ทุกท่านคิดว่า รถยนต์ที่นำมาทำ Taxi ในปัจจุบัน ราคาแพงเกินไปหรือไม่ครับ

[GreenG]

พอดีผมได้ไปอ่าน FB เสียง...ของพวกเขา (ขอไม่ให้เครดิต ไปหาดูกันเองครับ)

ล่าสุดมีการตัดพ้อชาวญี่ปุ่น เหมือนว่า รถ Taxi innova และ PPV ที่เอามาทำมันมีต้นทุนสูงมาก

ผมตีความก็เข้าใจเหมือนกับว่า ราคารถเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ที่เอามาทำ taxi มันถูกกว่านี้มาก แต่ค่าโดยสารก็ 35 บาทเท่าเดิม จึงเป็นสาเหตุให้ taxi ไม่อยากวิ่งเพราะบางคนชอบไปที่รถติด บางคนชอบไปที่ๆ ไกลมาก เขามองว่าไม่คุ้มค่าการลงทุน และพยายามจะเหมามากกว่า (เน้นรับคนต่างชาติ) และสัมภาระ ต่างๆ ก็ควรคิดเป็นรายชิ้น ถ้ามันเยอะมาก

บางมุมผมก็ว่าเขาก็พูดถูกนะครับ จำได้ว่าสมัยก่อนรถที่เอามาทำพวก corolla AE100 ราคาก็ประมาณ 6 แสน แต่ตอนนี้รถ Altis ตัวปัจจุบัน ราคา 7.5 แสน ถ้าติดตั้งอุปกรณ์แบบจัดเต็มก็ 8 แสนขึ้น อินโนว่า คงเกือบๆ ล้านได้ เพราะรถแพงกว่ามาก

ผมก็รู้สึกนะครับ ถ้ามันเป็นปัญหามาก ก็เจรจากับภาครัฐเลย ว่าปรับ cc ลงมาได้ไหม เหลือสัก 1.5 1.2 (ควรจะเป็น 4 สูบเท่านั้น) จะได้เอาพวก Vios Yaris Almera (ถ้าวิ่งไหว) หรือ Avanza มาวิ่งได้ แต่ก็ต้องราคาไม่เพิ่มนะ เพราะต้นทุนต่ำลง ซึ่งผมโดยมากเห็นแต่เขาเจรจาจะขอขึ้นค่ารถ กับแก๊ซราคาพิเศษอย่างเดียวเลย

ผมก็สงสัยเหมือนกันว่า พี่ที่ทำงาน หรือคนที่รู้จักบางคนที่ขับ Taxi เกียร์ Auto และโดยมากเขียวเหลือง ก็ยังทำกำไรได้ วันละเป็นพัน แล้วทำไมบางคนถึงบอกวิ่งแล้วขาดทุน
ไม่ได้ตังก็ไม่แน่ใจครับ

โดยรวมทุกท่านคิดอย่างไรครับ ต้นทุนตัวรถมันแพงมากขนาดนั้นเลยหรือเปล่า หรือว่าเป็นที่ปัญหาที่เลือกผู้โดยสารมากกว่า

[ABUSEz]

ส่วนตัวผมว่ามันเป็นแค่ข้ออ้าง
ผมเจอแทกซี่ดีๆเยอะแยะที่บอกว่ากำไรวันนึงเป็นพัน มีแต่พวกเลือกรับผู้โดยสารที่หวงจะเหมาอย่างเดียว
ผู้โดยสารไม่ได้โง่หนิครับ ในเมื่อู้โดยสารไม่ขึ้นคุณก็วิ่งรถเปล่า แล้วก็มาบ่นขาดทุน
ถ้ารับหมด ไม่เลือก ไม่บังคับเหมา ยังไงมันก็มีรายได้ทุกเที่ยว มัวแต่วิ่งรถหาคนเหมา เผลอๆไม่ได้ผู้โดยสารเลยด้วยซ้ำ

ส่วนเรื่องปรับลดซีซีรถลง อันนี้เห็นด้วยครับ ผมว่าไม่มีความจำเป็นต้องเครื่องใหญ่ เอามาซิ่งกันในกรุงเทพเปล่าๆ

[Alcatraz]

คนอื่นเป็นไหมไม่รู้ แต่ของผมทุกวันนี้เลือกขึ้นแต่แท็กซี่โฉมที่แล้วกับโฉมใหม่นี้เท่านั้น เก่ากว่านั้นไม่ค่อยเลือก ถ้ามาก็ปล่อยผ่านไป

ดังนั้นถ้าเกิดมี รถ 1.5 ขึ้นมาจริง ผมก็ไม่ขึ้นอยู๋ดี และผมรับกับราคาแท็กซี่ตอนนี้ได้ เพราะไม่ได้ขึ้นบ่อยเดือนนึงจ่ายค่าแท็กซี่ไม่ถึง 500 ถ้าคนขึ้นบ่อยอาจมีผล
มองในแง่คนขับแท็กซี่ถ้าตัวเองขับวีออสอีกคนขับอัลติส ลูกค้าจะเลือกคันไหนมากกว่า ยังไม่รวมถึงมี uber ค้ำคออยู่

แต่ถ้ามองถึงข้อดีของ 1.5  ในช่วงที่ดีมานแยอะกว่าซับพาย คนก็ต้องขึ้น 1.5 เพราะไม่มีทางเลือก อันนี้เป็นมุมมองของผมเอง อ้างอิงใช้กับคนอื่นไม่ได้นะ

[nimnim_thailand]

แค่นี้ก็ถูกแล้วครับ  เทียบกับสมัยก่อนไม่ได้ครับ
สมัยก่อนเงิน 5-6 แสนมีค่ากว่านี้เยอะครับ

