เท่าที่ดูข้อมูล จากแหล่งอื่นมานะครับ (ต่อไปมีเด็ดกว่านี้ครับ เกี่ยวกับเรื่อง การขอใบอนุญาตขับขี่ และต่อใบอนุญาตขับขี่ อันนี้ขาโหดจริง
)
ผู้ที่จะซื้อรถยนต์อเนกประสงค์ รถตู้จะต้องมีที่จอดชัดเจน ประเดิมเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
1.มีฐานะทางการเงินที่มั่นคงและต้องมีความจำเป็นที่จะใช้รถยนต์เพื่อการส่วนตัว
2.ไม่มีประวัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับการนำรถยนต์ส่วนบุคคลไปใช้ทำการขนส่งเพื่อสินจ้าง
หรือให้บุคคลอื่นใช้รถคนของตนเองทำการกระทำความผิดดังกล่าวในระยะเวลาสามปีก่อนที่จะขอยื่นจดทะเบียน
3. มีสถานที่จอดรถของตัวเอง โดยมีพื้นที่ขนาดไม่น้อยกว่า 35 ตารางเมตร ต่อ 1 คัน และมีความเหมาะสมต่อการใช้เป็นที่จอดจริง
4. ได้รับความเห็นชอบให้จดทะเบียนเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล จากอธิบดี หรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย
กรมการขนส่ง บังคับใช้กับผู้ที่จะขอซื้อรถยนต์ประเภทรถยนต์ที่เกิน 7 ที่นั่ง แต่ไม่เกิน 12 ที่นั่ง หรือที่มีที่นั่งเกิน 12 ที่นั่ง ที่มีน้ำหนักเกิน 2,200 กก.
หรือรถบรรทุกที่มีน้ำหนักบรรทุกรวมเกิน 2,200 กก. ตามวงเล็บ 3 ในข้อ 4
ซึ่งจากข้อบังคับใหม่ล่าสุดดังกล่าว ทำให้รถยนต์ประเภทรถยนต์อเนกประสงค์ แบบ 7 ที่นั่งขนาดกลาง-ขนาดใหญ่หลายรุ่น
ตลอดรถยนต์ประเภทรถตู้ และรถกระบะบางรุ่น ต้องมีการขออนุมัติจากกรมการขนส่ง
ทั้งนี้ตามระเบียบข้อบังคับใหม่ล่าสุดนี้ ทางกรมการขนส่ง กำหนดให้ ผู้ที่จะขออนุญาตดังกล่าว ต้องมีการเตรียมหลักฐานดังต่อไปนี้ ได้แก่
1.หลักฐานแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาย้อนหลัง 2 ปี
2.หลักฐานฐานะทางการเงินที่มั่นคง เช่น บัญชีเงินฝากธนาคาร หรือ สถาบันการเงิน
3.หนังสือชี้แจงความจำเป็นในการขอใช้งาน
4.ภาพถ่ายตัวรถ พร้อมรายละเอียดทางเทคนิคเกี่ยวกับน้ำหนักและสัดส่วนตัวรถจากผู้ผลิต
5. หลักฐานแสดงที่จอดรถ ได้แก่ ภาพสถานที่จอดรถ และ ทางเข้า-ออก ที่จอดรถ อย่างละ 2 รูป ตลอดจนแผนผังการเข้า-ออก
และขนาดพื้นที่โดยละเอียด และท้ายสุดหลักฐานหรือการเป็นเจ้าของสถานที่ดังกล่าว
โดยตามกฎดังกล่าว หลักฐานทั้งหมดจะถูกตรวจสอบ โดยจะใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน
ในการตรวจสอบหลักฐานต่างๆ หากหลักฐานไม่ครบในระยะเวลาดังกล่าว จะถือว่าคำขอดังกล่าวตกไป
โดยหากคำขอไม่ผ่านการอนุมัติ จะมีหนังสือไม่รับจดทะเบียนส่งถึงผู้ยื่นขอตามสิทธิดังกล่าว แต่หากผ่านการอนุมัติ จะอนุญาตให้ดำเนินการต่อไป