เดิมทีจอง preve เอาไว้ครับว่าจะออกสิ้นเดือนนี้ แต่ดันติดปัญหาเรื่องค่าเงินบาทซึ่งถ้าแลกแล้วขาดทุนเยอะพอสมควรเลยผลัดการออกรถออกไป แล้วใช้ city 97 เกียร์ธรรมดาต่อไป
เลยมีได้มีเวลาดูรุ่นนั้นรุ่นนี้อีกเรื่อยๆ ซึ่งเจ้า 2 ตัวเริ่มต้นก็อยู่ใน range ราคาที่พอจะซื้อได้เมื่อเทียบกับ preve ที่หักส่วนลด + ค่าติดแก๊สแล้วราคาจะใกล้เคียงกันมากจึงไปลองเทส
เจ้า 2 ที่ศูนย์ดูครับ ซึ่งแน่นอนว่าศูนย์ให้เทสเป็นตัวท็อปอยู่แล้ว แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะขอลองนั่งสัมผัสรุ่นเริ่มต้นที่เล็งเอาไว้ด้วยครับ
เนื่องจากไปเทสตอนเกือบๆจะ 5 โมงเย็นแล้ว เซลเลยให้เทสยาวๆเท่าที่อยากจะวิ่งเลยครับ ผมเลยจัดไปราวๆ 20 โล เส้นทางที่ผมเทสนั้นคือ เส้นปราณบุรี - กุยบุรี ซึ่งท่านใดที่
วิ่งสายใต้คงทราบถึงความเน่าของถนนได้ดี แถมเทสในช่วงรถเยอะพอสมควร เลยได้เทสเรื่องคันเร่งกับเครื่องในการเร่งแซงบ่อย
---เครื่องยนต์ อัตราเร่ง-----
ในช่วงออกตัวหรือความเร็วต่ำถ้ากดคันเร่งแบบปกติ รถจะไปแบบนิ่มๆไม่ได้พุ่งอะไร ถ้ากดคันเร่งแบบจมมิดช่วงแรกความเร็วจะขึ้นปกติแต่จะเริ่มทยานไปไวมากๆก็ราวๆ 60+ ขึ้นไปครับ
อัตราการเร่งแซงนั้นแรงหายห่วงเลยครับ วิ่งตามรถบรรทุกที่ความเร็วราวๆ 60-80 กม/ชม รอบอยู่ที่1พันปลายๆ เมื่อสบโอกาสได้แซง คิกดาวคันเร่ง แล้วรอบกวาดขึ้นไปที่ 3พันรอบพร้อมกับรถที่พุ่งทยานไปเร็วมากๆแปบเดียว 140 แล้ว มีช่วงนึงที่มี วิโก้ยกสูงจี้ตูดเหมือนจะขอลองเจ้า 2 ซึ่งผลคือโดนเจ้า 2 ฉีกไปพอสมควรเลยครับ ผมยกคันเร่งที่ ประมาน 145
ถ้าเทียบกับ preve แล้ว ในความเร็วต่ำ ผมว่าแทบจะสูสีกับ preve ในเกียร์ D เลยทีเดียว แต่ถ้ารถเริ่มลอยตัว preve รอบเกิน 2200+ แล้ว อันนี้ preve น่าจะไปไวกว่าครับ แต่ถ้า
เทียบกับ preve ในโหมดเกียร์ S แล้ว ก็ยังสู้ไม่ได้เยอะครับ ตอนลองเองไม่ได้จับเวลานะครับ แต่เท่าที่หาดูมา แล้วก็เจ้าของ preve ที่เคยรีวิวไว้ในเวบนี้ 0-100 มันติด 7 วิกลางๆถึงปลายๆ ซึ่งแน่นอนว่าต้องไปวัดกับ pulsa turbo ถึงจะถูกคู่ แต่อัตราเร่งของเจ้า 2 ที่ให้มานี่ก็เหลือเฟือสำหรับผมมากๆแล้วครับ
-----คันเร่ง------
ในช่วงความเร็วต่ำหรือตอนออกตัว คันเร่งแทบจะไม่หน่วงเลยแม้แต่นิดเดียว กดเป็นไป สั่งอย่างไรได้อย่างนั้น ไม่ต้องเกิดอาการหลอนเวลาจะออกตัวที่จุดยูเทิร์น ซึ่งผมบอกเลยหลอนทุกครั้งที่ใช้รถวิออสของพี่ หรือวิออสตอนที่เช่ารถมาใช้ หรือตอนที่ลองขับ pulsa 1.8 ตัวท็อปที่เพื่อนเสนอขายให้เลยให้ลองรถ อาการหลอนที่ว่าคือคันเร่งที่หน่วงเกินเหตุครับ ช่วงอื่นไม่เท่าไหร่ครับ แต่ตอนออกตัวจากยูเทิร์นที่ต้องการความมั่นใจในการเร่งออกตัว คันเร่งที่หน่วงมันทำให้รู้สึกไม่ดีเลยครับ ซึ่งเจ้า 2 นี้ ทำได้ดีมากๆจนน่าประทับใจ
