ผู้เขียน หัวข้อ: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ  (อ่าน 10008 ครั้ง)

ออฟไลน์ cherubian

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 143
มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 01:51:22 »
หวัดดีครับพี่ๆ บอร์ดเงียบๆ นะมาคุยกันดีกว่า
ในบอร์ดนี้ ก็คงชอบขับรถกันอยู่แล้วล่ะ

ผมอยากรู้ว่าเวลามุดๆ กันนี่มันต้องระดับไหนถึงจะเรียกว่าไม่อันตรายสำหรับแต่ละคน
แรกๆ ที่ขับ ช่วงเห้าๆ (ผมยังละอ่อนนา) นี่ใจร้อนมาก แต่ตอนนี้รู้สึกว่าใจเย็นลง แต่กลับมุดยิ่งกว่าเดิม แบบช่องพอดีคัน แล้วผมไปอ่ะ
ตอนก่อนขับรถก็ตั้งสตินะว่าจะขับแบบปลอดภัย แต่พออยู่บนถนน มองการจราจรปราดๆ แล้วเท้ามันไปเลย ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับรถมั้ย (เมื่อก่อนขับ Fiesta 1.5 ตอนนี้ Focus 2.0)

แล้วพอจอดรถมันก็มานั่งคิดว่า มันอันตรายนะ เสียวจัง คราวหลังจะไม่ไปอีกแล้ว แต่พอรถลงถนนก็แบบเดิม

เรื่องมุดๆ ที่รู้สีกว่ามันพอดี คือไม่อันตรายเกินไป แล้วประทับใจที่สุด คือเส้น สุพรรณ ฟอร์จูเนอร์ (เขาขับอันตรายมาก วิ่งเร็วไหล่ทาง แซงตรงช่วงที่เว้นไว้กลับรถ) มุดๆ กันมา แล้วเจอโค้ง เขาเบรกกลางโค้งเลยครับเหมือนจะแหก ผมเลยหักออกซ้าย และเพราะติดรถหน้าเลยหักออกขวาแซงเขาขึ้นไป

พี่ๆ มีประสบการณ์อย่างไรกันบ้างครับกับการขับรถมุดๆ หรือแต่ช่วงละวัยที่ผ่านมา

ผมเป็นคนแบบที่ว่าถ้ารถโล่งมากๆ ไม่ต้องยุ่งกะใคร ผมจะขับ 120 ของผมไปได้ แต่ไม่ชอบเลยที่ซ้ายก็รถ ขวาก็รถ หน้า-หลังก็รถ เลยต้องมุดหนีทุกที มีใครเป็นบ้างมั้ยครับ

แล้วเวลาที่หงุดหงิดมากๆ แต่ละช่วงวัยที่ผ่านมา จัดการอารมณ์กันอย่างไรครับ บุคลิกต่างกันไหมเมื่อขับรถคนละคัน

ปล. ขอให้กระทู้นี้มีไว้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับความคิดเห็นกันนะ ไม่อยากเสพดราม่าเลย

ออฟไลน์ ferero000

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 202
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 02:01:47 »
ถ้ารถเยอะผมไม่เคยคิดทำเลยครับ หลักๆเลยคือกลัวเกิดอุบัติเหตุ ละผมก็คิดอีกว่า พอทำไปแล้วมันไม่เห็นสนุกตรงไหนเลย ก็แค่แซงรถที่ขับช้ากว่า  ทุกวันนี้ถ้ามีถนนโล่งๆก็กด 160-180 เป็นช่วงสั้นๆให้หายเสี้ยน แล้วไปขับคารทจับเวลากับชาวบ้านไม่ก็ลงสนามสนุกกว่าเยอะครับ ได้วัดฝีมือตัวเองด้วย
edit แต่ผมจะหงุดหงิดเลย พาเจอพวกแช่ช้าขวา แล้วจะยิ่งอยากปาดหน้ามันเลย ถ้าเวลาติ้บไฟแล้วไม่หลบ บีบแตรแล้วก็ไม่จบ พอจะแซงเห็นแชทไลน์นี่อารมมันขึ้นยิ่งกว่าเมียมีชู้อีก(อันนี้หลอกนะครับ55)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 11, 2015, 02:04:59 โดย ferero000 »

