามันส์กว่า Mazda3 1.6 แยะ หุหุ พละกำลังเหลือเฟือ  อาจจะกินน้ำมันไปนิด แต่ถ้าวิ่งทางไกลๆ ก็เรียกได้ว่าพอทน ((แต่อย่าเผลอมันส์ ลืมตัวกดคันเร่งกันหนักๆ นะครับ ไม่งั้นจะได้เห็นเข็มน้ำมันลดฮวบๆ เลยล่ะ)), ช่วงล่างดีเกาะถนน ให้ความรู้สึกแข็งกระด้างกว่ารถญี่ปุ่นในระดับเดียวกัน แต่ก็มี Limit นะครับ ถ้าจะเล่นกันแรงๆ ก็ต้องรู้ว่ารถเรามันรับได้ที่เท่าไหร่ ไม่ใช่แค่บอกว่ารถ Mazda เกาะถนนก็ใส่กันเข้าไป อย่างนี้ก็ได้กินหญ้ากันซักโค้งแหงๆ  ที่สำคัญราคาปัจจุบันซื้อขายกันที่ 7 หมื่น ถึงแสนต้นๆ ผมเก็บไว้ใช้เป็นรถสำรองดีกว่า เรื่องอะไหล่ก็ยังพอหาได้อยู่แต่บางชิ้นก็หายาก บางชิ้นก็พอจะหาเทียบจาก Astina รุ่นตาตี่ หรือรหัส BA ได้ และนี่คือเหตุผลที่ผมไม่ขายรถคันนี้ทั้งๆ ที่ซื้อ Mazda 3 แล้ว



Review By Pond  ;D
Latest Edition 22/01/10


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 23, 2010, 14:46:05 โดย pond_v »

YF-19

  • บุคคลทั่วไป
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 16:22:13 »
จบแล้วหรือครับ รถยังสวยอยู่เลย ขนาดหลายปีแล้ว รูปทรงแบบนี้ผมชอบมากครับ รีวิวดีมีรายละเอียดที่ไม่ใช้ไม่รู้อยู่เต็มไปหมด
ขอบคุณครับ ;D ;D ;D

roomno9

  • บุคคลทั่วไป
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 16:28:36 »
เกิดทันเหมืนกัน รุ่นนี้

ขอบคุณที่รีวิวครับ

ออฟไลน์ Lookkaew

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 720
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 17:20:26 »
อิอิ ตอนนั้นยังเรียนอยู่ประถมอยู่เลยครับ
รีวิวได้ละเอียดมากๆ อ่านเรื่อง TTL แล้วพอเข้าใจ แต่ก็ยังงงๆ อยู่ครับ

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,615
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 17:20:58 »
ก่อนอื่น ขอขอบคุณ คุณปอนด์ วุฒิพันธ์ มากๆนะครับ
ที่นำรีวิว รถตัวเองมาลง

รีวิว นี้ อันที่จริง ก็อยู่ในเว็บ"เดิม" ที่ผมเคยทำงานอยู่นั่นละ

แต่การที่เจ้าของเรื่อง ยินดีเอามาลงในเว็บเรา
โดยที่ทางคุณปอนด์ ก็ติดต่อมาหาผมเอง
แถมยังเพิ่มรูปต่างๆเข้าไปอีกด้วยเยอะแยะนั้น

มันแสดงให้เห็นถึงอะไรบางอย่างได้เหมือนกันแหะ..

ขอบคุณมากครับ คุณปอนด์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 22, 2010, 17:23:10 โดย J!MMY »

Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 17:28:42 »
มิน่าหละผมว่ารถคุ้นๆ ;D

เมื่อตอนผมเด็กๆบ้านผมก็เคยมีรุ่นนี้อยู่คันนึงเหมือนกัน เป็นสีน้ำเงิน

แต่ก็ขอบคุณมากครับที่นำมาทำให้ผมระลึกถึงรถคันนั้น

ออฟไลน์ pond_v

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 17:34:12 »
ขอบคุณทุก Comment นะครับ

ส่วนท่านที่ถามเรื่อง TTL เดี๋ยวผมไปหา Mazda Mag เล่มนั้นเจอก่อน แล้วจะมา Scan ภาพให้ดูครับ ผมอ่านหลายรอบเลย กว่าจะเข้าใจหลักการมัน

ออฟไลน์ volvolover

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 809
  • mitsudriver
    • อีเมล์
Re: User's Review : Mazda Astina Popup คุณป้าที่ไม่ยอมถึงวัยทอง
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 17:40:10 »
เคยอ่านตั้งแต่เวบนั้น
มาถึงตอนนี้ อัพเดต ข้อมูลได้ดีครับ

เล็งรุ่นนี้ไว้เหมือนกัน
แต่เพราะมันดูเก่าแล้ว ตอนนี้ใจไป mazda lantis
2011 Mitsubishi Lancer EX 1.8 GLS-Ltd.
2013 Honda City SV
2013 Toyota Prius TOP Option