มันประทับใจตอนออกตัวแล้วก็กลับรถที่ยูเทิร์นแค่นั้นครับ หลังจากวิ่งจริงๆแล้วผมกลับจะงงๆกับคันเร่งมันเหมือนกัน เช่น ถ้าคุณขับที่ความเร็วธรรมดาเรื่อยๆ หรือ ตามหลังรถบรรทุก ช่วงราวๆ 60-100 กิโล/ชม คันเร่งมันจะฟรีราวๆ 20-25% ของแป้น คือกดคันเร่งแล้วมันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
ถ้าจะเร่งแซงล่ะ กดคันเร่งประมาณไหน ผมลองกดที่ 50% ดู ผมรู้สึกว่ารถมันนิ่งไปเกือบๆ 1 วินาทีเลยครับ กว่ามันจะเร่งขึ้นมาแล้วเป็นการเร่งแบบช้าๆด้วย ซึ่งถ้าจะเอาอัตราแบบทันใจนี่ผมต้องกดคันเร่งจนติดพื้นรถนั่นเลยครับ แล้วรอบจะกวาดขึ้นมาแบบน่าตื่นตาตื่นใจ สิ่งที่ผมงงๆคือบางครั้ง มันจะหน่วงเวลาเกือบๆ 1 วิแล้วลดเกียร์ บางทีกดปุ๊บมันก็เปลี่ยนเกียร์แบบทันควันเลย ซึ่งอันนี้ผมเองก็บอกก่อนว่าใช้เกียร์ธรรมดามาตลอด รถที่เคยใช้และเป็นเกียร์ออโต้ที่ไม่ใช่ cvt มีแค่ วิออสกับ city type z แค่นั้นเอง ความเข้าใจในเรื่องคิ๊กดาวอาจจะทำไม่ถูกวิธีก็ได้ครับ แต่โดยรวมแล้วผมไม่ชอบคันเร่งที่หน่วงนานขนาดนี้ซักเท่าไหร่ครับ
ออ อีกอย่างนะครับ แป้นคันเร่งมันเบาและนิ่มไปหน่อยครับ ใช้แรงกดน้อยแต่คันเร่งออกจะจมลงไปค่อนข้างเยอะ ซึ่งผมมองว่าถ้าคนที่หัดขับรถอาจจะต้องฝึกควบคุมคันเร่งมากกว่าปกติครับ แต่ข้อดีของมันอย่างนึงก็คือ ถ้าขับรถระยะไกลแล้ว มันจะนุ่มสบายเท้ากว่ามากๆ ไอ้ความรู้สึกอยากได้รถที่มี cruise control มันหายไปเยอะเลยล่ะ
ถ้าเทียบกับ preve คันเร่งของเจ้านี่มันจะตอบสนองค่อนข้างจะไวครับ แล้วมันก็จะเป็นแบบนี้ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงความเร็วไหน ซึ่งผมชอบครับ เรื่องคันเร่งผมจึงชอบคันเร่งของ preve มากกว่า
-----พวงมาลัย------
เป็นอะไรที่ผมรู้สึกโครตจะว๊าว!! เลยครับ ในช่วงความเร็วต่ำ ออกตัว เลี้ยวที่แคบ จอดเก็บรถเข้าซอง ทั้งหมดนี้พวงมาลัยจะเบามากครับ แต่เป็นเบาที่มั่นใจ มั่นใจว่าควบคุมได้ ไม่ลั่นออกไปไหน หักเท่าไหร่เลี้ยวเท่านั้นได้ดั่งใจมาก ทั้งที่ขับครั้งแรกแล้วต้องออกจากที่แคบก็ตาม ไม่มีอาการฟรีหลอกแปลกๆใดๆ
ในช่วงความเร็วสูงพวงมาลัยจะตึงมือขึ้นมาในระดับที่พอดีพอเหมาะมากๆ ไม่ว่าจะช่วง 60 100 หรือ 140 ให้ความมั่นใจในการความคุมมากๆ
ถ้าเทียบกับสวิฟแล้วช่วงความเร็วสูง พวงมาลัยสวิฟจะมีช่วงฟรีของพวงมาลัยที่มากกว่า ของเจ้า 2 นี้ ช่วงฟรีของพวงมาลัยจะน้อยกว่า แล้วก็การเด้งขืนมือของพวงมาลัย เจ้า 2 จะเด้งขืนมาน้อยกว่าสวิฟครับ โดยรวมผมว่าพวงมาลัยเจ้า 2 ดีกว่าสวิฟนิดหน่อยเลยละครับ
