ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าชอบรถ D-seg แต่ไม่ติดแก๊ซและต้องประหยัดน้ำมัน ควรซื้อรถรุ่นไหนในช่วง 2015-19  (อ่าน 6453 ครั้ง)

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ผมกำลังดูๆ เรื่องเปลี่ยนรถครับ ตอนนี้ใช้ Nissan March ปี 2011 E CVT ซึ่งพี่จิมมี่และพี่แพนแนะนำได้เหมาะสม ประหยัด ทุกอย่างใช้ได้ แต่ปัญหา คือ คุณภาพตัวรถที่ไม่ทนทาน อะไหล่ไม่แพง (ค่อนข้างถูก) แต่เสียง่าย ทั้งเคลมและจออกแบบไม่เผื่อการซ่อมเลย รื้อเยอะเกิน
และศูนย์นิสสัน พึ่งพาไม่ได้ พัดลมแอร์ ลูกปืน ไม่พยายามแก้ไขให้ทน / ทำรถลูกค้าเกียร์ CVT พังไปหลายคันครับ ( :'()

ตอนแรกผมก็สนใจ Yaris Eco มากเพราะอยากได้รถที่ไม่จุกจิก ปัญหาน้อย ตั้งใจจะเป็น J Eco ด้วยซ้ำ ถ้าต้องเป็น Yaris

แต่สิ่งที่ผมไม่ชอบเลย คือ 1. รถมันทรง ไม่ใช่เลย เตี้ย แบน วัยรุ่น เข้าออกยาก
2. ภายในโทนสี ดำ เบาะสีๆ หน่อย ไม่ใช่เลย วัยรุ่นมาก
3. รถใต้ท้องเตี้ยมาก (แต่คงต้องทำใจ รถสมัยนี้เป็นกันทุกคัน)
นอกนั้น ระบบภายใน เครื่อง เกียร์ ช่วงล่าง พวงมาลัย การออกแบบเพื่อใช้งาน ผมตรงใจมากครับ
ผมยังคิดเลยว่า ถ้าออกแบบเหมือน Yaris ตัวเดิม สูงๆ หน่อย ภายในครีมเบส แบบ Vios แต่มีลายไม้ ถ้าเป็นเก๋งมีโครเมียมสักหน่อย จะน่าใช้มากกว่านี้ทันที
แต่ตัวปัจจุบัน ผมไม่ชอบทรงหน้าตาอะไรสักอย่างเลย ไม่สวย ไม่เด่น (รวมถึุง Vios ด้วย) แต่ถ้าต้องใช้จริงๆ ก็คงต้องเอา

อยากสอบถาม ว่า ถ้าผมมีเงื่อนไข สำหรับรถ ตามนี้ ในราคาไม่เกิน 1 ล้าน มือ 1 หรือ 2 (ไม่เกิน 3 หรือเกินแต่เป็นรถ certify user car) ควรมองที่ตัวไหนครับ
1. ผมอยากได้รถที่ดูหรูแบบ D-seg มีโครเมียมข้างนอกและข้างใน ภายในสว่าง ครีมเบส ลายไม้ (หรือ piano black ที่คล้ายๆ ไม้) โทนประมาณ Altis หน้าหมู Camry ACV30 และตัวปัจจุบัน หรือพวก Nissan Neo Teana Cefiro Tilda
2. ประหยัดน้ำมัน โดยไม่ต้องติดแก๊ซ เว้นแต่มาจากโรงงาน และหากได้รถที่เติม E85 ก็จะดีมาก
3. พวงมาลัยไฟฟ้า เบาหมุนง่าย คล่อง แต่ไม่ไวเกินไป มีระยะฟรีนิดๆ ช่วงล่างนิ่มๆ แต่ไม่เด้ง หน้าสตรัท หลังคานบิด หรือช่วงล่างทนทาน ไม่จุกจิก
4. รถนุ่มเงียบ เก็บเสียงดี ไม่มีเสียงคอลโซลดัง
5. ตัวรถมีความเสถียร เช่น ระบบไฟฟ้าใช้แบตขนาดไม่ใหญ่มาก (แบบ march) โดยไม่มีปัญหา / เครื่องเป็นโซราวลิ้น /ไม่ต้องเข้าศูนย์ไปเคลมจุกจิกบ่อยๆ / ทนทาน
6. มีการออกแบบให้ซ่อมบำรุงง่าย เช่น โช๊คเปลี่ยนโดยไม่ต้องเกาะแผงหลัง มีช่องเปลี่ยน / เปลี่ยนหัวเทียน ได้ง่าย ไม่ต้องรื้อ
7. ค่าบริการ ดูแลรักษาไม่แพง เช่น ล้อไม่ใหญ่เกินไป ยางเบอร์มาตราฐาน หาง่าย ไม่แพง เบอร์ไม่แปลก / มีอะไหล่เทียบ เข้าอู่นอกได้
8. มีวิทยุ USB แอร์ไม่มีฮิตเตอร์ และเบาะพับได้ (ถ้ามี)
9. ถ้าได้ภาพลักษณ์ที่ขับแล้วดูดีด้วยก็ดีมากครับ
ข้อ1 กับ 9 ไม่ได้ไม่เป็นไรนะครับ เพราะคงยากสำหรับข้อนี้ในราคานี้. แต่ข้ออื่นควรจะได้ครับ