ออฟไลน์ ktonja

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 321
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 02:37:14 »
เลิกมุดแล้ว...ไม่มีปัญญารับผิดชอบชีวิตใครๆ

เกิดมุด แล้วไป
...ชนคันอื่น
...ไปเกี่ยวมอเตอร์ไซด์
...ไปเกี่ยวจักรยาน
...ไปชนคนเสียชีวิตหรือทำให้คนพิการ

อุบัติเหตุมันเกินขึ้นได้แค่เพียงเสี้ยววินาที ผมไม่มีปัญญาไปชดใช้เค้า

ปล.ขอโทษทีไม่ได้ดราม่านะคิดอย่างงี้จริงๆ


ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,633
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 02:45:18 »
ไม่ค่อยชอบขับตามรถเฉื่อยๆ ก็แซงบ้างมุดบ้างครับแล้วแต่สถานการณ์ แต่ไม่ได้ขนาดต้องมุดตลอด แต่ทำบ้างเวลามาเร็วแล้วเจอช่องที่มันได้พอดี
อยากแซงให้โล่งๆไป ส่วนตัวไม่ชอบเลยการจราจรที่เจอรถอยู่ข้างหน้าไม่ไกล แล้วขับเบรคๆ ต้องแซงให้พ้นๆ ส่วนตัวแค่นี้ครับ ไม่ได้ห้าวอะไร

จริงๆมันก็หลายแบบหลายเรื่องต่างกัน ทั้งโมโหที่โดนเลยมุดตามไปด่า หรือบางทีมุดเพราะรีบร้อน ก็มี ไม่อยากเล่า ;D ;D
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ vantipz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 467
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 04:17:33 »
สมัย 20 ต้นๆ นี่ทั้งปาดทั้งมุด เคยมุดผ่านรถพ่วง2คันที่กำลังแซงกัน ตอนนั้นระยะห่างหน้ารถกับหลังรถไม่เกิน 1 คืบแน่ๆ กับความเร็ว 140+ ตั้งแต่นั้นมาไม่กล้ามุดอีกเลย

ปัจจุบันขับต่างจังหวัด 140-160 ตลอด แต่เอาตอนถนนโล่งๆเท่านั้น มีออกซ้ายแซงรถวิ่งช้าแช่ขวาบ้างแต่ไม่ได้มุด ถ้ามีรถขวางก็ผ่อน

เวลาขับรถผมมักจะคาดการณ์ต่างๆไว้ล่วงหน้าเสมอ  ยิ่งขับเร็วยิ่งต้องมีสมาธิมากๆ ต้องคอยดูสองข้างทางตลอดว่ามีอะไรเคลื่อนไหว หรือน่าจะขยับหรือเปล่า
อย่างถ้ามีรถมอเตอร์ไซต์ขับใกล้ๆทางกลับรถผมจะบีบแตรก่อนเลย ไม่สนว่าจะข้ามมารึเปล่า ถ้ามีหมาก็ผ่อนคันเร่งพอพ้นค่อยไปต่อ

สำหรับท่านที่ชอบมุด ผมมีทฤษฎีอยู่อย่างนึง คือ ปกติเวลาคนขับรถทุกๆ 10-20 วิ จะต้องมองกระจกมองหลังครั้งนึง ยิ่งถ้าคนขับรถมานานจะรับรู้ได้เลยว่ามีอะไรแปลกๆวิ่งตามมาโดยที่แค่เหลือบตามองนิดหน่อย
พอรู้ว่ามีรถแปลกปลอมที่ขับเร็วตามมา ส่วนใหญ่มักจะขับอยู่นิ่งๆไม่เปลี่ยนเลน จนกว่าคันนั้นจะแซงผ่านไป ยิ่งเห็นคันหลังทั้งเร็วทั้งมุดไปมา ยิ่งจะบอกว่าแกรีบแซงไปเลยไป อาจจะมีบ้างที่เปลี่ยนเลนโดยไม่มีเหตุผล อันนี้ต้องระวัง




