ผู้เขียน หัวข้อ: 11ปีพอดี กับ BMW 645ci E63 รถผมก็ไม่ใช่ แต่ทำไมต้องมาซ่อมมันด้วยฟระ+_+  (อ่าน 47224 ครั้ง)

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อสามปีก่อน สมาชิก HLM คนหนึ่งส่ง message มาหาผม ผมจำชื่อไม่ได้จริง ว่าใคร หัวข้อคำถาม ประมาณว่า"ถามอะไรหน่อยครับ " แล้วในเนื้อหามีแค่ว่า "พี่ครับ รถ BMW E63 ใช้ดีไหมครับ "  แค่นั้น ผมเห็นข้อความนั้น ก็คิดในใจ นี่จะให้ผมตอบว่าดี ไม่ดี แค่นั้นใช่ไหม ?  แล้วเขาจะได้อะไร ? จะยังงัย ? ?????

ผมเลยตัดสินใจ ไม่ตอบ

เพราะคิดว่า ซักวันผมก็จะจับมันมารีวิวให้คุณ ๆ ได้พิจารณาเองกันดีกว่า ว่าดีหรือไม่ดี ผ่านเรื่องเล่าที่ผมจะเล่าให้ฟังในวันนี้

ตอนแรก กะว่า จะถ่ายรูปสวย ๆ หยิบกล้อง ตั้งขา พอออกไปเจอไอระอุความร้อนผ่านมา เอาเป็นว่า แค่ใช้กล้องมือถือ ถ่าย ๆ อัพขึ้น upic ให้มันจบ ๆ ไปจะดีกว่า เพราะงานถ่ายภาพรถสวย ๆ ไปหาดูจากที่อื่นเอาก็ได้ ดังนั้นเนี่ย ใครจะมาอ่านรีวิวนี้ ทำใจนะครับ เช่นเคยแบบที่ผมมักจะทำ คือ รูปน้อย สั้น ๆ เสปครถ อะไรต่าง ๆ ไปหาอ่านเอาแล้วกัน ขอเป็น user's voice แบบที่จะให้คุณได้รู้ในแบบทีไม่ค่อยมีใครจะบอกดีกว่า

พร้อมแล้วก็ เอาไปรูปนึงก่อน จะได้นึกออกว่ามันหน้าตายังงัย


jaesz

  • บุคคลทั่วไป
E63 นั้นเป็นรถที่มีพื้นฐานร่วม ๆ กับ E60 และ E65 คือ มันจะเอาชิ้นส่วนของ 5-series กับ 7-series มายำรวมๆกัน ตัดประตูออกสองบาน ภายในก็ใช้งานแบบ 5 แล้วก็จัด option แบบ ที่จะเหมาะกับ รถคูเป้ได้ ทำหน้าต่างไม่มีขอบประตู แต่ก็ไม่ได้ทิ้งความเรียบง่ายของ 5 แต่ประตูยาวกว่าไว้ก่อน ภายในก็เหมือน ๆ กับ E60 แบบที่มีความต่างในรายละเอียดนิดหน่อย  



ตัวรถนั้นเวลาขับดูถึงแม้จะเห็นใหญ่โตแต่พอเข้าไปนั่งในห้องโดยสารแล้วมันก็จะให้ความรูสึกคับแคบไม่สมกับภายนอก อาจจะเพราะการออกแบบที่มันเน้นให้เป็นคอกพิท กระชับ ในแบบที่บีเอ็มชอบนักหนัก รถยิ่งใหญ่ ยิ่งรู้สึกคับแคบ มองไปทางซ้ายที่ไรอึดอัดทุกที



รถคันนี้ ผมเองก็ไม่ค่อยได้ขับ เพราะมันไม่ใช่รถผม เคยขับใกล้ เพื่อตั้งค่าคลัทช์ให้กับระบบ SMG อยู่ไม่เกิน 100 กิโล จริง ๆ อย่าว่าแต่ผมไม่ได้ขับเลย รถอายุ 11 ปีแล้ว เลขไมล์เพิ่งจะพ้นสองหมื่นโลมานิดนึงแค่นั้นเอง เจ้าของก็ไม่ค่อยได้ขับ..