โดยรวมๆ ที่ผมดูๆ ไว้ คือ
1. HR-V ตัวล่าง รับได้เยอะมาก แต่ผมไม่ชอบ น่าจะกินพอสมควรเพราะสูง ต้านลม โทนสีภายในดำ ล้อ 17 และแอร์สัมผัส
2. Sylphy 1.6 ดีเกือบครบ แต่บอกตรงๆ ว่า ไม่เอานิสสันครับ รู้สึกว่า คุณภาพรถยังไม่ทนทาน อะไหล่ถูกแต่ไม่ทน และการออกแบบไม่เผื่อการซ่อมบำรุง ทำอะไรยาก รื้อยาก
ที่สำคัญ คือ ช่างที่ศูนย์พึ่งพาไม่ได้ เช่น มีคนเกียร์ CVT พังเพราะศูนย์ให้ถ่ายที่แสนโล
3. Civic Coupe 1.8 ตัวล่าง (ภายในครีมและน่าจะคล้ายๆ Civic FB ถ้ามี) ข้อดี คือ ได้ภาพลักษณ์ดี (ผมรู้สึกเหมือนเป็น 86 ราคาไม่แพง :D) เข้าออกยากแต่รับได้เพราะเป็นรถทรง sport น่าจะเป็นที่ต้องการของตลาด ขายต่อง่าย ไม่ตกมาก (เดาล้วนๆ) แต่ที่กลัวคือ การดูแลรักษาช่วงล่างหลัง และไม่อยากเข้าศูนย์ไปตลอด
Altis 1.8E 1.6E CNG น่าจะดีหมด แต่ผมไม่ชอบ ภายนอกหน้าโหด ไฟหน้า กระจังไม่หรู แต่ส่วนอื่นสวย และภายในครับ ไม่มีลายไม้ โทนสีประหลาดๆ ดำ เบาะครีม และกินน้ำมันกว่า Sylphy แพงไม่ค่อยสมราคา
ส่วนรถมือ 2 ผมยังคิดไม่ออกจริงๆ ครับ ว่า คันไหนที่ไม่ต้องติดแก๊ซ แต่ใจผมชอบทรง ACV50 2.0G ตัว 1AZ แต่ถ้าเติมน้ำมันตลอด คงไม่ไหว

ขอคำแนะนำด้วยครับ ว่า ณ ปัจจุบัน และในอนาคต ช่วง 2016-2019 จะมีตัวไหนที่น่าสนใจบ้าง หรือรอซื้อมือ 2 ตัวไหนที่น่าสนใจครับ
ที่ผมกำหนดไว้ว่าปี 2019 เพราะปีนั้น Eco car Toyota จะออก ถ้าไม่ได้จริงๆ คงต้องซื้อ Yaris Eco P.2 เหมือนเดิม ซึ่งผมไม่ชอบการออกแบบโดยรวม (แต่ระบบภายในผม ok หมด)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 08, 2015, 02:59:18 โดย G...G »

ออฟไลน์ Severus Snape

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 203
ตัวอย่างที่คุณสนใจนี่จริง ๆ มัน C Segment หมดเลยนะครับ ตอนแรกจะเข้ามาบอกว่าก็ Accord Hybrid แต่หลังจากอ่านดูแล้วลองรอ Ford Focus Ecoboost ดูก่อนมั้ยครับ
มีภาพหลุดออกมาให้เห็นแล้วในบอร์ดนี้ ลองไปหาดูได้ ผมว่าไมเนอร์เชนจ์แล้วสวยกว่า Focus ตัวปัจจุบันเยอะมากกกกกก
เครื่อง ecoboost 1.5 แต่สามารถรีดกำลังได้ใกล้เคียงกับเครื่องธรรมดา 2.0 น่าจะตอบโจทย์ จขกท ได้นะครับ

