สวัสดีครับ เพื่อนๆชาว Headlightmag ทุกท่าน
วันนี้ว่างจากการทำงานอันแสนจะหนักหน่วง ชีวิตนายช่าง มันเหนื่อยซะเหลือเกิน ต้องคอยแก้ปัญหานู่นนี้มากมาย โอ้ว บ่นมากเกินไปแล้ว เริ่มเลยละกันนะครับ........
แหม่... อ่านชื่อกระทู้แล้วมันดูอนาจารไปหริือปล่าว มี20+ ซะด้วย แต่ปล่าวเลยครับ มันคือความจริงที่ผมเจอ สมัยผมยังเป็นวัยรุ่น ผมยอมรับเลยนะว่า ผมเองแอบมองรถรุ่นนี้มานานมาก เพราะเนื่องในสมัยนั้น (ประมาน 10กว่าปีที่แล้ว) ที่บ้านผมมีรถ BMW อยู่ 1 คัน เป็นรุ่น E30 318i นั่งตั้งแต่อยู่ประถม ยันจบมหาลัย ต้องยอมรับเลยว่ามันเ้ป็นรถที่ดูดีไม่เปลี่ยน ช่วงล่างดีมาก ไม่เคยงอแง อาจเป็นเพราะึุคุณพ่อผมชอบซ่อมรถ คอยดูแลมันตลอดก็เป็นได้ั ดังนั้นพ่อผมท่านจึงติดใจกับแบรนใบพัดฟ้าขาวมาตลอด ผมขอบอกไว้ก่อนเลยว่า นี่เป็นรีวิวที่ผมใช้เอง รถผมเอง ใช้มาตั้งแต่เรียนมหาลัยจนตอนนี้ทำงานแล้วครับ รีวิวนี้อาจเป็นข้อมูล ให้สำหรับคนที่อยากลองเล่นรถ BMW เก่าๆ หรืออยากเปลี่ยนจากรถญี่ปุ่นมาสู่รถยุโรป แต่ใจยังหวั่นๆกับราคาค่าซ่อมบำรุง ใจเย็นๆแล้วค่อยๆอ่านนะครับ รูปอาจเยอะไปซักหน่อยเนื่องจากผมเป็นคนชอบถ่ายรูปเอามากๆ พร้อมแล้วลุยเลยครับผม
จนมาถึงตอนที่ผมเข้ามหาวิทยาลัย พ่อผมก็ยกรถเก่าของท่านมาให้ใช้ไปก่อน มันเป็นรถที่คุณพ่อผมท่านใช้ออกต่างจังหวัด ขับเล่น ขับไปทำงาน นั่นคือรถคันแรกที่ผมขับ มันคือ Toyota AE92 เกียร์ธรรมดา ความประทับใจในรุ่นนี้มีเยอะมาก ทั้งประหยัด พร้อมไปทุกที่ ความร้อนไม่ต้องห่วง ดูแลมันดีๆมันก็พร้อมจะไปกับคุณทุกที แถมยังได้เพื่อน ได้รุ่นพี่ที่ดีมาเป็นของแถม จากอู่ที่สนิทกัน รถคันนี้ผมก็แต่งไปเยอะพอสมควร สไตล์ของผมไม่เน้นแรง ไม่เน้นเครื่อง เอาเครื่องเดิม แต่เก็บภายในกับภายนอกให้มันเป็นรุ่นที่มีขายเฉพาะในญี่ปุ่น (ถ้าผลตอบรับรีวิวนี้ดีจะทำรีวิวรถคันนี้ให้ทุกคนได้ดูครับ)
และอยู่มาวันนึงมันก็ถึงจุดอิ่มตัวที่จะขับเจ้า AE92 ต่อ จึงปรึกษากับคุณแม่และคุณพ่อเพื่อที่จะขยับรุ่นขึ้นไป เนื่องจากตอนนั้นยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ จึงไม่สามารถหาเงินมาใช้ได้อย่างเต็มตัว โดยที่พ่อเสนอว่าอยากให้เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายสำหรับเรื่องรถ ต่อไปทำงานหาเอง สุดท้ายไปจบกับเจ้านี่เข้า มันคือ BMW E36 325i ผมตั้งชื่อเจ้าคันนี้ว่า "อีขาว" (ตอนแรกก็เรียกน้องไวท์แหละครับ หลังๆมามันดูแปลกๆ เลยเรียกไทยๆเลยว่า อีขาวน่าจะง่ายกว่า)
