ผู้เขียน หัวข้อ: บทเรียนจากการซื้อรถ - เรื่องสัญญาณกันขโมย  (อ่าน 12995 ครั้ง)

ออฟไลน์ choord

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 98
    • อีเมล์
หลังจากซื้อรถเสร็จ ก็เจอเรื่องแปลกๆ
กับเรื่องราวของสัญญาณกันขโมย ABT ทีเซลล์แถมให้จากการซื้อรถ
คือ ท้ายรถเวลาเปิด สัญญาณกันขโมยไม่ทำงาน

และยิ่งค้นเพิ่มเติม ก็พบว่า แม้แต่ฝากระโปรงหน้า
เวลาปิดไม่สนิท สัญญาณกันขโมยก็ไม่ทำงานเหมือนกัน
แถมเวลาเหยียบเบรค ก็ไม่ล็อครถด้วย

ก็เลยตัดสินใจไปที่ร้านที่ติดตั้งกันขโมย
เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้น

พบว่า ท้ายรถ ก็ให้ช่างแก้ไขติดตั้งใหม่ เหยียบเบรคแล้วไม่ล็อค เนื่องจากช่างติดตั้งลืมตั้งฟังก์ชั่นให้
นายช่างใหญ่ก็เลย set ให้เรียบร้อย.........

แต่ที่มีปัญหามากๆ คือ ฝากระโปรงหน้า ไม่ได้ติดตั้งกันขโมย
โดยนายช่างอ้างว่า "ใครๆเขาก็ไม่ติดตั้งที่ฝากระโปรงหน้ากันหรอก เพราะมันจะเกิดปัญหาเยอะ"
ตัวอย่างเช่น
เวลารถวิ่งๆไป ถ้าสะเืืทือนจนฝากระโปรงหน้าแง้มขึ้นเล็กน้อย ไฟในรถจะเิปิด
จะมีปัญหาสัญญาณกันขโมยช็อต ถ้าฝนตก หรือไปล้างอัดฉีด อะไรต่างๆ
และรถ tiida ไม่มีทีติดสวิสต์กันขโมย ถ้าอยากจะติด ต้องเจาะรถ เพื่อติดตั้งสวิสต์
และปัจจุบัน ส่วนใหญ่ ไม่ว่ารถรุ่นไหนๆ
เวลาติดตั้งสัญญาณกันขโมย ที่ร้าน ก็ไม่ได้ติดที่ฝากระโปรงหน้าให้ เพื่อตัดปัญหาต่างๆข้างต้น

อ้าว...ได้ไงหละ ตัวฝากระโปรงรถนี่แหละตัวดี
ถ้างัดฝากระโปรงรถได้ แ่ค่ถอดขั้วแบ็ตเตอรี่ สัญญาณกันขโมยทั้งระบบก็ไม่ทำงานแล้ว
ทีนี่ก็ถอดสัญญาณกันขโมยซะ ก็สิ้นเรื่อง รถเราก็หายจ้อยไปนะสิ

แต่ช่างก็เถึยงอีกว่า "ไม่มีใครมาเสียเวลางัดฝากระโปรงหน้ารถหรอก
ส่วนใหญ่เขาก็งัดประตูขโมยของกันทั้งนั้น"
(เหตุผลข้างๆคูๆมาก)

ผมเองก็คงจะไม่เสียเวลาไปเถียงกับช่างใหญ่อีกหรอก ก็เลยเดินไปหาเจ๊เจ้าของร้าน
แล้วก็ถามเจ๊ตามเรื่องราวข้างต้น
เจ๊เขาก็อธิบายว่า ก็ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ติดตั้งให้ เพื่อตัดปัญหายุ่งๆภายหลัง
แต่ผมก็บอกยืนยันให้ติด เจ๊มีขู่ด้วยว่า ติดแล้ว อาจมีปัญหา ให้เอารถมาเช็คทุก 6 เดือน
เพื่อความแน่ใจ ก็เลยถามว่า มีค่าใช้จ่ายไหม ซึ่งเจ๊บอกว่าไม่มี (โอเค พอไหว...)

