ทีแรก ว่าจะเป็น Review แรก แต่ ทำช้าไป งั้นขอเป็น Review ที่สองละกันครับ
.... กับ Mazda2 Skyactiv 1.3G ......
ขอเกรินก่อนละกันครับว่า ทำไม ถึง เลือก 1.3G แทนที่จะเลือก 1.5D .....
รถคันนี้ ถูกเลือกมา เพราะต้องการใช้ในเมืองเป็นหลัก ขับง่าย เลี้ยวคล่อง ราคาไม่แพง
ประหยัดน้ำมัน Option ครบ (แบบที่พอใจ) และไม่ต้องการความแรงแบบพุ่งกระฉูด
ของเครื่องดีเซลมากนั้น (แค่นี้เหลือๆครับ)
ราคาที่ห่างกันเกือบ 1.3แสนบาท กับส่วนต่างที่คุณได้คือเครื่องดีเซล และดิสเบรคหลัง เท่านั้น ...
ผมบอกเลย ไม่จำเป็นอะ ....
หลังจากที่ได้ลองขับ บอกเลย ดีเซล แรงมากครับ เรียกได้ว่า มันล้น สำหรับผม แต่ 1.3 เบนซิน
มันพอดี และ มันแรงได้ ผมว่า ตาม 1.5เบนซินยี่ห้ออื่นได้ สบายๆ ....
ในReview ที่บอกอัตราเร่งเป็นตัวเลขมา ผมไม่รู้นะครับ ว่ามันอืดหรือเปล่า แต่ผมลองเหยียบ
โดยการกด มิดโดยกดคันเร่งให้ลงคลิ๊กล็อคของคันเร่ง(คนเคยเหยียบจะรู้ครับ เวลากดคันเร่งสุด
มันจะมีล๊อคของมันลงไปอีกชั้น) และกดเปิด โหมด Sport ผมว่า มันพอแล้วล่ะ ....
โหมด Sport บอกเลย มันไม่ได้ทำให้รถแรงขึ้นครับ แต่มันลากเกียร์ สูงกว่าเดิม .....
ถ้าคุณเปิดโหมดนี้ ขับปรกติ มันไม่ต่างจากไม่เปิดครับ ..... แต่ถ้าเปิดแล้ว เรากดคันเร่งหนักกว่าเดิม
นั่นล่ะครับ มันถึงจะทำงาน โดยเปลี่ยนเกียร์ช้าลง และสามารถลากรอบได้สุงถึง ขีดเแดง กันเลยทีเดียว
ในบท ความนี้ ผมขอ Review Option ของภายใน และตัววิทยุ เท่านั้นนะครับ
ส่วนองค์ประกอบเรื่องเวลาและอัตราสิ้นเปลือง รอคุณ JIMMY ละกันนะ
มาดูภายในกันก่อน .... สิ่งแรกที่ผมถูกใจ และถูกใจมากๆก็คือ เบาะหนัง และวัสดุหุ้มต่างๆ
แทบจะเป็นหนังทั้งหมดครับ ไม่ว่า แผงคอนโซล แผงประตู เบาะ พวงมาลัย หรือแม้แต่ คอนโซลเกียร์
ซึ่ง รถยนต์ราคา 665,000 บาท ผมว่า มันเยี่ยมมากครับ .... และขอบอก หนัง ก็คือหนังจริงๆนะ
ไม่ใช่พลาสติกทำลายเย็บ แบบ 2 ยี่ห้อเจ้าตลาดนะครับ ....
จุดที่ถูกใจ อีกอย่าง คือ ระบบความปลอดภัยที่มีมาให้ครบครับ
และหน้าปัท ที่ดูสวยงาม วัดรอบวงใหญ่ และตัวเลขความเร็วแบบ ดิจิตอล และหน้าจอ Active driving display
ที่ หลายคนอาจบอกว่า มันเกะกะ ลูกตา ... และที่สำคัญ มันหุบไม่ได้ แต่ ดับไม่ให้ตัวเลขโชว์ได้ .....
แต่ถ้าเราปรับ เบาะให้สูงขึ้น มันก็จะเกะกะ สายตาน้อยลง ช่วยได้เยอะครับ สำหรับคนที่คิดว่า มันบังกระจก ...
และก็ ผมเติมน้ำมัน E20 ไป เต็มถังใช้เงินไป 500 บาท (เซลเติมให้แล้วเกือบครึ่งถังตอนออกรถ)
โชว์ตัวเลขที่ 595 กม ไม่รู้วิ่งจริงถึงป่าว
มาถึงรายการ วิทยุ หรือหน้าจอ 7 นิ้ว นี้กันบ้าง สรุปการใช้งานคร่าวๆคือ มันทัชสกรีน แต่ ถ้ารถวิ่ง มันทัชสกรีนไม่ได้ ....
การตอบสนองของหน้าจอ บอกเลย สัมผัสแม่นและแสดงผลเร็วกว่าหน้าจอของ CiTy และ Jazz มากมาย และ มันสัมผัสได้
เหมือนคุณจิ้มหน้าจอโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเลยทีเดียวล่ะ ...
หน้าจอสามารถแสดงผล และ ความคุมรถทั้งคันได้ เช่น ..........