ออฟไลน์ JeansZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,236
    • อีเมล์
ที่ว่า​มา​น่ะ​คือ C segment ครับ ถ้า​จะ​เอา D segment ราคา​ใน​งบ​เท่านี้ + ประหยัด​น้ำมันด้วย คง​ต้อง​เป็น Cam​r​y Hybrid มือสอง ตัว​ก่อน Minor change เท่านั้น​ครับ

ส่วน C segment ที่ว่า​มา ต้อง​บอก​ว่า ไม่มี​รุ่น​ไหน​ตอบสนอง​ความชอบทุกอย่าง​ของ​ทุกคน​ได้​หรอก​ครับ เลือกรุ่นที่มีสิ่ง​ที่​ชอบ​มากที่สุดและ​มี​สิ่ง​ที่​ไม่​ชอบน้อยที่สุด ในตัวเลือก​ที่​ยกตัวอย่างมา HR-V น่าจะ​เข้า​ทาง​ที่สุด​แล้ว​ครับ

ส่วน Focus M​C ตาม คห ข้างบน ก็​สมควร​รอ​เช่นกัน​ครับ ภายนอกบางทีดูเหมือนรถ​ราคา​หลาย​ล้านเลย ส่วน​ภายใน ถ้า​ไม่ได้​เปลี่ยนจาก​ตัว​ปัจจุบันมาก​นัก มัน​จะ​ออก​แนวสปอร์ตมากกว่าหรูครับ และ​ราคา รุ่น 1.5 Ecoboost น่าจะ​โดด​ไป​ไกล​พอสมควร อาจมี​ทะลุ 1.2 ล้าน​ครับ
Ford Fiesta 1.0 Ecoboost
Toyota Yaris 1.2

ออฟไลน์ View

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,889
  • -SIXFLOOR-
    • อีเมล์
CAMRY HYBRID ACV50 เลยครับราคาเริ่มตกแล้ว
2013 Honda City 1.5V
2013 Chevrolet Trailblazer 2.8 LTZ 4WD

ออฟไลน์ legion

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 252
หารถตลาดครับ มือสองก็ แคมรี่ไฮบริด
ส่วนป้ายแดง ถ้ามาร์ชจุกจิกเกินไป คงต้องโตโยต้า อัลติสครับ
เลิกมองพวก ฟอร์ด เชฟ ไปได้เลยครับ

ออฟไลน์ Deaw

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,073
    • อีเมล์
ไม่มีรถที่ตอบโจทย์อย่างว่าเลยเท่าที่ผมคิดออก
เด๋วนี้เทรนรถใหม่จะใช้ภายในดำ เพราะดูแลรักษาง่าย
ว่าแต่ hrv นี่ถือว่าประหยัดมากแล้วครับ
ถ้าจะเอาประหยัดกว่านี้ก็ ecocar แล้วครับ

ผมว่าคันนี้ตอบโจทย์สุดแล้ว แค่ไม่ได้ดูหรูเท่านั้น
http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=5998:Exclusive-First-Impression-%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A-Mitsubishi-Attrage-Mirage-Sedan-%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%8D%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%99-Almera&catid=62:sub-b-segment-1000-1300-cc&Itemid=73
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 08, 2015, 09:35:54 โดย Deaw »

ออฟไลน์ แมวดราม่า

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,571
  • แมวบ้า(ขับ)รถ
คือถามว่ามาร์ชจุกจิกไหม จขกท. ก็บ่นกะผมบ่อย มันก็เลยจุกจิกในความคิดเขาล่ะ (ฮา)
ชิ้นส่วนอะไหล่ที่มันเสียได้จริงๆ ก็ไม่เยอะ แต่มันดูน่ารำคาญเพราะเคลมออกมาแล้วก็เสียได้อีก
เช่น ดรัมเบรก ลูกปืนล้อ พัดลมหน้าเครื่อง คำถามที่ผมเคยให้ จขกท. ไว้ก็คือ ที่คุณว่าอะไหล่แพง

