ผู้เขียน หัวข้อ: ขอคำชี้แนะ เรื่อง e 60 525i  (อ่าน 10335 ครั้ง)

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,501
ขอคำชี้แนะ เรื่อง e 60 525i
« เมื่อ: ธันวาคม 29, 2014, 11:09:35 »
     บีเอ็ม ที่ผมชอบ ๆมีหลายรุ่น  แต่รุ่นหลัง ๆ  ไม่ค่อยชอบ  เนื่องจากเน้นการออกแบบหน้าดุ  ตาเหยี่ยว  แต่ผมชอบหน้าตาเรียบร้อยหวานหน่อย ๆ โดยเฉพาะมีอายไลเนอร์ที่โค้งสวยถูกใจมากที่สุด   

ตอนนี้เฝ้ามองดูอยู่  ศึกษารายละเอียด  การดูแล  แต่ก็ไม่แตกนัก     ตัวที่ผมมองอยู่คือ  525 ไอ   เครื่อง  เอ็ม  54  ปี  2005

1.  อยากทราบอู่ที่น่าเชื่อถือได้  ละแวกปริมณฑลด้านเหนือ  รามอินทรา  ลำลูกกา  รังสิต....
2.  เครื่อง เอ็ม 54  กับเครื่องรุ่นใหม่กว่า  คือ เอ็น 52  แตกต่างกันเยอะไหม   ที่อ่าน ๆ มา  บอกเอ็มทนกว่า  ลงแก๊สดีกว่า....ถูกต้องหรือเปล่าครับ...
3.  ค่าดูแล  เช่นแร็ก  ที่บอกว่า 0   แสนเศษ   อู่(ซื้อแถววัดโสม) คุณภาพเดียวกัน สามสี่หมื่น  ....คอมแอร์  0  แปดหมื่น  อู่  หมื่นเศษ  ใกล้เคียงตามนี้หรือไม่?   หากค่าดูแลประมาณอู่  คิดว่าคงพอเป็นเจ้าของได้  แต่หากดูแล แบบ 0  ผมคงรับไม่ไหว
4.  ตอนนี้ตกลงใจว่าคันที่ใช้อยู่  ส่งต่อให้ลูกแน่นอน  ส่วนคันใหม่  ก็กำลังตัดสินใจ  ทางเลือก  จาก ซาบ กับวอลโว่  เปลี่ยน เป็น  ซาบมาเทียบกับ บีเอ็มมั่ง...ก่อนตัดสินใจอีกที  แต่ราคา  ก็ ต่างกันเท่าตัว.....

......ขอบคุณทุกความเห็นครับ

ออฟไลน์ hispza

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 346
Re: ขอคำชี้แนะ เรื่อง e 60 525i
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2014, 12:32:59 »
เรื่องเครื่องผมคดว่าเล่นเครื่องใหม่น่าจะดีกว่านะ ตอน Lci มันแก้จุดบอดหลายๆอย่างนะครับไม่ใช่แค่เครื่อง ทำให้ การดูแลรักษาง่ายขึ้นถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นพวกการเปลี่ยยนหลอดไฟหน้าและ air filter ที่จะทำได้ง่ายขึ้น ส่วนเรื่องแก๊สผมไม่ค่อยแนะนำครับคิดว่าหากล่อง E85 แบบ auto แท้ๆติดดีกว่าเครื่องไม่ร้อนเกินเหมือนแก๊สด้วย

ออฟไลน์ paulmoderndog

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,780
    • อีเมล์
Re: ขอคำชี้แนะ เรื่อง e 60 525i
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2014, 12:36:17 »
ถ้าชอบ ผมว่าถามใน bmwsociey ด้วยก็ดีครับ
ส่วนตัว รถตะวันตกเมื่อ10ปีที่แล้ว เครื่องใหญ่ ออกตัวช้า

ผมว่า เล็กสั้นน่าสนใจกว่าครับ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: ขอคำชี้แนะ เรื่อง e 60 525i
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2014, 12:59:11 »
     บีเอ็ม ที่ผมชอบ ๆมีหลายรุ่น  แต่รุ่นหลัง ๆ  ไม่ค่อยชอบ  เนื่องจากเน้นการออกแบบหน้าดุ  ตาเหยี่ยว  แต่ผมชอบหน้าตาเรียบร้อยหวานหน่อย ๆ โดยเฉพาะมีอายไลเนอร์ที่โค้งสวยถูกใจมากที่สุด   

ตอนนี้เฝ้ามองดูอยู่  ศึกษารายละเอียด  การดูแล  แต่ก็ไม่แตกนัก     ตัวที่ผมมองอยู่คือ  525 ไอ   เครื่อง  เอ็ม  54  ปี  2005