สมัยนี้เงิน 1 ล้านบาท น้อยนิดกว่าสมัยก่อนมากๆ


ขนาดแค่นี้ แท็กซี่ก็เต็มบ้านเต็มเมืองแล้วครับ ถ้าเอารถถูกกว่านี้มาวิ่งได้ มันจะมากมายขนาดไหน

ตอนนี้ ใครหมดไอเดียทำมาหากิน ก็มาขับแท็กซี่กันได้หมดแล้ว

จริงๆผมอยากให้ กำหนดรถแพงๆด้วยซ้ำ  ไม่ใช่เข้าถึงได้ง่ายกับทุกชนชั้น อย่างทุกวันนี้   

จริงๆแล้วมันถือเป็นการลงทุนที่ง่ายและต่ำนะครับ ไม่ได้สูงอะไรเลย กำไรมากด้วย ถ้าเทียบกับการลงทุนทำอย่างอื่น  เรียกได้ว่าพอๆกับ ทำร้านอาหารตามสั่งเลย ( ประเภทเดียวกัน ใครคิดอะไรไม่ออก ก็ขายอาหาร )

ต้นทุนไม่เกิน 60 % กำไรทุกวันๆละ 40 %

จริงๆมันดูไม่ยากเลย อะไรที่เข้าถึงง่าย ทำได้ง่ายๆ  สิ่งนั้นก็จะทำกันเต็มไปหมด  ถ้าให้ถูกกว่านี้ มันก็ง่ายขึ้นไปอีก คนก็ยิ่งทำยิ่งเทลงมา  แล้วคนโดยสารไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม เดี๋ยวปัญหาต่างๆ จะตามมาให้แก้อีกเยอะแยะไปหมด

แค่ทุกวันนี้ แท็กซี่ที่วิ่งกันอยู่ ก็สร้างปัญหามากพอแล้วครับ ตอนนี้น่าจะได้เวลาลดจำนวน เพิ่มคุณภาพได้แล้ว

[Auto]

 TAXI  iNNOVA   ค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรแพงกว่า Altis   ราคารถตอนซื้อพอกันแต่ว่าการกินแก๊สในเมืองถ้าเป็น LPG  มี 2 บาท   ตัวนี้ประหยัดกว่าฟอร์จูเนอร์เบนซินไม่เท่าไหร่           พวกที่ออก Taxi innova   มาโดยมากวิ่งรถรับจ้างเหมาเกือบทั้งนั้น  ไม่ค่อยได้เปิดมิเตอร์วิ่งหาผู้โดยสารหรอกครับ    ส่วนใหญ่เหมาไปสนามบินหรือเหมาออกจากสนามบิน   ที่เป็นข่าวดังขณะนี้      ที่สนามบินสุวรรณภูมิขาออกกรณีผู้โดยสารชาวญี่ปุ่นเจอแท๊กซี่ให้เหมา 700 บาท นั่นแหละ  

ผมจะไปดอนเมืองเรียก Taxi Innova  ก็เจอให้โดนเหมา 700 บาท เหมือนกันจากบางพลีไปดอนเมือง    เลยตัดสินใจไม่ใช้บริการ คิดว่าอยากหา Uber ใช้บริการมากกว่า  สบายใจกว่า


แต่ถ้าเจอ Taxi Innova   เปิดมิเตอร์ค่าโดยสารปกตินี่น่าใช้บริการครับเพราะรถใหญ่นั่งสบายกว่า    เคยเรียกไปเยาวราชก็ไปน่ะครับ  โอเคเลย

[SM.]

แอบสงสัยครับว่า แล้วทำไม Taxi ในเมืองไทย ต้องเป็น Altis ซะเกือบทั้งหมด

ถ้าราคาตัวรถแพงไป ทำไมไม่ใช้รุ่นอื่นที่ราคาถูกกว่านี้

ส่วนมาก Taxi ก็ไม่ได้ขนอะไรมากมายนะครับ ก็จะเป็นแค่ผู้โดยสาร กับ ข้าวของนิดหน่อย

กรณีที่ต้องการขนของมากๆ อาจจะมี Taxi คันใหญ่ๆ อาจจะตั้งอีกราคา ไว้รองรับ

[Auto]

  ขับ TAXI  ที่เขาเรียกแล้วไม่ไป เพราะว่าส่งกะไม่ทันแถวนั้นไม่มีปั๊ม NGV  สาเหตุอื่น ๆ  ก็มี
โดยเฉพาะแท๊กซี่บางประเภท  คือเขาออกมาขับรถกันตั้งแต่ ตี 5 กว่าจะส่งกะเสร็จ 4 โมงเย็น   คิดูว่าขับรถกันทั้งวัน  ต้องรีบหาเงินได้มากที่สุดเพื่อส่งค่าเช่ารถกับค่าแก๊ส       กำไรเหลือวันนึง 400-500 บาท เดือนนึงหมื่นกว่าบาท    วันไหนหยุดไม่ได้เงิน    แต่เป็นอาชีพที่ค่อนข้างขับรถหนักพอควร    ถ้าเช่าขับจะเป็นแบบนี้ วันไหนเหลือเป็นพันนี่โชคดีสุด  ๆ   ถ้าซื้อขับเองเป็นของตัวเองก็เหลือมากหน่อยแต่ก็ต้องไปจ่ายค่าซ่อมรถที่เยอะ

เคยคุยกับลูกน้องที่ทำงาน   ขับมอไซด์รับจ้างบางซอยยังได้เงินมากกว่าขับแท๊กซี่เลย  เพราะรายได้มอไซด์วินบางซอยได้เกิน 4-5 ร้อยต่อวันอีหลายซอยได้มากกว่าคนทำงานบริษัทอีกคือได้คนล่ะ 2-3 หมื่นบาทต่อเดือน      แถมไม่ต้องไปไหนไกลไม่ต้องเหนื่อยขับรถทำเวลามากกเหมือน Taxi  ด้วย  