คุณเอาไปเทียบกะอะไหล่โตโยต้า (ที่คนใช้มากกว่านิสสัน 4-5 เท่า) งี้ ผมว่ามันก็ไม่แฟร์กับนิสสันเท่าไหร่
(อย่างวันก่อนรู้สึกที่ผมคอมเมนต์ไป เรื่องกรองอากาศมั้งครับ Altis คนใช้กี่คน แท็กซี่อีก ของเทียบเพียบ
ตาตั้มก็น่าจะบอกได้เพราะเป็นเจ้าของอยู่... ผลิตด้วยความมั่นใจได้เลยว่ามีคนซื้อไปใช้แน่ๆ ถูกพอใช้+ใช้ได้เป็นพอ)

ส่วนเรื่องเกียร์ ทำใจเถอะครับ ไม่ได้เป็นเฉพาะนิสสันหรอก ซูซุกิก็เป็น ไอ้ที่ศูนย์บอกให้ถ่าย 80,000 กม. เนี่ย
เบื่อคำว่าใช้งานได้ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายมากๆ มันเหมาะจริงๆ สำหรับเมืองหนาวหรือประเทศที่ใช้รถไม่เกิน 5 ปี

คำถามคือ แล้วยี่ห้ออื่นมันดีกว่านี้มากมายไหม ถ้าไม่ใช่โต-ฮอน ที่ศูนย์และคุณภาพค่อนข้างสม่ำเสมอแล้ว
เอาจริงๆ มันก็เข้าขั้นจุกจิกได้เกือบหมด โดยเฉพาะ เชฟ-ฟอร์ด ที่รถดีจริง แต่อย่าให้เสียนะ
ถ้าเจอศูนย์ดีรับผิดชอบก็โชคดีไป แต่ถ้าเจอศูนย์แสบๆ อื้อหือ...

อีกอย่างหนึ่งคือ ผมจำได้ว่า จขกท. เคยบอกผมว่าจะใช้รถเดิมๆ ไม่ปรับแต่งอะไรเลย
ดังนั้นมันจะไม่มีคันไหนที่ตอบโจทย์ทุกอย่างในงบนี้โดยเด็ดขาด

อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้คุณใช้รถที่เหยียบชิลล์ๆ ยังไงก็ยังได้ 15 กม./ลิตร ยกเว้นติดหนึบๆ
เปลี่ยนขึ้นมา C-Seg ยังพอว่า ไป D-Seg นี่ไม่มีทางเลย ส่วนไฮบริด อะไหล่ถูกไหม
ก็น่าจะทราบว่า แบต+อินเวอร์เตอร์ รวมกันซื้อมาร์ชมือสองได้คันนึง

ต้องแยกให้ชัดเจนว่าความต้องการที่สำคัญสุดคืออะไร ระหว่าง 1.งบซื้อรถ 2.บริการหลังการขาย
3.ความประหยัดน้ำมัน 4.การตกแต่งภายในและสไตล์ที่ต้องการ 5.งบในการบำรุงรักษา 6.ภาพลักษณ์

มันไม่มีทางได้ทุกอย่างในงบ 1 ล้านมาง่ายๆ ครับ คงจะเห็นจากรถที่ HLM ทดสอบอยู่เนืองๆ
เอาง่ายๆ อย่างพวกยุโรปบางรุ่นที่ใช้ 2.0 TFSI รถดีไหม ภาพลักษณ์ดีไหม มือสองอยู่ในงบไหม
แต่คุณก็จะขาดเรื่องการบำรุงรักษา ฯลฯ ไป

เอาจริงๆ ผมสนใจแค่ว่า มันจะเสียบ้างในประเด็นชิ้นส่วนที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพรถหรือความปลอดภัย
แล้วราคาไม่น่าเกลียด ก็ยอมรับได้ (รำคาญนิดหน่อยได้ เช่น กุกกักๆ ต๊อกๆ แต่อย่าเป็นอันตราย)
ทีนี้ถ้าอยากอัพไซส์ (ดูจากตัวเลือกรถ) แล้ว ในสามตัวนั้นมันก็ชัดเจนว่าจบที่ตัวไหนทันที

