ผู้เขียน หัวข้อ: รู้สึกไหมว่า ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีเลย เงินฝืด หางานยากมากครับ  (อ่าน 52403 ครั้ง)

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ผมขอถามเพื่อนๆ ครับ

ผมรู้สึกว่าช่วงนี้เงินฝืดยังไงไม่รู้

ของถูกแต่เหมือนคนไม่มีตังซื้อ

ที่สำคัญ คือ งานหายากมากเลยครับ

ผมสมัครไปหลายๆ ที่เงียบมาก ทั้งที่ก่อนหน้า สัก 2 ปีที่แล้วนี่ มีโทรเข้าออกตลอดเวลาเลย

เซ็งมากจริงๆ ครับ มาจบโทช่วงนี้ จังหวะไม่ดีเลย :'(

คิดอย่างไรกันครับ

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,702
  • Nine & Knight
คิดเหมือนกันครับ ตอนนี้ผมประกาศขายคอนโดกับขายรถยังขายไม่ได้เลย เศร้า ยังดีที่มีงานประจำทำไม่งั้นแย่เลย
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ sith(สิทธิ์)

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,358
  • นับ1ใหม่
    • อีเมล์
ร้านแฟนที่ภูเก็ตกัดฟันลากกันมาจนเงินเก็บสะสมมาทั้งชีวิตหมด
เพราะปกติเวลาเกิดเหตุบ้านการเมืองแบบนี้ มันจะไม่เกิน6เดือนเดี่ยวส่งสัญญานขึ้น
แต่เชื่อไหมว่า ตอนนี้เลยมาปีกว่าจะลากไปสองปี ผมก็คิดว่าไม่ขึ้น
ร้านผมหากินกับชาวยุโรบเป็นหลัก บอกเลย หนักเอาการ หนักสุดๆ
อยากหยุดพักนะ แต่ บางที มันก็ต้องดิ้นกันต่อ หยุดไม่ได้

ออฟไลน์ seamonkey

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 514
บริษัทวงการผมหาไม่ยากเลยครับ เพราะไม่มีใครรับ วันจันทร์ที่ผ่านมาก็โดนไล่ไปแล้ว 4 คน มีแนวโน้มว่าจะ Lay-off กันต่ออีก

ขอบ่นหน่อยครับ ทำไมเวลา Lay-off ชอบเอาแต่ Field operative ออกกัน พวก Front Office (HR, account, Safety, Management,  Etc.) ไม่เห็นจะโดนเลยซักคน ถ้าจะเอาออกก็เอาให้พอกันทุกแผนกสิ

WawaAOY

  • บุคคลทั่วไป
จริงครับ นานไปไหม ผมทำงานประจำพองานไม่เข้าบริษัท เจ้าของก็อ้างไปว่าลูกน้องขี้เกียจ
ไม่นะ เศรษฐกิจซบเซานานขนาดนี้ รู้ๆกันอยู่ต้องทน
ไม่มีใครอยากโดนไส่ออกหรอกครับว่าไหม (ได้ช่องบ่นพอดีเลย) ^^

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
บริษัทวงการผมหาไม่ยากเลยครับ เพราะไม่มีใครรับ วันจันทร์ที่ผ่านมาก็โดนไล่ไปแล้ว 4 คน มีแนวโน้มว่าจะ Lay-off กันต่ออีก

ขอบ่นหน่อยครับ ทำไมเวลา Lay-off ชอบเอาแต่ Field operative ออกกัน พวก Front Office (HR, account, Safety, Management,  Etc.) ไม่เห็นจะโดนเลยซักคน ถ้าจะเอาออกก็เอาให้พอกันทุกแผนกสิ

แหะๆๆๆๆ

ผมนี่ Safety ครับ

 :)

เข้าใจเหมือนกัน เวลาเอาออก HR กับ Safety เขาเอา Safety ไปก่อนเลย

MrChildren NamonakiUtta

  • บุคคลทั่วไป
เศรษฐกิจกำลังดิ่งครับ มันไม่ค่อยพูดถึงกันในข่าวแบบตอนรัฐบาลปกติ
แต่ในความเป็นจริงคือ ไม่ว่าเราจะไปที่ไหนร้านรวงต่างๆ เริ่มปิดกิจการกันเป็นดอกเห็ด
และให้ลองดู ปัจจัยพื้นฐานครับ

อาหาร
ยา
ที่อยู่อาศัย
เครื่องนุ่งห่ม
รถยนต์

ที่ผ่านมารถยนต์ไปก่อนเลยตัวแรก เป็นตัวแรกที่คนจะไม่ซื้อ ตอนเกิดภาวะเงินฝืด
และเป็นกลไกกระจายรายได้ใหญ่สุดซะด้วย

ไม่รู้ผมเรียงลำดับถูกรึเปล่านะ แต่ถัดมาคือ
เครื่องนุ่งห่ม คนไม่ซื้อใหม่ ใส่ของเดิมไปก่อน อันนี้โรงงานเสื้อผ้าโดนเต็มๆ
กับพ่อค้าแม่ค้าทั่วไป

ที่กำลังโดนถัดมาคือที่อยู่อาศัย ถึงจะเป็นสิ่งจำเป็นมาก แต่เงินในระบบมันช็อต
ไปแล้ว

ที่ยังเหลืออยู่คือ ยา กับอาหาร ที่ยังคงพอไปได้ เพราะถ้าไม่มีคือคนอยู่ไม่ได้

ตอนนี้คงหวังได้แค่การลงทุนของรัฐที่จะมาอัดฉีดเงินเข้าระบบ หรือไม่ก็ต้อง QE ไปเลยแบบบางประเทศ
แต่มันก็คงไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่แท้จริง แล้วก็ต้องพึ่งนโยบายการเงินการคลัง
พอไม่มีการซื้อขาย เศรษฐกิจมันก็หดตัวไปเรื่อยๆ ตัวเราตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ครับ
ถ้ายังไม่ถูก lay off ก็ต้องเกาะบริษัทไว้ให้แน่น ออกมาค้าขายเอง หรือหางานใหม่ช่วงนี้คือตายอย่างเดียว
มันจะเป็นต่อไปอีก 10 ปีรึเปล่าไม่รู้ มีรถที่บ้านหลายๆ คันก็ต้องรีบขายทิ้งลดรายจ่ายล่ะครับ