ออฟไลน์ rutxthe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 151
  • 1992 MX-5
    • อีเมล์
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 07:30:23 »
มีรถ 3 คัน ตอนขับอัลเมร่าผมจะเจียมตัวมาก ขับไปเรื่อย ๆ  แต่ไม่เฉื่อยให้คันหลังรำคาน เจอพวกคันหน้าเบรคแบบไร้เหตุผลก็รีบ ๆ แซงไป
ขับปาเจโร่ V6 เวลาตามคันหน้าที่หน้าเค้าโล่ง ๆ ผมจะอยากแซงตลอดไม่รู้เป็นไร ยิ่งพวกแช่ขวานี่ผมหาช่องจะแซงไปให้ได้ แต่ไม่เคยแซงเลนซ้ายสุด
ขับ mx-5 เวลาอยู่หลังพวกมาลัยคันนี้ไม่รู้เป็นไร คือเห็นคันหน้า หลัง ซ้าย ขวา มันเกะกะไปหมด สรุปคือมุดแซงทุกคันที่อยู่ข้างหน้า แต่ส่วนใหญ่คันนี้ผมขับกลางคืนรถไม่ค่อยมี
Nissan Almera 2013
Mitsubishi Pajero Sport V6 2014
Mazda MX-5 NA 1992
Mercedes Benz Cla250 2016
Volvo Xc40 Recharge T5 Inscription 2021
Porsche Cayenne Coupe E Hybrid 2021
KIA Carnival 2023


ยังอยู่ครบทุกคัน :)

ออฟไลน์ earrt

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 740
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 07:42:58 »
ผมมุดตั้งแต่อายุ 14-30ปลายๆ

เกิดอุบัติเหตุหลายครั้งมากครับ

จนย้อนนึกไปว่า ไม่คุ้มเลย รถทุกคันที่ชนผมรักทั้งนั้น

ถ้ากลับไปเวลานั้นได้ ผมจะรูที่ปลอดภัยกับเพื่อนร่วมถนน

ไม่เลือกรูที่ถ้ารอดไปได้ ผมจะชนะ

นี่ไม่ดราม่านะ อันนี้เข้าใจจริงๆ แค่แชร์ให้อ่านครับ

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,886
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 07:48:41 »
โรคเดียวกับผมเลยครับ...!!!
...เวลารถเยอะๆ เกาะกลุ่มกันมากๆ แล้วมุด เวลาโล่งๆ ก็ขับแค่ 120...
แต่นโยบายส่วนตัวของผมคือ ไม่มุดเข้าซ้ายครับ(มันอันตรายเกิน) แต่ปัจจุบันมีแอบมุดเข้าซ้ายบ้าง เพราะไม่ได้ขับรถเตี้ยๆแล้ว

และหลักๆที่ทำให้ผมมุดเลยคือ "รำคาญ" ครับ
-พวกขับไม่มีมารยาท มันมีมาตั้งแต่ตอนผม 15 แล้ว ช้าแช่ขวางี้ หรือชอบขับเสมอคันซ้ายงี้
-สิ่งที่สมัยก่อนไม่มี ก็พวกคุยมือถือ(แต่ก็มีในรูปแบบต่างๆกันไป คคือคุยกับคนข้างๆ) ทุกวันนี้ยิ่งหนัก แท็ปเล็ตกันางถนนหลวง
-พวกเปลี่ยนเลนแบบไม่ดูชาวบ้าน
...ถ้าเป็นคนใจร้อน เจอแบบนี้บ่อยๆ สติแตกตายเลย ผมเลยมุดๆไป ตัดรำคาญ

แต่ต่างกันตรงที่ ผม 40 แล้ว
ผมมุดมาตั้งแต่ 15 ปี ก็ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุอะไรนะครับ
ผมยิ่งมั่นใจว่าสิ่งที่ผม และอีกหลายๆคนทำ มันถูกต้อง เมื่อ ผมได้ดูทฤษฎีเกี่ยวกับ ระดับความสามารถของมนุษย์