   ปัญหาTAXI  บ้านเราต้องยกระดับใหม่ทั้งคนขับและการศึกษาการใช้ภาษาและประวัติคนขับแท๊กซี่   ไม่ใช่ปล่อยมาขับกันมากมายยังไงก้คุมไม่ได้  

[Auto]

แอบสงสัยครับว่า แล้วทำไม Taxi ในเมืองไทย ต้องเป็น Altis ซะเกือบทั้งหมด

ถ้าราคาตัวรถแพงไป ทำไมไม่ใช้รุ่นอื่นที่ราคาถูกกว่านี้

ส่วนมาก Taxi ก็ไม่ได้ขนอะไรมากมายนะครับ ก็จะเป็นแค่ผู้โดยสาร กับ ข้าวของนิดหน่อย

กรณีที่ต้องการขนของมากๆ อาจจะมี Taxi คันใหญ่ๆ อาจจะตั้งอีกราคา ไว้รองรับ

  ก็มียี่ห้ออื่นแต่ว่า  Altis มันทนกว่าซ่อมถูกกว่า ทนทานมากกว่า มีอะไหล่ซ่อมเยอะกว่าและลูกค้านิยมเรียกมากกว่า      สหกรณ์แท๊กซี่ซื้อได้ในราคาฟลีทก็ถูกกว่ารถยี่ห้ออื่น   

ใน๘ณะที่รุ่นอื่นรองลงมาก็มี Innova  ที่เข้ามาก็ทนทานมากกว่ารถใหญ่กว่า ดีกว่า   แต่ก็กินแก๊สมากกว่าทำให้วิ่งหาลูกค้าไม่ค่อยคุ้มความนิยมซื้อเลยน้อยลง

[Northbridge]

ผมว่าเป็นแค่ข้ออ้างครับ ผมเห็นด้วยครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งก็รู้อยู่แก่ใจว่าคนเรียกร้อง ก็คือคนที่ไม่เคยคิดจะปรับปรุงตัวเอง

แต่ถ้าจะผลักดันให้มีเรตต่างกันแต่ละช่วงเวลา หรือเรตสำหรับรถขนาดใหญ่ 7 ที่นั่ง อันนี้ก็เห็นด้วย

[Ty ESC]

แค่ข้ออ้างของคนไร้จรรยาบรรณในการประกอบอาชีพ

เลือกที่จะมาทำอาชีพนี้ ไม่ได้มีใครบังคับ

แต่ไม่สามารถทำให้ดี ให้เป็นไปตามกฎระเบียบสังคมได้

คนแบบนี้ทำอะไรก็ไม่เจริญหรอก


ทุกคนทุกอาชีพมีข้อจำกัดมีต้นทุนทั้งนั้น ก็ต้องอยู่ในกรอบประกออาชีพด้วยความรับผิดชอบ
อย่ามาอ้างนั่นโน่นนี้ แค่ความห่วยของตัวเองไม่จำเป็นต้อง เอาความต่ำของตัวเองมาทำให้คนที่ประกอบอาชีพเดียวกันให้ดูแย่ไปด้วย

[kiwiwi]

ตอบแค่หัวข้อนะ
ปลีกย่อยไม่พูดถึง

ผมว่า ธุรกิจ จะอยู่รอด ต้องทำต้นทุนให้ต่ำไว้ก่อน
ผมก็แอบสงสัยนะว่า ทำไมต้องเป็นเครื่องเกิน 1500
เครๆ ถ้าบอกว่า เครื่องต้องมีกำลังเพียงพอ ขนาดรถต้องพอดี

ครับ vios สมัยนี้ก็ใหญ่กว่าโดเรมอนสมัยก่อนอยู่พอตัว
แรงม้าก็เยอะกว่า แรงบิดก็เยอะกว่า แล้วทำไมบ้านเรายังต้องใช้ cc มาเป็นเกณฑ์ล่ะ

ยิ่งอนาคตอันใกล้ โลกเรากำลังจะหมุนไปที่เครื่องเล็กแต่ทรงพลังหรือคอมมอนเรลเทอร์โบ
ทั้งคู่ต่างมีแรงม้าและแรงบิดที่เหนือกว่ากฎหมายไทยที่กำหนดแต่ cc เมื่อสมัยก่อนมากมาย
การประหยัดน้ำมันเอย หรือแก๊สเอย น่าจะตอบโจทย์เรื่องต้นทุนของขนาดเดิมๆได้อยู่แล้ว

ในเมื่อต้นทุนต่ำ อะไรๆมันก็จะดีขึ้นเอง

อันนี้ผมไม่ขอพูดถึงเรื่องที่ทำไมแท๊กซี่ไม่ใช้รถค่ายอื่นที่ไม่ใช่พี่โตนะ เพราะโพลีซีของแต่ละค่ายเขาทำมาไม่เอื้ออำนวย

แต่ถึงวันที่โลกหมุนไปถึงจุดนั้นๆแล้ว รถใหญ่ขึ้น ซีซีน้อยลง กำลังเท่าเครื่องใหญ่หรือมากกว่า ราคารถถูกลง
     พี่โตจะบอกให้รัฐบาลเขียนกฎหมายใหม่มั๊ยครับว่า เห้ยๆ ช่วยลดขนาดของ cc ที่จะมาทำแท๊กซี่ให้ที
อั๊วไม่อยากโดดเดี่ยว ทำเครื่อง 1.6ลิตร มาคนเดียวอีกแล้ว

[TaR]

ต้องคันนี้ครับ 

[Ruksadindan]

เป็นปัญหาที่ Man มากกว่า Machine ครับ

ถ้าตั้งใจทำงานก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่นี่เรื่องมาก