มันไม่เหมือนต้มยำกุ้งที่สถาบันการเงินล่มแต่คนรากหญ้าทั่วไปในประเทศยังทำงานยังใช้จ่ายได้ปกติ
แต่ปัจจุบันกลับกัน ปัญหามาจากข้างล่างขึ้นข้างบน คือคนทั่วไปไม่มีตังจ่ายเงิน พ่อค้าแม่ค้าขายของไม่ออก บริษัทขายของไม่ออก
โรงงานไม่มียอดสั่งซื้อ ทุกอย่าชะงักหมด เหมือนคนเป็นอัมพาต แต่หัวใจยังเต้นอยู่ ทำยังไงถึงจะทำให้คนใช้จ่ายเงิน
ในขณะที่ตังในกระเป๋าคนส่วนใหญ่กำลังร่อยหลอ ค่อนข้างซีเรียสมากนะครับ

ปัญหาเหล่านี้จะแก้ไขยังไงในระดับประเทศ
ถ้าเป็นระดับบ้าน ลองคิดเล่นๆ ดูว่า ถ้าจนขนาดนั้น คงต้องประหยัดขึ้นไปอีก ยิ่งไม่อยากจ่ายเงิน
อาจจะต้องรอไปถึงรุ่นลูก คาดหวังว่าลูกจะเก่งมาก จนเบียดคนอื่นเข้าไปอยู่บริษัทที่มั่นคงได้ ปัญหาคงจบ ประมาณนั้น
เท่ากับต้องรอไป generation หน้า ถ้า AEC มา ก็ยังไม่ดี รัฐบาลใหม่มา ก็ยังไม่ดี อาจจะต้องรอ next gen จริงๆ
ระหว่างนี้ ใครจะโดนเลย์ออฟ ใครจะปิดกิจการ ก็ต้องเป็นไปตามนั้น

รอท่านอื่นมาแชร์ข้อมูลอีกครับ

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,848
    • อีเมล์
ดิ่งมากๆครับ เรียกว่าทิ้งดิ่งกันเลยละ แต่กลายเป็นว่าพวกร้านโลวคอสแบบผมพอไปได้ เพราะปกติลูกต้าก็น้อย ตอนนี้ก็ยังน้อย รับเงินสด แค่พอมีกำไรถูไถ

แต่ถ้าร้านขนาดใหญ่ต้องหมุนเงิน ผมว่ามีอ้วก เพราะช่วงนี้กำลังซื้อคนลดลงจริงๆ เครือญาติผมก็โดนฟ้องล้มละลายไปคนแล้ว
H.

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
อยากทราบว่าที่มันเป็นแบบนี้เพราะว่า โครงการถคันแรก หรือว่าต่างชาติถอนการผลิต หนีประเทศไทยครับ

MrChildren NamonakiUtta

  • บุคคลทั่วไป
อยากทราบว่าที่มันเป็นแบบนี้เพราะว่า โครงการถคันแรก หรือว่าต่างชาติถอนการผลิต หนีประเทศไทยครับ

อย่าพูดถึงที่มาเลยครับ เดี๋ยวกลายเป็นเข้าเรื่องการเมือง
เอาเป็นว่าหลายปัจจัยมันอำนวยให้ trigger เศรษฐกิจมาอยู่ใน loop นี้
เหมือน uzumaki น้ำวน คล้ายๆเศรษฐกิจในญี่ปุ่น
ฟองสบู่อาจโตขึ้นโดยเฉียบพลันเพราะอะไรบางอย่างเร็วเกินไป แล้วแตกไปโดยเราไม่ทันรู้ตัว
ตรงกับสภาพที่ว่า หลังวิกฤติเบอร์เกอร์ ตลาดเงิดฉุดตัวลงอย่างแรงจากปัจจัยภายนอก แต่เด้งกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เพราะมีเงินจาก QE เทพรวดเข้ามา ผ่านตลาดหุ้น เศรษฐกิจถูกกระตุ้นเต็มที่ หลายคนรวยในพริบตา
แต่แล้วจู่ๆ คนทั่วๆไปเงินก็ช็อต เหมือนฟองสบู่ถูกปั่นขึ้นมาเร็วเกินไป แต่ราคาสินค้ายังไม่ทันขึ้นนะ คนช็อตไปหมดแล้ว
เข้าสู่ยุคเงินฝืดทันที สถาบันการเงินช่วยไม่ทัน รัฐไม่รู้ตัว มันเร็วมาก เพราะแทบทุกคนพร้อมใจกันไม่ซื้อของ
ลืมทฤษฎีเศรษฐศาสตร์เรื่องเงินฝืด เงินเฟ้อไปได้เลย เพราะหลายฝ่ายปรับตัวไม่ทัน แต่เราตีความด้วยคำง่ายๆแค่ว่าเศรษฐกิจอิ่มตัว

ถ้าแบบนี้ เราต้องไปลงทุนเมืองนอก ไปขายของคนเมืองนอกแทน แบบบริษัทญี่ปุ่น
แต่ปัญหาคือคนในประเทศไม่ได้มีตังเก็บ ไม่ได้เก็บเงินเก่งแบบญี่ปุ่น เกิดเศรษฐกิจแบบนี้
อาจมีคนไม่มีกิน คราวนี้ถ้ารัฐไม่เข้ามาอุ้ม เราตาย จะประชานิยมยังไงก็ได้ รถเมล์ฟรี อาหารฟรี เรียนฟรีควรทำ
แต่นั้นจะทำให้รัฐเป็นหนี้ สุดท้ายไปเป็นแบบกรีซอีกก็ไม่ไหว สภาพแบบนี้เหมือนเป็นมะเร็งยังไงไม่รู้

เอาเป็นว่า ขอให้ธุรกิจอย่างอาหารและการส่งออก การท่องเที่ยวยังคงแบกรับได้อยู่
เป็นไม้สุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ ทำยังไงให้ดึงนักลงทุนเข้ามา แต่ช่วยให้เค้าส่งออกได้เต็มที่
ลองคิดดูเล่นๆ ไม่เก็บภาษีอะไรสักอย่าง ดึงดูดได้อยู่ คนก็จะมีงานทำ แต่อย่าลืมคุมเรื่องสิ่งแวดล้อมดีๆนะ
พูดถึงตรงนี้ ดึงเลือดข้างนอกเข้ามาอาจจะกระตุ้นให้ร่างกายที่ขาดเลือด มีเลือดวิ่งได้อยู่
แต่ไทยมีตลาดส่งออกที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตมากขนาดไหน เมื่อตีซะว่ากำลังซื้อภายในแทบไม่มีเลย ผู้ลงทุนคงคิดหนักอยู่