ครับ สองหมื่นกว่าโล เรียกว่า ช่วง 11 ปีไม่เคยเข้าศูนย์เลยจริง ๆ (เกรย์) เพราะถ่ายน้ำมันเครื่องสองปีครั้ง ไส้กรองอีกนิดหน่อย

ที่เจ้าของไม่ขับ ผมเองก็คิดว่า บ้านแกมีรถสามสิบกว่าคัน อาชีพก็ไม่ได้ต้องไปไหนแบบมีขับรถเอง เพราะจะออกจากบ้านที ก็มีบอดี้การ์ดขับตามรถตู้สีดำทุกที เลยกลายเป็นว่า รถคันนี้ เอาไว้ใช้เฉพาะกิจจริง ๆ ห้ามถามว่า กิจอะไร ใครเป็นเสี่ย ๆ คงรู้อยู่แล้ว


ผมได้เจอรถคันนี้ ก็วันแรกที่เฮียเจ้าของรถ ชวนไปรับรถ ปี 2004 ตอนนั้นเฮียยังไม่ได้เป็นคนที่ต้องมีบอดี้การ์ดไปไหนตลอด เป็นแค่ลูกผู้มีอำนาจในท้องถิ่นแห่งหนึ่งที่สนิทกัน รู้จักกันเพราะใช้รถยี่ห้อเดียวกัน นั่งคุยกันที่ศูนย์บริการย่านรามอินทรา ตอนนั่งเหล่PR ที่ศูนย์ คุยไปคุยมา เฮียก็เป็นเพื่อนของรุ่นพี่ที่รู้จักกันอีกคน เลยสนิทกันไป พอเฮียไปซื้อรถ ก็ขอให้ผมขับรถไปรับรถกลับบ้าน

วันแรกที่ออกจากศูนย์ รถขับไปบ้านเฮียได้ตลอดรอดฝั่ง250 km ผมว่านั่นคงเป็นระยะทางท่อนเดียวที่สตาร์ทครั้งเดียวไกลที่สุดที่รถคันนี้เคยทำก็ว่าได้ ตั้งแต่นั้นมา มันก็ถูกใช้แบบ เดือนละ สามสี่ครั้ง ครัั้งละ 5 -10 km มีจอดเปิดแอร์ทิ้งไว้วันละ 20-30 นาทีบ้างเวลาที่..... อะไรก็ตาม

ครั้งที่สองที่ผมเจอรถคันนี้ มันมากับรถFlat bed ที่slide on มันขึ้นมา เมื่ออายุรถราว ๆ 3 ปี กับอาการรถสตาร์ทไม่ติด สมัยนั้น ศูนย์ BMW คงเต็มไปด้วยช่างซื่อบื้อ เพราะอาการสตาร์ทไม่ติดอันนี้ มันมาจากระบบกุญแจ ที่ติดมากับรถ ซึ่งจริง ๆแล้ว เปิดคอม สั่งทำiso syn ใหม่ก็จบ  แต่อาจจะเพราะมันยังใหม่หรืออะไรก็ไม่ทราบ เลยทำไม่ได้กัน  เลขกิโลตอนนั้น 3000 โลเห็นจะได้

ครั้งที่สาม ปีเดียวกันนั้น ผมไปดูรถที่ศูนย์ BMW แห่งหนึ่ง  รถสตาร์ทติดดี แต่เกียร์เข้ากระตุก กระชาก ไม่ยอมเปลี่ยนเกียร์

ต้องเกริ่นกันนิดว่า เกียร์รถรุ่นนี้เป็น SMG ครับ มันจะเป็นเกียร์อัตโนมัติที่มีพื้นฐานเกียร์ธรรมดา แล้วเอาระบบไฮดรอลิกไฟฟ้าไปกดคลัทช์เปลี่ยนเกียร์ให้

ถ้าใครได้ใช้เกียร์รุ่นนี้ วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นคือ ใช้คอมจับดูสถานะของโซลินอยด์ก่อนว่าทำงานรึเปล่า ไม่ใช่จับเปลี่ยนอะไหล่ฝั่งไฮดรอลิกส์มันซะหมด เจ้าของหมดไป สองแสน รถยังวิ่งไม่ได้ เพราะสมัยนั้นคนที่ทำเกียร์ SMG มันยังคงมีน้อยไป

การทำ SMG clutch Learning นั้น สามารถทำผ่านโปรแกรมประจำศูนย์บริการได้ครับ แต่มันมีเงื่อนไขว่า คุณต้องเข้าใจทุกคำสั่งที่โปรแกรมบอกให้ทำ

ผมเข้าใจว่า คงมีการทำข้ามขั้นตอนบางอย่าง เลยทำให้การLearning Clutch ไม่สมบูรณ์ ผมเองตอนนั้น ไม่มีความรู้ด้านนั้นมาก เลยต้องให้พี่คนนึงที่รู้จักกัน มาช่วยทำ รถก็สามารถวิ่งไปได้ด้วยดี

