ลิงค์ที่คุณส่งมาก็บอกอยู่ว่าร้อนกว่า สมการที่คุณให้มาก็ใช้ไม่ได้ไม่ใช่สมการย้อนกลับนะครับ มันเป็นการสันดาปซึ่งจะจุดระเบิดก่อนถึงจะเกิดพลังงาน(KJ) แต่สมการที่คุณว่าคือ น้ำมัน+อากาศที่ยังไม่ได้จุดระเบิดมีค่าออกมาเป็นพลังงานซะแล้ว คำตอบมันก็อยู่ในคำตอบของคุณแล้วว่า การเผาไหม้สมบูรณ์ของเบนซิน สามารถให้พลังงาน 43.448 kJ เอทานอล ให้พลังงาน 1.6333x26.952 = 44.022kJ อยู่แล้ว พลังงานออกมาเยอะความร้อนก็เยอะตาม อีกอย่างHHV นะไม่ใช่LHV เพราะการใช้งานปรกติมันมีความร้อนสะสมอยู่ถ้าสตารท์ครั้งแรกตอนเช้าอะถูกต้องใช้ได้ หรือสังเกตุตอนเช้าได้ว่าทำไมสตาท์ช่วงเช้าถึงมีควันไอน้ำออกมา LHVไม่ใช่จุดที่เกิดพลังงานสูงสุดไม่ใช่แค่เป็นเพราะอากาศตอนเช้าหรอก
-เบนซิลอัตราส่วนอยู่ที่ 13.5โดยประมาณ 14.7คือน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยังไม่ได้ใส่สารปรุงแต่ง เอทานอล =9.05 ลองเขียนสมการดูได้
-อุณหภูมิไอดีต่ำย่อมเป็นผลดีเพราะมวลอากาศที่เพิ่มขึ้นคู่กับมวลของเอทานอลที่มากกว่าเบนซิลส่งผลให้อัตราเร่งดีขึ้นกว่าเบนซิลแน่นอน ไม่งั้นที่เทสกันในเวลากลางคืนจะดีกว่ากลางวันได้อย่างไร
ก็ยัง งงอีกครั้งครับว่า ท่านไปดูคอลัมน์ใดที่บอกว่าอุณหภูมิเปลวไฟของเอทานอลร้อนกว่าเบนซิน?
*Boiling Temperature คืออุณหภูมิจุดเดือดที่ทำให้ระเหยเป็นไอ "ไม่เกี่ยวกับการเผาไหม้"
*Freezing Temperature คืออุณหภูมิจุดเยือกแข็ง "ไม่เกี่ยวกับการเผาไหม้"
*Flash Point คือจุดวาบไฟ คืออุณหภูมิที่เชื้อเพลิงระเหยขึ้นมาได้ในอัตราส่วนผสมที่เหมาะสมที่จะลุกติดไฟได้อย่าง "ไม่ต่อเนื่อง"
ติดนิดเดียวแล้วดับไป เป็นอุณหภูมิประกายไฟที่จุดเชื้อเพลิงให้วาบ แต่ไม่ได้เกี่ยวกับอุณหภูมิเปลวไฟ เพราะการเผาไหม้จะปล่อยความร้อนเพิ่มจากจุดวาบไฟ
*Autoignition Temperature คืออุณหภูมิต่ำสุดที่เชื้อเพลิงติดไฟได้เอง และลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง "โดยไม่ต้องใช้ประกายไฟช่วย"
แต่ก็เช่นกัน มันคืออุณหภูมิของการเริ่มต้นการเผาไหม้ ไม่ใช่อุณหภูมิจากปฏิกิริยาการเผาไหม้
(
)
ไม่มีคอลัมน์ไหนที่บอกอุณหภูมิเปลวไฟ (อุณหภูมิการเผาไหม้) ซึ่งหากเป็นอุณหภูมิจากการเผาไหม้สมบูรณ์ของการฉีดแบบพอดี
ควรจะเรียกว่า Adiabatic Flame Temperature ซึ่งหากต้องการทราบข้อมูล ให้ดูในลิงก์ที่ผมแนบมานะครับ
http://iqlearningsystems.com/ethanol/downloads/Racing%20Fuel%20Characteristics.pdfหน้า 2 ย่อหน้าสุดท้าย (Fire Safety) จะมีประโยคหนึ่งเขียนว่า
"The flame temperature for ethanol is lower, 1920°C compared to 2030°C for gasoline"