1.  อยากทราบอู่ที่น่าเชื่อถือได้  ละแวกปริมณฑลด้านเหนือ  รามอินทรา  ลำลูกกา  รังสิต....
2.  เครื่อง เอ็ม 54  กับเครื่องรุ่นใหม่กว่า  คือ เอ็น 52  แตกต่างกันเยอะไหม   ที่อ่าน ๆ มา  บอกเอ็มทนกว่า  ลงแก๊สดีกว่า....ถูกต้องหรือเปล่าครับ...
3.  ค่าดูแล  เช่นแร็ก  ที่บอกว่า 0   แสนเศษ   อู่(ซื้อแถววัดโสม) คุณภาพเดียวกัน สามสี่หมื่น  ....คอมแอร์  0  แปดหมื่น  อู่  หมื่นเศษ  ใกล้เคียงตามนี้หรือไม่?   หากค่าดูแลประมาณอู่  คิดว่าคงพอเป็นเจ้าของได้  แต่หากดูแล แบบ 0  ผมคงรับไม่ไหว
4.  ตอนนี้ตกลงใจว่าคันที่ใช้อยู่  ส่งต่อให้ลูกแน่นอน  ส่วนคันใหม่  ก็กำลังตัดสินใจ  ทางเลือก  จาก ซาบ กับวอลโว่  เปลี่ยน เป็น  ซาบมาเทียบกับ บีเอ็มมั่ง...ก่อนตัดสินใจอีกที  แต่ราคา  ก็ ต่างกันเท่าตัว.....

......ขอบคุณทุกความเห็นครับ

1.. อู่ผมขอผ่านนะ ไม่กล้าแนะนำ
2. M54 ยังเป็น ระบบ VANOS ที่ปรับไอดีไอเสียเหมือน VVTI, VTEC อยู่นั่นแหละครับ ไม่มีการกดวาล์วแบบLinear เพื่อควบคุมปริมาตรการไหลของอากาศ เป็นการทำเพื่อแก้ Pumping loss ในรอบสูงรอบต่ำเท่านั้นเอง ส่วนเครื่อง N52 เป็น Valvetronic แล้วคือนอกจากการปรับจังหวัดเปิดปิดวาล์ว ยังมีการควบคุมการไหลเข้าออกของกาศด้วย ด้วยเหตุนี้เวลาเหยียบคันเร่งแทนทีจะปรับลิ้นปีกผีเสื้อ มันจะเน้นไปปรับวาล์วให้เปิดมากน้อยแทน ลิ้นปีกผีเสื้อก็เลยถูกเปิดค้างเกือบสุดตลอดเวลา ไม่มี Vacuum เกิดมากพอจะเอาไปขับระบบเบรค ก็เลยต้องมีปั๊มVacuum ไว้

ระบบแก๊ซส่วนใหญ่จะอ่านค่าแรงดูดของสูบเพื่อไปคำนวนการจ่ายแก๊ศ แต่เนื่องจากN52 ไม่มีแรงดูด ช่างแก็ซที่ไม่รู้เรื่องก็เลยทำไม่เป็น ติดแก๊ซกันมั่ว ๆ เครื่องยนต์ก็เสียหายครับ ถึงกระนั้น N52 ก็ไม่ใช่้เครื่องยนต์ที่ทนอะไรเพราะชิ้นส่วนของ Valve มีการปรับอยู่ตลอดจึงทำให้อายุมันสั้น



ประกอบกับตัวเสื้อสูบเป็นการหล่อแบบสองชั้น  ดูในรูปครับ


ชั้นในที่เป็นเสื้อสูบ ทางน้ำทางเดินน้ำมันจะเป็น Aluminum ล้วน ๆ แล้วพอมันได้รูปก็จะไปหล่อกับส่วนที่เป็นเสื้อด้านนอกที่ทำจาก Magensium Aluminum อีกชั้น พอมันเป็นเสื้อสองชั้น การยืดหดของโลหะที่ความร้อนสูงมันก็ไม่เท่ากัน ก็เลยต้องใช้น็อตยึดฝาสูบเสื้อสูบฝาวาล์วแบบพิเศษ พอช่างไปเปิดฝาทำ แล้วไม่ได้เปลี่ยนน็อต น้ำมันเครื่องก็มักซึม น้ำมันข้ามไปน้ำเป็นต้น


ปัญหามันเยอะ เขาก็เลยยกเลิก N42,N52 ทิ้งไป เอาระบบ Turbo มาใช้แทน Valvetronic เป็นการลด Pumping loss อีกทางหนึ่ง ตั้งรหัสใหม่ว่า N54 แต่เครื่อง N54 นี่มันก็มีเรื่องราวสนุก ๆ อีกเยอะครับ เพราะการใช้เทอร์โบสองตัว บนไอเสียสองชุด คือสูบ 1-3 และ สุบ 4-6 ก็ต้องมีการทำ Balance exhaust อีก เคยแปะLink ไว้นะครับ ขี้เกียจซ้ำ เดียวจะเบื่อกันซะก่อน ลองหาดูครับ

3. ค่าดูแลแร็ก ถ้ามีปัญหาซื้อของเซียงกงครับ แต่มันมีรุ่นที่ไม่ Active steering ก็สามารถซ่อมแร็คได้ตามปรกติ สำหรับe60 รุ่น M54 ผมไม่แน่ใจว่าเป็นรถจาก BMW Thailand หรือ Grey แต่เคยเห็นตัวเป็น ๆ มาแล้ว เป็นแร็คพวงมาลัยเพาวเวอร์ปรกตินี่ล่ะครับบนเครื่อง M54