GreenG

  • บุคคลทั่วไป
อยากทราบว่าที่มันเป็นแบบนี้เพราะว่า โครงการถคันแรก หรือว่าต่างชาติถอนการผลิต หนีประเทศไทยครับ

อย่าพูดถึงที่มาเลยครับ เดี๋ยวกลายเป็นเข้าเรื่องการเมือง
เอาเป็นว่าหลายปัจจัยมันอำนวยให้ trigger เศรษฐกิจมาอยู่ใน loop นี้
เหมือน uzumaki น้ำวน คล้ายๆเศรษฐกิจในญี่ปุ่น
ฟองสบู่อาจโตขึ้นโดยเฉียบพลันเพราะอะไรบางอย่างเร็วเกินไป แล้วแตกไปโดยเราไม่ทันรู้ตัว
ตรงกับสภาพที่ว่า หลังวิกฤติเบอร์เกอร์ ตลาดเงิดฉุดตัวลงอย่างแรงจากปัจจัยภายนอก แต่เด้งกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เพราะมีเงินจาก QE เทพรวดเข้ามา ผ่านตลาดหุ้น เศรษฐกิจถูกกระตุ้นเต็มที่ หลายคนรวยในพริบตา
แต่แล้วจู่ๆ คนทั่วๆไปเงินก็ช็อต เหมือนฟองสบู่ถูกปั่นขึ้นมาเร็วเกินไป แต่ราคาสินค้ายังไม่ทันขึ้นนะ คนช็อตไปหมดแล้ว
เข้าสู่ยุคเงินฝืดทันที สถาบันการเงินช่วยไม่ทัน รัฐไม่รู้ตัว มันเร็วมาก เพราะแทบทุกคนพร้อมใจกันไม่ซื้อของ
ลืมทฤษฎีเศรษฐศาสตร์เรื่องเงินฝืด เงินเฟ้อไปได้เลย เพราะหลายฝ่ายปรับตัวไม่ทัน แต่เราตีความด้วยคำง่ายๆแค่ว่าเศรษฐกิจอิ่มตัว

ถ้าแบบนี้ เราต้องไปลงทุนเมืองนอก ไปขายของคนเมืองนอกแทน แบบบริษัทญี่ปุ่น
แต่ปัญหาคือคนในประเทศไม่ได้มีตังเก็บ ไม่ได้เก็บเงินเก่งแบบญี่ปุ่น เกิดเศรษฐกิจแบบนี้
อาจมีคนไม่มีกิน คราวนี้ถ้ารัฐไม่เข้ามาอุ้ม เราตาย จะประชานิยมยังไงก็ได้ รถเมล์ฟรี อาหารฟรี เรียนฟรีควรทำ
แต่นั้นจะทำให้รัฐเป็นหนี้ สุดท้ายไปเป็นแบบกรีซอีกก็ไม่ไหว สภาพแบบนี้เหมือนเป็นมะเร็งยังไงไม่รู้

เอาเป็นว่า ขอให้ธุรกิจอย่างอาหารและการส่งออก การท่องเที่ยวยังคงแบกรับได้อยู่
เป็นไม้สุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ ทำยังไงให้ดึงนักลงทุนเข้ามา แต่ช่วยให้เค้าส่งออกได้เต็มที่
ลองคิดดูเล่นๆ ไม่เก็บภาษีอะไรสักอย่าง ดึงดูดได้อยู่ คนก็จะมีงานทำ แต่อย่าลืมคุมเรื่องสิ่งแวดล้อมดีๆนะ
พูดถึงตรงนี้ ดึงเลือดข้างนอกเข้ามาอาจจะกระตุ้นให้ร่างกายที่ขาดเลือด มีเลือดวิ่งได้อยู่
แต่ไทยมีตลาดส่งออกที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตมากขนาดไหน เมื่อตีซะว่ากำลังซื้อภายในแทบไม่มีเลย ผู้ลงทุนคงคิดหนักอยู่



ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,904
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
ตอนนี้เป็นช่วงคนเก็บเงินครับ

ไม่จำเป็นไม่อยากใช้ทั้งที่ ดอกเบี้ยมันถูกแสนถูก

แต่ร้านค้าต่างๆที่เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยกำลังจะตายไม่เชื่อไปเดินดูพวก คริสปี้ครีม การ์เร็ตป็อปคอร์น (จัดอยู่ในของกินฟุ่มเฟือย) จะได้แค่สัปดาห์แรกและสัปดาห์สุดท้ายของเดือน  ของที่ไม่ค่อยจำเป็นหลายคนไม่ซื้อเลย    เสื้อผ้านี่นิ่งๆเลยนะครับ โบ็เบ็ บ่นกันอุบ

ที่ยังไหวพอมีกำลังคือพวกร้านอาหาร   และของที่ขายนักเรียน นักศึกษา(เพราะซื้อแบบไม่ต้องคิด) 

ส่วนเรื่องเศรษฐกิจ มันล้มกันทั้งโลกละครับ  จะมองภาพเดียว ประเทศเราประเทศเดียวคงไม่ได้   ดูปริมาณการส่งออกที่ลดลงของแต่ละประเทศได้

ไม่ใช่ให้เราไปขายประเทศอื่นนะครับ  ประเทศอื่นหลายประเทศกำลังการซื้อฝืดเคืองกว่าประเทศเราอีก 

คำถามคือทำยังไงก็ได้งั้นหันมาบริโภคภายในประเทศแก้ขัดไปก่อน  เพราะตลาดโลกก็นิ่งๆ

รัฐบาลกำลังกระตุ้นโดยการ เพิ่มเงินให้พวก ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ซึ่งหวังว่าจะเป็นการกระตุ้นระยะยาว เพราะคนกินเงินเดือน อย่างน้อยก็ใช้จ่าย

เลยพยายามหาวันหยุดให้คนเที่ยว   แต่ก็ไม่รู้จะเป็นเช่นไร  เพราะการเพิ่มก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย


กลับมาถึงด้านเงินฝาก  เหมือนเจ้าของ ธุรกิจหลายท่านจะรู้ว่าควรทำตัวยังไง 

ตอนนี้ เก็บเงินเข้าแบงค์ รึไม่ก็หันไปเก็บหุ้น ที่มีวอลลุ่มเยอะหน่อยกันซะมาก 

มองกันว่าข้างหน้าเดาอะไรมากไม่ได้  เก็บกันซะส่วนใหญ่  ธนาคารเมื่อมีเงินฝากมากเข้าๆก็กลายเป็นภาระ เพราะเอาไปลงทุนในกิจการด้านอื่นๆ ก็ฝืดพอๆกัน

