พอถึงสน ร้อยเวรได้ทำการสอบสวนผมและคู่กรณีทีละคน หลังจากสอบสวนเสร็จตำรวจสรุปให้ฟังว่า ตามพรบจราจร หนึ่งช่องทางการเดินรถ วิ่งได้เพียงหนึ่งคันในลักษณะต่อท้ายกันไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการกำหนดในเรื่องของรถเล็กรถใหญ่ ไม่ว่าจะสองล้อ สามล้อ สี่ล้อต้องวิ่งต่อกันไป ดังนั้นถ้ามอเตอร์ไซค์แซงซ้าย/มุดซ้าย โดยที่อยู่ในช่องทางการเดินรถเดียวกัน แล้วเกิดอุบัติเหตุ มอเตอร์ไซค์ผิดครับ
ทั้งเคสคุณ เคสจขกท. ก็สมแล้วครับ แทรกดีนัก จัดหนักให้เต็มที่ ว่าแต่ข้อไหนหรือครับ
ข้อไหนไม่ทราบครับ พอดีร้อยเวรไม่ได้พูดเจาะจงถึงขนาดนั้นครับ
ตอบจากประสบการณ์ที่เคยโดนมาลักษณะแบบ จขกทนะครับ
ของผมจะเป็นเลี้ยวซ้ายเข้าซอย ก่อนเลี้ยวทำการชะลอรถ(แทบหยุด)เพราะซอยที่จะเลี้ยวเข้าค่อนข้างแคบมาก(วิ่งได้คันเดียวสวนกันไม่ได้) มีมอเตอร์ไซค์มุดซ้ายมาชนเข้าที่กึ่งกลางแก้มซ้ายและประตูหน้าซ้าย (รถเลี้ยวไปแล้วทำมุมราวๆ45องศา) มีความเสียหายที่แก้มซ้าย ประตูซ้าย และล้อแม็ก
หลังจากประกัน,ร้อยเวร,ตรเพียบ(วินมอไซแถวนั้นโทรแจ้งมา) ประกันและร้อยเวรได้ถามไถ่ลักษณะการเดินรถและถ่ายรูปจุดเกิดเหตุ หลังจากนั้นทำการเชิญทั้งสองฝ่ายไปที่สน.
ระหว่างเดินทางไปสน. ประกันโทรมาหาบอกว่า จากรูปการณ์แล้วมอเตอร์ไซค์ผิด 100%ตามพรบ จราจร "แต่" ประกันได้ถามไถ่ว่า "พี่รู้จักกับคู่กรณี หรือเปล่า" "พี่คู่กรณีดูเหมือนมีเส้นสายกับตรที่มานะ" "ถ้าพี่รู้จักจะให้เป็นประมาทร่วมก็ได้นะถือว่าช่วยๆกัน" "ถ้าคู่กรณีพี่มีเส้น ตรอาจจะตัดสินให้เป็นประมาทร่วมนะ"
ผมได้บอกประกันไปเพียง "ว่าถูกผิดว่ากันไปตามกฎหมาย ถ้าเค้าจะเอาเส้นมา เดี๋ยวผมงัดเอง"
พอถึงสน ร้อยเวรได้ทำการสอบสวนผมและคู่กรณีทีละคน หลังจากสอบสวนเสร็จตำรวจสรุปให้ฟังว่า ตามพรบจราจร หนึ่งช่องทางการเดินรถ วิ่งได้เพียงหนึ่งคันในลักษณะต่อท้ายกันไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการกำหนดในเรื่องของรถเล็กรถใหญ่ ไม่ว่าจะสองล้อ สามล้อ สี่ล้อต้องวิ่งต่อกันไป ดังนั้นถ้ามอเตอร์ไซค์แซงซ้าย/มุดซ้าย โดยที่อยู่ในช่องทางการเดินรถเดียวกัน แล้วเกิดอุบัติเหตุ มอเตอร์ไซค์ผิดครับ