ซึ่งจะได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดที่อาจเกิดได้ในระหว่างการเผาไหม้ของเอทานอลเย็นกว่าเบนซินถึง 110 องศาเซลเซียสครับ
ลิงค์ที่คุณส่งมาก็บอกอยู่ว่าร้อนกว่า สมการที่คุณให้มาก็ใช้ไม่ได้ไม่ใช่สมการย้อนกลับนะครับ มันเป็นการสันดาปซึ่งจะจุดระเบิดก่อนถึงจะเกิดพลังงาน(KJ) แต่สมการที่คุณว่าคือ น้ำมัน+อากาศที่ยังไม่ได้จุดระเบิดมีค่าออกมาเป็นพลังงานซะแล้ว คำตอบมันก็อยู่ในคำตอบของคุณแล้วว่า การเผาไหม้สมบูรณ์ของเบนซิน สามารถให้พลังงาน 43.448 kJ เอทานอล ให้พลังงาน 1.6333x26.952 = 44.022kJ อยู่แล้ว พลังงานออกมาเยอะความร้อนก็เยอะตาม อีกอย่างHHV นะไม่ใช่LHV เพราะการใช้งานปรกติมันมีความร้อนสะสมอยู่ถ้าสตารท์ครั้งแรกตอนเช้าอะถูกต้องใช้ได้ หรือสังเกตุตอนเช้าได้ว่าทำไมสตาท์ช่วงเช้าถึงมีควันไอน้ำออกมา LHVไม่ใช่จุดที่เกิดพลังงานสูงสุดไม่ใช่แค่เป็นเพราะอากาศตอนเช้าหรอก
-เบนซิลอัตราส่วนอยู่ที่ 13.5โดยประมาณ 14.7คือน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยังไม่ได้ใส่สารปรุงแต่ง เอทานอล =9.05 ลองเขียนสมการดูได้
-อุณหภูมิไอดีต่ำย่อมเป็นผลดีเพราะมวลอากาศที่เพิ่มขึ้นคู่กับมวลของเอทานอลที่มากกว่าเบนซิลส่งผลให้อัตราเร่งดีขึ้นกว่าเบนซิลแน่นอน ไม่งั้นที่เทสกันในเวลากลางคืนจะดีกว่ากลางวันได้อย่างไร
การคายพลังงานจากการฉีดพอดีนั้นมากกว่านั้นเป็นจริงครับ แต่ว่านั่นคือพลังงาน ไม่ใช่อุณหภูมิ
ท่านคงเคยได้ยินสูตรวิทยาศาสตร์จากวิชาเรียนมัธยม ที่อธิบายความสัมพันธ์ของพลังงานกับอุณหภูมิว่า
Q=mc(T2-T1) หรือพลังงาน เท่ากับผลคูณของมวลสาร กับค่าความจุความร้อน และผลต่างอุณหภูมิ
ซึ่ง ตอนนี้เราต้องการทราบผลต่างอุณหภูมิ (T2-T1) เราก็ต้องกลับสูตร เอาพลังงาน หารกลับด้วยมวลไอดี และหารซ้ำด้วยค่าจุความร้อน
ซึ่งผมก็ได้อธิบายไปว่า พลังงานที่มากกว่านั้น ผมคิดจากกรณีที่มาอากาศเท่ากัน ซึ่งเอทานอลต้องฉีดเชื้อเพลิงเข้าผสมมากกว่า ทำให้มวลไอดีมากกว่า
เมื่อจับหารกันแล้ว ผลต่างอุณหภูมิ สามารถน้อยกว่ากันได้ แม้จะปล่อยพลังงานมากกว่าก็ตาม
ส่วนค่าความจุความร้อน ในการคำนวณในโพสต์ผมครั้งที่แล้ว ผมพูดว่า นี่เป็นการเปรียบเทียบหยาบๆ เพราะฉะนั้นผมตีว่าเท่ากันครับ
ซึ่งนี่เป็นแค่การยกตัวอย่างเพื่อสนับสนุนการที่ผมพูดว่าอุณหภูมิเผาไหม้สมบูรณ์ของเอทานอลเย็นกว่าเบนซินในโพสต์ที่แล้วของผม
แต่ในโพสต์นี้ผมได้ยกแหล่งอ้างอิงประกอบไปในย่อหน้าที่แล้วครับ
ถ้าคุณคลิกดาวน์คันเร่งมันไม่มีทางที่จะ14.7เบนซิลได้แน่นอน กำลังสูงสุดที่เขาว่ากันที่12.5ไม่ใช่หรือ