เลยต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ย

THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day

promt

  • บุคคลทั่วไป
เงินในภาคครัวเรือนฝืดจริงครับ เดินห้างหรือเดินตลาดนัด คนซบเซาจริงๆ ครับ

คนรุ่นใหม่ เก็บเงินมากขึ้น เก็บในหุ้น เก็บในรูปแบบกองทุน ฯลฯ

หุ้นพุ่งไปเรื่อยๆ เลยครับ 1,700 เลย

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้เป็นช่วงคนเก็บเงินครับ

ไม่จำเป็นไม่อยากใช้ทั้งที่ ดอกเบี้ยมันถูกแสนถูก

แต่ร้านค้าต่างๆที่เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยกำลังจะตายไม่เชื่อไปเดินดูพวก คริสปี้ครีม การ์เร็ตป็อปคอร์น (จัดอยู่ในของกินฟุ่มเฟือย) จะได้แค่สัปดาห์แรกและสัปดาห์สุดท้ายของเดือน  ของที่ไม่ค่อยจำเป็นหลายคนไม่ซื้อเลย    เสื้อผ้านี่นิ่งๆเลยนะครับ โบ็เบ็ บ่นกันอุบ

ที่ยังไหวพอมีกำลังคือพวกร้านอาหาร   และของที่ขายนักเรียน นักศึกษา(เพราะซื้อแบบไม่ต้องคิด) 

ส่วนเรื่องเศรษฐกิจ มันล้มกันทั้งโลกละครับ  จะมองภาพเดียว ประเทศเราประเทศเดียวคงไม่ได้   ดูปริมาณการส่งออกที่ลดลงของแต่ละประเทศได้

ไม่ใช่ให้เราไปขายประเทศอื่นนะครับ  ประเทศอื่นหลายประเทศกำลังการซื้อฝืดเคืองกว่าประเทศเราอีก 

คำถามคือทำยังไงก็ได้งั้นหันมาบริโภคภายในประเทศแก้ขัดไปก่อน  เพราะตลาดโลกก็นิ่งๆ

รัฐบาลกำลังกระตุ้นโดยการ เพิ่มเงินให้พวก ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ซึ่งหวังว่าจะเป็นการกระตุ้นระยะยาว เพราะคนกินเงินเดือน อย่างน้อยก็ใช้จ่าย

เลยพยายามหาวันหยุดให้คนเที่ยว   แต่ก็ไม่รู้จะเป็นเช่นไร  เพราะการเพิ่มก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย


กลับมาถึงด้านเงินฝาก  เหมือนเจ้าของ ธุรกิจหลายท่านจะรู้ว่าควรทำตัวยังไง 

ตอนนี้ เก็บเงินเข้าแบงค์ รึไม่ก็หันไปเก็บหุ้น ที่มีวอลลุ่มเยอะหน่อยกันซะมาก 

มองกันว่าข้างหน้าเดาอะไรมากไม่ได้  เก็บกันซะส่วนใหญ่  ธนาคารเมื่อมีเงินฝากมากเข้าๆก็กลายเป็นภาระ เพราะเอาไปลงทุนในกิจการด้านอื่นๆ ก็ฝืดพอๆกัน

เลยต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ย


เงินในภาคครัวเรือนฝืดจริงครับ เดินห้างหรือเดินตลาดนัด คนซบเซาจริงๆ ครับ

คนรุ่นใหม่ เก็บเงินมากขึ้น เก็บในหุ้น เก็บในรูปแบบกองทุน ฯลฯ

หุ้นพุ่งไปเรื่อยๆ เลยครับ 1,700 เลย
http://www.thaibond.com/news/NewBondDetail.aspx?headline=337685
ตอนนี้ผมไม่กล้าเข้าตลาดหุ้นครับ

เลยเอาเงินไปลงในนี้ก่อน

เพราะผมเก็งว่า ปีนี้รือปีหน้า ดอกน่าจะลง

พอดีตัว 5 ปี มันมีโปร คือ ครบ 1 ปีขึ้นไปอาจจะไถ่ถอนได้

ถ้าปีหน้าหรือปลายๆปี ดอกลงจริง

ผมมั่นใจว่า CP คีนแน่นอน และอาจจะหา source ใหม่ ซึ่งผมว่าตอนนั้นเขาอาจะระดมทุนยาวๆ ที่ดอกสูงกว่าตัวนี้ แต่ระยะยาวขึ้นครับ

ไม่รุ้ผมคิดถูกไหมนะครับ :D

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,594
  เหมือนคนไม่อยากใช้เงินไม่ใช่ไม่มีเงินนะครับ    แต่คงกลัวอนาคตมากกว่าเพราะหลายท่านก็หวั่นใจอนาคต
ส่วนเรื่องรถยนต์   รถใหม่ทะลักมากมาย  มือสองก็ล้น  โปรของ รถใหม่ก็กระหน่ำ    ถามว่าเป็นไง ก็คือแย่ทั้งคู่ครับ  เต๊นท์รถก็ร่อแร่สุด    ได้ประโยชน์ก็คือคนซื้อแต่คนอีกหลายคนก็ไม่กล้าซื้อเพราะทางเลือกมากขึ้นและกลัวอนาคตไม่กล้าใช้เงิน 
ส่วนบ้านก็คล้ายกันเพราะกำลังซื้อคนหดไป  แต่จำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเพิ่มมากขึ้นจนเยอะเกิน ผลเลยออกมาแบบนี้

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
  เหมือนคนไม่อยากใช้เงินไม่ใช่ไม่มีเงินนะครับ    แต่คงกลัวอนาคตมากกว่าเพราะหลายท่านก็หวั่นใจอนาคต
ส่วนเรื่องรถยนต์   รถใหม่ทะลักมากมาย  มือสองก็ล้น  โปรของ รถใหม่ก็กระหน่ำ    ถามว่าเป็นไง ก็คือแย่ทั้งคู่ครับ  เต๊นท์รถก็ร่อแร่สุด    ได้ประโยชน์ก็คือคนซื้อแต่คนอีกหลายคนก็ไม่กล้าซื้อเพราะทางเลือกมากขึ้นและกลัวอนาคตไม่กล้าใช้เงิน 
ส่วนบ้านก็คล้ายกันเพราะกำลังซื้อคนหดไป  แต่จำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเพิ่มมากขึ้นจนเยอะเกิน ผลเลยออกมาแบบนี้