และถามเจ๊เพิ่มเติมว่า แล้วต้องเจาะรถเหรอ เจ๊เลยเดินมาดูที่รถ
ก็ชี้ๆบอกช่างว่า ตรงหมุดดำๆบริเวณข้างๆไฟ พอจะติดได้ ไม่ต้องเจาะรถ
ช่างถึงยอมทำให้....

xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx

แต่ด้วยความสงสัย ว่าสมัยนี้เขาไม่นิยมติดจริงเหรอ หรือแค่คำขู่ของร้าน
ปนไม่มั่นใจในร้านนี้ว่าเขาจะมั่วอะไรเราหรือเปล่า
ก็เลยโทรไปถามที่ abt เดี๋ยวนั้นเลย ว่าข้อเท็จจริงคืออย่างไร

พนักงานออเปอร์เรเตอร์ ก็บอกข้อมูลคล้ายๆที่เจ๊บอก ก็คือ สมัยนี้ไม่ค่อยติดที่ฝากระโปรงหน้า
เพราะจะมีปัญหาเยอะ
ผมก็เลยย้อนถามว่า แล้วถ้าถอดขั้วแบตเตอรี่หละ ยังสามารถป้องกันรถหายได้อีกหรือเปล่า
คราวนี้ พนังงานออเปอร์เตอร์ ตอบไม่ได้ จึงโอนสายไปยังช่างเทคนิค ที่ประจำที่บริษัท

ผมก็ถามปัญหาเหมือนเดิมแหละครับ
ช่างบอกเลยครับว่า "จำเป็นต้องติดที่ฝากระโปรงหน้า"
แนะนำให้ติดทุกคัน
ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ เกิดจากการติดตั้งสัญญาณกันขโมยไม่ถูกวิธี
คือมักจะไปติดที่แถวๆ รางปัดน้ำฝน หรือบริเวณใกล้ๆกับหน้าต่างรถยนต์
ซึ่งน้ำมักจะกระเด็ดเ้ข้าไปได้ง่าย จึงเกิดอาการช็อตเกิดขึ้น

ผมก็ถามช่างเทคนิคว่า แล้วรถ tiida ติดตั้งได้หรือไม่ จำเป็นต้องเจาะรถหรือเปล่า
ช่างค้นข้อมูลสเป็ครถแป๊ปนึง แล้วก็บอกเลยครับว่า ไม่ต้องเจาะ
แค่ติดตั้งบริเวณพุกแถวๆคานหน้า ของฝากระโปรงรถก็ได้แล้ว
และเป็นตำแหน่งที่ดี เพราะไม่มีปัญหาฝนสาด หรือปัญหาการล้างรถเท่าไหร่ด้วย
(อย่างน้อยเจ๊เจ้าของร้านก็แนะนำที่ติดได้ถูกต้อง เฮ่อ...โล่งใจไป)

xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx

สิ่งที่อยากจะเตือนในบทความข้างต้นนี้
1) กันขโมยที่ฝากระโปรงหน้า รถของคุณได้ติดตั้งหรือไม่
   จำเป็นต้องติดตั้งนะครับ มิฉะนั้น อาจเป็นเช่นนี้....(นึกถึงภาพรถถูกงัดแบบในทีวี รายการสัมผัสที่ 6)
    (ปล. รายการเก่าแล้วครับ ถ้าอายุ 25 up คงจะจำกันได้แน่ๆ)

2) สัญญาณกันขโมยของท่าน ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมหรือไม่...

3) มีปัญหา ปรึกษาฝ่ายเทคนิค abt โดยตรง ดีที่สุดครับ

หวังว่าทั้งหมดคงเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้รถนะครับ

(อาจจะเหมือนเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน
แต่บางคนก็อาจจะยังไม่รู้ก็ได้มั้ง...)