4. อันนี้เอาที่ชอบครับ ผมคงตอบแทนคุณไม่ได้ ภาวะการเงิน ถ้าไม่ลำบากเกินไป เล่น BMW ซ่อมง่ายกว่า SAAB ครับ เครื่อง M54 ไม่ได้ซ่อมบ่อยดูแลยากอะไร อะไหล่เซียงกงก็มี อะไหล่ใหม่ก็มาก ห่วงระบบต่อพ่วงมากกว่า DSC, MRS, จอ idrive อะไรพวกนี้ล่ะครับ หลักหลายหมื่นทุกอัน เซียงกงก็รู้ว่ามันแพงก็เลยตั้งแพงไปด้วย

ออฟไลน์ Meow

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 307
Re: ขอคำชี้แนะ เรื่อง e 60 525i
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2014, 13:09:08 »
ขอสอบถามด้วยครับ เห็นว่า E60 กับ E90 ถ้าเล่นมือสอง ต้องเตรียม งบไว้ ซัก แสนกลางๆ ไว้สำหรับ  เปลี่ยน เกียร์ด้วย ใช่รึเปล่าครับ เห็นว่าเป็นกันทุกคัน

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: ขอคำชี้แนะ เรื่อง e 60 525i
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2014, 14:14:59 »
ขอสอบถามด้วยครับ เห็นว่า E60 กับ E90 ถ้าเล่นมือสอง ต้องเตรียม งบไว้ ซัก แสนกลางๆ ไว้สำหรับ  เปลี่ยน เกียร์ด้วย ใช่รึเปล่าครับ เห็นว่าเป็นกันทุกคัน

รถคันไหนเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามตารางของศูนย์ เกียร์มีโอกาศพังมากครับ ล่าสุดเห็นแนะนำเปลี่ยนที่ 2 แสนกิโลเมตร มันนานเกินไป

ช่างหรือคนที่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำการทดสอบการทำงานของเกียร์ได้โดยไม่ต้องขับครับ เอาคอมไปเสียบก็รู้แล้วว่าเกียร์ดี หรือเกียร์กำลังจะพัง

ออฟไลน์ nuntapon.s

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,912
    • อีเมล์
Re: ขอคำชี้แนะ เรื่อง e 60 525i
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2014, 16:44:31 »
E60เนี่ยนะครับหน้าเรียบร้อย หวานหน่อยๆ ;D

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,501
Re: ขอคำชี้แนะ เรื่อง e 60 525i
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2014, 18:26:59 »
     บีเอ็ม ที่ผมชอบ ๆมีหลายรุ่น  แต่รุ่นหลัง ๆ  ไม่ค่อยชอบ  เนื่องจากเน้นการออกแบบหน้าดุ  ตาเหยี่ยว  แต่ผมชอบหน้าตาเรียบร้อยหวานหน่อย ๆ โดยเฉพาะมีอายไลเนอร์ที่โค้งสวยถูกใจมากที่สุด   

ตอนนี้เฝ้ามองดูอยู่  ศึกษารายละเอียด  การดูแล  แต่ก็ไม่แตกนัก     ตัวที่ผมมองอยู่คือ  525 ไอ   เครื่อง  เอ็ม  54  ปี  2005

1.  อยากทราบอู่ที่น่าเชื่อถือได้  ละแวกปริมณฑลด้านเหนือ  รามอินทรา  ลำลูกกา  รังสิต....
2.  เครื่อง เอ็ม 54  กับเครื่องรุ่นใหม่กว่า  คือ เอ็น 52  แตกต่างกันเยอะไหม   ที่อ่าน ๆ มา  บอกเอ็มทนกว่า  ลงแก๊สดีกว่า....ถูกต้องหรือเปล่าครับ...
3.  ค่าดูแล  เช่นแร็ก  ที่บอกว่า 0   แสนเศษ   อู่(ซื้อแถววัดโสม) คุณภาพเดียวกัน สามสี่หมื่น  ....คอมแอร์  0  แปดหมื่น  อู่  หมื่นเศษ  ใกล้เคียงตามนี้หรือไม่?   หากค่าดูแลประมาณอู่  คิดว่าคงพอเป็นเจ้าของได้  แต่หากดูแล แบบ 0  ผมคงรับไม่ไหว
4.  ตอนนี้ตกลงใจว่าคันที่ใช้อยู่  ส่งต่อให้ลูกแน่นอน  ส่วนคันใหม่  ก็กำลังตัดสินใจ  ทางเลือก  จาก ซาบ กับวอลโว่  เปลี่ยน เป็น  ซาบมาเทียบกับ บีเอ็มมั่ง...ก่อนตัดสินใจอีกที  แต่ราคา  ก็ ต่างกันเท่าตัว.....