ร่ายซะยาวเลย ยังไมไ่ด้รีวิวเลยซํกนิด ขอโทษที่นะครับ เริ่มเลยละกัน เจ้าคันนี้ มีชื่อรหัสว่า E36 เป็นรุ่นต่ิอจากรุ่นพี่อย่าง E30 โดยรถที่ผมใช้เป็นตัวรุ่นย่อยคือ 325i ผมไม่พูดถึงข้อมูลทางเทคนิคนะครับ ข้อมูลต่างๆน่าจะมีบอกอยู่แล้ว ส่วนเครื่องที่บรรจุในรถของผมนั้นก็คือ M50 B25 6สูบ ผูกกับเกียร์ออโตเมติก 5 สปีด ของ จัสโก ผมได้ทำการปรับแต่งเรื่องเครื่องมานิดหน่อย โดยจับเอาเครื่องเดิม M50 มาชนกับ Short box ของ M52 2800cc.
มันจะได้ฟิลลิ่งการขับที่มันส์กว่าเดิม ภายในห้องเครื่องก็ยังเดิมๆ มีเพิ่มเติมแึค่ค้ำโช๊ค M POWER และค้ำหม้อลมมาเท่านั้น
ส่วนเรื่องโช๊คก็จับเอาโช๊คของ KW ปรับหนืดและปรับสูง-ต่ำมาจับใส่ทั้งสี่ต้น และเสริมความมั่นคงด้วยหัวบอลเพื่อให้มันไม่ fix จนเกินไป หลายคนถามว่า ขับรถต่ำๆมันลำบากไหม ผมว่ามันก็ลำบากนะ แต่ผมชอบ มีรุ่นน้องผมขับ E36 เหมือนกัน ต่ำกว่าผมอีกเรียกได้ว่าลากดินเลยแหละครับ คำตอบมันก็ตอบเหมือนกับผม ว่าลำบาก แต่มันชอบบบบ พอจับใส่่ผลมันออกมาที่รถสวยมาก แต่ขับลำบากแบบสุดๆ เลยต้องจับมันขันเพิ่มความสูงอีกนิดหน่อย
ภายนอกก็ยังเก็บกับสภาพเดิมๆ M3 ทั้งคัน ยกเว้นกันชนหลัง เนื่องจากตอนนั้นจะซื้อมาใส่แต่ราคาค่าตัวมันแพงซะเ้หลือเกินเลยเบรคไว้ก่อน แต่เอาไปเอามา ท้ายเดิมๆมันก็สวยดีเหมือนกันนะครับ ส่วนตัวผมชอบรูปลักษณ์ของรุ่้นนี้อยู่แล้ว เหลี่ยมได้ใจ บันท้ายสวยๆ หน้าตาดุๆ คมๆ
(ถ้าเปรียบก็เหมือนสาวสวยที่อยู่ข้างๆกายผมนี่แหละ คิคิ) ดูยังไงก็ไม่เบื่อ สวย ลงตัว ผมว่ามันคือเอกลักษณ์ของรถรุ่นนี้ด้วยครับ
คราวนี้มาดูภายในกันบ้าง ภายในรถผมเป็นสีเบจ ตัดกับสีดำ อันนี้ผมก็หามาใส่เอง เพื่อที่จะเล่นสีทูโทนเหมือนรุ่นพี่อย่าง E39 ภายในสีทูวโทนมันสวยงามมากเกินกว่าจะบรรยายจริงๆ พอเอามาใส่ ตอนแรกๆก็ดูสวย พอนานๆไป ดูแลเรื่องสิ่งสกปรกยาก ต้องคอยเช็ดให้ดีั ไม่งั้นเป็นรอยเอาง่ายๆเลยแหละครับ ภายใน บุนุ่มทุกชิ้นที่บุได้ สัมพัสดีมาก ที่วางเเขนด้านข้างวางได้ดี ภายในผมก็ทำมานิดหน่อย