ครั้งที่สี่ ปี 2009 ที่ผมเจอรถคันนี้ ในโรงแรมแห่งหนึ่งในกทม ในลานจอดรถ ด้วยอาการสตาร์ทไม่ติดอีกนั่นแหละ แต่ด้วยว่าสถานะการณ์ที่เฮียไม่สามารถเรียกคนอื่นได้เพราะ.... ผมเลยต้องไปดูให้  ครั้งนี้ ผมเอาคอมไปเสียบ เช็คระบบพื้นฐาน ปรกติดี แต่ติดที่ว่า กุญแจดอกที่ใช้นั้น มันเสื่อม ตัวกุญแจรุ่นนี้มันยังเป็นบิดสตาร์ทแบบ E46 E39 ใช้นั่นแหละครับ คือมันจะมีชิพตัวหนึ่ง ซึ่งเจ้าชิพตัวนี้ วันดีคืนดีมันก็ไม่อยากจะสร้างโค้ดใหม่ตามระบบความปลอดภัยที่ออกแบบไว้ ทำให้มันหลุดจากการเป็นกุญแจที่จะสตาร์ทได้  ต้องเปลี่ยนกุญแจ หรือชิพไปเลย อันนี้ ก็เลยเป็นเรื่องว่าผมต้องขับรถไปส่งเฮียเข้าบ้านเอากุญแจอีกดอกมา...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 31, 2015, 22:05:51 โดย Jae »

jaesz

  • บุคคลทั่วไป

ครั้งที่ห้าที่เจอรถคันนี้ ปี 2010  กล่องแอร์แบคเกิดอาการอยากกลับเยอรมันซะอย่างนั้น ไฟเตือนบนจอ idrive ตลอดเวลา สร้างความรำคาญให้กับเจ้าของรถมาก  เลยต้องเสียค่ากล่องไปแสนห้า .....

เปลี่ยนกล่องไปไม่ถึงสามเดือน กระบะVIGO เบรคแตก ชนเข้าด้านท้ายของรถ ปีนขึ้นท้ายไปถึงหลังคา รถ VIGO มีประกัน แต่รู้ไว้คร่าว ๆ ครับ กระจกบานละสองแสนห้า

หลังรถซ่อมเสร็จ อาการเกียร์ SMG กระตุกกลับมาอีก ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมได้ขับเจ้ารถคันนี้ไกล ๆ จาก... ไปกลับนครปฐม
โดยมีเฮียที่ตอนนี้มีบอดี้การ์ดมานั่งหลังรถด้วย คราวนี้ผมเข้าใจมันมากพอที่จะทำให้มันกลับไปนุ่มนวลได้

ไม่นานนักจากนั้น รถมีอาการ วิทยุติดรถ ติด ๆ ดับ ๆ ก็เดือดร้อนมาหาผมอีกนั่นแหละ ผมก็เลยต้องรื้อเอาแผงครอบยางอะไหล่ออก แผงข้างด้านซ้ายซุ้มล้อออก เพื่อเอากล่อง Amplifier อัจฉริยะออกมาดูว่าทำไมมันถึงตัดระบบไป

ง่าย ๆ เลยคือ ชุดทรานซิสเตอร์ที่ส่งกำลังให้กับพัดลมเล็ก ๆ สองตัว เกิดกลับเยอรมันตามกล่องแอร์แบคไปอีก  ผมหาไอซีเทียบก็หาไม่ได้ เลยคุยกับ เจ้าของรถ เจ้าของรถบอก เปลี่ยนเลย ก็จัดไป แปดหมื่นกว่า รออะไหล่สองเดือน

สองสามปีที่ผ่านมา ระบบตรวจแรงดันลมยางเริ่มส่อแวว คงจะเป็นผลมาจากการชนก็ได้ เพราะ เซนเซอร์ที่ล้อก็ปรกติดี มีแต่กล่องรับสัญญาณที่เริ่มอ่านค่าไม่ได้ ตรงนี้ เฮียไม่ซ่อม และดูเหมือนไม่สนใจรถคันนี้เท่าไหร่แล้ว

ออฟไลน์ gorilla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,460
เข้ามาฮาครับ  ;D

ฟังค่าซ่อมแล้วซีดเลยครับ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ครั้งล่าสุด ที่รถคันนี้มาจอดบ้านผม อาการแอร์แบคเริ่มส่อแววอีกครั้ง นี่ไม่ใช่ E63 คันแรกที่ผมเจออาการกล่องอยากกลับเยอรมัน และผมเชื่อว่าไม่ได้มีแค่สองคันนี้แน่ ๆ ที่จะมีอาการนี้


ถึงตรงนี้ ผมไม่รู้ว่าจะบอกน้องคนนั้นได้รึเปล่าว่ารถรุ่นนี้ดีไหม

ถ้าถามการขับขี่ แน่นอนว่า มัน0-100 6 วินาที ก็ดีมากมายแล้ว
การทรงตัวของรถที่หนัก1.6 ตัน ทำได้แบบที่คนนั่งไม่รู้สึกกระด้างด้วยที่ความเร็ว120-130 มันก็เรียกว่าดีแล้ว
หรือจะเป็นการเก็บเสียงของรถที่ไม่มีขอบประตูหน้าต่าง ก็เรียกว่า โคตรดีแล้ว


แต่ถ้าถามอะไหล่แพง ๆ จะเรียกว่าดีรึเปล่า ก็ต้องมองว่า รถที่ผลิดมาปีละสองหมื่นคันในโลกนี้มีกี่ยี่ห้อที่ราคาหลักล้านแล้วอะไหล่ถูก ?