ถ้าเทียบกับ preve นี่ต้องบอกว่าช่วงความเร็วต่ำ น้ำหนักพวงมาลัยต่างกันคนละเรื่องเลยครับ ของ preve มันหนัก!! เอาว่าหนักกว่า city 97 ของผมหน่อยๆด้วยซ้ำ ยังดีที่ผมชินกับรถพวงมาลัยหนักๆ
-----ภายใน-----
ในส่วนที่ผมชี้ตรงนั้นที่รุ่นท็อปจะเป็นวัสดุบุนุ่มนะครับ แต่ถ้าเป็นตัวล่างกับตัวกลางมันจะไม่มีไอนุ่มๆนี้ มันจะแข็งครับ
ทำไมถึงต้องบอก เพราะว่าไอ้ตรงนี้มันเบียดเข่าซ้าย เบียดจนน่าลำคาร ถ้าเป็นตัวท็อปมันจะไม่เจ็บหรือน่าลำคารซักเท่าไหร่เพราะมันออกจะนุ่มแต่ตัวล่างกับตัวกลางนี่บอกเลยครับถ้าขับนานๆนี่เจ็บได้เหมือนกัน ทางแก้ล่ะ ก็ต้องคงปรับเบาะให้ต่ำลงครับ(ผมสูง 166) เข่ามันจะติดน้อยลง แต่มันก็ยังเบียดมาอยู่ดีล่ะครับ
ในส่วนของเบาะนั่งนั้นมันก็โอเคครับไม่ได้ประทับใจในความนุ่นสบาย แต่ก็ไม่ได้แข็งจนเลวร้าย ช่วงบั้นเอวนั้นผมรู้ว่ามันจะโอบบีบไปหน่อยนึง ส่วนช่วงกลางหลังด้านบนจนเกือบถึงท้ายทอยมันจะโหวงๆ เหมือนจะรองรับน้อยไปนิด ส่วนพนักพิงหัวนี่ผมว่ากำลังดีเลย ปรับเบาะเอนเล็กน้อย ก็ได้ท่านั่งขับที่สบาย แล้วหัวก็ไม่ลอยด้วย
ส่วนที่โดยสารด้านหลังนั้น แน่นอนว่าไม่เป็นปัญหากับคนตัวเตี้ยอย่างผม legroom ก็น่าจะพอๆกับ fiesta แต่ความสบายของเบาะนั่งของ 2 น่าจะสบายกว่าเล็กน้อยนะครับ
การเก็บเสียง เป็นเรื่องนึงที่ต้องบอกว่าว๊าวอีกเรื่องเลยจริงๆ เงียบมากๆ แม้ในช่วงความเร็ว 140 ผมว่ามันยังเงียบกว่า รถผมเองตอนขับ 80 เสียอีก แต่บอกไว้เลยนะครับว่าไม่ต้องถามผมว่าเงียบกว่า 3 หรือ cx5 หรือปล่าว ผมตอบล่วงหน้าเลยครับว่าไม่เคยสัมผัสทั้ง 2 รุ่น ซึ่งถ้าเทียบกับ preve ผมว่าการเก็บเสียงลมของ 2 นั้นดีกว่า preve โดยเฉพาะการเก็บเสียงเครื่องยนต์เข้าห้องโดยสารนั้นบอกเลยว่า 2 นั้นเก็บได้ดีมากๆ ส่วน preve นั้น เสียงเครื่องเข้าห้องโดยสารดังเอาเรื่องเลยครับ และมันก็ดังกว่า 2 ด้วยครับ ซึ่งตรงนี้ผมมองว่าเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนที่นอกจากพวงมาลัยกับช่วงล่างแล้วนั้น การเก็บเสียงที่ดีของเจ้า 2 นี้นั้น ทำให้ คนที่อยู่ในรถรู้สิ่งว่า "นิ่ง" มากขึ้นอีกมาเลยครับ
-----เบรก-------
แป้นเบรกของ 2 นี้ ผมว่าแทบจะไม่มีช่วงระยะฟรีเลยมั้ง เบรกได้แทบจะตามใจนึก แทบไม่มีอาการจึกๆให้เห็นเลยซึ่ง preve ก็ไม่ต่างจากนี้เท่าไหร่
แต่เบรกของตัวเริ่มเห็นว่าเป็นแบบหน้าดิส หลังดรัม นะครับ ซึ่งจะทำให้มันต่างกับตัวท็อปหรือรองท็อปที่เป็นดิสทั้งหน้าและหลังอย่างไร ผมก็ไม่ทราบครับ
-----ช่วงล่าง------