ใช่ครับ

ผมว่าบ้านสมัยนี้สร้างเยอะมาก

แต่ผมว่าคนโดยมาก ยอมอยู่บ้านมือสองที่เดินทางสะดวก อยู่ในเมืองมากกว่าครับ

ส่วนรถ ผมว่าหลายคนไม่กล้าขายต่อครับ เพราะราคาตกมาก

พวกรถที่ราคาเกิน 5 แสนไปขาดทุนยับเลยครับ

ออฟไลน์ ChiLun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,367
  • F10 525d M sport

แต่ก่อนคนทำงานประจำอยากทำธุรกิจ ตอนนี้คนทำธุรกิจอยากทำงานประจำ

ส่วนตัวผมมองปัญหาคล้ายกับทุกท่านด้านบน แต่อีกอย่างที่เห็นคือหนี้เก่า ตอนที่เศรษฐกิจดีคนจับจ่ายกันมาก ทั้งรถทั้งบ้าน พอถึงเวลาไม่ดีของเก่ายังต้องเป็นภาระผูกพันไปอีกหลายปี เลยต้องประหยัด เงินได้มาต้องจ่ายของเก่าก่อน ของใหม่นี่ไม่ต้องพูดถึง เลยเกิดภาวะแบบนี้

อีกอย่างคือราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำในทุกภาคของประเทศ ทำให้คนในภาคเกษตรซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของประเทศไม่มีเงินใช้จ่ายออกมาเหมือนแต่ก่อนผมมองว่าคนกลุ่มนี้คือพื้นฐานจุดเริ่มต้นของการจับจ่ายของประเทศเรา ยิ่งยุคนี้ไม่มีการแทรกแซงราคาผลผลิตทางการเกษตร ก็จะยิ่งกระทบขึ้นมาเรื่อยๆ ถ้าเป็นต่างประเทศคงทำQEแต่เมืองไทยการแทรกแทรงราคาผลผลิตจะได้ผลดีกว่าเพราะกระตุ้นจากล่างขึ้นบน แต่ข้อเสียคือท้ายสุดประเทศต้องขาดทุนมากขึ้นไปเรื่อยๆและเป็นภาระหนี้ในอนาคต ซึ่ง ณ ตอนนี้ผู้บริหารเลยเลือกที่จะไม่ทำ

โลกเองก็แย่ไม่น้อยกว่าเรา แย่กว่าเราในหลายประเทศ ยิ่งประเทศใหญ่ๆที่เป็นลูกค้าสิ้นค้าส่งออก ทุกวันนี้มีหนี้เป็นร้อยๆ%ของGDP ไหนจะส่งครามนู่นนี่ ยิ่งทำให้การบริโภคเค้าแย่ไปใหญ่ จะหวังส่งออกยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น ตอนนี้คงได้ตัวเลขลดลงกว่าแต่ก่อนมาก

สรุปก็เลยประหยัดกันตั้งแต่ชาวนาชาวไร่ยันเจ้าของธุรกิจ เงินเลยฝืดอย่างที่เราๆรู้สึกกันตอนนี้ ส่วนตัวผมเป็นกำลังใจและคิดว่าทีมผู้บริหารประเทศเรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันแก้ไม่ง่าย ถ้าจะแก้แบบง่ายมันก็จะไปซ้ำรอยปัญหาเก่าๆ เลยหวังแต่ว่าจะให้เดินมาถูกทางและเห็นผลในเร็ววัน

GreenG

  • บุคคลทั่วไป

แต่ก่อนคนทำงานประจำอยากทำธุรกิจ ตอนนี้คนทำธุรกิจอยากทำงานประจำ

ส่วนตัวผมมองปัญหาคล้ายกับทุกท่านด้านบน แต่อีกอย่างที่เห็นคือหนี้เก่า ตอนที่เศรษฐกิจดีคนจับจ่ายกันมาก ทั้งรถทั้งบ้าน พอถึงเวลาไม่ดีของเก่ายังต้องเป็นภาระผูกพันไปอีกหลายปี เลยต้องประหยัด เงินได้มาต้องจ่ายของเก่าก่อน ของใหม่นี่ไม่ต้องพูดถึง เลยเกิดภาวะแบบนี้

อีกอย่างคือราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำในทุกภาคของประเทศ ทำให้คนในภาคเกษตรซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของประเทศไม่มีเงินใช้จ่ายออกมาเหมือนแต่ก่อนผมมองว่าคนกลุ่มนี้คือพื้นฐานจุดเริ่มต้นของการจับจ่ายของประเทศเรา ยิ่งยุคนี้ไม่มีการแทรกแซงราคาผลผลิตทางการเกษตร ก็จะยิ่งกระทบขึ้นมาเรื่อยๆ ถ้าเป็นต่างประเทศคงทำQEแต่เมืองไทยการแทรกแทรงราคาผลผลิตจะได้ผลดีกว่าเพราะกระตุ้นจากล่างขึ้นบน แต่ข้อเสียคือท้ายสุดประเทศต้องขาดทุนมากขึ้นไปเรื่อยๆและเป็นภาระหนี้ในอนาคต ซึ่ง ณ ตอนนี้ผู้บริหารเลยเลือกที่จะไม่ทำ

โลกเองก็แย่ไม่น้อยกว่าเรา แย่กว่าเราในหลายประเทศ ยิ่งประเทศใหญ่ๆที่เป็นลูกค้าสิ้นค้าส่งออก ทุกวันนี้มีหนี้เป็นร้อยๆ%ของGDP ไหนจะส่งครามนู่นนี่ ยิ่งทำให้การบริโภคเค้าแย่ไปใหญ่ จะหวังส่งออกยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น ตอนนี้คงได้ตัวเลขลดลงกว่าแต่ก่อนมาก

สรุปก็เลยประหยัดกันตั้งแต่ชาวนาชาวไร่ยันเจ้าของธุรกิจ เงินเลยฝืดอย่างที่เราๆรู้สึกกันตอนนี้ ส่วนตัวผมเป็นกำลังใจและคิดว่าทีมผู้บริหารประเทศเรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันแก้ไม่ง่าย ถ้าจะแก้แบบง่ายมันก็จะไปซ้ำรอยปัญหาเก่าๆ เลยหวังแต่ว่าจะให้เดินมาถูกทางและเห็นผลในเร็ววัน
ขอบคุณครับ งั้นช่วงนี้เราควรจะต้องประคับประคองไปก่อนนะครับ