อีกเรื่องที่อยากฝาก จขกท. คือ ศูนย์บริการนิสสันมีประโยชน์หลักๆ ในการที่เราจะเอาเข้าไปเสียบ Consult
หรือเบิกอะไหล่ เอาจริงๆ ก็พึ่งพาอะไรไม่ได้มากนัก อย่างเรื่องฟลัชน้ำมันเกียร์ผมก็บ่นไปหลายรอบแล้ว
ว่านิสสันมันไม่ทำอะไรเลย เอาแต่บอกว่า ที่นี่ทำได้ๆ อบรมแล้ว ขอให้ออก Official Notification มันก็เงียบ
แต่อย่างน้อยมันก็ออก Recall เรื่องถุงลม และแอบเปลี่ยนดรัมเบรกหลังให้รถที่เข้าไปเซอร์วิสเกือบทุกคัน
ล่าสุดไอ้คันใหญ่ผมศูนย์ก็จัดการทำสูญพันธุ์จิ้งหรีดให้เรียบร้อยแล้วโดยไม่ต้องร้องขอ แต่เขานัดมาเอง
ก็ถือว่าทำได้ดีขึ้น และเป็นโชคดีอีกอย่างหนึ่งคือคิวมันไม่ยาวเหมือน โต-ฮอน แต่คุณภาพศูนย์ยังดีกว่าตราเพชร

แต่ช่างเก่งๆ นอกศูนย์มีมาก คุณยังอยู่ในคลับ (ไม่เหมือนผม ที่อัปเปหิตัวเองออกมาแล้วเพราะรำคาญพวกอวยกันเอง)
ก็น่าจะเห็นว่าช่างคนไหนที่สามารถทำอะไรได้บ้าง ตั้งแต่เซอร์วิสพื้นฐาน สั่งอะไหล่ ไปจนถึงยกเครื่อง
ซึ่งเท่านั้นก็เพียงพอเหลือเฟือสำหรับการใช้รถคันนึงไปให้ได้นานๆ รถผมเองก็ไม่ได้สแตนดาร์ดเท่าไหร่
หลายๆ ชิ้นผมก็เปลี่ยนนอกศูนย์แล้ว แต่มันก็ยังตอบสนองการใช้งานและความประหยัดได้เหมือนตอนใหม่ๆ อยู่
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/

ออฟไลน์ sixmund35

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 177
    • อีเมล์
ถ้ายังไม่แบนนิสสัน ก็มี teana J31 J32 นะครับเท่าที่นึกออก
แต่ถ้าแบนแล้ว Civic FB ก็ดูค่อนข้างสอบผ่านหลายข้อ ยกเว้นการเก็บเสียง ซึ่งจิงๆก็เอาไปทำต่อให้เงียบได้ครับ

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
คือถามว่ามาร์ชจุกจิกไหม จขกท. ก็บ่นกะผมบ่อย มันก็เลยจุกจิกในความคิดเขาล่ะ (ฮา)
ชิ้นส่วนอะไหล่ที่มันเสียได้จริงๆ ก็ไม่เยอะ แต่มันดูน่ารำคาญเพราะเคลมออกมาแล้วก็เสียได้อีก
เช่น ดรัมเบรก ลูกปืนล้อ พัดลมหน้าเครื่อง คำถามที่ผมเคยให้ จขกท. ไว้ก็คือ ที่คุณว่าอะไหล่แพง

คุณเอาไปเทียบกะอะไหล่โตโยต้า (ที่คนใช้มากกว่านิสสัน 4-5 เท่า) งี้ ผมว่ามันก็ไม่แฟร์กับนิสสันเท่าไหร่
(อย่างวันก่อนรู้สึกที่ผมคอมเมนต์ไป เรื่องกรองอากาศมั้งครับ Altis คนใช้กี่คน แท็กซี่อีก ของเทียบเพียบ
ตาตั้มก็น่าจะบอกได้เพราะเป็นเจ้าของอยู่... ผลิตด้วยความมั่นใจได้เลยว่ามีคนซื้อไปใช้แน่ๆ ถูกพอใช้+ใช้ได้เป็นพอ)

ส่วนเรื่องเกียร์ ทำใจเถอะครับ ไม่ได้เป็นเฉพาะนิสสันหรอก ซูซุกิก็เป็น ไอ้ที่ศูนย์บอกให้ถ่าย 80,000 กม. เนี่ย
เบื่อคำว่าใช้งานได้ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายมากๆ มันเหมาะจริงๆ สำหรับเมืองหนาวหรือประเทศที่ใช้รถไม่เกิน 5 ปี

คำถามคือ แล้วยี่ห้ออื่นมันดีกว่านี้มากมายไหม ถ้าไม่ใช่โต-ฮอน ที่ศูนย์และคุณภาพค่อนข้างสม่ำเสมอแล้ว
เอาจริงๆ มันก็เข้าขั้นจุกจิกได้เกือบหมด โดยเฉพาะ เชฟ-ฟอร์ด ที่รถดีจริง แต่อย่าให้เสียนะ
ถ้าเจอศูนย์ดีรับผิดชอบก็โชคดีไป แต่ถ้าเจอศูนย์แสบๆ อื้อหือ...