@เลนในตาของคน ก็กว้างไม่เท่ากัน บางคนแค่ มองตรงๆ ก็ไม่เห็นกระจกมองข้างที่หางตาแล้ว แต่บางคนเห็นแบบเหลือบๆ
    จึงไม่ต้องละดวงตาบ่อยๆ เวลาขับรถ
@การมองภาพ 3 มิติ ของคนเราก็ไม่เท่ากัน บางคนเห็นลึกแล้วคำนวนได้ บางคนเห็นตื้นก็คำนวนความเร็วชาวบ้านไม่ได้
@การสัมผัสถึงแรงจี ของคนเราก็ไม่เท่ากัน บางคน ขับ แค่ 40 ก็รู้สึกว่าตัวเองขับเร็วมากๆแล้ว
@ไหนจะเรื่องน้ำในหูอีก
@@@และสุดท้ายก็คือการสั่งการของสมอง ที่เป็นระบบการประมวลผลหลักทั้งหมด
จากเรื่องคุณภาพของร่างกาย มันก็ทำให้ความสามารถของคนต่างกันได้แล้ว

คนที่บอกว่าการมุดอันตราย ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา ผมก็บอกได้ว่า คนขับช้า คนขับเรื่อยเปื่อย ก็อันตรายเช่นกันครับ

ยังมีเทคนิคการมุดอีกเยอะ เช่นการมองถึง 3-4 ชั้นข้างหน้าและข้างหลัง หรือการมองเข้าไปถึงข้างในรถว่าคนขัยคันนั้นๆ กำลังทำอะไรอยู่ บางครั้ง แค่ไม่ถึงห้าวิ สมองผมประมวลได้ 3 อย่างพร้อมกันเลยทีเดียว ผมคงพิมพ์ไว้ไม่หมด หรอกครับ

ถ้าฝึกไปเรื่อยๆ รถหกล้อ ยังมุดได้เลย

ข้อดีที่ผมเห็นนะคือ คนมุดเก่งๆ alert ตลอดเวลาครับ
ส่วนข้อเสีย... เปลืองน้ำมัน ship เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 11, 2015, 08:01:28 โดย kiwiwi »

ออฟไลน์ aobness

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 693
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 08:50:06 »
มีช่องมุดแล้วเท่ดีครับ
มุดไปเจอรถติดนี่ แล้วรถขับช้าตามาแซงทีหลังประจำ
เสี่ยวเลย :( เลิกมุดละครับบ

ออฟไลน์ Gunn

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 233
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 08:53:44 »
ชอบๆครับเวลาเห็นพวกพยายามมุด แต่สุดท้ายไปไหนไม่ได้ต้องกลับมาต่อแถวรถที่เค้าขับตามๆกันมาอย่างเป็นระเบียบ สะใจดีครับ

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,047
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 08:58:43 »
เลิกมุดแล้ว...ไม่มีปัญญารับผิดชอบชีวิตใครๆ

เกิดมุด แล้วไป
...ชนคันอื่น
...ไปเกี่ยวมอเตอร์ไซด์
...ไปเกี่ยวจักรยาน
...ไปชนคนเสียชีวิตหรือทำให้คนพิการ

อุบัติเหตุมันเกินขึ้นได้แค่เพียงเสี้ยววินาที ผมไม่มีปัญญาไปชดใช้เค้า

ปล.ขอโทษทีไม่ได้ดราม่านะคิดอย่างงี้จริงๆ



คิดได้เช่นนี้เป็นประโยชน์ดีครับ

ชอบๆครับเวลาเห็นพวกพยายามมุด แต่สุดท้ายไปไหนไม่ได้ต้องกลับมาต่อแถวรถที่เค้าขับตามๆกันมาอย่างเป็นระเบียบ สะใจดีครับ
สมควรอยู่

ส่วนตัวผมเอง บางทีมีจังหวะควบคุมตัวเองไม่อยู่บ้าง แต่ก็ต้องมองดีๆ แม่งไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย เหมือนกับคอมเม้นท์บนๆนั่นล่ะครับ