[Zephyrs]

ถ้าเอาที่เค้าพูดในรายการนะ

1. ผมแอบเห็นด้วยเรื่องที่ว่ากระเป๋ามาแบบ "3 ใบใหญ่ขึ้นไป" (ไม่นับเป้ไรงี้นะ) เก็บตังเพิ่มไป "แบบมีหลักการ" เพราะบางทีแบบเล็กอิ๊บอ๋ายอย่าง Altis ไรงี้เจอพวกแขกแบกทียังกะขนบ้าน (ผมก็ไม่เข้าใจแขกจะไปไหนมาไหนทำไมซื้อทีเหมือนซื้อของเข้าบ้านใหม่ทุกที แทบจะให้มีแท็กซี่กระบะไปโดยเฉพาะ)

2. ผมไม่เห็นด้วยเรื่องการที่มานั่งบ่นบ้าๆบอๆว่าใช้ Innova,Fortuner เก็บตังเท่า Altis แล้วขาดทุน คือซื้อมาก็จุดประสงค์คือเหมารถอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? (คือก็ไม่สุจริตแต่แรกรึเปล่าครับ?) การมายกมือขอให้รัฐเค้าช่วยผมว่ามันเหมือนจะกินสองทางอยู่ดี (คือสุดท้ายก็ไม่เปิดมิเตอร์อยู่ดี)

3. การขู่ว่า "ไม่มีใครไปนั่งลิมูฯของสนามบินหรอกแพงจะตาย" ... ที่เรียกนี่ผมว่าบางทีเกือบๆจะเท่า Limo แล้วนะ แถม Limo พวกนี้บางทีนั่งสบายกว่าอีก (ขั้นต่ำๆก็ Camryแล้ว)

4. ถ้าจะหยุดวิ่งทั้งหมดเลย ผมก็ยินดีนะครับ เพราะตอนนี้ถนนในกรุงเทพและรอบนอกนี่ก็ติดเพราะแท็กซี่อยู่แล้ว รถเมล์ก็วิ่งกันเยอะ (ถูกกว่าเร็วกว่าด้วยบางที) แถมผมยังไม่(ค่อยจะ)เจอพวกรถเมล์วิ่งเข้าป้ายแล้วไม่รับผู้โดยสารนะครับ

แต่ผมก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่นะ นิสัยคนไทยก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว คือทุกคนเรียกร้องประโยชน์ตนแต่ไม่เคยมองคนอื่นเสมอๆ

[holahola66]

ส่วนตัวผมว่ามันเป็นแค่ข้ออ้าง
ผมเจอแทกซี่ดีๆเยอะแยะที่บอกว่ากำไรวันนึงเป็นพัน มีแต่พวกเลือกรับผู้โดยสารที่หวงจะเหมาอย่างเดียว
ผู้โดยสารไม่ได้โง่หนิครับ ในเมื่อู้โดยสารไม่ขึ้นคุณก็วิ่งรถเปล่า แล้วก็มาบ่นขาดทุน
ถ้ารับหมด ไม่เลือก ไม่บังคับเหมา ยังไงมันก็มีรายได้ทุกเที่ยว มัวแต่วิ่งรถหาคนเหมา เผลอๆไม่ได้ผู้โดยสารเลยด้วยซ้ำ

ส่วนเรื่องปรับลดซีซีรถลง อันนี้เห็นด้วยครับ ผมว่าไม่มีความจำเป็นต้องเครื่องใหญ่ เอามาซิ่งกันในกรุงเทพเปล่าๆ

ผมเห็นด้วยครับ เจอคนขับดีๆมีอายุรุ่นพ่อ แกเล่าให้ฟังว่าขับมายี่สิบกว่าปีแล้ว ก็ส่งลูกจบปริญญาได้สองคน
แกก้อบอกแบบนี้เลยครับ เจอใครก้อรับ ให้ไปไหนก้อไป ยังงัยก้ออยู่รอด

อ่อ เห็นด้วนใหปรับ cc ลง หรือขนาดรถลงก้อได้.  จริงๆใช้ yaris eco ก้อพอแล้วครับ

[GreenG]

ถ้าเอาที่เค้าพูดในรายการนะ

1. ผมแอบเห็นด้วยเรื่องที่ว่ากระเป๋ามาแบบ "3 ใบใหญ่ขึ้นไป" (ไม่นับเป้ไรงี้นะ) เก็บตังเพิ่มไป "แบบมีหลักการ" เพราะบางทีแบบเล็กอิ๊บอ๋ายอย่าง Altis ไรงี้เจอพวกแขกแบกทียังกะขนบ้าน (ผมก็ไม่เข้าใจแขกจะไปไหนมาไหนทำไมซื้อทีเหมือนซื้อของเข้าบ้านใหม่ทุกที แทบจะให้มีแท็กซี่กระบะไปโดยเฉพาะ)

แต่ผมก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่นะ นิสัยคนไทยก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว คือทุกคนเรียกร้องประโยชน์ตนแต่ไม่เคยมองคนอื่นเสมอๆ

ใช่ อันนี้ผมเห็นด้วยนะครับ ผมว่าไม่ ok เลยที่บางคน ยัดกระเป๋าตั้ง 10 ใบลงในรถคันเดียว+หลังคาอีก ผู้โดยสารอีก
แต่มองอีกมุม บางคนคงหนีไปเช่ารถตู้สนามบิน ซึ่งราคา พันต้นๆ แน่ๆ ครับ ก็จะเหมาะแล้วแหละ ถ้าจะขนกันมากขนาดนี้