อีกอย่างหนึ่งคือ ผมจำได้ว่า จขกท. เคยบอกผมว่าจะใช้รถเดิมๆ ไม่ปรับแต่งอะไรเลย
ดังนั้นมันจะไม่มีคันไหนที่ตอบโจทย์ทุกอย่างในงบนี้โดยเด็ดขาด

อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้คุณใช้รถที่เหยียบชิลล์ๆ ยังไงก็ยังได้ 15 กม./ลิตร ยกเว้นติดหนึบๆ
เปลี่ยนขึ้นมา C-Seg ยังพอว่า ไป D-Seg นี่ไม่มีทางเลย ส่วนไฮบริด อะไหล่ถูกไหม
ก็น่าจะทราบว่า แบต+อินเวอร์เตอร์ รวมกันซื้อมาร์ชมือสองได้คันนึง

ต้องแยกให้ชัดเจนว่าความต้องการที่สำคัญสุดคืออะไร ระหว่าง 1.งบซื้อรถ 2.บริการหลังการขาย
3.ความประหยัดน้ำมัน 4.การตกแต่งภายในและสไตล์ที่ต้องการ 5.งบในการบำรุงรักษา 6.ภาพลักษณ์

มันไม่มีทางได้ทุกอย่างในงบ 1 ล้านมาง่ายๆ ครับ คงจะเห็นจากรถที่ HLM ทดสอบอยู่เนืองๆ
เอาง่ายๆ อย่างพวกยุโรปบางรุ่นที่ใช้ 2.0 TFSI รถดีไหม ภาพลักษณ์ดีไหม มือสองอยู่ในงบไหม
แต่คุณก็จะขาดเรื่องการบำรุงรักษา ฯลฯ ไป

เอาจริงๆ ผมสนใจแค่ว่า มันจะเสียบ้างในประเด็นชิ้นส่วนที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพรถหรือความปลอดภัย
แล้วราคาไม่น่าเกลียด ก็ยอมรับได้ (รำคาญนิดหน่อยได้ เช่น กุกกักๆ ต๊อกๆ แต่อย่าเป็นอันตราย)
ทีนี้ถ้าอยากอัพไซส์ (ดูจากตัวเลือกรถ) แล้ว ในสามตัวนั้นมันก็ชัดเจนว่าจบที่ตัวไหนทันที

อีกเรื่องที่อยากฝาก จขกท. คือ ศูนย์บริการนิสสันมีประโยชน์หลักๆ ในการที่เราจะเอาเข้าไปเสียบ Consult
หรือเบิกอะไหล่ เอาจริงๆ ก็พึ่งพาอะไรไม่ได้มากนัก อย่างเรื่องฟลัชน้ำมันเกียร์ผมก็บ่นไปหลายรอบแล้ว
ว่านิสสันมันไม่ทำอะไรเลย เอาแต่บอกว่า ที่นี่ทำได้ๆ อบรมแล้ว ขอให้ออก Official Notification มันก็เงียบ
แต่อย่างน้อยมันก็ออก Recall เรื่องถุงลม และแอบเปลี่ยนดรัมเบรกหลังให้รถที่เข้าไปเซอร์วิสเกือบทุกคัน
ล่าสุดไอ้คันใหญ่ผมศูนย์ก็จัดการทำสูญพันธุ์จิ้งหรีดให้เรียบร้อยแล้วโดยไม่ต้องร้องขอ แต่เขานัดมาเอง
ก็ถือว่าทำได้ดีขึ้น และเป็นโชคดีอีกอย่างหนึ่งคือคิวมันไม่ยาวเหมือน โต-ฮอน แต่คุณภาพศูนย์ยังดีกว่าตราเพชร

แต่ช่างเก่งๆ นอกศูนย์มีมาก คุณยังอยู่ในคลับ (ไม่เหมือนผม ที่อัปเปหิตัวเองออกมาแล้วเพราะรำคาญพวกอวยกันเอง)
ก็น่าจะเห็นว่าช่างคนไหนที่สามารถทำอะไรได้บ้าง ตั้งแต่เซอร์วิสพื้นฐาน สั่งอะไหล่ ไปจนถึงยกเครื่อง
ซึ่งเท่านั้นก็เพียงพอเหลือเฟือสำหรับการใช้รถคันนึงไปให้ได้นานๆ รถผมเองก็ไม่ได้สแตนดาร์ดเท่าไหร่
หลายๆ ชิ้นผมก็เปลี่ยนนอกศูนย์แล้ว แต่มันก็ยังตอบสนองการใช้งานและความประหยัดได้เหมือนตอนใหม่ๆ อยู่
;) ใช่ครับ จุดที่ผมไม่ชอบ คือ อะไหล่มันเปลี่ยนแล้วเดียวก็เสียอีก ในระยะที่ค่อนข้างเร็ว กับศูนย์ก็ไม่ค่อย work แบบที่คุณแมวบอก