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,752
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 09:04:26 »
ไม่มุดซอกแซกจะดีที่สุดครับ ลองสังเกตุขอบทางบนทางด่วน มอเตอร์เวย์ ทางยกระดับบูรพาวิถีดูดีๆจะเห็นว่าทั้งซ้ายและขวามีสีสันเยอะแยะมากมายฝากรอยทิ้งเอาไว้ตลอดทาง นั่นคืออนุสรณ์ความพ่ายแพ้ของคนที่มุดแล้วพลาดนะครับ มันเกิดขึ้นบ่อยมากและหลายครั้งพาคนอื่นเสียหายถึงตายไปด้วย  :-\
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ kati348

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 237
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 09:25:59 »
ผมมุดบ้างแต่ต้องมั่นใจจริงๆว่าปลอดภัย

มุดออกขวา --- ต้องกะความเร็วรถขวาให้ดี ไม่ใช่ไปปาดให้เขาเบรคตัวโก่ง
มุดออกซ้าย ---  ต้องเห็นด้านหน้าจริงๆ ไม่ใช่ไปวัดดวงเอากับตูดรถคันอื่น

ออฟไลน์ Activehybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,552
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 09:38:00 »
เหมือนกันเป๊ะ ผมก็เป็น โดยเฉพาะเมื่อขับ Fiesta 1.5 / Focus 2.0 แต่หลังๆหันมาใช้ยางประหยัดน้ำมันแป๊ปๆก็ดังเอี๊ยด ลดการมุดลงได้บ้าง ถ้ายางดีเกินไปจะทำให้เรามุดมากขึ้น


ออฟไลน์ zapdos191

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 683
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 09:39:28 »
จริงๆผมก็ขับรถเร็วนะ บนทางหลวง 4 เลนผมวิ่งค่อนข้างเร็ว แต่ก่อน 120 ว่าเร็ว ตอนนี้มันเฉยๆมากแล้ว 5555+ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ครับ ผมสรุปเป็นข้อๆแบบนี้ดีกว่า

1. ถนนโล่ง อยากกด กดไปเหอะครับ แต่ถ้าเข้าช่วงที่เป็นชุมชน ถึงรถโล่งก็ถอนครับ 100-110 พอ เพราะผมเจอพวกมอไซค์แถออกมาจากซอยบ่อย ผมเคยโดนมอไซค์เมาชนรถผมเข้าด้านข้างจังๆ รถค่อนข้างยับเลย และตอนนั้นผมขับแค่ 60 นะ - -*
2. พอมุดได้ ก็มุดครับ ไม่แน่ใจว่ามุดไหมนะ คือรถช้าแช่ขวา ผมเฉยๆนะครับ บางครั้งมันพอมีเหตุผล ใครขับถนนต่างจังหวัดจะทราบดีครับ เลนซ้ายถนนมันแย่มาก 10 ล้อยังหลบ ไม่ซ่อมซักที อันนี้ผมก็ไม่เอารถผมไปรูดซ้ายนะ ผมเห็นหลายคันทำแบบนั้นเสียดายแทน
      แต่ถ้าขับช้าแช่ขวา ถนนซ้ายดี และที่สำคัญคือ ไม่มีรถข้างหน้า หรือมีแล้วคิดว่าแซงพ้นแน่ๆ ผมก็ไปนะ ออกซ้าย ยกไฟสูงเตือนเค้านิดนึงว่าเราแซงซ้ายนะ แต่ถ้ามีรถด้านหน้า แล้วแซงไปกระชั้นไปปาดหน้าเค้า ผมก็ไม่เอานะ ยิ่งต้องไปเบียดเค้านี่ไม่เอาเด็ดขาดครับอันตราย
3. ถ้ารถเยอะมาก เช่น ช่วงเทศกาล งดมุดทุกกรณีครับ มุดไปไม่ได้อะไร
4. ถ้าผมเห็นรถจากด้านหลังพยายามจะมุดแล้วมันกระชั้นหน้าผม คือ ถ้ามาเข้าด้านหน้าแล้วปาดผมแน่ๆ ผมอุดนะ แต่ถ้าด้านหน้าไม่มีรถหรือห่างมาก ผมก็ปล่อยครับ
-------- Toyota Vios 2003 --------
-------- Subaru WRX STi 2015 --------
-------- Honda Jazz GK5 --------
-------- BMW G20 330i --------
-------- Subaru Impreza WRX STi 2008 (GRF) --------
-------- Subaru Forester XT (SJG) MC --------