ออฟไลน์ recycleman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,201
จริงครับ ผมทำธุรกิจส่วนตัวโดนจังๆแบบต้องปรับตัวกันยกใหญ่เลย สาเหตุเพราะอะไรไม่ขอพูดถึงเพราะคิดว่าเราๆท่านๆก็น่าจะรู้กันดี


ตอนนี้ผมยังคิดว่าจะไปเรียนการบินแล้วออกไปเป็นนักบินซะเลย คิดว่าน่าจะมั่นคงได้ในระยะยาวเลย ตอนนี้ทุนเรียนมีแต่สมองยังไม่พร้อมเท่าไร 555

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,848
    • อีเมล์
ถ้าถามว่าเป็นเพราะอะไร ผมมองว่ามันหลายๆอย่างๆประจวบเหมาะพอดี
- เศรษฐกิจโลกไม่ดี มีสงคราม
- ส่งออกเราไม่ดี
- เพื่อนบ้านงัดนโยบายการเงินเข้าประเคนเรียกนักลงทุน แต่เรายังไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม
- ธุรกิจขนาดกลาง-เล็กปิดตัวกันมากขึ้น
- อัตราการว่างงานเราสูงขึ้น
- การเมืองไม่นิ่ง รัฐบาลไม่นิ่ง
- เกิดภาวะคนไม่มั่นใจ ต่างคนต่างเก็บเงินไว้เผื่อฉุกเฉิน
- ภาคเกษตรไม่มีนโยบายช่วยเหลือที่ชัดเจน

ในตอนนี้คนส่วนใหญ่ยังมีเงิน แต่อนาคตถ้าไม่มีนโยบายยาแรงอะไรมากระตุ้นเลย ไม่มีการลดแลกแจกแถมเรียกเงินออกจากกระเป๋า ก็มีแววว่าจะล้มกันหมด
แอบสังเกตุเห็นว่าคนพยายามเก็บเงินไว้ ไม่ใช่เพื่อการลงทุน แต่เพื่อค้ำประกันตัวเองว่าถ้าตกงานจะอยู่นานพอ

จริงๆช่วงนี้เป็นช่วงที่รัฐบาลต้องใช้จ่ายให้มากที่สุด มีเมกะโปรเจคอะไรก็ต้องรีบงัดออกมาทำให้หมด
เพื่อให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ ซึ่งก็ต้องดูว่าอนาคตอันใกล้จะใกล้ถึงเวลานั้นหรือยัง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 19, 2015, 16:41:39 โดย H. »
H.

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
จริงครับ ผมทำธุรกิจส่วนตัวโดนจังๆแบบต้องปรับตัวกันยกใหญ่เลย สาเหตุเพราะอะไรไม่ขอพูดถึงเพราะคิดว่าเราๆท่านๆก็น่าจะรู้กันดี


ตอนนี้ผมยังคิดว่าจะไปเรียนการบินแล้วออกไปเป็นนักบินซะเลย คิดว่าน่าจะมั่นคงได้ในระยะยาวเลย ตอนนี้ทุนเรียนมีแต่สมองยังไม่พร้อมเท่าไร 555

ผมเองอยากเรียนหมอครับ

อย่างน้อยก็ไม่ตกงาน ทำงานไปเรื่อยๆได้ อยู่ รพ เล็ก ของเอกชนก็ยังดี :D
ถ้าถามว่าเป็นเพราะอะไร ผมมองว่ามันหลายๆอย่างๆประจวบเหมาะพอดี
- เศรษฐกิจโลกไม่ดี มีสงคราม
- ส่งออกเราไม่ดี
- เพื่อนบ้านงัดนโยบายการเงินเข้าประเคนเรียกนักลงทุน แต่เรายังไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม
- ธุรกิจขนาดกลาง-เล็กปิดตัวกันมากขึ้น
- อัตราการว่างงานเราสูงขึ้น
- การเมืองไม่นิ่ง รัฐบาลไม่นิ่ง
- เกิดภาวะคนไม่มั่นใจ ต่างคนต่างเก็บเงินไว้เผื่อฉุกเฉิน
- ภาคเกษตรไม่มีนโยบายช่วยเหลือที่ชัดเจน

ในตอนนี้คนส่วนใหญ่ยังมีเงิน แต่อนาคตถ้าไม่มีนโยบายยาแรงอะไรมากระตุ้นเลย ไม่มีการลดแลกแจกแถมเรียกเงินออกจากกระเป๋า ก็มีแววว่าจะล้มกันหมด
แอบสังเกตุเห็นว่าคนพยายามเก็บเงินไว้ ไม่ใช่เพื่อการลงทุน แต่เพื่อค้ำประกันตัวเองว่าถ้าตกงานจะอยู่นานพอ

จริงๆช่วงนี้เป็นช่วงที่รัฐบาลต้องใช้จ่ายให้มากที่สุด มีเมกะโปรเจคอะไรก็ต้องรีบงัดออกมาทำให้หมด
เพื่อให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ ซึ่งก็ต้องดูว่าอนาคตอันใกล้จะใกล้ถึงเวลานั้นหรือยัง
ขอบคุณครับ

เราก็ได้แต่หวังว่าราชการจะกระตุ้น มีบทบาทให้ชัดเจนมากกว่าการขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการ

ออฟไลน์ equinox

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 58
บริษัทวงการผมหาไม่ยากเลยครับ เพราะไม่มีใครรับ วันจันทร์ที่ผ่านมาก็โดนไล่ไปแล้ว 4 คน มีแนวโน้มว่าจะ Lay-off กันต่ออีก

ขอบ่นหน่อยครับ ทำไมเวลา Lay-off ชอบเอาแต่ Field operative ออกกัน พวก Front Office (HR, account, Safety, Management,  Etc.) ไม่เห็นจะโดนเลยซักคน ถ้าจะเอาออกก็เอาให้พอกันทุกแผนกสิ

แหะๆๆๆๆ

ผมนี่ Safety ครับ

 :)

เข้าใจเหมือนกัน เวลาเอาออก HR กับ Safety เขาเอา Safety ไปก่อนเลย


ผมก็เซฟตี้เหมือนกันครับ ดีว่าอยู่รัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน เลยไม่ได้รับผลกระทบใดๆครับ ยังไงผมเชื่อว่า ยังไงเซฟตี้ก็หางานง่ายกว่าสายอื่นครับ