ถุงลมผมยังไม่โดนเรียกเลยครับ สงสารไม่มีปัญหา :'( มั้ง

แต่เบรค หายแล้ว

โดบรวม ผมคิดว่าคงไม่ได้ครบทุกข้อ แต่อย่างน้อยๆ ผมไม่อยากมาเคลมโน่นนี่นั่นบ่อยๆ ซึ่งคงต้องเอาเจ้าตลาดละครับ ;)

ออฟไลน์ Pat.Lee

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 961
jazz hybrid ตัวใหม่ที่เป็น Full Hybrid พอได้มั้ยครับ น่าจะประหยัดน้ำมันพอสมควร แต่รถไฮบริดคงพับเบาะไม่ได้ ไม่งั้นรอปีหน้าดีกว่าครับรถรุ่นใหม่ๆ น่าจะเน้นให้ประหยัดมากขึ้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 08, 2015, 11:00:50 โดย Pat.Lee »

ออฟไลน์ Highway Star

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,930
ผมว่าจากโจทย์ที่ว่ามา จขกทน่าจะต้องไปหาโตโยต้ากับฮอนด้าแล้วล่ะ เพราะจะเน้นความทนไม่จุกจิก ชอบแนวหรู ลองมองอัสติส1.8eตัวปัจจุบันก็ไม่เลวนะครับถ้าไม่ซีเรียสหน้าตาอะไรมาก หรือลองมองhr-vก็ดีเหมือนกันถ้ารับได้กับอัตราสิ้นเปลืองที่ยังไงมันก็น่าจะกินกว่ารถเก๋งอยู่แล้ว หรือถ้ายังพอรับนิสสันได้ไปหาsylphyก็ไม่เลวนะครับแนวหรูอย่างที่จขกทชอบเลย หรือถ้ามือสองก็หาแคมรีหรือเทียนาก็ใช้ได้นะครับ

jomyoot

  • บุคคลทั่วไป
มาตราฐานรถญี่ปุ่น สุดคือ อีโคคาร์ ถัดมาก็เป็น ซิตี้คาร์ (ฺB-เซกเม้น) ถัดมาก็เป็น C เซกเม้น แล้วก็เป็น D-เซกเม้น

อีโคคาร์ = เครื่องยนต์จัดพิกัดไม่เกิน 1200cc. ตัวอย่าง ที่คุณใช้อยู่ มาร์ช มิราจ แอตแทค บริโอ้ บริโอ้อเมซ ยารีส(ตัวใหม่) สวิฟ เป็นต้น

Bเซกเม้น = เครื่องยนต์ส่วนมากจะ1500cc. ตัวอย่าง รถซิตี้คาร์ทั้งหลาย วีออส ซิตี้ แจ๊ส มาสด้า2 เฟียสต้า เป็นต้น

Cเซกเม้น = เครื่องยนต์มีหลายบล๊อค 1600-1800-2000cc. ตัวอย่าง อัลติส ซีวิค มาสด้า3 เป็นต้น

D เซกเม้น = เครื่องยนต์ที่มีขนาด2000cc ขึ้นไป ตัวอย่าง แคมรี่ แอคคอร์ด เทียน่า เป็นต้น

สิ่งที่ จขกท. ตั้งกระทู้ไว้ สนใจD เซกเม้น เข้าใจว่าคง แบ่งประเภทรถผิดไป เพราะสิ่งที่ จขกท.สนใจนั้นเป็น C เซกเม้น ไม่ใช่Dเซกเม้นครับ
ในสิ่งที่ จขกท. ชอบ มันขัดแย้งกับความเป็นจริงไปสักหน่อย เหมือนกับว่า ไม่มีรถคันไหนถูกใจคุณเลย เพราะติได้ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น
ถ้าชอบไม่อยากมีปัญหาจุกจิกกวนใจ ก็ โตโยต้า ครับ ชอบสวยงามก็ฮอนด้า ชอบรถแบบไม่ค่อยซ้ำกับใครมาก ก็นิสสัน-มาสด้าครับ