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,070
    • อีเมล์
Re: บทเรียนจากการซื้อรถ - เรื่องสัญญาณกันขโมย
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 19:53:54 »
รถผมไปติดกับศูนย์ ABT โดยตรงเลยครับ ไม่มีปัญหาอะไร สวิตซ์ฝากระโปรงหน้าก็ติดครบ ไอ้ส่วนมากที่ไม่ติดกันเนี่ยเพราะว่าขี้เกียจกันไม่มีอะไรมากหรอก ช่างอธิบายได้การทำงานได้เข้าใจดี แถมผมได้โปรฯขัดเคลือบสีฟรีอีก3ปีด้วย 5555555

ออฟไลน์ Dr.Shank

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
Re: บทเรียนจากการซื้อรถ - เรื่องสัญญาณกันขโมย
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 21:01:04 »
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล

..

ผมหละเคยเจอมากับตัวเหมือนกัน ไว้คราวหน้าจะตั้งกระทู้เล่าให้ฟังครับคิดแล้วก็ช้ำใจ

..

ของดีราคา"ถูก"โลกนี้ไม่มี ,,,

มีแต่ของดีราคา"ไม่แพง" ,,,

 ;)


..

ออฟไลน์ Tonaka

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,706
Re: บทเรียนจากการซื้อรถ - เรื่องสัญญาณกันขโมย
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 21:57:17 »
ของผมก็ติดหมดน่ะครับ ฟังก์ชั่นก็ทำงานครบหมด ABT เหมือนกัน
阿蘇山

ออฟไลน์ Sacrifice

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 590
Re: บทเรียนจากการซื้อรถ - เรื่องสัญญาณกันขโมย
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 22:50:31 »
มันจะขโมยจริงๆ มันก็ไม่เปิดกระโปรงหน้าคุณหรอกครับ

รายการอะไรไม่รู้เคยดูนานแล้ว มีกล้องจับ มันขโมย vigo 4 ประตู
ใช้เวลาแค่ 3 นาที กว่าๆ เท่านั้น  แต่สุดท้ายมันก็โดนจับได้
เพราะมีกล้องวงจรปิดแถวนั้นพอดี  ตำรวจเลยสืบดูเทียบจาก
ประวัติพวกที่เคยติดคุกมาจน รู้ว่าเป็นใคร

มันสารภาพว่า ทำกันเป็นทีมมีคนดูต้นทาง มีคนขับรถทะเบีบนปลอม
รอรับกลับ หรือขับหนี  เริ่มด้วย แกะไฟหน้าแล้วทำให้ช๊อตซะ แค่นี้
ระบบกันขโมยด้วย ไฟฟ้า ก็ใช้ไม่ได้แล้ว ต่อด้วยสะเดาะกุญแจเข้ารถ
ผมดูแล้วมันทำเร็วพอๆ กับใช้กุญแจจริงเลย  แล้วใน vigo คันนั้นติด
locktech มันเรียกเพื่ออีกคนเอาสว่านไฟฟ้า มาใช้พัง จากนั้น ก็
เอา vigo 4 ประตูไปได้


ทำให้ผมคิดว่า วิธี ล๊อค ที่ดีที่สุดคือต้องอยู่นอกรถคนเห็นชัดเช่น ล๊อคล้อ
แต่ก็มีข้อเสียคือโคตรยุ่งยาก 

ออฟไลน์ BBOnLY

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,235
    • เพจวิศวะท่องโลกการเงิน
Re: บทเรียนจากการซื้อรถ - เรื่องสัญญาณกันขโมย
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2010, 01:28:27 »
ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์กันครับ
ติดตามเพจ "วิศวะท่องโลกการเงิน" ได้นะครับ

https://www.facebook.com/engineerinsidefinanceworld

ให้ #แอดบอยดูแล ได้ครับ

ออฟไลน์ kritphakhin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,943
Re: บทเรียนจากการซื้อรถ - เรื่องสัญญาณกันขโมย
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2010, 01:59:58 »
เป็นความรู้และข้อมูลที่สำคัญมากครับ