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
บริษัทวงการผมหาไม่ยากเลยครับ เพราะไม่มีใครรับ วันจันทร์ที่ผ่านมาก็โดนไล่ไปแล้ว 4 คน มีแนวโน้มว่าจะ Lay-off กันต่ออีก

ขอบ่นหน่อยครับ ทำไมเวลา Lay-off ชอบเอาแต่ Field operative ออกกัน พวก Front Office (HR, account, Safety, Management,  Etc.) ไม่เห็นจะโดนเลยซักคน ถ้าจะเอาออกก็เอาให้พอกันทุกแผนกสิ

แหะๆๆๆๆ

ผมนี่ Safety ครับ

 :)

เข้าใจเหมือนกัน เวลาเอาออก HR กับ Safety เขาเอา Safety ไปก่อนเลย


ผมก็เซฟตี้เหมือนกันครับ ดีว่าอยู่รัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน เลยไม่ได้รับผลกระทบใดๆครับ ยังไงผมเชื่อว่า ยังไงเซฟตี้ก็หางานง่ายกว่าสายอื่นครับ

 :) ผมเคยไปดูงานสาย Safety ตอนที่เรียนป.โท ที่บริษัทคุณครับ  ;)

ผมคิดว่าคงเป็นจังหวะมากกว่าครับ หวังไว้ว่า จะได้ในเร็ววันครับ

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,614
  • การเดินทางครั้งใหม่
พี่ใหญ่อย่างเมกากับจีนยังเจอ รัสเซียก็หนีจาก(ท่องเที่ยวไทยกำลังเจอ) ส่วนไทยรึจะรอด คราวนี้คงหนักกันน่าดู แต่คงไม่เท่าปี 40 ศก.ลงมาสักสองถึงสามปีมาแล้วแบบคืบคลาน รายใหญ่ถึงใหญ่มากเขาไปรุกที่ ตปท กันสัก 3-4ปีกันแล้วมังครับ ร้านเล็กๆมีทุนหนาหน่อย ไม่มีหนี้ก็เบาไป ใครกู้มาหนาวแน่ ดอกเบี้ยสวนทางกับรายรับ ธุรกิจที่เห็นแล้วดีก็พวกแยกขยะ(แถวบ้านผมนะ) ขยายกันใหญ่ ส่วนรายอื่นๆก็เข้าสมาคมก้มหน้า (เล่นtablet / มือถือ) กันเพียบ  เพราะว่างจัด  ;D
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ

ออฟไลน์ shando

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,872
จริงครับ ผมทำธุรกิจส่วนตัวโดนจังๆแบบต้องปรับตัวกันยกใหญ่เลย สาเหตุเพราะอะไรไม่ขอพูดถึงเพราะคิดว่าเราๆท่านๆก็น่าจะรู้กันดี


ตอนนี้ผมยังคิดว่าจะไปเรียนการบินแล้วออกไปเป็นนักบินซะเลย คิดว่าน่าจะมั่นคงได้ในระยะยาวเลย ตอนนี้ทุนเรียนมีแต่สมองยังไม่พร้อมเท่าไร 555

นักบินนี่ก็ใช่ว่าจะมั่นคงนะครับ อย่างเพื่อนผมสอบนักบินการบินไทยได้ปีนี้กำลังจะไปเรียนปีหน้า ปรากฎว่าเจอปรับโครงสร้าง ไปๆมาๆนักบินเกินซะงั้น เลยต้องรอไปอีกสามปีถึงจะได้เรียน โชคดีที่ยังไม่ได้ลาออกจากงานเดิม ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าคนเก่าๆจะลาออกไปสายการบินอื่นเยอะๆจะได้เริ่มไปเรียนซะที

ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,966
ถ้าถามว่าเป็นเพราะอะไร ผมมองว่ามันหลายๆอย่างๆประจวบเหมาะพอดี
- เศรษฐกิจโลกไม่ดี มีสงคราม
- ส่งออกเราไม่ดี
- เพื่อนบ้านงัดนโยบายการเงินเข้าประเคนเรียกนักลงทุน แต่เรายังไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม
- ธุรกิจขนาดกลาง-เล็กปิดตัวกันมากขึ้น
- อัตราการว่างงานเราสูงขึ้น
- การเมืองไม่นิ่ง รัฐบาลไม่นิ่ง
- เกิดภาวะคนไม่มั่นใจ ต่างคนต่างเก็บเงินไว้เผื่อฉุกเฉิน
- ภาคเกษตรไม่มีนโยบายช่วยเหลือที่ชัดเจน

ในตอนนี้คนส่วนใหญ่ยังมีเงิน แต่อนาคตถ้าไม่มีนโยบายยาแรงอะไรมากระตุ้นเลย ไม่มีการลดแลกแจกแถมเรียกเงินออกจากกระเป๋า ก็มีแววว่าจะล้มกันหมด
แอบสังเกตุเห็นว่าคนพยายามเก็บเงินไว้ ไม่ใช่เพื่อการลงทุน แต่เพื่อค้ำประกันตัวเองว่าถ้าตกงานจะอยู่นานพอ

จริงๆช่วงนี้เป็นช่วงที่รัฐบาลต้องใช้จ่ายให้มากที่สุด มีเมกะโปรเจคอะไรก็ต้องรีบงัดออกมาทำให้หมด
เพื่อให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ ซึ่งก็ต้องดูว่าอนาคตอันใกล้จะใกล้ถึงเวลานั้นหรือยัง

วิเคราะห์แม่นครับ ผมเห็นภาพตามเลย
ผมคิดเล่นๆว่าตอนนี้ฟองสบู่เล็กๆ เริ่มแตกแล้วละมั้ง ?