......ขอบคุณทุกความเห็นครับ

1.. อู่ผมขอผ่านนะ ไม่กล้าแนะนำ
2. M54 ยังเป็น ระบบ VANOS ที่ปรับไอดีไอเสียเหมือน VVTI, VTEC อยู่นั่นแหละครับ ไม่มีการกดวาล์วแบบLinear เพื่อควบคุมปริมาตรการไหลของอากาศ เป็นการทำเพื่อแก้ Pumping loss ในรอบสูงรอบต่ำเท่านั้นเอง ส่วนเครื่อง N52 เป็น Valvetronic แล้วคือนอกจากการปรับจังหวัดเปิดปิดวาล์ว ยังมีการควบคุมการไหลเข้าออกของกาศด้วย ด้วยเหตุนี้เวลาเหยียบคันเร่งแทนทีจะปรับลิ้นปีกผีเสื้อ มันจะเน้นไปปรับวาล์วให้เปิดมากน้อยแทน ลิ้นปีกผีเสื้อก็เลยถูกเปิดค้างเกือบสุดตลอดเวลา ไม่มี Vacuum เกิดมากพอจะเอาไปขับระบบเบรค ก็เลยต้องมีปั๊มVacuum ไว้

ระบบแก๊ซส่วนใหญ่จะอ่านค่าแรงดูดของสูบเพื่อไปคำนวนการจ่ายแก๊ศ แต่เนื่องจากN52 ไม่มีแรงดูด ช่างแก็ซที่ไม่รู้เรื่องก็เลยทำไม่เป็น ติดแก๊ซกันมั่ว ๆ เครื่องยนต์ก็เสียหายครับ ถึงกระนั้น N52 ก็ไม่ใช่้เครื่องยนต์ที่ทนอะไรเพราะชิ้นส่วนของ Valve มีการปรับอยู่ตลอดจึงทำให้อายุมันสั้น



ประกอบกับตัวเสื้อสูบเป็นการหล่อแบบสองชั้น  ดูในรูปครับ


ชั้นในที่เป็นเสื้อสูบ ทางน้ำทางเดินน้ำมันจะเป็น Aluminum ล้วน ๆ แล้วพอมันได้รูปก็จะไปหล่อกับส่วนที่เป็นเสื้อด้านนอกที่ทำจาก Magensium Aluminum อีกชั้น พอมันเป็นเสื้อสองชั้น การยืดหดของโลหะที่ความร้อนสูงมันก็ไม่เท่ากัน ก็เลยต้องใช้น็อตยึดฝาสูบเสื้อสูบฝาวาล์วแบบพิเศษ พอช่างไปเปิดฝาทำ แล้วไม่ได้เปลี่ยนน็อต น้ำมันเครื่องก็มักซึม น้ำมันข้ามไปน้ำเป็นต้น


ปัญหามันเยอะ เขาก็เลยยกเลิก N42,N52 ทิ้งไป เอาระบบ Turbo มาใช้แทน Valvetronic เป็นการลด Pumping loss อีกทางหนึ่ง ตั้งรหัสใหม่ว่า N54 แต่เครื่อง N54 นี่มันก็มีเรื่องราวสนุก ๆ อีกเยอะครับ เพราะการใช้เทอร์โบสองตัว บนไอเสียสองชุด คือสูบ 1-3 และ สุบ 4-6 ก็ต้องมีการทำ Balance exhaust อีก เคยแปะLink ไว้นะครับ ขี้เกียจซ้ำ เดียวจะเบื่อกันซะก่อน ลองหาดูครับ

3. ค่าดูแลแร็ก ถ้ามีปัญหาซื้อของเซียงกงครับ แต่มันมีรุ่นที่ไม่ Active steering ก็สามารถซ่อมแร็คได้ตามปรกติ สำหรับe60 รุ่น M54 ผมไม่แน่ใจว่าเป็นรถจาก BMW Thailand หรือ Grey แต่เคยเห็นตัวเป็น ๆ มาแล้ว เป็นแร็คพวงมาลัยเพาวเวอร์ปรกตินี่ล่ะครับบนเครื่อง M54

4. อันนี้เอาที่ชอบครับ ผมคงตอบแทนคุณไม่ได้ ภาวะการเงิน ถ้าไม่ลำบากเกินไป เล่น BMW ซ่อมง่ายกว่า SAAB ครับ เครื่อง M54 ไม่ได้ซ่อมบ่อยดูแลยากอะไร อะไหล่เซียงกงก็มี อะไหล่ใหม่ก็มาก ห่วงระบบต่อพ่วงมากกว่า DSC, MRS, จอ idrive อะไรพวกนี้ล่ะครับ หลักหลายหมื่นทุกอัน เซียงกงก็รู้ว่ามันแพงก็เลยตั้งแพงไปด้วย

ขอบคุณครับ...สำหรับคำแนะนำดี ๆ....ทำไปทำมา  ผมก็คงหนี  ซาบไม่ออก  .....บีเอ็ม คันที่สนใจ  เคลมว่าสีเดิมทั้งคัน  เปลี่ยนคอมแอร์ และดูแลตามระยะ  ดูในเวปก็สวยจริง  แต่ยังไม่ดูตัวจริง  คงตัดไป  เลือกดูเฉพาะ ซาบแทน....