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,723
  • Nine & Knight
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 10:01:58 »
แบบตั้งใจไม่เคยครับ ผมถือคติตอนอยู่บนรถว่ามันคือพาหนะที่พาผมและครอบครับจาก A ไป B โดยสะดวกและปลอดภัยครับ ภาวะใดที่นำพาไปสู่ความเสี่ยงและอันตรายผมจะตัดออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ unseen

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 260
    • อีเมล์
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 10:07:02 »
ช่วงเเรกๆ มุดบ่อยไม่ว่ารถน้อยหรือมาก   เพราะถนนที่ผมขับชอบเเช่ขวาตลอด

เเต่หลังๆไม่ค่อยได้มุดเเละ เเต่ก็มีบ้างถ้ารีบๆหรือรถข้างหน้าช้าเกินไป

เเต่ผมมุดนี่เว้นระยะพอสมควร

รถกระบะหรือ ppv ไม่เคยมุด  ส่วนมากเป็นรถเก๋ง

ออฟไลน์ thesun

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 89
    • อีเมล์
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 10:13:51 »
ไม่รู้จะมุดไปทำไม เดี่ยวก็ต้องไปติดข้างหน้าเหมือนกัน
เน้นขับช้าโชว์รถ ไปเร็วมากเดี่ยวคนมองไม่ทันเห็นว่ารถเราสวย

ออฟไลน์ redsun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,095
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 11:53:10 »
แอบแซงเพราะแรงน้อยครับ..

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,018
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 11:56:32 »
คติประจำใจผมครับ มุดแล้วคันที่เราแซง(ปาด) ต้องไม่ตกใจและไม่จำเป็นต้องเบรค ครับ (ไม่เบียดเบียนผู้อื่น)

การมุดเป็นเทคนิคที่บอกว่าเรามีทักษะการขับระดับหนึ่ง แสดงว่าเราก็ควรจะรู้ว่าช่องนั้นควรมุดหรือไม่ หากมุดแล้ว คันที่เราไปแทรกต้องเบรค ก็จะไม่มุดจังหวะนั้นครับ
เพราะหากเราทำเขาต้องเบรค แสดงว่าเราเห็นแก่ตัวและไม่เกรงใจเขาครับ

ต่อให้รีบแค่ไหน ก็ต้องเกรงใจเพื่อนร่วมทางด้วยนะครับ
 ;D ;D ;D
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ ชายโอ๊ต

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,032
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 11:57:42 »
ของผมคงไม่เรียกมุดมั้ง
ขับแซงออกซ้าย-ขวา เปิดสัญญาณไฟทุกครั้ง(1-2 ปี๊บ)
โดยที่ถือคติว่า ออกโดยที่รถข้างเคียงคันอื่นต้องไม่มีการเบรค ถ้าเบรคแสดงว่าเราตัดหน้า เสียมารยาท
แค่นี้คับ
"ศัตรูแห่งความก้าวหน้า คือเวลาที่เสียไป"

ออฟไลน์ Night_Angel

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 530
    • อีเมล์
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 12:03:10 »
ถ้าจำเป็นต้องมุด  ผมดูไลน์สวยๆ แล้วจบรวดเดียว ไม่ต้องมาทนเจอพวกกั๊กเลน ขับหวานเย็น ถนนเป็นของข้าคนเดียว
ぼく は くま くま.... くま......

