ตอบตามประสบการณ์ที่เคยใช้ครับ
ใช้ OBDII แบบ Bluetooth แบบสามารถกดเปิด-ปิดเครื่องได้ ( ซื้อมือสองมาน่าจะ 400 บาท )
หลักๆ ที่ซื้อมาเพราะรถผมติดแก็ส เวลาจูนแก็ส ก็เอาเส้นแก็สทับเส้นน้ำมัน ก็น่าจะโอเค แต่ไม่ใช่
ผมเลยใข้ OBD ต่อเพื่อดูค่า STFT กับความร้อน เป็นหลัก อย่างอื่นเป็นของแถม
ผมจะดูว่าวิ่งน้ำมัน ค่า STFT เท่าไหร่ และพอสลับเป็นแก็ส ค่าที่ดูเหมือนจะพอดี กลับไม่ใช่
ผมก็เลยปรับค่าแก็สแบบละเอียด ให้มันหนากว่าน้ำมันนิดหน่อย
และอีกอย่าง จูนผิด ไฟ Engine ขึ้น ก็ใช้ app ตัวนี้ลบได้เลย
delay ไม๊ สำรหับของผมมันไม่ถึง 1 วินาทีนะ อาศัยสังเกตุ จากการเหยียบรอบเครื่อง และดูวัดรอบบนหน้าปัดกับบนโทรศัพท์ ผมจับไม่ได้ว่าช้าต่างกันนะ
ปล. ผมไม่ได้ดูตลอดนะ นานๆ อยากดูว่าแก็สมันเพี้ยนหรือเปล่า ถึงต่อเพื่อดูทีนึง และมันยังดูค่าได้อีกสารพัด สนุกดีครับ
ปัจจุบันใน 1 หน้าจอผมดู STFT , LTFT , RPM , อุณหภูมิน้ำ , อุณหภูมิอากาศก่อนเข้าห้องไอดี ( มั๊ง ) และยังเลือกดูเป็นกราฟ-ตัวเลข เล็ก-ใหญ่ได้อีก