ส่วนตัวผมว่ามันเป็นแค่ข้ออ้าง
ผมเจอแทกซี่ดีๆเยอะแยะที่บอกว่ากำไรวันนึงเป็นพัน มีแต่พวกเลือกรับผู้โดยสารที่หวงจะเหมาอย่างเดียว
ผู้โดยสารไม่ได้โง่หนิครับ ในเมื่อู้โดยสารไม่ขึ้นคุณก็วิ่งรถเปล่า แล้วก็มาบ่นขาดทุน
ถ้ารับหมด ไม่เลือก ไม่บังคับเหมา ยังไงมันก็มีรายได้ทุกเที่ยว มัวแต่วิ่งรถหาคนเหมา เผลอๆไม่ได้ผู้โดยสารเลยด้วยซ้ำ

ส่วนเรื่องปรับลดซีซีรถลง อันนี้เห็นด้วยครับ ผมว่าไม่มีความจำเป็นต้องเครื่องใหญ่ เอามาซิ่งกันในกรุงเทพเปล่าๆ

ผมเห็นด้วยครับ เจอคนขับดีๆมีอายุรุ่นพ่อ แกเล่าให้ฟังว่าขับมายี่สิบกว่าปีแล้ว ก็ส่งลูกจบปริญญาได้สองคน
แกก้อบอกแบบนี้เลยครับ เจอใครก้อรับ ให้ไปไหนก้อไป ยังงัยก้ออยู่รอด

อ่อ เห็นด้วนใหปรับ cc ลง หรือขนาดรถลงก้อได้.  จริงๆใช้ yaris eco ก้อพอแล้วครับ

ผมว่ารถขนาดนี้ ก็พอไหวนะครับ ยาวขึ้นมากแล้วเทียบกับสมัยก่อน

แต่จริงๆ ถ้า Toyota เอา Etios มาเป็น Taxi ได้ จะแจ๋วมากครับ เพราะหลังคาสูงกว่า vios ท้ายใหญ่ จุถังแก๊ซได้มากกว่า เครื่องก็น่าจะทนแก๊ซกว่าเพราะไม่มี VVT-I แล้ว


แต่ก็คงยาก เพราะ Toyota คงไม่ลงทุนทำรถเพื่อ corporate&commercial เฉพาะกลุ่มแน่ๆ ครับ
 
 

[keanetona]

ถ้าเอาที่เค้าพูดในรายการนะ

1. ผมแอบเห็นด้วยเรื่องที่ว่ากระเป๋ามาแบบ "3 ใบใหญ่ขึ้นไป" (ไม่นับเป้ไรงี้นะ) เก็บตังเพิ่มไป "แบบมีหลักการ" เพราะบางทีแบบเล็กอิ๊บอ๋ายอย่าง Altis ไรงี้เจอพวกแขกแบกทียังกะขนบ้าน (ผมก็ไม่เข้าใจแขกจะไปไหนมาไหนทำไมซื้อทีเหมือนซื้อของเข้าบ้านใหม่ทุกที แทบจะให้มีแท็กซี่กระบะไปโดยเฉพาะ)

2. ผมไม่เห็นด้วยเรื่องการที่มานั่งบ่นบ้าๆบอๆว่าใช้ Innova,Fortuner เก็บตังเท่า Altis แล้วขาดทุน คือซื้อมาก็จุดประสงค์คือเหมารถอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? (คือก็ไม่สุจริตแต่แรกรึเปล่าครับ?) การมายกมือขอให้รัฐเค้าช่วยผมว่ามันเหมือนจะกินสองทางอยู่ดี (คือสุดท้ายก็ไม่เปิดมิเตอร์อยู่ดี)

3. การขู่ว่า "ไม่มีใครไปนั่งลิมูฯของสนามบินหรอกแพงจะตาย" ... ที่เรียกนี่ผมว่าบางทีเกือบๆจะเท่า Limo แล้วนะ แถม Limo พวกนี้บางทีนั่งสบายกว่าอีก (ขั้นต่ำๆก็ Camryแล้ว)

4. ถ้าจะหยุดวิ่งทั้งหมดเลย ผมก็ยินดีนะครับ เพราะตอนนี้ถนนในกรุงเทพและรอบนอกนี่ก็ติดเพราะแท็กซี่อยู่แล้ว รถเมล์ก็วิ่งกันเยอะ (ถูกกว่าเร็วกว่าด้วยบางที) แถมผมยังไม่(ค่อยจะ)เจอพวกรถเมล์วิ่งเข้าป้ายแล้วไม่รับผู้โดยสารนะครับ

แต่ผมก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่นะ นิสัยคนไทยก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว คือทุกคนเรียกร้องประโยชน์ตนแต่ไม่เคยมองคนอื่นเสมอๆ

แขก(อินเดีย)พวกนี้หิ้วสินค้าไอทีกลับประเทศครับ เคยเห็นเขาหิ้วทีวี โน้ตบุ้ค ตามพันทิพอยู่ แต่ยังเคยเห็นคนหิ้วยางรถยนต์ 206/65-15 ขึ้นเครื่องด้วย

แต่ผมว่า ถ้าจะลดขนาดรถ ก็ลดอายุประจำการของแท็กซี่ด้วยก็ดีครับ ปัจจุบันนี่ลากได้12ปี แต่รถวิ่งตลอดวันแบบนั้นปีที่6สภาพก็เน่าเกินรับแล้ว กลิ่นน้ำมันเครื่องตลบอบอวลห้องโดยสาร เอาสัก7ปีแล้วต้องปลดระวางดีไหมครับ

[GreenG]

ถ้าเอาที่เค้าพูดในรายการนะ

1. ผมแอบเห็นด้วยเรื่องที่ว่ากระเป๋ามาแบบ "3 ใบใหญ่ขึ้นไป" (ไม่นับเป้ไรงี้นะ) เก็บตังเพิ่มไป "แบบมีหลักการ" เพราะบางทีแบบเล็กอิ๊บอ๋ายอย่าง Altis ไรงี้เจอพวกแขกแบกทียังกะขนบ้าน (ผมก็ไม่เข้าใจแขกจะไปไหนมาไหนทำไมซื้อทีเหมือนซื้อของเข้าบ้านใหม่ทุกที แทบจะให้มีแท็กซี่กระบะไปโดยเฉพาะ)