คนซื้อรถราคาระดับนี้ เทคโนโลยีประมาณนี้เมื่อสิบปีก่อน คงไม่คิดว่ามันแพง เพราะจ่ายเงินแสนสองแสนสำหรับพวกเขามันไม่ได้สะกิดเม็ดเงินในครอบครองที่เขามีมากมายอะไรเลย

ยิ่งเจ้าของรถมีรถสามสิบกว่าคัน แต่ละคันก็อยู่ในระดับรถซูปทั้งนั้น แค่นี้ เล้กน้อยมาก

หากแต่คุณซักคนที่อ่านมาเจอ หรือไปเจอรถรุ่นนี้ในตลาดมือสอง อยากได้ไปครอบครอง อาจจะไม่ได้คิดแบบนี้



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 31, 2015, 22:19:20 โดย Jae »

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
น่าจะหมดแล้วกับเรื่องราวของรถคันนี้ครับ

อ่านมาจนจบ หลายคนคงคิดว่า ผมคงเป็นอู่ซ่อมรถ ได้โปรด อย่าเอารถมาให้ผมซ่อมเป็นอันขาด เพราะผมไม่ใช่ช่างซ่อมรถ ใครมีปัญหาอะไร ถามในเว็บนี้ มีคนช่วยตอบ หาอู่ให้ อีกเยอะ

คนที่เคยเห้นรถมาซ่อมที่บ้านผม บอกไว้เลยครับ คนรู้จักกันทั้งนั้น ถ้าไม่รู้จักกันจริง ๆ ไม่สนิทกันมาก ๆ ไม่ทำหรอกครับ ผมก็มีงานอื่นต้องทำ งานประจำผมมี

เจ้าของรถคันนี้เป็นพี่ที่เคารพ ทุกวันนี้ถึงเฮียจะไม่ค่อยสนใจรถ เพราะตำแหน่งหน้าที่มันทำให้เฮียไม่มีเวลามาสนใจเรื่องกระจุกกระจิก แต่เฮียก็ยังเป็นนักซื้อรถ มีรถอะไรใหม่สวยถูกใจ ต้องมีได้เห็นจอด คันนี้อีกไม่นานก็คงถูกขายเตนท์ไป เหมือนกับเมียของเฮียที่เปลี่ยนไปเวลาแก่ตัวแล้ว ฮาาา(ผมฮา แต่เมียเก่า ๆเฮียคงฮาไม่ออก)



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 31, 2015, 22:14:18 โดย Jae »

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
เคยมี E230 W210 ถูกกระบะชนท้ายรถไหลไปชนคันข้างหน้าต่อสภาพยุบหน้ายุบหลังหม้อน้ำแตกซ่อมรวมๆหมดไป6แสน หลังจากนั้นรถก็จุกจิกมาโดยตลอด เดี๋ยวโน่นพัง เดี๋ยวนี่พัง เซ็นเซอร์ก็โง่ไปตามๆ

สภาพ ไฟหน้าปัดขึ้นทุกปีมีกี่ดวงสลับกันขึ้นเป็นว่าเล่น เดี๋ยว ABS Airbag ไฟหน้า  ไฟสูง แอร์เดี๋ยวเย็นเดี๋ยวไม่เย็น จนสุดท้ายเกียร์ไม่เปลี่ยนจนสุดท้ายเต้นซ์มารับไป

แค่อยากจะแชร์ประสบการณ์เห็นว่าคล้ายๆกันคันนี้ อยากจะบอกว่าถ้ารถมันชนมาหนักโอกาสที่มันจะจุกจิกมันมีโอกาสสูงเลยครับ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาฮาครับ  ;D

ฟังค่าซ่อมแล้วซีดเลยครับ

อย่าเพิ่งซีดครับ เดี๋ยวพาไปเที่ยวให้หายซีด 555

ค่าซ่อมนี่ ผมเล่าให้ฟังเฉพาะที่ผ่านมาเจอผมเท่านั้นครับ ไอ้ที่ไปเข้าศูนย์แล้วทำ ๆ ไปโดยที่ไม่เจอผมยังมีอีกหลาย

