บีเอ็ม ที่ผมชอบ ๆมีหลายรุ่น แต่รุ่นหลัง ๆ ไม่ค่อยชอบ เนื่องจากเน้นการออกแบบหน้าดุ ตาเหยี่ยว แต่ผมชอบหน้าตาเรียบร้อยหวานหน่อย ๆ โดยเฉพาะมีอายไลเนอร์ที่โค้งสวยถูกใจมากที่สุด
ตอนนี้เฝ้ามองดูอยู่ ศึกษารายละเอียด การดูแล แต่ก็ไม่แตกนัก ตัวที่ผมมองอยู่คือ 525 ไอ เครื่อง เอ็ม 54 ปี 2005
1. อยากทราบอู่ที่น่าเชื่อถือได้ ละแวกปริมณฑลด้านเหนือ รามอินทรา ลำลูกกา รังสิต....
2. เครื่อง เอ็ม 54 กับเครื่องรุ่นใหม่กว่า คือ เอ็น 52 แตกต่างกันเยอะไหม ที่อ่าน ๆ มา บอกเอ็มทนกว่า ลงแก๊สดีกว่า....ถูกต้องหรือเปล่าครับ...
3. ค่าดูแล เช่นแร็ก ที่บอกว่า 0 แสนเศษ อู่(ซื้อแถววัดโสม) คุณภาพเดียวกัน สามสี่หมื่น ....คอมแอร์ 0 แปดหมื่น อู่ หมื่นเศษ ใกล้เคียงตามนี้หรือไม่? หากค่าดูแลประมาณอู่ คิดว่าคงพอเป็นเจ้าของได้ แต่หากดูแล แบบ 0 ผมคงรับไม่ไหว
4. ตอนนี้ตกลงใจว่าคันที่ใช้อยู่ ส่งต่อให้ลูกแน่นอน ส่วนคันใหม่ ก็กำลังตัดสินใจ ทางเลือก จาก ซาบ กับวอลโว่ เปลี่ยน เป็น ซาบมาเทียบกับ บีเอ็มมั่ง...ก่อนตัดสินใจอีกที แต่ราคา ก็ ต่างกันเท่าตัว.....
......ขอบคุณทุกความเห็นครับ
1.. อู่ผมขอผ่านนะ ไม่กล้าแนะนำ
2. M54 ยังเป็น ระบบ VANOS ที่ปรับไอดีไอเสียเหมือน VVTI, VTEC อยู่นั่นแหละครับ ไม่มีการกดวาล์วแบบLinear เพื่อควบคุมปริมาตรการไหลของอากาศ เป็นการทำเพื่อแก้ Pumping loss ในรอบสูงรอบต่ำเท่านั้นเอง ส่วนเครื่อง N52 เป็น Valvetronic แล้วคือนอกจากการปรับจังหวัดเปิดปิดวาล์ว ยังมีการควบคุมการไหลเข้าออกของกาศด้วย ด้วยเหตุนี้เวลาเหยียบคันเร่งแทนทีจะปรับลิ้นปีกผีเสื้อ มันจะเน้นไปปรับวาล์วให้เปิดมากน้อยแทน ลิ้นปีกผีเสื้อก็เลยถูกเปิดค้างเกือบสุดตลอดเวลา ไม่มี Vacuum เกิดมากพอจะเอาไปขับระบบเบรค ก็เลยต้องมีปั๊มVacuum ไว้
ระบบแก๊ซส่วนใหญ่จะอ่านค่าแรงดูดของสูบเพื่อไปคำนวนการจ่ายแก๊ศ แต่เนื่องจากN52 ไม่มีแรงดูด ช่างแก็ซที่ไม่รู้เรื่องก็เลยทำไม่เป็น ติดแก๊ซกันมั่ว ๆ เครื่องยนต์ก็เสียหายครับ ถึงกระนั้น N52 ก็ไม่ใช่้เครื่องยนต์ที่ทนอะไรเพราะชิ้นส่วนของ Valve มีการปรับอยู่ตลอดจึงทำให้อายุมันสั้น
ประกอบกับตัวเสื้อสูบเป็นการหล่อแบบสองชั้น ดูในรูปครับ
ชั้นในที่เป็นเสื้อสูบ ทางน้ำทางเดินน้ำมันจะเป็น Aluminum ล้วน ๆ แล้วพอมันได้รูปก็จะไปหล่อกับส่วนที่เป็นเสื้อด้านนอกที่ทำจาก Magensium Aluminum อีกชั้น พอมันเป็นเสื้อสองชั้น การยืดหดของโลหะที่ความร้อนสูงมันก็ไม่เท่ากัน ก็เลยต้องใช้น็อตยึดฝาสูบเสื้อสูบฝาวาล์วแบบพิเศษ พอช่างไปเปิดฝาทำ แล้วไม่ได้เปลี่ยนน็อต น้ำมันเครื่องก็มักซึม น้ำมันข้ามไปน้ำเป็นต้น
ปัญหามันเยอะ เขาก็เลยยกเลิก N42,N52 ทิ้งไป เอาระบบ Turbo มาใช้แทน Valvetronic เป็นการลด Pumping loss อีกทางหนึ่ง ตั้งรหัสใหม่ว่า N54 แต่เครื่อง N54 นี่มันก็มีเรื่องราวสนุก ๆ อีกเยอะครับ เพราะการใช้เทอร์โบสองตัว บนไอเสียสองชุด คือสูบ 1-3 และ สุบ 4-6 ก็ต้องมีการทำ Balance exhaust อีก เคยแปะLink ไว้นะครับ ขี้เกียจซ้ำ เดียวจะเบื่อกันซะก่อน ลองหาดูครับ
3. ค่าดูแลแร็ก ถ้ามีปัญหาซื้อของเซียงกงครับ แต่มันมีรุ่นที่ไม่ Active steering ก็สามารถซ่อมแร็คได้ตามปรกติ สำหรับe60 รุ่น M54 ผมไม่แน่ใจว่าเป็นรถจาก BMW Thailand หรือ Grey แต่เคยเห็นตัวเป็น ๆ มาแล้ว เป็นแร็คพวงมาลัยเพาวเวอร์ปรกตินี่ล่ะครับบนเครื่อง M54
4. อันนี้เอาที่ชอบครับ ผมคงตอบแทนคุณไม่ได้ ภาวะการเงิน ถ้าไม่ลำบากเกินไป เล่น BMW ซ่อมง่ายกว่า SAAB ครับ เครื่อง M54 ไม่ได้ซ่อมบ่อยดูแลยากอะไร อะไหล่เซียงกงก็มี อะไหล่ใหม่ก็มาก ห่วงระบบต่อพ่วงมากกว่า DSC, MRS, จอ idrive อะไรพวกนี้ล่ะครับ หลักหลายหมื่นทุกอัน เซียงกงก็รู้ว่ามันแพงก็เลยตั้งแพงไปด้วย