2. ผมไม่เห็นด้วยเรื่องการที่มานั่งบ่นบ้าๆบอๆว่าใช้ Innova,Fortuner เก็บตังเท่า Altis แล้วขาดทุน คือซื้อมาก็จุดประสงค์คือเหมารถอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? (คือก็ไม่สุจริตแต่แรกรึเปล่าครับ?) การมายกมือขอให้รัฐเค้าช่วยผมว่ามันเหมือนจะกินสองทางอยู่ดี (คือสุดท้ายก็ไม่เปิดมิเตอร์อยู่ดี)

3. การขู่ว่า "ไม่มีใครไปนั่งลิมูฯของสนามบินหรอกแพงจะตาย" ... ที่เรียกนี่ผมว่าบางทีเกือบๆจะเท่า Limo แล้วนะ แถม Limo พวกนี้บางทีนั่งสบายกว่าอีก (ขั้นต่ำๆก็ Camryแล้ว)

4. ถ้าจะหยุดวิ่งทั้งหมดเลย ผมก็ยินดีนะครับ เพราะตอนนี้ถนนในกรุงเทพและรอบนอกนี่ก็ติดเพราะแท็กซี่อยู่แล้ว รถเมล์ก็วิ่งกันเยอะ (ถูกกว่าเร็วกว่าด้วยบางที) แถมผมยังไม่(ค่อยจะ)เจอพวกรถเมล์วิ่งเข้าป้ายแล้วไม่รับผู้โดยสารนะครับ

แต่ผมก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่นะ นิสัยคนไทยก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว คือทุกคนเรียกร้องประโยชน์ตนแต่ไม่เคยมองคนอื่นเสมอๆ

แขก(อินเดีย)พวกนี้หิ้วสินค้าไอทีกลับประเทศครับ เคยเห็นเขาหิ้วทีวี โน้ตบุ้ค ตามพันทิพอยู่ แต่ยังเคยเห็นคนหิ้วยางรถยนต์ 206/65-15 ขึ้นเครื่องด้วย

แต่ผมว่า ถ้าจะลดขนาดรถ ก็ลดอายุประจำการของแท็กซี่ด้วยก็ดีครับ ปัจจุบันนี่ลากได้12ปี แต่รถวิ่งตลอดวันแบบนั้นปีที่6สภาพก็เน่าเกินรับแล้ว กลิ่นน้ำมันเครื่องตลบอบอวลห้องโดยสาร เอาสัก7ปีแล้วต้องปลดระวางดีไหมครับ

เห็นด้วยครับ ถ้าปรับลดขนาดรถลง น่าจะเหลืออายุรถสัก 7-10 ปีครับ โดยปีที่ 5 ต้องตรวจสภาพทุกปี หากปีใดไม่ผ่าน ก็ต้องปลดระวาง

[wa330]

ค่าโดยสารแท็กซี่ไทยควรเอาTATA NANO ติดNGV มาวิ่งแทน
เอาALTISมาวิ่งเจ้งทั้งคนเช่าขับทั้งเจ้าของอู่

[SaiXaiZai]

สัปดาห์ก่อนเห็น Pajero Sport เป็นแท๊กซี่เหลืองเขียว วิ่งสวนทางกัน เป็นเพราะตอนนี้เป็นปีท้ายของรุ่นแล้ว ส่วนลดเยอะ จึงเป็นทางเลือกของแท๊กซี่

[mick]

คือ ไม่มีใครบังคับให้มาขับแท็กซี่นะครับ ทำตามกฎหมายไม่ได้ก็กลับบ้านไปครับ ไม่ได้ค้องอยู่รอด กำไรมากทุกคน เป็นกลไกตลาดอยู่แล้ว มาบ่นๆของเยอะ ก็ไม่ต้องขับแท๊กซี่ครับ ไปทำอาชีพอื่น อีกอย่าง เสียภาษารายได้ไหมครับ พวกคนขับ ก็ไม่ยื่น ไม่เสีย ภาระสังคมอยู่ละครับ มารยาทขับรถก็สันดานเสียเป็นส่วนใหญ่ แก๊สก็ Lpg  รัฐอุ้มจากคนเติมน้ำมันทั้งนั้น ยังไม่สำนึก

พวกจะเอาเปรียบคนอื่น เสนอให้เลิกๆขับแท๊กซี่ไปซะ ประเทศจะได้ดีขึ้น

[LimitedEdition]

ผมว่าเล็กสุด 1.6 ซึ่งก็คือระดับ C-Segment เหมาะที่สุดแล้วครับ
รถแท็กซี่มันต้องรับงานหลากหลาย ทั้งไกลใกล้ การใช้รถเล็กสุดถูกสุดไม่น่าใช่ทางออกที่ดี

ปัญหามันอยู่ที่กรมการขนส่ง กับหน่วยงานที่จัดการเรื่องค่ามิเตอร์ต่างหาก
ที่ไม่รู้จักออกกฎให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบทั้งสองฝ่าย
แนวปฏิบัติของเมืองนอกมีกันมากมาย ก็ไม่คิดจะศึกษาหามาปรับใช้