เคยมี E230 W210 ถูกกระบะชนท้ายรถไหลไปชนคันข้างหน้าต่อสภาพยุบหน้ายุบหลังหม้อน้ำแตกซ่อมรวมๆหมดไป6แสน หลังจากนั้นรถก็จุกจิกมาโดยตลอด เดี๋ยวโน่นพัง เดี๋ยวนี่พัง เซ็นเซอร์ก็โง่ไปตามๆ

สภาพ ไฟหน้าปัดขึ้นทุกปีมีกี่ดวงสลับกันขึ้นเป็นว่าเล่น เดี๋ยว ABS Airbag ไฟหน้า  ไฟสูง แอร์เดี๋ยวเย็นเดี๋ยวไม่เย็น จนสุดท้ายเกียร์ไม่เปลี่ยนจนสุดท้ายเต้นซ์มารับไป

แค่อยากจะแชร์ประสบการณ์เห็นว่าคล้ายๆกันคันนี้ อยากจะบอกว่าถ้ารถมันชนมาหนักโอกาสที่มันจะจุกจิกมันมีโอกาสสูงเลยครับ

ผมก็ว่าจริงอยู่คับ เรืองรถเคยชนแล้วมีปัญหาเยอะ แต่อย่างที่เล่า มันมีปัญหาตั้งแต่ยังไม่โดนชนก็เยอะครับ กล่องแอร์แบคที่ติดกับรถตอนนี้มันกล่องที่สามแล้วครับ เพราะกล่องที่โดนตอนชนนั่นเปลี่ยนออกไปแล้ว

รถที่มีกล่องควบคุมอะไรเยอะ ๆ มันก็มักจะเสียเล็กเสียน้อยเยอะแยะครับ เป็นเรื่องธรรมดา W210 ที่บ้านผมก็มีรุ่นเดียวกันกับคุณเลยครับ จุกจิกอยู่ระดับนึงโดยที่ไม่เคยต้องเกิดอุบัติเหตุอะไร พอดีเห็นว่ามีคนทำรีวิวไว้แล้ว เลยไม่เอามาเขียนให้ฟัง ตั้ังแต่ไดชาร์จ ตัวคุมความเร็วblower MAF ท่อยางเล็ก ๆ แตกเสียหาย ปั๊มติ๊กเสีย ท่อน้ำมันแตก ฯลฯ ไม่ได้รวมพวกอะไหล่สิ้นเปลือง ยางแท่นเครื่อง ผ้าเบรค ก็หมดค่าซ่อมไปเกือบแสนอยู่ครับ

keanetona

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วเห็นใจจขกท.ครับ

สมัยผมขับ E28 มันก็นับญาติกับช่างเหมือนกัน แม้แต่ E39 ของพี่ชายก็นับญาติกับช่าง แต่น่าแปลกใจว่า E65 รุ่นประชุมเอเปค(คันนี้ซื้อรถที่ใช้ประชุมเอเปคมา) กลับใช้งานได้ตามปกติ แทบไม่เสียเลย

(และด้วยความจุกจิกดังกล่าว ผมจึงเตะโด่ง X1 ออกจากลิสท์รถที่ผมสนใจ)

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,810
รถไม่ได้ใช้จะเสียง่ายกว่ารถที่ใช้บ่อยๆด้วยซ้ำครับ ยิ่งรุ่นที่ระบบไฟฟ้าเยอะยิ่งเสียจุกขิกเลย
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
รถไม่ได้ใช้จะเสียง่ายกว่ารถที่ใช้บ่อยๆด้วยซ้ำครับ ยิ่งรุ่นที่ระบบไฟฟ้าเยอะยิ่งเสียจุกขิกเลย
อย่าตีกรอบว่ารถไม่ได้ใช้แล้วมันจะพังง่ายกว่าเลยครับ รถผมบางคันจอดไว้เป็นเดือน บางคันครึ่งปีไม่ได้ขับเลย แต่ดูแลรักษาตามปกติทุกคัน มีติดเครื่องอยู่ตลอด ประมานอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ครั้ง น้ำมัน ไฟ เป็นสิ่งสำคัญ เช็คให้ดีก่อนสตาททุกครั้ง ไม่เคยมีปัญหาเลย จะมีแบบจอดนานจริงๆจะถอดแบตเปิดฝากระโปรงกันหนูทำรัง เช็คของเหลวไม่ขาดไม่เกินก็หมดห่วง

ออฟไลน์ E.P.W

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 130
ขอบคุณ คุณJae ครับที่มาแบ่งปันประสบการณ์และข้อมูลดีๆซึ่งหาอ่านยากครับ

อ่านกระทู้ที่ทั้งคุณJae ตั้งและตอบมาหลายกระทู้ ชอบมุมมองแล้ววิธีการตอบมากๆครับตรงสั้นกระชับได้ใจความดีครับ