くるま じゃないよ

2000 Lancer F-Stye --> Evolution V
1994 Lancer E-CAR 1.6 JDM

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,047
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 12:05:27 »
คันที่เราแซง(ปาด) ต้องไม่ตกใจและไม่จำเป็นต้องเบรค ครับ (ไม่เบียดเบียนผู้อื่น)
(...)
เพราะหากเราทำเขาต้องเบรค แสดงว่าเราเห็นแก่ตัวและไม่เกรงใจเขาครับ


เปิดสัญญาณไฟทุกครั้ง(1-2 ปี๊บ)
โดยที่ถือคติว่า ออกโดยที่รถข้างเคียงคันอื่นต้องไม่มีการเบรค ถ้าเบรคแสดงว่าเราตัดหน้า เสียมารยาท


เข้าใจการตัดหน้าได้ถูกต้องแล้วครับ ดังนั้นถ้าเปลี่ยนเลน ไม่หวาดเสียว ไม่ตกใจ ยังไม่ผิด

ออฟไลน์ jztang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,722
  • Born To Race
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 15:08:05 »
ผมก้อมีมุดบ้างนะครับสมัยก่อน แต่ถ้าเป็นจังหวะที่คิดว่าไปไม่ได้จิง ผมก้ไม่ไป เซฟไว้ก่อน ระวังไว้ก่อนคับ

ออฟไลน์ MoLee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,191
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 15:23:25 »
ยังอยู่ในวัยห้าวๆครับ แต่ขับรถมานานพอควร
มุดบ้างในวันที่รีบสายแล้วจริงๆซ้ายขวาเอาหมดแต่ต้องมีช่องสวยๆรถไม่เยอะขนาดคลานแบบนั้นไม่เอาไม่มีประโยชน์
แต่ส่วนใหญ่ชิวๆครับเว้นแต่รถช้าเป็นกลุ่มก้อน แซงพ้นไปก็ตามกฎหมายบ้างเกินบ้าง+20 ในช่วงทางโล่งยาวๆกันหลับใน

พักหลังเริ่มรักโลกครับพยายามอยากสร้างสถิติน้ำมันถังหนึงใข้ให้ได้นานๆ สนุกไปอีกแบบดี ;D

ออฟไลน์ Activehybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,552
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 16:25:05 »
คติประจำใจผมครับ มุดแล้วคันที่เราแซง(ปาด) ต้องไม่ตกใจและไม่จำเป็นต้องเบรค ครับ (ไม่เบียดเบียนผู้อื่น)

การมุดเป็นเทคนิคที่บอกว่าเรามีทักษะการขับระดับหนึ่ง แสดงว่าเราก็ควรจะรู้ว่าช่องนั้นควรมุดหรือไม่ หากมุดแล้ว คันที่เราไปแทรกต้องเบรค ก็จะไม่มุดจังหวะนั้นครับ
เพราะหากเราทำเขาต้องเบรค แสดงว่าเราเห็นแก่ตัวและไม่เกรงใจเขาครับ

ต่อให้รีบแค่ไหน ก็ต้องเกรงใจเพื่อนร่วมทางด้วยนะครับ
 ;D ;D ;D
เหมือนผมเลย ใส่ใจรถรอบตัวเสมอ ถึงผมจะมุดเป็นนิจศีล แต่ไม่ทำให้ใครต้องเบรคต้องบีบแตร 

ตรงกันข้ามมีแต่คนมาตัดหน้าผมตอนขับมาด้วยความเร็วตลอดเสมอมา

วันไหนที่ชิลมากๆไม่มุด ผมก็จะคอยหลบและให้สัญญาณไฟกับคนที่เขาขับเร็วกว่า ไม่ขวางทางใคร

เรื่องไปซ้ายแล้วติดนี่ ถ้าไม่โล่งจริงๆอย่าไปครับ เพราะรถบรรทุกเลนซ้ายขับช้ามาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 11, 2015, 16:35:45 โดย Activehybrid »

ออฟไลน์ 7dozen

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
    • อีเมล์
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 17:22:17 »
คติประจำใจผมครับ มุดแล้วคันที่เราแซง(ปาด) ต้องไม่ตกใจและไม่จำเป็นต้องเบรค ครับ (ไม่เบียดเบียนผู้อื่น)