ยกตัวอย่างนะครับ รถแท็กซี่ที่เป็นรถเก๋ง ทำไมไม่ระบุไปเลยว่ารับผู้โดยสารได้สูงสุดกี่คน
อย่างอเมริกาห้ามรับผู้โดยสารเกิน 4 คน (นั่งข้างคนขับ 1 หลัง 3) ส่วนสัมภาระใส่ได้เท่าที่รถจะอำนวย
จะได้ไม่ต้องมาอ้างเรื่องน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระ เพราะต่อให้น้ำหนักสูงสุด 32 ก.ก. ที่สายการบินให้
ก็เท่ากับแค่เด็กอายุ 10 กว่าขวบหนึ่งคนเท่านั้น จะมาบ่นว่าสึกหรอมากกว่าปกติได้ยังไง

ส่วนรถที่มีขนาดใหญ่กว่าเก๋ง ก็ระบุคนตามจำนวนเบาะนั่ง ปรับค่าโดยสารเริ่มต้นและกิโลเมตรถัดไป
ให้แพงกว่ารถเก๋งปกติก็ได้ อเมริกาก็เป็น สิงคโปร์ใกล้ๆ บ้านเราก็เป็น รถใหญ่ต้นทุนการวิ่งมากกว่าอยู่แล้ว
หรือไม่ก็ทำเป็น Flat Rate ไปเลย ไปสนามบินขาละ 500 บาท ออกจากสนามบินเข้า กทม. 500 บาท ก็จบ

ผมแค่ไม่เข้าใจว่าจะมาคิดค่าระวางสัมภาระแบบเครื่องบินได้ยังไง
ในเมื่อเครื่องบินเราซื้อสิทธิ์ 1 ที่นั่ง รวมกับสัมภาระที่เขาอนุญาต
ส่วนแท็กซี่ คือการเหมารถ 1 คันในราคาค่าบริการตามระยะทาง
คนละเรื่อง คนละบริบทกันเห็นเห็น

[Slipknot`]

Taxi Innova 2.0 fortuner 2.7

ต่อให้ติดแก๊ส รถ2คันนี้ก็กินมหาศาลอยู่นะครับ เทียบกับ Altis MT คนละขุมเลยล่ะ

แต่ตัวเครื่องยนต์ทนแก๊สสุดๆเหมือนกัน

[H.]

ผมด้วยกับการลดขนาดซีซีครับ คือแท็กซีวิ่งส่งตามหัวเมือง ไม่ได้ออกไปไหนไกลๆ จะให้เอาเครื่อง 1.6-1.8-2.0 มาวิ่งผมว่าใช้เครื่องไม่เต็มแรง+สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุนะ ส่วนจะจัดเรทรถใหญ่รถเล็กผมว่าก็รับได้ แบบ SUV คิดเรทสตาร์ท 50 กิโลละ 2 รถเล็ก 1.2+ คิด 35 กิโลละ 1.5 บาท ไรเงี้ย

ส่วนเรื่องอื่นผมว่าแม่งเป็นที่คนวะ

[H.]

เออแล้วก็แท็กซีสีฟ้ากับเหลืองผมว่าดูดีสุด สีอื่นผมว่าแม่งดูไร้คลาสจังเลย เมื่อไหร่จะให้ใช้สีที่มันดูปกติชนกว่านี้

[ken_p]

ผมอยู่ปักกิ่งมา 6 ปี คิดว่าที่โน่นค่าแท็กซี่เป็นธรรมกับคนข้บแท๊กซี่ดีครับ ถ้าเป็นรถเครื่อง 1.6-1.8 ก็อัตราค่าโดยสารหนึ่ง ถ้าเครื่อง 2.0-2.2 ก็อีกราคาหนึ่ง ถ้าเครื่อง 2.4-3.0 ก็อีกราคาหนึ่ง ที่อินโดนีเซียก็เหมือนกัน แบ่งราคาค่าโดยสารไปตามขนาดเครื่องรถ อย่างรถพวกอินโนว่า ผมกลับจากต่างประเทศมีกระเป๋าสัมภาระเยอะมาก พ่อแม่ลูก 3 คน ใส่ท้ายรถเก๋งติดแก๊สไม่หมด ผมก็เรียกอินโนว่า เขาบอกว่าให้เหมาผมก็ไม่มีปัญหาอะไร ตอนขึ้นรถมาแท๊กซี่ว่าทำไมผมไม่บ่นเลย ผมก็บอกว่า รถคุณเครื่อง ​2.0 ลิตร ต้นทุนสูงกว่ารถเก๋งเครื่อง 1.6 คิดราคาเท่าเขาคุณก็แย่สิ ผมยินดีจ่ายแพงกว่าให้คุณโดยไม่บ่นเพราะเหตุนี้ คนขับก็บอกว่าถ้าคิดได้อย่างนี้ทุกคนก็ดีสิ จริงๆ ผมอยากให้จัดการปัญหาแบบนี้เสียที ทำให้มันสมเหตุสมผล แต่ที่ผมต้องขอตำหนิแท๊กซี่คือการที่ไม่รับผู้โดยสารเรียกรถทีน้อยครั้งมากที่จะเรียกทีเดียวแล้วไปเลย อย่างน้อยต้องมี 2-3 คัน อันนี้ไม่ดีอย่างมาก จริงๆคือผู้โดยสารควรจะเข้าไปนั่งรถได้เลยอย่างสบายใจแล้วบอกว่าจะไปไหน ไม่ใช่ต้องมายืนเก้ๆกังๆ เปิดประตูรถค้างไว้เพื่อดูว่าจะไปหรือไม่ ผมว่ามันไม่เมกเซนส์เลยครับ สรุปผมอยากให้มีเรทราคาแท๊กซี่หลายเรทแปรผันไปตามขนาดรถหรือขนาดซีซีรถครับ

[iKrit]

ยกเลิกเรื่อง cc ไป แต่กำหนดขนาดรถไม่ให้เล็กไปกว่า c-segment ได้ไหมล่ะครับ
ถ้าเป็นระดับ suv ก็ให้เป็นอีกอัตรานึงที่สูงกว่าอีกหน่อย เพราะมีข้อได้เปรียบตรงที่ตัวรถใหญ่กว่า มีพื้นที่ขนของมากกว่า