ถ้ามีเวลามารีวิวอีกเยอะๆนะครับ ;D

ออฟไลน์ jumpon77

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,372
    • อีเมล์
E63 เท่าทีอ่านรีวิวของพีJae ผมว่ามันก็จุกจิกมากนะครับผมว่าE60มันยังช่อมง่ายเยอะครับ
http://facebook.com/jumpon.hiranyanon
https://twitter.com/jumpon77     คุยได้นะครับ.
 Corolla Altis 1.8 E MT MY2008 Corolla Altis 1.6 J AT my2011 Isuzu D-MAX Spark my2003

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,661
ประสบการ์ณส่วนตัวคับ

บีเอ็มขับให้ตายยังไงมันก็ไม่พัง e39 5 คันเคยใช้มา e46 e60ใช้มา 2คัน จอดเมื่อไหร่ พังเมื่อนั้น ผมเอารถพวกนี้ลงใต้มาไม่เคยมีคันไหนให้ผมกินข้าวลิงเลย แต่พอกลับถึงบ้าน บทมันจะเสียก็เสียเอาดื้อๆ

แต่ให้ลงความเห็นผมว่า bmw ยุคก่อนปี 2000 จุกจิกกว่าพวกปีใหม่ๆคับ
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ประสบการ์ณส่วนตัวคับ

บีเอ็มขับให้ตายยังไงมันก็ไม่พัง e39 5 คันเคยใช้มา e46 e60ใช้มา 2คัน จอดเมื่อไหร่ พังเมื่อนั้น ผมเอารถพวกนี้ลงใต้มาไม่เคยมีคันไหนให้ผมกินข้าวลิงเลย แต่พอกลับถึงบ้าน บทมันจะเสียก็เสียเอาดื้อๆ

แต่ให้ลงความเห็นผมว่า bmw ยุคก่อนปี 2000 จุกจิกกว่าพวกปีใหม่ๆคับ
รถไม่ได้ใช้จะเสียง่ายกว่ารถที่ใช้บ่อยๆด้วยซ้ำครับ ยิ่งรุ่นที่ระบบไฟฟ้าเยอะยิ่งเสียจุกขิกเลย

ขอบคุณสำหรับความเห็นเรื่องรถไม่ได้ใช้

ผมมองแบบนี้ครับ รถสตาร์ทบ่อย ๆ วิ่งสั้น ๆ มันเสียเร็วกว่ารถวิ่งทางไกล คันไหนจอดสตาร์ทเฉย ๆ ไม่วิ่งก็เสียเร็วเช่นกัน มันเหมือนกับว่าออกแบบให้วิ่ง ถ้าอยู่นิ่ง ๆ พัง แล้วแต่ประสพการณ์ครับ

ผมมี New Beetle  2 คัน คันนึงผมใช้เอง วิ่งทางไกล จะสองแสนโล ติดแก๊สอีกต่างหาก ปัญหาก็มีแต่ช่วงล่างที่ต้องซ่อม นอกนั้นสบาย ๆแต่อีกคัน จอดสตาร์ท วิ่งในเมืองเลขไมล์ไม่ถึงเก้าหมื่น  ซ่อมเยอะมาก รถรุ่นเดียวกันปีเดียวกัน ต่างกันแค่วิธีการใช้แค่นั้นเอง

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
E63 เท่าทีอ่านรีวิวของพีJae ผมว่ามันก็จุกจิกมากนะครับผมว่าE60มันยังช่อมง่ายเยอะครับ

E60 ถ้าไม่นับเรื่องเครื่องกับเกียร์คนละตัวกัน ซ่อมง่ายกว่าE63 นิดเดียวครับ นอกนั้นถ้าเจออาการเดียวกัน ก็คงเหมือนกันเพราะมันแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง

ออฟไลน์ Mekkub

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 436
    • อีเมล์
ค่าซ่อมแบบนี้จากหลงรักไปซื้อมือสองมาขับจะกลายเป็นเกลี่ยดไปได้เลยนะครับเนี่ยฮ่าๆ ผมคนนึงที่ชอบรูปทรงรุ่นนี้มากแต่เห็นแบบนี้ถ้าจัดซีรีย์ห้าไปยังนอนหลับสบายไม่ต้องนอยด์ว่าจะเสียตรงไหน ไม่แปลกใจเลยครับว่าทำไมมือสองรุ่นนี้จากสิบกว่าล้านทำไมตกมาเหลือสองสามล้าน