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,501
Re: ขอคำชี้แนะ เรื่อง e 60 525i
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2014, 18:31:21 »
ถ้าชอบ ผมว่าถามใน bmwsociey ด้วยก็ดีครับ
ส่วนตัว รถตะวันตกเมื่อ10ปีที่แล้ว เครื่องใหญ่ ออกตัวช้า

ผมว่า เล็กสั้นน่าสนใจกว่าครับ
ขอบคุณครับ
เรื่องเครื่องผมคดว่าเล่นเครื่องใหม่น่าจะดีกว่านะ ตอน Lci มันแก้จุดบอดหลายๆอย่างนะครับไม่ใช่แค่เครื่อง ทำให้ การดูแลรักษาง่ายขึ้นถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นพวกการเปลี่ยยนหลอดไฟหน้าและ air filter ที่จะทำได้ง่ายขึ้น ส่วนเรื่องแก๊สผมไม่ค่อยแนะนำครับคิดว่าหากล่อง E85 แบบ auto แท้ๆติดดีกว่าเครื่องไม่ร้อนเกินเหมือนแก๊สด้วย
ขอบคุณครับ
E60เนี่ยนะครับหน้าเรียบร้อย หวานหน่อยๆ ;D
สำหรับผม  ใช่เลยแหละ..วิ่งกลางคืน เปิดไฟหรี่เสียหน่อย สวยมาก.....

ออฟไลน์ wa330

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,566
Re: ขอคำชี้แนะ เรื่อง e 60 525i
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2014, 20:59:20 »
เอาตัว520d ปีท้ายๆซิครับไม่จุกจิกเหมือน525i

ออฟไลน์ tommaris

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 560
    • อีเมล์
Re: ขอคำชี้แนะ เรื่อง e 60 525i
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธันวาคม 31, 2014, 22:54:20 »
M54 หรือ N52 หรือแม้กระทั้งดีเซล 520d นั้นงบประมาณเป็นตัวกำหนดอยู่แล้วครับ

ถ้าจะเล่น E60 ให้มองอย่างน้อย 525ise  งบน้อยปี 04-05 เครื่อง M54

ข้อดี M54 คือพัฒนาและแก้ไขปัญหาจนถึงขีดสุดของเครื่องตระกูลนี้แล้วครับ ทนทาน ไม่จุกจิก
ซ่อมง่าย(กว่า) อะไหล่ถูกกว่า ติดแก๊สจบง่ายกว่า ข้อเสียคือกินน้ำมันมากกว่า กำลังด่อยกว่าเครื่องรุ่นใหม่

ข้อดี N52 (ฝาขาว / ฝาดำ) เครื่องรุ่นใหม่ พละกำลังและอัตราเร่งดีกว่า ขับสนุกกว่า ฝาดำจะอยู่ใน E60 ปีหลังๆ
แก้ข้อบกพร่องของฝาขาวอีกที จุกจิกน้อยกว่า ข้อเสีย อะไหล่เฉลี่ยแพงกว่า ติดแก๊สยาก (แต่มีคนทำจบ)

อย่างที่บอกงบประมาณกำหนดสเปครถอยู่แล้วครับ ราคา E60 วิ่งตั้งแต่ ห้าแสนยันล้านห้า
ขึ้นอยู่กับสภาพ ปีรถ(ปีผลิตนะครับ E60 ลากจกเยอะมากครับ) 520 523 525 520d 530 / i หรือ ise
pre หรือ lci  ปีแรกๆ เกียร์ทริบทอนิค ปีหลังๆ เกียร์จอยสติ๊ก รุ่นหลังสุดๆ สต๊าทหัวเกียร์ รุ่นแรกสต๊าทกุญแจ รุ่นต่อมาปุ่มสต๊าท

ise มีพับกระจกข้างไฟฟ้า พวงมาลัยมัลติคล้ายพวงเอ็ม เบาะคอมฟอร์ทซีท ปรับ 10 ทิศทาง(เยอะมากกก)
พวงมาลัยแอคทีป (แร็คที่คนไม่ได้ใช้บอกแสนกว่าสองแสนนั่นแหล่ะ) ไฟหน้าเลี้ยวตาม

ที่บอก 525ise เป็นอย่างน้อย เพราะ 520i 523i ตัดทิ้งไปเลย พวกนี้ออกมาทีหลังเพื่อทำราคา
อีกอย่างราคามือสองไม่ได้ต่างกัน แล้วจะซื้อมาทำไมซื้อทั้งทีใช่ปะ
ส่วนที่ต้อง se เพราะ e60 ถ้าพวงมาลัยไม่แอคทีพ ก็อย่าไปใช้เลยครับ รถคนละคัน