ประโยคนี้ ท่านพูดถูกต้องร้อยเปอร์เซนต์เลยครับ อ้างอิงจากบทความในย่อหน้าแรก ตารางท้ายหน้า 1 มีบอกอยู่
ตรงนี้ผมอาจจะต้องขอความกรุณาท่าน mamaman ทำความเข้าใจใหม่ตรงนี้เล็กน้อยครับ
เครื่องยนต์นั้นไม่จำเป็นต้องรักษาอัตราส่วนผสมให้คงที่ตลอดเวลาการเผาไหม้ครับ อาจจะสามารถปรับบวกลบได้ในย่านค่าหนึ่ง
แม้อัตราส่วนตามทฤษฎีจะอยู่ที่ 14.7 สำหรับเบนซิน แต่จะมีกำลังสูงสุดที่อัตราส่วน 12.5 และประหยัดน้ำมันสูงสุดที่อัตราส่วนประมาณ 17
แต่ถ้าเกินจากย่านนี้ไป เครื่องยนต์อาจจะเริ่มเดินไม่เรียบ และดับได้ เช่นเดียวกับเชื้อเพลิงอื่นๆ ครับ
ดังนั้น การปรับอัตราส่วนเชื้อเพลิงตามความเร็วรอบและตำแหน่งลิ้นปีกผีเสื้อนั้นมีแน่นอนครับ แต่เป็นในช่วงแคบๆ
ลิงค์ที่คุณส่งมาก็บอกอยู่ว่าร้อนกว่า สมการที่คุณให้มาก็ใช้ไม่ได้ไม่ใช่สมการย้อนกลับนะครับ มันเป็นการสันดาปซึ่งจะจุดระเบิดก่อนถึงจะเกิดพลังงาน(KJ) แต่สมการที่คุณว่าคือ น้ำมัน+อากาศที่ยังไม่ได้จุดระเบิดมีค่าออกมาเป็นพลังงานซะแล้ว คำตอบมันก็อยู่ในคำตอบของคุณแล้วว่า การเผาไหม้สมบูรณ์ของเบนซิน สามารถให้พลังงาน 43.448 kJ เอทานอล ให้พลังงาน 1.6333x26.952 = 44.022kJ อยู่แล้ว พลังงานออกมาเยอะความร้อนก็เยอะตาม อีกอย่างHHV นะไม่ใช่LHV เพราะการใช้งานปรกติมันมีความร้อนสะสมอยู่ถ้าสตารท์ครั้งแรกตอนเช้าอะถูกต้องใช้ได้ หรือสังเกตุตอนเช้าได้ว่าทำไมสตาท์ช่วงเช้าถึงมีควันไอน้ำออกมา LHVไม่ใช่จุดที่เกิดพลังงานสูงสุดไม่ใช่แค่เป็นเพราะอากาศตอนเช้าหรอก
-เบนซิลอัตราส่วนอยู่ที่ 13.5โดยประมาณ 14.7คือน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยังไม่ได้ใส่สารปรุงแต่ง เอทานอล =9.05 ลองเขียนสมการดูได้
-อุณหภูมิไอดีต่ำย่อมเป็นผลดีเพราะมวลอากาศที่เพิ่มขึ้นคู่กับมวลของเอทานอลที่มากกว่าเบนซิลส่งผลให้อัตราเร่งดีขึ้นกว่าเบนซิลแน่นอน ไม่งั้นที่เทสกันในเวลากลางคืนจะดีกว่ากลางวันได้อย่างไร
ตรงนี้ต้องขอความกรุณาท่าน liquidize ทำความเข้าใจใหม่เล็กน้อยนะครับ HHV กับ LHV ไม่ได้แตกต่างกันที่ความร้อนสะสม
ท่านดุลสมการเผาไหม้ได้ ท่านทราบว่าไอเสียจากการเผาไหม้มีน้ำ (H2O) ออกมาด้วย
HHV คือการสมมติให้น้ำในไอเสียมีสถานะเป็นของเหลว
LHV คือการสมมติให้น้ำในไอเสียมีสถานะเป็นไอน้ำ
ซึ่งท่านทราบว่าไอน้ำนั้นมีพลังงานในตัวมากกว่าน้ำเหลว ดังนั้นพลังงานจากการเผาไหม้ส่วนหนึ่งจึงหายไปเพราะถูกดึงไปจากส่วนไอน้ำ
ซึ่งเราไม่เห็นน้ำเป็นหยดไหลออกมาเลย มีแต่ไอน้ำเท่านั้น เราจำเป็นต้องใช้ LHV ในทุกกรณีของการเผาไหม้ในรถทั่วไปครับ