ออฟไลน์ despinaauto lci

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 418
  • MONEY
รถไม่ได้ใช้จะเสียง่ายกว่ารถที่ใช้บ่อยๆด้วยซ้ำครับ ยิ่งรุ่นที่ระบบไฟฟ้าเยอะยิ่งเสียจุกขิกเลย
อย่าตีกรอบว่ารถไม่ได้ใช้แล้วมันจะพังง่ายกว่าเลยครับ รถผมบางคันจอดไว้เป็นเดือน บางคันครึ่งปีไม่ได้ขับเลย แต่ดูแลรักษาตามปกติทุกคัน มีติดเครื่องอยู่ตลอด ประมานอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ครั้ง น้ำมัน ไฟ เป็นสิ่งสำคัญ เช็คให้ดีก่อนสตาททุกครั้ง ไม่เคยมีปัญหาเลย จะมีแบบจอดนานจริงๆจะถอดแบตเปิดฝากระโปรงกันหนูทำรัง เช็คของเหลวไม่ขาดไม่เกินก็หมดห่วง

      เสียง่ายกว่าจริงๆครับ ขนาดมีช่างเบนซ์คอยดูแลให้ตลอด
Last id: despinaauto
2003-ACCORD 3.0 gen 7(2008 sold)
2006-CIVIC FD 1.8(2012 sold)
2008-ACCORD 2.4 gen 8(2013 sold)
2012-E250 CGI
2013-520i F10
2013-E200 coupe sport facelift
2014-528i F10 lci M Sport
2014-320d F30 upgrade m performance power

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
เจอราคากระจกเข้าไป...


ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
เรื่องค่าซ่อมนี่สะดุ้งโหยงเลยครับ  อะไหล่อย่าเรียกแพงเลยครับ  เรียกว่าโคตรแพงเลยดีกว่า  ยังกะซุปเปอร์คาร์ 
แต่ที่หนักใจสุดสุด ๆ  คือ  รถพวกนี้มันพร้อมจอดตายสตาร์ทไม่ติดได้ทุกเมื่อ  เพราะอาการเสื่อมของรถมาเร็วมาก    ยิ่งเป็นรถที่ไม่ใช้งานแต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไฟฟ้าเสื่อมตามกาลเวลาอย่างรวดเร็ว        คือถ้าให้ซื้อรถพวกนี้ไปขับกลัว ครับ      อายเวลาจอดแล้วสตาร์ทไม่ติดดับกลางทาง  กลางค่ำกลางคืนยังไม่อยากไปไหนด้วยรถคันนี้เลย  กลัวพาไปนอนโรงแรมแล้วกลับไม่ได้      ชาตินี้ขอให้ผมอย่าได้ซื้อรถ BMW  มาใช้เลยสาธุ  รวยแล้วขอขับรถญี่ปุ่นต่อไปดีกว่า

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
เรื่องค่าซ่อมนี่สะดุ้งโหยงเลยครับ  อะไหล่อย่าเรียกแพงเลยครับ  เรียกว่าโคตรแพงเลยดีกว่า  ยังกะซุปเปอร์คาร์ 
แต่ที่หนักใจสุดสุด ๆ  คือ  รถพวกนี้มันพร้อมจอดตายสตาร์ทไม่ติดได้ทุกเมื่อ  เพราะอาการเสื่อมของรถมาเร็วมาก    ยิ่งเป็นรถที่ไม่ใช้งานแต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไฟฟ้าเสื่อมตามกาลเวลาอย่างรวดเร็ว        คือถ้าให้ซื้อรถพวกนี้ไปขับกลัว ครับ      อายเวลาจอดแล้วสตาร์ทไม่ติดดับกลางทาง  กลางค่ำกลางคืนยังไม่อยากไปไหนด้วยรถคันนี้เลย  กลัวพาไปนอนโรงแรมแล้วกลับไม่ได้      ชาตินี้ขอให้ผมอย่าได้ซื้อรถ BMW  มาใช้เลยสาธุ  รวยแล้วขอขับรถญี่ปุ่นต่อไปดีกว่า
ถ้าซื้อมาใช้รุ่นล่างๆอย่างS3มันไม่ได้ค่าซ่อมแพงหรือจุกจิกมากเท่ารถสปอต ส่วนใหญ่ใช้จนbsiหมดก็ขายแลกกับสมรรถณะการขับขี่ที่ดีขึ้น ราคาก็ไม่ได้หนีD sedment มาก ลองสักครั้งแล้วจะติดใจ

ออฟไลน์ TaR

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 982
  • "เป้าหมาย..."
ขอบคุณพี่Jaeมากครับสำหรับรีวิวดีๆแบบนี้
เจอราคากระจกเข้าไปมีสตั้น5วิ 555
ผมนี่ได้แต่มองตาปริบๆ  :'(

ปล.ถ้าเทียบกับE60ฟีลลิ่งการขับขี่อะไรต่างๆ เป็นอย่างไรบ้างครับ
"ชีวิตคือการเดินทาง..."
.
.
.