แต่รถแต่ละประเภทต้องมีข้อกำหนดหรือข้อจำกัดว่าต้องบรรทุกสัมภาระได้ไม่เกินเท่าไร และต้องมีพื้นที่บรรทุกของอย่างต่ำเท่าไร เพราะท้าย Altis ที่ติดตั้งถังแก๊สแล้วมีพื้นที่พอใส่กระเป๋าขนาด 26-28" ได้แบบสบายๆ เพียงใบเดียวเอง

กับอีกข้อกำหนดนึงคือจำนวนผู้โดยสารว่านั่งได้ไม่เกินกี่คน เพราะหลายครั้งที่ผมเห็นผู้โดยสารนั่งยัดกัน 5-7 คน ใน Altis นู้นแน่ะ

พ่นสีหรือแปะป้ายโชว์ตรงแก้มท้ายรถแบบรถเมล์ไปด้วยเลยว่ารับผู้โดยสารได้กี่คน ขนาดพื้นที่สัมภาระที่ใส่ได้

เอากฎแบบเนี้ย และต้องบังคับใช้อย่างจริงๆ จังๆ win-win ทั้งสองฝ่าย แท๊กซี่ไม่ต้องหัวหมอ ผู้โดยสารไม่ต้องหัวหมอ เพราะถ้าเกินกำหนดจริงให้ปฏิเสธได้ แต่ถ้าไม่เกินข้อกำหนดก็ต้องไป


แต่ก็นะ.....เมื่อตอนตรวจสภาพรถครั้งใหญ่เพื่อประเมินการขึ้นค่าโดยสารล่าสุด ตรวจสภาพรถ 80,000 คัน แต่ผ่านจริงๆ 20,000 คัน - -"

[Fly to dream]

เอาเป็นว่าถ้ามาขับ Taxi แล้ว ซื้อรถมาแล้ว ถ้าคนมันมีจรรยาบรรณที่จะขับ รุ่นไหนก็ไปส่งคนได้ครับ ที่มันบ่นว่าเงินน้อยเพราะไม่ไปไง

Taxi ควรใช้ Camry ไปด้วยซ้ำ จะได้ตัดไอพวกขับแบบไม่มืออาชีพออกไปได้บ้าง ซื้อรถเป็นล้านพวกที่มาขับเล่นๆคงไม่ทำ

[View]

ผมว่ามันก็แพงเกินไปนิดหย่อย ปรับลดซีซีลงก็ดีนั่ง Vios ก็ไม่ได้แย่อะไรแต่ผมอยากให้มีรถ Altis For Taxi หรือ Limo กลับมาอีกครั้งอะครับ

[Focuszaa]

ผมเห็นด้วยบางประการครับ เรื่องว่าขาดทุนหรืออะไรนี่ ผมเห็นว่า taxi บางคนยังทำกำไรได้ปกตินะครับ ส่วนคนที่เลือกรับก็ ต้องเสียเวลาต่อไป

ส่วนเรื่องขนาดรถผมเคยคุยกับ Taxi ท่านหนึ่งเค้าบอกว่ารถพวกนี้ ซื้อมาคนละราคากับ รถทั่วไป เพราะว่า โดนตัด option ที่ไม่จำเป็นออกบางรายการ ( อันนี้จริงเท็จประการไดผมไม่ทราบแน่ชัดครับ ) ส่วนเรื่องขนาดตัวรถ ผมว่า พวก Yaris หรือ Vios แบบนี้ก็เพียงพอต่อการขับในเมืองครับ ไม่จำเป็นจะต้อง Altis หรือทางคนออก ก.ม .เค้าอาจจะมองว่า รถต้องกว้างขวางนั่งสบาย สามารถบรรจุสัมภาระได้พอประมาณ (ณ เวลา นั้น) แต่ตอนนี้รถเล็กๆ ก็พัฒนามาเยอะมาก นั่งสบายเหมือนกัน นั่งไม่นาน ก็ไม่น่าห่วงอะไร

ประเด็นที่ผมอยากจะให้ปรับปรุงมากกว่ามานั่งขึ้นค่าโดยสาร หรือเพิ่ม ภาษีสัมภาระ ( วันข้างหน้าคงต้อง เพิ่มเงินค่าฟังวิทยุกันละมั้ง หุหุ ) คือการคัดกรองผู้จะมาทำอาชีพนี้แบบจริงจรัง การสอบใบขับขี่ประเภทนี้จะต้องมีการอบรมให้มากขึ้นกว่าเดิม ใบอนุญาติต้องชจะต้องผ่านการทดสอบหลายรูปแบบ  ให้คล้ายๆ ตปท อย่าง อังกฤษ เองกว่าจะมาเป็น Taxi ได้ใช้เวลาตั้ง 2 ปี (ผิดพลาดขออถัย) แต่ก็คงยากมากๆ ที่จะทำได้ การที่อาชีพนี่สามารถเข้าถึงได้ง่ายมันทำระบบเสีย คือใครไม่รู้ ไม่รู้จะทำอะไรก็มาขับ Taxi เต็มไปหมด  มันเลยมี Taxi ที่กะจะเอา เอาแต่ได้ เข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน Taxi มิจฉาชีพ ข่มขืน ติดตามตัวไม่ได้ก็เยอะเยะมากมาย แบบนี้ก็พลอยทำให้คนที่เค้าตั้งใจทำมาหากินดีๆ โดนว่าไปด้วย


ปล.ผมทำงานที่ อโศก ถ้าผมกลับดึกอย่างรถไฟฟ้าหมดละก่อ ไม่ต้องพูดถึงครับไม่มีทางรับคนไทย !!