หลังจากคำตัดสินจบลงฝั่งคู่กรณี คนขับนิ่งก้มหน้ายอมรับผิด(เป็นเยาวชนอายุราวๆ14-17ปี) แต่ผู้ปกครองและกองหนุนไม่ยอมจบครับ พยายามโวยวายและโทรหาคนโน้นทีคนนี้ทีแล้วส่งโทรศัพท์ให้ร้อยเวรคุย ร้วยเวรก็รับโทรศัพท์มาแล้วเดินออกไปคุยข้างนอก(เป็นแบบนี้ประมาณ3-4ครั้ง)
สุดท้ายร้อยเวรก็ยังเดินมาสรุปยืนยันว่า "มอเตอร์ไซค์ผิด" ต้องขอบคุณความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ของคุณร้อยเวรด้วยครับ(ดีที่เราไม่ต้องโทรหาคนอื่นบ้าง5 5 5) จากนั้นก็เป็นเรื่องของประกันและคู่กรณีที่ต่อรองราคากัน หลังจากต่อรองกันเสร็จ ร้อยเวรก็ให้เซ็นเอกสารทั้งคู่ และแยกย้าย
จากเหตุการนี้ทำให้รู้ว่า
1.การที่คนขับมอเตอร์ไซค์ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ไม่มีผลต่อเรื่องผิด/ถูก (ประกันบอกไว้)
2.การตัดสินที่ตำรวจ ถ้าเจอคนซื่อตรงต่อหน้าที่เค้าก็จะสรุปตามพรบจราจร ถ้าเจอพวกขี้เกียจหรือไม่ซื่อตรง เราอาจจะโดนยัดเยียดให้ประมาทร่วม
ปล.ทั้งหมดนี้ผิดถูกอย่างไรขออภัยล่วงหน้าครับ
ขอบคุณมากเลยครับผมผมรอร้อยเวรโทรมานัดวันไปอยู่ครับ
ไม่ทราบว่ามีคำให้การอะไรที่ผมจำเป็นต้องพูดบ้างครับเผื่อช่วยในรูปคดีได้ครับ
ผมก็ให้การไปตามความจริงครับ ว่าเราวิ่งตามคันหน้ามาเรื่อยๆไม่ได้แซง/วิ่งตีคู่ใคร
ถ้าของคุณเป็นลักษณะเดียวกับผม วิ่งตามๆกันมาโดยที่ไม่มีการแซง/วิ่งตีคู่ บางกรณีที่ร้อยเวรเคยยกตัวอย่างไว้คือถ้าเราแซง/วิ่งตีคู่ กับมอเตอร์ไซค์มาในช่องทางเดียวกัน เราจะกลายเป็นฝ่ายผิด/ประมาทร่วมได้ครับ
จะมีที่ร้อยเวรเน้นถามย้ำทั้งสองฝ่ายคือเรื่อง "ใครวิ่งอยู่หน้าใคร" กับ "ใครเข้าใช้ถนนเส้นนี้ก่อน" (เนื่องมาจากของผมเลี้ยวมาจากถนนหลัก6เลน เข้าสู่ถนนรอง2เลน แล้วก็กำลังเลี้ยวเข้าซอย1เลน อีกทีนึง จุดเกิดเหตุคือปากทางเข้าซอย1เลน)
ลองปรึกษากับประกันดูครับ พวกนี้เค้ารู้ดี บางคนเจอหน้าร้อยเวรจนจำกันได้ก็มีครับ
ถ้าจำไม่ผิด ตรไม่มีสิทธิ์ตัดสินผิดถูก ได้แค่ชี้นำว่าใครผิดถูกแล้วก็เซ็นรับกัน ถ้าเราไม่รับก็เจอกันที่ศาล (อันนี้ผมไม่แน่ใจนะต้องถามคนแม่นกฎหมายอีกทีนึง)
ปล.ทั้งหมดนี้ผิดถูกอย่างไรขออภัยล่วงหน้าครับ