เบนซ์เปิดตัวอี300ซาลูน-เอสคลาสใหม่
เมอร์เซเดสเบนซ์ เปิดตัว E 300 AVANTGARDE Saloon และ The new generation S-Class วันนี้
บริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดเกมรุกตลาดรถยนต์หรูเมืองไทย ที่ดุเดือดเหลือเกิน ด้วยการเปิดตัวรถหรูถึง 2 เซ็กเมนท์หลักคือ E 300 AVANTGARDE (W 212) และ the new generation S-Class (W 221)
เริ่มด้วย E 300 AVANTGARDE Saloon ซึ่งเป็น E-Class ประกอบในประเทศรุ่นแรกของปีด้วยเครื่องยนต์ขนาด V6 ปริมาตรกระบอกสูบ 2,996 ซีซี พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ให้แรงม้าสูงสุด 161 กิโลวัตต์ /219 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตรที่ 2,500 ? 5,000 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0 ? 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ 7.4 วินาที ให้ความเร็วสูงสุดที่ 247 กิโลเมตร/ชั่วโมง และด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.27 ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ E-Class เป็นยนตรกรรมหรูที่ลู่ลมมากที่สุด นอกจากนี้ E 300 AVANTGARDE ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยทางด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และสมรรถนะในการขับขี่ ด้วยสนนราคาที่ 4,999,000 บาท
E300 AVANTGARDE SaloonE300
ส่วน อีกหนึ่งยนตกรรมหรู ที่พร้อมอวดโฉมสู่ตลาดในเดือนมกราคมนี้ก็คือ The new generation S-Class สุดยอดแห่งยนตรกรรมระดับเอ็กคลูซีฟ ซึ่งทางบริษัทฯ จะได้นำเสนอพร้อมกันถึง 3 รุ่น ได้แก่ S 300 L, S 350 CDI BlueEFFICIENCY L และ S 500 L โดยยนตกรรมทั้งหมดนี้จะมาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งด้านความสะดวกสบายในการขับขี่ เทคโนโลยีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
The new generation S-Class มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่เพิ่มความโดดเด่นภูมิฐานและหรูหราด้วยไฟคู่หน้าแบบไบซีนอน และไฟท้ายที่เพิ่มมุมมองแบบสปอร์ตได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยเทคโนโลยี LED ที่ส่องสว่างไกล ให้รถที่ตามมาเห็นสัญญาไฟได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในยามค่ำคืน the new generation S-Class ยังประกอบไปด้วยนวัตกรรมอันล้ำสมัยเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร อันประกอบด้วย ATTENTION ASSIST ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Adaptive Highbeam Assist ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติช่วยเพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ยามค่ำคืน Night View Assist Plus ระบบช่วยการมองเห็นยามค่ำคืน
นอกจากนี้ the new generation S-Class ยังมีจอภาพแสดงผลแบบ SPLITVIEW ซึ่งสามารถแสดงภาพสองมุมมองภายใต้จอแสดงผลเดียว เป็นครั้งแรกของโลกยานยนต์ ในการนำเทคโนโลยีชั้นสูงนี้มาใช้ ซึ่งในขณะที่ผู้ขับขี่อ่านแผนที่จากระบบ NAVIGATION ผู้โดยสารด้านหน้าก็สามารถชมภาพยนตร์จากเครื่องเล่นดีวีดีได้ นับเป็นเทคโนโลยีที่หรูหราสมฐานะในระดับ S-Class อย่างแท้จริง the new generation S-Class สนนที่ราคา 7,799,000 บาท สำหรับ S 300 L, 7,999,000 บาท สำหรับ S 350 CDI BlueEFFICIENCY L และ 10,999,000 บาท สำหรับ S 500 L
ทั้ง E 300 AVANTGARDE และ the new generation S-Class เป็นรุ่นที่ประกอบในประเทศ โดยได้รับการรับรองมาตรฐานการประกอบระดับโลกจากบริษัทแม่ในประเทศเยอรมนี ด้วยรางวัล Mercedes-Benz Quality Award CKD ทั้งนี้บริษัทฯจะได้จัดงาน Showroom Launch สำหรับทั้ง 2 รุ่นพร้อมกันทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 22-23-24 มกราคม นี้ ที่โชว์รูม เมอร์เซเดสเบนซ์ทั่วประเทศวันนี้ โดยภายในงานจะมีกิจกรรมอื่นๆมากมาย ที่เตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์
นอกจากนี้ แนวโน้มรถยนต์รุ่นใหม่ๆของเมอร์เซเดส-เบนซ์จะเป็นยนตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ภายใต้แนวคิด ?BlueEFFICIENCY อีกด้วย