โดยที่แผงข้าง เปลี่ยนเป็นตัวที่มีลำโพงฝังมาสองตัว แอร์ก็เป็นระบบดิจิตอล แบ่งซ้ายและขวา ข้อเสียของแอร์แบบนี้ที่ผมเจอคือ คนขับจะร้อนมาก เมื่อมีคนนั่งเต็มคัน เนื่องจาก แอร์ของคนขับมีเพียงแค่ฝั่งขวามาให้ ตรงกลางต้องแบ่งลมไปให้ข้างหลังได้ใช้ ส่วนคนข้างคนขับ แฟนผมบ่นตลอดว่าหนาวมาก เพราะเป่าสองอันเลย แล้วก็จะเห็นได้่ว่ารูปแบบการวางช่องแอร์แบบนี้มีแค่รุ่นเดียวใน E36 เท่านั้น สงสัยผู้ออกแบบคงจะเล็งเห็นแล้วแหละว่าัมันเป็นปัญหาจริงๆ
เรื่องความเร็วว่าเร็วไหม เร่งแซงเป็นยังไง เอาทีละข้อละกันนะครับ เท่าที่ผมทดลองมา V-max สูงสุดที่ทำได้ 260+-นิดหน่อย กับรถที่ีทำมาผมรับได้นะครับ 0-100 km/hr. ใช่ระบบจับเวลาของกล่องจับ ได้ระยะเวลา 7.8 วิ ผมไม่ทราบว่ามันเพี้ยนหรือไม่อย่างไร ช่วงล่างผมทำใหม่หมดเลยได้เท่านี้ แต่บอกตรงๆเลยว่า "อันตรายมากๆครับ" เกิดมีอะไรผิดพลาดมามันไม่คุ้มเลยที่จะทำความเร็วขนาดนั้น ที่ผมทดลอง อยู่ในช่วงที่เพิ่งทำเครื่องมาใหม่ๆ บวกกับตอนนั้นวัยรุ่น อยากแรง อยากลอง อัตราเร่ง ถ้าโหมด Sport มันไปได้ไวแบบสุดๆ แล้วมันก็ไปพร้อมกับน้ำมันในถังด้วยครับ แต่จะให้ปรู๊ด ปร๊าดเหมือนรถใหม่ๆ ในโหมด ธรรมดา มันอาจยาก เพราะเนื่องจาก E36 เกียร์มันเรียกได้ว่า "โง่" เลยทีเดียว อยากเร็วต้องไปหาโหมด Sport ตลอด โดยที่ปุ่มเปลี่ยนโหมดต่างๆ อยู่ด้านข้างขวา ของคันเกียร์ และอีกอย่างของตัว 325i ที่แถมมาคือ ระบบ OBC มันคือกล่องที่เอาไว้บอกค่าต่างๆของรถ ตัวอย่างเช่น ค่ากระแสไฟที่เหลืออยู่ในแบตเตอร์รี่ ความร้อนภายนอกรถ ความเร็วจริงที่วิ่งอยู่ในขณะนั้น ระยะทางที่วิ่งได้จากน้ำมันที่เหลือ ตัวจับเวลา 0-100 km/hr. เป็นต้น
เอาเท่านี้ก่อนนะครับพอดีมีงานด่วนเข้ามา เดี๋ยวมีเวลาจะมารีวิวเพิ่มเติมอีกนะครับผม ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านรีวิวรถเก่าๆนะครับ ที่ผมเลือกมันเพราะผมถูกชะตากับมันเท่านั้น อย่างอื่นก็ไม่ค่อยได้ดูอะไรซํกเท่าไหร่ เลือกรถมันก็เหมือนเลือกคนรักแหละครับ ถ้าเลือกรถที่สวย ดูแลเค้าหน่อย เค้าก็จะอยู่กับเราไปนานๆ เหมือนผู้หญิง เลือกเค้าแล้วเราก็ต้องดูแลเค้าให้ดีใช่ไหมละครับ
ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งครับ
"ช่างวิน"