ออฟไลน์ TzOzOzN

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 85
    • Car-Design-Project
    • อีเมล์
Re: บทเรียนจากการซื้อรถ - เรื่องสัญญาณกันขโมย
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2010, 07:45:25 »
เจ๊เจ้าของร้านเก่งดีครับ  หายากๆ ;D

ออฟไลน์ choord

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 98
    • อีเมล์
Re: บทเรียนจากการซื้อรถ - เรื่องสัญญาณกันขโมย
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2010, 08:33:57 »
การป้องกันขโมย ที่ว่าเอาล็อคล้อมาใส่
ผมเคยเห็นนะครับ
มีบางคน ทำล็อคล้อ มาใส่ที่รถตัวเองเลย
ยังคิดในใจเลย...ทำไปได้

แต่ก็คงจะกันขโมยได้ดีมากขึ้นอีกนิด...
เพราะถ้ามันจะเอาจริงๆ ไม่มีอะไรกันได้อยู่แล้วครับ
ขนาดแค่ตราโลโก้ยี่ห้อ มันยังแกะเอาไปได้เลย เฮ่อ...

ออฟไลน์ boy_kity

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 37
    • อีเมล์
Re: บทเรียนจากการซื้อรถ - เรื่องสัญญาณกันขโมย
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2010, 09:42:55 »
ผมเป็นคนหนึ่งที่พยายามหาข้อมูลเรื่องสัญญาณกันขโมยเหมือนกัน  แต่สิ่งที่ผมพอสรุปได้ก็คือ  สัญญาณกันขโมยเป็นเพียงเครื่องถ่วงเวลาเท่านั้น  โจรมืออาชีพ  ขโมยได้ทุกยี่ห้อแหละครับ  เพียงแต่ว่าจะใช้เวลามากน้อยเพียงใดเท่านั้น  ( เท่าที่ผมรู้ข้อมูลมานะครับ ... ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า )

ออฟไลน์ remontage

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 369
Re: บทเรียนจากการซื้อรถ - เรื่องสัญญาณกันขโมย
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2010, 09:43:36 »
เหมือนจะเห็นของฟอร์ดหรือเปล่าที่เปิดฝากระโปรงหน้าตรงโลโก้ที่กระจังหน้ารถ

ออฟไลน์ kemjc

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 230
Re: บทเรียนจากการซื้อรถ - เรื่องสัญญาณกันขโมย
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2010, 09:53:39 »
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ :D

ออฟไลน์ Sacrifice

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 590
Re: บทเรียนจากการซื้อรถ - เรื่องสัญญาณกันขโมย
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2010, 10:01:02 »
อุปกรณ์ ล๊อค ล้อมีขายจริงนะครับ

เขาโดนโมย d-max ครับ  เลยมาออกแบบทำขายเอง



แต่ผมก็ว่าไม่ค่อย work นะครับ ที่ โชว์แม่กุญแจออกมาอย่างนั้น
แม่กุญแจถึงใหญ่กว่านั้น ถ้าโจรดูต้นทางดี  ไม่พ้นคีมตัดเหล็กครับ


ออฟไลน์ joey100

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 1
Re: บทเรียนจากการซื้อรถ - เรื่องสัญญาณกันขโมย
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 23:34:47 »
ติดสัญญาณกันขโมยต้องเลือกเกรดด้วยนะครับลองดู http://.blogspot/

ขอแบนสมาชิกชื่อนี้ ด้วยข้อหาโฆษณาแฝง จากลิงค์ ที่ผมลบไปแล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 11, 2011, 01:06:22 โดย J!MMY »