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณพี่Jaeมากครับสำหรับรีวิวดีๆแบบนี้
เจอราคากระจกเข้าไปมีสตั้น5วิ 555
ผมนี่ได้แต่มองตาปริบๆ  :'(

ปล.ถ้าเทียบกับE60ฟีลลิ่งการขับขี่อะไรต่างๆ เป็นอย่างไรบ้างครับ

กระจกหลังราคาในPrice list $2xxx ถ้าศูนย์เอาเข้ามาขายก็ต้องบวกค่าส่ง กำไร ค่าจัดการต่าง ๆ ประมาณนี้ครับ แพงก็ไม่แปลกเพราะรถมันมีน้อยครับ

การขับขี่เทียบกับ E60 ต่างกันตรงที่มันกระด้างกว่าครับ ความแข็งของมัน เกือบจะเป็น M-Sport ของ E60 แต่ผมจำความรู้สึกของM-Sport ไม่ได้เป๊ะ ๆ เลยไม่แน่ใจว่ามันจะเหมือนกันเลยรึเปล่า รู้สึกคร่าว ๆแค่ว่านิ่มกว่า อาจจะผิดก็ได้

Handling ของมันก็คมกว่า E60 อาจจะเพราะโปรแกรมชุดพวงมาลัยมาให้หนักไว้ก่อน แต่ตัวรถเองเวลาสาดโค้งมันแน่นมากถ้ายางไม่ดีแรงสาดโค้งที่ลงหน้ายางง่ายกว่าE60 ครับ คนไม่เคยขับรถช่วงล่างแบบนี้ อาจจะแหกโค้งได้ง่าย ๆ ยิ่งพวกชอบแตะเบรกในโค้งนี่คงจะหนัก
ขอบคุณพี่Jaeมากครับสำหรับรีวิวดีๆแบบนี้
เจอราคากระจกเข้าไปมีสตั้น5วิ 555
ผมนี่ได้แต่มองตาปริบๆ  :'(

ปล.ถ้าเทียบกับE60ฟีลลิ่งการขับขี่อะไรต่างๆ เป็นอย่างไรบ้างครับ


ออฟไลน์ Monn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,806
ขอบคุณมากครับ

เห็นราคาซ่อมแล้ว บาย ดีกว่า เคยอยู่ใน ลิสอยากได้เลย รุ่นนี้ ราคาลงมาเยอะมาก นี่คือเหตุผลนี่เอง ขนาดใช้ S3 รอวันหมด BSI ยังหนาวๆ เลยครับ

แต่ handling ของ BM ใครได้สัมผัส คงยากที่จะกลับไป D-segment แบบผม วันที่สลับมาใช้ G8 ลองขับแบบที่ขับ F30 ผลคือ กลัวเลยครับ รถมันก็คือได้ระดับนึงของมันจริงๆ
S3 - F30
X1 - E84

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณมากครับ

เห็นราคาซ่อมแล้ว บาย ดีกว่า เคยอยู่ใน ลิสอยากได้เลย รุ่นนี้ ราคาลงมาเยอะมาก นี่คือเหตุผลนี่เอง ขนาดใช้ S3 รอวันหมด BSI ยังหนาวๆ เลยครับ

แต่ handling ของ BM ใครได้สัมผัส คงยากที่จะกลับไป D-segment แบบผม วันที่สลับมาใช้ G8 ลองขับแบบที่ขับ F30 ผลคือ กลัวเลยครับ รถมันก็คือได้ระดับนึงของมันจริงๆ

ใจรัก ก็อย่ากลัวครับ

ค่าซ่อมหนัก ๆ เพราะ รถเคยชน เบิกอะไหล่แท้ และเป็นรุ่นที่ มีน้อย กระจกบังลมหลัง จะมีกี่คันที่เคยเปลี่ยนกับ  6-series ผมถามศูนย์บอกเคยขายแค่บานเดียว ก็คันนี้ล่ะ

ออฟไลน์ pop

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 689
  • ชีวิตออกแบบได้
    • www.teemgroup.com
    • อีเมล์
ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์นะครับ คุณJae

ออฟไลน์ komazum

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 15
ผมใช้อยู่รุ่นนี้  ได้มาปีกว่าแล้วครับ  จากการประมูล  ขับดีมากครับ
เข้าโค้งก็ดีมากครับ  เปลี่ยนช่วงล่างใหม่หมด  เปลี่ยนยางใหม่
นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องจ่ายหนักๆครับ  แต่คันที่ผมได้มาไม่เคยชน
เพราะตอนถอดออกมาทำสีใหม่  จะเห็นทั้งหมดครับ  โครงสร้างอลูมิเนียม
ผสมคาร์บอนไฟเบอร์  มีเหล็กน้อยชิ้นครับ  อัตราการกินน้ำมันพอๆกับ 6 สูบญี่ปุ่นครับ
(ประเภทเท้าหนักพอๆ กันนะครับ  180-200)