อย่างที่บอกถ้างบไม่ใช่ปัญหา 525 N52 สิครับ 530 ไปเลยยิ่งดีใหญ่ แรงชัว
ถ้างบสำคัญ อยากประหยัดอยากติดแก๊ส 525 M54 ครับ
ถ้างบมากอยากประหยัดกับดีเซลก็ 520d แต่พี่ครับส่วนต่างของราคารถเอาไปเติมน้ำมันยังเหลือเลยพี่
ฉะนั้นอย่าเอาประเด็นเรื่องเลือกเครื่องดีเซลเพราะประหยัดค่าน้ำมัน นอกจากชอบดีเซล

ถ้าคิดว่ามันแรงไม่พอ 530 545 550 ยัน M5 มีทางออกให้เสมอสำหรับคนรัก 60

อ่อ ส่วน...
1.  อยากทราบอู่ที่น่าเชื่อถือได้  ละแวกปริมณฑลด้านเหนือ  รามอินทรา  ลำลูกกา  รังสิต....
     แถวนั้นสบายมาก ไว้ได้รถมาจริงค่อยมาว่ากันยังไม่สาย

3.  ค่าดูแล  เช่นแร็ก  ที่บอกว่า 0   แสนเศษ   อู่(ซื้อแถววัดโสม) คุณภาพเดียวกัน สามสี่หมื่น  ....คอมแอร์  0  แปดหมื่น  อู่  หมื่นเศษ  ใกล้เคียงตามนี้หรือไม่?   หากค่าดูแลประมาณอู่  คิดว่าคงพอเป็นเจ้าของได้  แต่หากดูแล แบบ 0  ผมคงรับไม่ไหว
     ศูนย์ฯ คือเข้าไปแล้วเหลือศูนย์จริงๆ  แร๊กแบบแอ็คทีฟไม่ได้น่ากลัวหรอก ไม่ได้พังง่ายๆ พูดเลย ถ้าพังจริง คุณมีงบซ่อมเท่าไหร่หล่ะ 2-4 หมื่น
     หรืองบจำกัดจริงๆ เงินช็อต บลาๆๆๆ ไปหาแร็คตัวธรรมดามาใส่ยังได้เลย  คอมแอร์ก็หมื่นเศษครับ ศูนย์เหยีบแสนเรื่องจริง  เกียร์อู่นอกซ่อมหลักหมื่นครับพี่

ไอ้เรื่องเตรียมเงินซ่อมเป็นแสน นี่คือถ้าไม่เอารถเน่าๆ มาก็ไม่มีอะไรครับ ถ้าคุณได้รถที่บำรุงรักษาต่อเนื่อง จะซ่อมอะไรหล่ะครับ
หลายคันเปลี่ยนอะไหล่ในศูนย์มาหมดทั้งคันละ เกียร์ใหม่ คอมใหม่ แร็คใหม่ ช่วงล่างใหม่ จะซ่อมอะไรครับ
ถ้าไปเจอรถมีปัญหา นู่นเสียนี่เสีย ถ้ารู้และเรารับได้ ราคาจบก็ต่อกันเป็นแสนๆ อ่ะครับ เงินที่เหลือก็เอาไปซ่อมไงครับ
ผมถึงบอกว่าราคาขึ้นกับสภาพ แต่ถ้าเจอรถเน่าและคุณไม่รู้ก็ทำใจคับ ร้ายแรงที่สุดก็ต่อราคาเยอะๆ หน่อย
เผื่อเจอซ่อมไม่ไหวจริงๆ ก็เอาหัวตัดมาวางจบแน่ๆ  ไม่มีอะไรน่ากลัว ถ้าทำถูกจุดถูกที่ ไปเจอหลอกมา ฟันมาเอง มาโทษว่ารุ่นนี้ไม่ดีมันใช่หรอ


ออฟไลน์ CookiE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 877
Re: ขอคำชี้แนะ เรื่อง e 60 525i
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธันวาคม 31, 2014, 23:51:01 »
ตอบจากที่ใช้ e60 525iSe ปี 06 อยู่นะครับ

ราคาอะไหล่บางตัวต่อให้ทำอู่นอกก็ยังแพงครับ เช่น สมองแอร์ (แต่ตัวนี่คนำม่ค่อยเสียกัน ผมดันโชคร้ายเจอตัวนี้เข้าไป 35,000 ละ)


รวมค่าซ่อมจากที่ผมใช้มา วิ่งมา 206,000 กิโลเมตร

รายการที่ทำไปแล้ว
1) แอร์ ทำทั้งระบบ คอมแอร์ ตู้แอร์
2) เกียร์ เปลี่ยนสมองและโอเวอร์ฮอล
3) ช่วงล่างเปลี่ยนหมด โช้ค บูช ลูกหมากพวกนี้
4) ระบบเบรค พวกท่อเบรคที่ล้อ และในห้องเครื่อง
5) ระบบน้ำหล่อเย็น ท่อทั้งหมด และหม้อน้ำ

นอกนั้นก็รายการจุกจิกครับ ซ่อมไปทั้งหมด 770,000 บาท โดยประมาณ

หารออกมาเฉลี่ย 2 ปีนี้ที่ซ่อมไปตกเดือนละ 23,000 บาทโดยประมาณสำหรับค่าซ่อมครับ

ไอตอนทยอยเปลี่ยนมันก็ไม่แพง แต่พอมานั่งบวกใบเสร็จเอาเรื่องเลยครับ  แล้วผมมี e60 สองคัน โดนไปรวมแล้ว 1.5 ล้านบาทพอดิบพอดี