แสดงชื่อเพลง และอัลบั้ม เพลงเป็นภาษาไทย
GPS ที่แสดงทิศทางที่รถหันหัวไป แถมแสดงพิกัด และความสูงจากระดับน้ำทะเลได้ ... แต่ถ้าเราต้องการระบบนำทางเพิ่ม
ก็เพียงแค่ ซื้อ Software เพิ่มในราคา 12,000 บาท ซึ่งจะมาในรูปแบบ SD Card และ มันไม่ผูกมัดกับตัวรถ
คือ ถ้าซื้อมาแล้ว เบื่อ ก็เอาการ์ด ตัวนี้ขายต่อ ไปเสียบคันอื่นได้เช่นกัน ...
การเซ็ทติ้ง ต่างๆของตัวรถ โดยรวมสามารถตั้งได้ทั้งคัน กระทั้ง การล๊อคประตู ไปถึงถึงไฟส่องสว่าง ...และ
เอ็งมี WIFI มาทำไม ........ ผมได้ทดลองต่อ Wifi กับที่บ้าน คือ ต่อได้ครับ .... แต่ ต่อแล้ว ไงอะ
มันไม่มี app หรือ โปรแกรมอะไรที่ใช้งานร่วมกับ Wifi เลย .....
แต่ สิ่งนึงที่ผมชอบอีกอย่างสำหรับคนขี้ลืม
มันสามารถตั้งเตือนการเข้าเช็คระยะ และสลับยาง ได้ โดยตัวเลขกิโล จะนับถอยหลัง
และจะเตือนเมื่อถึงระยะเปลี่ยนถ่าย ... เฮ่ย นี่มัน I-drive นิ .......
สุดท้าย นี่คือหน้าจอแสดงผลการขับขี่ในแต่ละวันว่า วันนี้ เราหยุดรถไปกี่นาที และ I-stop ทำงานกี่นาที
ซึ่งผมว่า ถ้าเราขับเข้าเมือง รถติดๆ ทำให้เรารู้ได้ว่า รถได้จอดติด รวมทั้งสิ้นแล้วกี่นาที
(จะได้เอาไปแก้ตัวคุณแม่บ้านได้ว่า ที่กลับดึกน่ะ รถมันติดจริงจริ๊งงงงง ไม่ได้แวะไหนเลยยย) ...
สุดท้าย .... ถามว่าอืดไหม ..... ผมบอกว่าไม่ ... จากคนที่ ขับ BT50Pro ทุกวัน และ M3 2.0 ปี 2010 อยู่ ...
และ ผมว่า มันแรงกว่า เครื่อง 1.5 ใน Mazda 2 ตัวเก่า ซะด้วยซ้ำ .... เกียร์ 6 Speed บอกเลย เปลี่ยนเกียร์นี่
อย่างกับ CVT อาจไม่ราบเรียบเท่า แต่พูดเลย คุณหาความรู้สึกนี้ไม่ได้ จาก Vios ก็แล้วกัน ....
ช่วงล่าง ผมว่าตึงตังน้อยลงกว่าตัวเก่ามาก รู้สึกว่ามันนุ่ม และแน่นกว่าเดิม ...
ถามว่ากว้างไหม ถ้าเทียบกับ CITY มัน สั้นกว่าครับ ถ้าคุณนั่งที่เบาะหลัง แต่ถ้าคุณนั่งที่ตำแหน่งคนขับ ผมว่า มันพอๆกัน
ถามว่าชอบไหม บอกเลย ชอบมากกกกก ผมมันสาวก Mazda ครับ หลายคนบอก เซ็นเซอร์ถอย ก็ไม่มี
กล้องมองหลังก็ไม่มี คู่แข่งเค้ามีให้ ... ก็ใช่ครับ แต่ ที่ว่ามา 2 อย่างนี้ เซลก็แถมให้ทั้งกล้อง ทั้งเซ็นเซอร์
(นอกนั้นซื้อใส่เองหมดครับ 5555) ทำให้ Option ตอนนี้ ครบ ชนิดที่ว่า ไม่รู้จะเอาอะไรไปใส่้ให้มันแล้ว
....และก็ เครื่องเสียง ผมว่าเสียงดีที่สุด ในรถ B-segment เลยก็ว่าได้ครับมันใส ก้อง กังวาน ดีมากๆเลย
(ผมกล้าท้าพิสูจน์นะไม่เชื่อรอ Review คุณJIMMY ดู)
สุดท้าย จริงๆแล้วลูกเล่นเจ้าคันนี้ ยังมีอีกมากมายครับ เช่น คำสั่งเสียง การรับสายโทรศัพท์ที่ถ้าเราเซฟรูป
ของสายปลายทางไว้ มันจะโชว์รูปขึ้นมา และ มันรองรับการเมมชื่อ ภาษาไทยในโทรศัพท์ ทั้ง Iphone และ Android ครับ
และก็ ผมเลือก 4 ประตู เพราะมัน ใส่ของได้กว้างกว่า และ ผมว่า มันนุ่มกว่า 5 ประตูครับ .....
ป.ล.รูปเบลอๆ หน่อยนะครับ เพราะ ถ่ายในที่แสงน้อย ด้วยกล้อง EP-L6 แต่ใช้เลน 17mm เจอแสงน้อยเข้าไป
บวกกับคนถ่ายมือไม่นิ่ง เลยเป็นดั่งในรูปครับ ...