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณความเห็นหลายๆ ท่านครับ

จริงๆ ที่ผมชอบ คือ ไม่โตไป ชอบเล็กๆ แต่หรูๆ

ผมอยากได้แบบ Toyota Vios รุ่นแรก ภายในแบบนี้ครับ

หรือแบบ City รุ่น 2


แต่ที่มีขาย เช่น พวก Eco หรือ B-seg ก็ไม่มีทรงหรือแนวๆ นี้ให้เลือกเลยครับ


jomyoot

  • บุคคลทั่วไป
เอารถที่ดีๆ สภาพดีๆครับ พวกลายไม้อะไรข้างใน ร้านขายอุปกรณ์ตกแต่งเพียบครับ เยอะแยะครับ
ถ้าไม่ชอบก็สั่งทำเอาได้ครับ ราคาไม่กี่พัน (หมายถึงทั้งเซ็ต คอนโซล เกียร์ พวงมาลัย นะครับ)

ออฟไลน์ Tan Int

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,708
    • อีเมล์

ไม่เกิน 1 ล้าน มือสองได้ ชอบหรูๆ ผมอ่านแค่นี้ Camry 2.0G มือสองลอยมาเลยครับ
1994 Civic EH9 (4dr) VTi (Made in Japan)
1998 Civic EK 1.6VTi-E Special Edition
2011 Corolla Altis E CNG (Come back)

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,846
  • *** HLM.COM ***
Accord G9 2.0 เลยครับพี่

ทนทาน ไม่จุกจิก เงียบ การประกอบ คงสู้ Camryไม่ได้
แต่ ประหยัด E85ได้จากโรงงาน ออฟชั่นล้นๆ ขับง่ายคล่องตัว

ส่วนภายในเห็นด้วยกับพี่ Jomyoot ครับ เดี๋ยวนี้ร้านแต่งลายไม้เพียบ โทนสีมีให้เลือกจนเลือกไม่ถูก

ออฟไลน์ shando

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,888
เรื่องความทนทาน การบำรุงรักษาขนาดนิสสันยังไม่โอ ก็ไม่ต้องพูดถึงยี่ห้ออื่นเลย ได้แค่โตกะฮอนแค่นั้น
ส่วนเรื่องเก็บเสียงกับประหยัดน้ำมันในคันเดียว ในงบขนาดนี้คงหาไม่ได้ครับ
เพราะถ้าเล่นcamryหรือaccordก็จะได้เรื่องเก็บเสียง แต่ไม่ได้เรื่องประหยัดน้ำมัน รถหนักขนาดนี้ทำใจไว้เลยว่าซดกว่ามาร์ชเยอะ
ถ้าจะเล่นB-C segmentก็ได้เรื่องประหยัดน้ำมัน แต่เก็บเสียงห่วยทุกคันบอกเลย นอกจากจะไปแดมป์เพิ่ม ซึ่งจขกท.คงไม่อยากทำ(แต่ถ้าทำจริงรถก็จะหนักขึ้นหลายสิบกิโล เสียเรื่องประหยัดน้ำมันอีก)

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,723
  • Nine & Knight
รอดู Jazz City HRV HB ครับ ต่อด้วย Brio BUV ดูจากช่วงเวลาถ้า VW มาหละก็เจ้านี้เลย
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
รอดู Jazz City HRV HB ครับ ต่อด้วย Brio BUV ดูจากช่วงเวลาถ้า VW มาหละก็เจ้านี้เลย

ขอบคุณคับ

ออฟไลน์ HYDE--

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,643
    • อีเมล์
ดูเหมือนว่า จขกท น่าจะชอบ HRV แต่กลัวกินน้ำมัน

ถ้าเป็นผม คงเอา HRV แหละครับ เครื่องเดียวกับ Civic เกียร์ CVT แถมเติม E85 ได้ อาจจะไม่ประหยัดเท่า รถเครื่อง 1.2 แต่ยังไงก็อยู่ในเกณฑ์รับได้แน่นอนครับ

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,400
คันใน รูปแหละครับ ทดสอบออกมาแล้วก้ประหยัดใช้ได้รถถ้าไม่ใช่ Hybrid ก้คงไม่ประหยัดไปกว่านี้มากละครับ ไม่นับพวกโฆษณานะครับเอาจริงๆ แต่ 2018-2019 มันอีกนานเกินไปที่จะคาดการณ์อะไรได้มากนะครับ