อาจจะมีพี่ๆ บอกว่าผมโง่หรือเปล่าซ่อมแพงขนาดนี้ แต่ผมก็มีเหตุผลคือผมไม่อยากเสี่ยงไปกินข้าวกับลิงข้างทาง เนื่องจากรถผมวิ่งต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่ อันไหนพอมีเวลาก็จะเข้าไปเปลี่ยนซะก่อนครับ

ทำไปซะเยอะ ตอนนี้ขาย 7 แสนคนยังไม่เอาเลย 5555+

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,501
Re: ขอคำชี้แนะ เรื่อง e 60 525i
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มกราคม 01, 2015, 18:54:38 »
เอาตัว520d ปีท้ายๆซิครับไม่จุกจิกเหมือน525i
 
  ขี่กะบะมาหลายคันมาก เลยไม่อยากได้ดีเซลครับ...

M54 หรือ N52 หรือแม้กระทั้งดีเซล 520d นั้นงบประมาณเป็นตัวกำหนดอยู่แล้วครับ

ถ้าจะเล่น E60 ให้มองอย่างน้อย 525ise  งบน้อยปี 04-05 เครื่อง M54

ข้อดี M54 คือพัฒนาและแก้ไขปัญหาจนถึงขีดสุดของเครื่องตระกูลนี้แล้วครับ ทนทาน ไม่จุกจิก
ซ่อมง่าย(กว่า) อะไหล่ถูกกว่า ติดแก๊สจบง่ายกว่า ข้อเสียคือกินน้ำมันมากกว่า กำลังด่อยกว่าเครื่องรุ่นใหม่

ข้อดี N52 (ฝาขาว / ฝาดำ) เครื่องรุ่นใหม่ พละกำลังและอัตราเร่งดีกว่า ขับสนุกกว่า ฝาดำจะอยู่ใน E60 ปีหลังๆ
แก้ข้อบกพร่องของฝาขาวอีกที จุกจิกน้อยกว่า ข้อเสีย อะไหล่เฉลี่ยแพงกว่า ติดแก๊สยาก (แต่มีคนทำจบ)

อย่างที่บอกงบประมาณกำหนดสเปครถอยู่แล้วครับ ราคา E60 วิ่งตั้งแต่ ห้าแสนยันล้านห้า
ขึ้นอยู่กับสภาพ ปีรถ(ปีผลิตนะครับ E60 ลากจกเยอะมากครับ) 520 523 525 520d 530 / i หรือ ise
pre หรือ lci  ปีแรกๆ เกียร์ทริบทอนิค ปีหลังๆ เกียร์จอยสติ๊ก รุ่นหลังสุดๆ สต๊าทหัวเกียร์ รุ่นแรกสต๊าทกุญแจ รุ่นต่อมาปุ่มสต๊าท

ise มีพับกระจกข้างไฟฟ้า พวงมาลัยมัลติคล้ายพวงเอ็ม เบาะคอมฟอร์ทซีท ปรับ 10 ทิศทาง(เยอะมากกก)
พวงมาลัยแอคทีป (แร็คที่คนไม่ได้ใช้บอกแสนกว่าสองแสนนั่นแหล่ะ) ไฟหน้าเลี้ยวตาม

ที่บอก 525ise เป็นอย่างน้อย เพราะ 520i 523i ตัดทิ้งไปเลย พวกนี้ออกมาทีหลังเพื่อทำราคา
อีกอย่างราคามือสองไม่ได้ต่างกัน แล้วจะซื้อมาทำไมซื้อทั้งทีใช่ปะ
ส่วนที่ต้อง se เพราะ e60 ถ้าพวงมาลัยไม่แอคทีพ ก็อย่าไปใช้เลยครับ รถคนละคัน

อย่างที่บอกถ้างบไม่ใช่ปัญหา 525 N52 สิครับ 530 ไปเลยยิ่งดีใหญ่ แรงชัว
ถ้างบสำคัญ อยากประหยัดอยากติดแก๊ส 525 M54 ครับ
ถ้างบมากอยากประหยัดกับดีเซลก็ 520d แต่พี่ครับส่วนต่างของราคารถเอาไปเติมน้ำมันยังเหลือเลยพี่
ฉะนั้นอย่าเอาประเด็นเรื่องเลือกเครื่องดีเซลเพราะประหยัดค่าน้ำมัน นอกจากชอบดีเซล

ถ้าคิดว่ามันแรงไม่พอ 530 545 550 ยัน M5 มีทางออกให้เสมอสำหรับคนรัก 60

อ่อ ส่วน...
1.  อยากทราบอู่ที่น่าเชื่อถือได้  ละแวกปริมณฑลด้านเหนือ  รามอินทรา  ลำลูกกา  รังสิต....
     แถวนั้นสบายมาก ไว้ได้รถมาจริงค่อยมาว่ากันยังไม่สาย