ลิงค์ที่คุณส่งมาก็บอกอยู่ว่าร้อนกว่า สมการที่คุณให้มาก็ใช้ไม่ได้ไม่ใช่สมการย้อนกลับนะครับ มันเป็นการสันดาปซึ่งจะจุดระเบิดก่อนถึงจะเกิดพลังงาน(KJ) แต่สมการที่คุณว่าคือ น้ำมัน+อากาศที่ยังไม่ได้จุดระเบิดมีค่าออกมาเป็นพลังงานซะแล้ว คำตอบมันก็อยู่ในคำตอบของคุณแล้วว่า การเผาไหม้สมบูรณ์ของเบนซิน สามารถให้พลังงาน 43.448 kJ เอทานอล ให้พลังงาน 1.6333x26.952 = 44.022kJ อยู่แล้ว พลังงานออกมาเยอะความร้อนก็เยอะตาม อีกอย่างHHV นะไม่ใช่LHV เพราะการใช้งานปรกติมันมีความร้อนสะสมอยู่ถ้าสตารท์ครั้งแรกตอนเช้าอะถูกต้องใช้ได้ หรือสังเกตุตอนเช้าได้ว่าทำไมสตาท์ช่วงเช้าถึงมีควันไอน้ำออกมา LHVไม่ใช่จุดที่เกิดพลังงานสูงสุดไม่ใช่แค่เป็นเพราะอากาศตอนเช้าหรอก
-เบนซิลอัตราส่วนอยู่ที่ 13.5โดยประมาณ 14.7คือน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยังไม่ได้ใส่สารปรุงแต่ง เอทานอล =9.05 ลองเขียนสมการดูได้
-อุณหภูมิไอดีต่ำย่อมเป็นผลดีเพราะมวลอากาศที่เพิ่มขึ้นคู่กับมวลของเอทานอลที่มากกว่าเบนซิลส่งผลให้อัตราเร่งดีขึ้นกว่าเบนซิลแน่นอน ไม่งั้นที่เทสกันในเวลากลางคืนจะดีกว่ากลางวันได้อย่างไร
ข้อนี้ไม่มีข้อมูลนะครับ เดี๋ยวจะลองหาข้อมูลอีกที หรือถ้าท่านมีแหล่งข้อมูลให้ศึกษาเพิ่มก็จะขอบคุณมากครับ
ลิงค์ที่คุณส่งมาก็บอกอยู่ว่าร้อนกว่า สมการที่คุณให้มาก็ใช้ไม่ได้ไม่ใช่สมการย้อนกลับนะครับ มันเป็นการสันดาปซึ่งจะจุดระเบิดก่อนถึงจะเกิดพลังงาน(KJ) แต่สมการที่คุณว่าคือ น้ำมัน+อากาศที่ยังไม่ได้จุดระเบิดมีค่าออกมาเป็นพลังงานซะแล้ว คำตอบมันก็อยู่ในคำตอบของคุณแล้วว่า การเผาไหม้สมบูรณ์ของเบนซิน สามารถให้พลังงาน 43.448 kJ เอทานอล ให้พลังงาน 1.6333x26.952 = 44.022kJ อยู่แล้ว พลังงานออกมาเยอะความร้อนก็เยอะตาม อีกอย่างHHV นะไม่ใช่LHV เพราะการใช้งานปรกติมันมีความร้อนสะสมอยู่ถ้าสตารท์ครั้งแรกตอนเช้าอะถูกต้องใช้ได้ หรือสังเกตุตอนเช้าได้ว่าทำไมสตาท์ช่วงเช้าถึงมีควันไอน้ำออกมา LHVไม่ใช่จุดที่เกิดพลังงานสูงสุดไม่ใช่แค่เป็นเพราะอากาศตอนเช้าหรอก
-เบนซิลอัตราส่วนอยู่ที่ 13.5โดยประมาณ 14.7คือน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยังไม่ได้ใส่สารปรุงแต่ง เอทานอล =9.05 ลองเขียนสมการดูได้
-อุณหภูมิไอดีต่ำย่อมเป็นผลดีเพราะมวลอากาศที่เพิ่มขึ้นคู่กับมวลของเอทานอลที่มากกว่าเบนซิลส่งผลให้อัตราเร่งดีขึ้นกว่าเบนซิลแน่นอน ไม่งั้นที่เทสกันในเวลากลางคืนจะดีกว่ากลางวันได้อย่างไร
อันนี้ท่านพูดถูกครับ ซึ่งผมก็ได้พูดไว้ในโพสต์ก่อนแล้วนะครับ ว่าเอทานอลช่วยให้อุณหภูมิไอดีต่ำลง ณ ตอนนี้ ท่านกับผมเข้าใจตรงกันนะครับ