ออฟไลน์ sk-non

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 517
ช่วงนี้รัฐเบิกจ่ายเร็วกว่ารัฐบาลก่อนอีกนะ
มีการตรวจสอบทุกไตรมาส

ที่เห็นเงียบๆ คนไทยเตรียมไปเที่ยวนอกกันนะครับ
ช่วงใกล้สงกรานต์เดี๋ยวกำลังซื้อก็จะกลับมาช่วงนึง

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
พี่ใหญ่อย่างเมกากับจีนยังเจอ รัสเซียก็หนีจาก(ท่องเที่ยวไทยกำลังเจอ) ส่วนไทยรึจะรอด คราวนี้คงหนักกันน่าดู แต่คงไม่เท่าปี 40 ศก.ลงมาสักสองถึงสามปีมาแล้วแบบคืบคลาน รายใหญ่ถึงใหญ่มากเขาไปรุกที่ ตปท กันสัก 3-4ปีกันแล้วมังครับ ร้านเล็กๆมีทุนหนาหน่อย ไม่มีหนี้ก็เบาไป ใครกู้มาหนาวแน่ ดอกเบี้ยสวนทางกับรายรับ ธุรกิจที่เห็นแล้วดีก็พวกแยกขยะ(แถวบ้านผมนะ) ขยายกันใหญ่ ส่วนรายอื่นๆก็เข้าสมาคมก้มหน้า (เล่นtablet / มือถือ) กันเพียบ  เพราะว่างจัด  ;D

 ;D

ช่วงนี้รัฐเบิกจ่ายเร็วกว่ารัฐบาลก่อนอีกนะ
มีการตรวจสอบทุกไตรมาส

ที่เห็นเงียบๆ คนไทยเตรียมไปเที่ยวนอกกันนะครับ
ช่วงใกล้สงกรานต์เดี๋ยวกำลังซื้อก็จะกลับมาช่วงนึง


หวังว่าจะเป็นแบบนั้นครับ

จริงครับ ผมทำธุรกิจส่วนตัวโดนจังๆแบบต้องปรับตัวกันยกใหญ่เลย สาเหตุเพราะอะไรไม่ขอพูดถึงเพราะคิดว่าเราๆท่านๆก็น่าจะรู้กันดี


ตอนนี้ผมยังคิดว่าจะไปเรียนการบินแล้วออกไปเป็นนักบินซะเลย คิดว่าน่าจะมั่นคงได้ในระยะยาวเลย ตอนนี้ทุนเรียนมีแต่สมองยังไม่พร้อมเท่าไร 555

นักบินนี่ก็ใช่ว่าจะมั่นคงนะครับ อย่างเพื่อนผมสอบนักบินการบินไทยได้ปีนี้กำลังจะไปเรียนปีหน้า ปรากฎว่าเจอปรับโครงสร้าง ไปๆมาๆนักบินเกินซะงั้น เลยต้องรอไปอีกสามปีถึงจะได้เรียน โชคดีที่ยังไม่ได้ลาออกจากงานเดิม ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าคนเก่าๆจะลาออกไปสายการบินอื่นเยอะๆจะได้เริ่มไปเรียนซะที

 ;)
ถ้าถามว่าเป็นเพราะอะไร ผมมองว่ามันหลายๆอย่างๆประจวบเหมาะพอดี
- เศรษฐกิจโลกไม่ดี มีสงคราม
- ส่งออกเราไม่ดี
- เพื่อนบ้านงัดนโยบายการเงินเข้าประเคนเรียกนักลงทุน แต่เรายังไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม
- ธุรกิจขนาดกลาง-เล็กปิดตัวกันมากขึ้น
- อัตราการว่างงานเราสูงขึ้น
- การเมืองไม่นิ่ง รัฐบาลไม่นิ่ง
- เกิดภาวะคนไม่มั่นใจ ต่างคนต่างเก็บเงินไว้เผื่อฉุกเฉิน
- ภาคเกษตรไม่มีนโยบายช่วยเหลือที่ชัดเจน

ในตอนนี้คนส่วนใหญ่ยังมีเงิน แต่อนาคตถ้าไม่มีนโยบายยาแรงอะไรมากระตุ้นเลย ไม่มีการลดแลกแจกแถมเรียกเงินออกจากกระเป๋า ก็มีแววว่าจะล้มกันหมด
แอบสังเกตุเห็นว่าคนพยายามเก็บเงินไว้ ไม่ใช่เพื่อการลงทุน แต่เพื่อค้ำประกันตัวเองว่าถ้าตกงานจะอยู่นานพอ

จริงๆช่วงนี้เป็นช่วงที่รัฐบาลต้องใช้จ่ายให้มากที่สุด มีเมกะโปรเจคอะไรก็ต้องรีบงัดออกมาทำให้หมด
เพื่อให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ ซึ่งก็ต้องดูว่าอนาคตอันใกล้จะใกล้ถึงเวลานั้นหรือยัง

วิเคราะห์แม่นครับ ผมเห็นภาพตามเลย
ผมคิดเล่นๆว่าตอนนี้ฟองสบู่เล็กๆ เริ่มแตกแล้วละมั้ง ?

เห็นด้วยครับ

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,949
    • อีเมล์
งานหายากเฉพาะงานที่ต้องใช้คนจบวุฒิสูงๆครับ แต่คนงานระดับทั่วไปนี่ขาดกันทุกที่ลองสังเกตได้ครับป้ายรับสมัครงานตำแหน่งพนักงานทั่วไปมีเยอะมาก ของผมก็เปลี่ยนลูกน้องเป็นว่าเล่นเหมือนกัน ทั้งคนไทยทั้งต่างด้าวเดี๋ยวนี้ไม่ทนเหมือนกันหมดแล้วครับ ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนกว่าจะลงตัว

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
งานหายากเฉพาะงานที่ต้องใช้คนจบวุฒิสูงๆครับ แต่คนงานระดับทั่วไปนี่ขาดกันทุกที่ลองสังเกตได้ครับป้ายรับสมัครงานตำแหน่งพนักงานทั่วไปมีเยอะมาก ของผมก็เปลี่ยนลูกน้องเป็นว่าเล่นเหมือนกัน ทั้งคนไทยทั้งต่างด้าวเดี๋ยวนี้ไม่ทนเหมือนกันหมดแล้วครับ ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนกว่าจะลงตัว

ครับ ผมว่าคนไทยคงต้องเรียนสูงๆ กันเพราะว่าเราไม่มีทางเลือกในการทำงานเท่าไหร่ หากเราจบไม่สูง รายได้ก็ไม่สูงเหมือนเมืองนอกครับ

ส่วนงานที่มี จริงเลยครับ งานระดับล่าง ซึ่งรายได้มันไม่ค่อยมีอนาคตเท่าไหร่ครับ :'(

ผมยังคิดเลย ถ้าเป็นคนญี่ปุ่น ผมคงขอเป็นพนักงานร้านทั่วไป หรือขายอาหารหรือ ทำเกษตรก็พอครับ :D

รายได้มันพอที่จะตั้งตัวได้ ;)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 21, 2015, 18:14:16 โดย G...G »