การมุดเป็นเทคนิคที่บอกว่าเรามีทักษะการขับระดับหนึ่ง แสดงว่าเราก็ควรจะรู้ว่าช่องนั้นควรมุดหรือไม่ หากมุดแล้ว คันที่เราไปแทรกต้องเบรค ก็จะไม่มุดจังหวะนั้นครับ
เพราะหากเราทำเขาต้องเบรค แสดงว่าเราเห็นแก่ตัวและไม่เกรงใจเขาครับ

ต่อให้รีบแค่ไหน ก็ต้องเกรงใจเพื่อนร่วมทางด้วยนะครับ
 ;D ;D ;D

อยากให้มีคนคิดแบบนี้เยอะๆ ถนนจะได้ปลอดภัยและน่าใช้

ปล.ขับไม่สร้างค.เดือดร้อน เพราะมันเป็นต้นเหตุของปัญหา

ออฟไลน์ KAKASHII

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,635
  • งามปะละ
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 17:26:18 »
รถมีใว้ให้ขับไม่ใช่ให้มุด มุดไปมุดมาระวังจะอยู่ใต้ท้อง สิบล้อนะเออ  ;D

ออฟไลน์ cherubian

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 143
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 18:06:46 »
ขอบคุณที่มาแชร์กันนะครับ

แต่โดยปกติที่ขับๆ มา
เวลารถมันกั๊กกันไปกันมา
ถ้าอ่านการจราจรว่าไปได้ ก็ไป
เพียงแต่บางไลน์มันต้องเร่งเร็วเกินและมุดแคบเกิน
แต่มุดแล้วคือผ่านนะครับ
ไม่ใช่ไปติดอยู่หน้าเขาแล้วให้เขาเบรกหรือชะลอ
ยกเว้นเจอคนขับบางประเภทที่ขับแช่ แล้วพอเราจะแซงก็เร่งปิดช่อง

(เคยมีตอนนึงเหม่อๆ แล้วขับเร็ว ที่คิดว่าอันตรายมาก อยู่เลนกลาง
ไม่ได้สังเกตว่าคันหน้าเบรก แล้วเราไปติดเลยหักออก อันนั้นกระชั้นมาก
(แต่ไม่ได้ตัดหน้านะครับ)
ยังนึกถึงบ่อยๆ ไว้เตือนตัวเอง)

ผมให้สัญญาณไฟตลอดนะครับ แล้วเวลารถติดหรือเยอะมากๆ ทุกเลน
มันก็ทำได้แค่ตามๆ กันอยู่แล้ว ถ้าเป็นกรณีนี้ผมจะไม่ขับจี้ตูดเลย
แต่ชอบเจอคนมาจี้หรือไม่คันข้างหน้าก็จี้แล้วก็เบรกอยู่นั่นล่ะ มันทำให้ประสาทเสีย

พอโล่งๆ มาหน่อยก็อยากไปให้พ้นๆ

ผมถือคติกลางคืนอยู่ 2 เลน ถ้ามองไม่เห็นจะไม่ไป
ถ้ารู้สึกว่าควบคุมไม่ได้ให้ชะลอ และขอไม่ใกล้รถบรรทุกครับ

ติดตอนที่หงุดหงิดอย่างเดียวเลย พยายามหายใจลึกๆ แต่ไม่ค่อยเวิร์ก
ยิ่งหงุดหงิดยิ่งขับแย่ แล้วจัดการกันยังไงได้ครับกรณีนี้

ออฟไลน์ dorAdeMOn

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 139
Re: มาแชร์กันเรื่องมุดๆ
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2015, 18:30:11 »
ไม่เคยมุดตอนที่รถหนาแน่นเลยครับ

ยอมรับว่าขับที่ความเร็ว 140-160 เวลาถนนโล่งๆเท่านั้น

ระยะแซงก็จะเว้นระยะไว้ประมาณ 3 ช่วงคันรถเพื่อฉุกเฉินครับ

ถ้าเริ่มมีรถก็จะชลอความเร็วมาอยู่ที่ 80-120 ครับ

กลัวขับไปชนคนอื่นมากกว่าครับ