3.  ค่าดูแล  เช่นแร็ก  ที่บอกว่า 0   แสนเศษ   อู่(ซื้อแถววัดโสม) คุณภาพเดียวกัน สามสี่หมื่น  ....คอมแอร์  0  แปดหมื่น  อู่  หมื่นเศษ  ใกล้เคียงตามนี้หรือไม่?   หากค่าดูแลประมาณอู่  คิดว่าคงพอเป็นเจ้าของได้  แต่หากดูแล แบบ 0  ผมคงรับไม่ไหว
     ศูนย์ฯ คือเข้าไปแล้วเหลือศูนย์จริงๆ  แร๊กแบบแอ็คทีฟไม่ได้น่ากลัวหรอก ไม่ได้พังง่ายๆ พูดเลย ถ้าพังจริง คุณมีงบซ่อมเท่าไหร่หล่ะ 2-4 หมื่น
     หรืองบจำกัดจริงๆ เงินช็อต บลาๆๆๆ ไปหาแร็คตัวธรรมดามาใส่ยังได้เลย  คอมแอร์ก็หมื่นเศษครับ ศูนย์เหยีบแสนเรื่องจริง  เกียร์อู่นอกซ่อมหลักหมื่นครับพี่

ไอ้เรื่องเตรียมเงินซ่อมเป็นแสน นี่คือถ้าไม่เอารถเน่าๆ มาก็ไม่มีอะไรครับ ถ้าคุณได้รถที่บำรุงรักษาต่อเนื่อง จะซ่อมอะไรหล่ะครับ
หลายคันเปลี่ยนอะไหล่ในศูนย์มาหมดทั้งคันละ เกียร์ใหม่ คอมใหม่ แร็คใหม่ ช่วงล่างใหม่ จะซ่อมอะไรครับ
ถ้าไปเจอรถมีปัญหา นู่นเสียนี่เสีย ถ้ารู้และเรารับได้ ราคาจบก็ต่อกันเป็นแสนๆ อ่ะครับ เงินที่เหลือก็เอาไปซ่อมไงครับ
ผมถึงบอกว่าราคาขึ้นกับสภาพ แต่ถ้าเจอรถเน่าและคุณไม่รู้ก็ทำใจคับ ร้ายแรงที่สุดก็ต่อราคาเยอะๆ หน่อย
เผื่อเจอซ่อมไม่ไหวจริงๆ ก็เอาหัวตัดมาวางจบแน่ๆ  ไม่มีอะไรน่ากลัว ถ้าทำถูกจุดถูกที่ ไปเจอหลอกมา ฟันมาเอง มาโทษว่ารุ่นนี้ไม่ดีมันใช่หรอ



ขอบคุณครับ  ได้ความรู้มากเลยครับ
ตอบจากที่ใช้ e60 525iSe ปี 06 อยู่นะครับ

ราคาอะไหล่บางตัวต่อให้ทำอู่นอกก็ยังแพงครับ เช่น สมองแอร์ (แต่ตัวนี่คนำม่ค่อยเสียกัน ผมดันโชคร้ายเจอตัวนี้เข้าไป 35,000 ละ)


รวมค่าซ่อมจากที่ผมใช้มา วิ่งมา 206,000 กิโลเมตร

รายการที่ทำไปแล้ว
1) แอร์ ทำทั้งระบบ คอมแอร์ ตู้แอร์
2) เกียร์ เปลี่ยนสมองและโอเวอร์ฮอล
3) ช่วงล่างเปลี่ยนหมด โช้ค บูช ลูกหมากพวกนี้
4) ระบบเบรค พวกท่อเบรคที่ล้อ และในห้องเครื่อง
5) ระบบน้ำหล่อเย็น ท่อทั้งหมด และหม้อน้ำ

นอกนั้นก็รายการจุกจิกครับ ซ่อมไปทั้งหมด 770,000 บาท โดยประมาณ

หารออกมาเฉลี่ย 2 ปีนี้ที่ซ่อมไปตกเดือนละ 23,000 บาทโดยประมาณสำหรับค่าซ่อมครับ

ไอตอนทยอยเปลี่ยนมันก็ไม่แพง แต่พอมานั่งบวกใบเสร็จเอาเรื่องเลยครับ  แล้วผมมี e60 สองคัน โดนไปรวมแล้ว 1.5 ล้านบาทพอดิบพอดี

อาจจะมีพี่ๆ บอกว่าผมโง่หรือเปล่าซ่อมแพงขนาดนี้ แต่ผมก็มีเหตุผลคือผมไม่อยากเสี่ยงไปกินข้าวกับลิงข้างทาง เนื่องจากรถผมวิ่งต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่ อันไหนพอมีเวลาก็จะเข้าไปเปลี่ยนซะก่อนครับ

ทำไปซะเยอะ ตอนนี้ขาย 7 แสนคนยังไม่เอาเลย 5555+

ขอบคุณครับ  ค่าใช้จ่ายประมาณนี้ ผบ.  คงไม่ยอม  แน่ ๆ