อย่างที่บอกไว้ตอนต้นครับว่า ผมเทสถนนเส้น ปราณบุรี - กุยบุรี ซึ่งถนนเรียกได้ว่าเน่าสุดๆ ในพื้นพิวที่แทบทั้งหมดเป็นพื้นผิวที่เป็นหลุมที่ถึงมันจะไม่ได้ลึก แต่มันเป็นหลุมตื้นๆแทบจะทั้งผิวถนนประหนึ่งพื้นผิวดวงจันทร์ เจ้า 2 นั้นซับแรงกระแทกได้ดี อาการรถกระเด้งไปกระเด้งมาไม่มากเท่าไหร่ รถพยายามเก็บอาการได้ดีพอสมควรแม้ในตอนความเร็ว 120 แต่ถ้าขึ้นไป 140 จะมีเสียวบ้างนิดๆ คนในรถนั้นจะโคลงน้อยกว่ารถคลาสใกล้เคียงกัน ถ้าเป็นคันอื่นๆที่เคยขับผ่านเส้นนี้ผมรู้สึกว่าหัวผมมันโยกตามรถเยอะมาก แต่เจ้า 2 นี่มันจะน้อยกว่าเยอะ ซึ่งถือว่านิ่งมากๆแม้ความเร็วจะสูงก็ตาม ผมลองตกหลุมลึกๆกว้างประมาณ 1 ฟุต ที่ความเร็ว 100กว่า รถมันรักษาความนิ่งมีอาการแค่บอกให้รู้ว่ารถตกหลุมนะ แต่ไม่ยวบลงแล้วไม่มีเสียงดังตึงให้ได้ยินชัด
แล้วถ้าเทียบกับ preve ล่ะ เรื่องการเข้าโค้งนั้นผมคงบอกอะไรไม่ได้มากว่าตัวไหนดีกว่ากัน เพราะเส้นทางที่ผมวิ่งนั้นไม่ได้มีโค้งยากๆอะไร แล้วผมก็ไม่ได้ขับเร็วมากพอที่จะวัดด้วยครับ แต่เอาเป็นว่าการเข้าโค้งธรรมดาทั่วๆไปของทั้งคู่ที่ 100-120 กม/ชม เมื่อเทียบ city ของผมเองแล้วก็ vios ที่ใช้บ่อยแล้วนั้น ต้องบอกว่า มั่นใจกว่าในระดับที่เรียกว่ามหาศาลเลยละครับ การรับแรงกระแทกจากหลุมลึกๆผมว่าก็พอกัน แต่จุดที่ต่างมันอยู่ที่ความโคลงและการกระเด้งไปมาของรถบนพื้นผิวที่เป็นหลุมตื้นๆแต่ทั่วทั้งผิวถนนที่เหมือนดวงจันทร์นั้น ผมมองว่า preve เก็บอาการได้ดีกว่าพอสมควร แต่ preve เองผมว่ามันก็ออกอาการตึงตังมากกว่า 2 อยู่ด้วยครับ
โดยรวมผมว่าช่วงล่างเจ้า 2 นี่ดีเป็นที่น่าพอใจสำหรับผมมากๆครับ
----อัตราการบริโภคเชื้อเพลง-----
ไม่รู้ครับ 555555
สรุปคือ ตอนนี้ผมบอกแฟนซึ่งจะเป็นผู้ซื้อว่า ก็พึ่งมีเจ้้า 2 นี่แหละที่เมื่อพิจารณาความความคุ้มค่าโดยรวมทั้งหมดแล้ว ถ้าเค้าจะตัดสินใจทิ้งจอง preve มาเอาเจ้า 2 แล้วผมจะไม่บ่น ไม่ท้วงเสียดาย preve
ส่วนผมถ้าจะเป็นคนซื้อเอง ผมเองก็บอกบอกว่า 50/50 เพราะเจ้า 2 หาศูนย์ง่ายกว่า ไม่ต้องติดแก๊ส แต่จ่ายค่าเพลิงแพงกว่า preve ติดแก๊สแค่นิดเดียว(ทั้งนี้ถ้าน้ำมันขึ้นราคา preve จะคุ้มกว่าทันที) ถึงไม่มี cruise control แต่แป้นคันเร่งที่นิ่มนั้นก็ไม่เลว และดีไซภายนอกที่สวยกว่า แต่ preve เองก็ได้รถที่มีพื้นที่ส่วนหลังมากกว่า ออปชั่นหนักกว่า รถแรงกว่า ช่วงล่างดีกว่า
เพราะฉะนั้น ไหนๆก็ต้องยืดเวลามาแล้ว ขอรอดู ciaz ไปด้วยเลยละกันครับ
ส่วนตอนนี้ก็ขับ city 97 เกียร์ธรรมดา ไปกลับ กทม-ปราณบุรี ต่อไปครับ เพราะราคาน้ำมันยังถูกอยู่ อัตราบริโภคเชื้อเพลิง 18-19 กิโล/ลิตร ผมเลยยังสู้ได้สบายๆอยู่ครับ